เมื่อพูดถึงหนังไทยที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากประจำปี 2018 ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง น้อง.พี่.ที่รัก ที่กำลังเข้าฉายอยู่อย่างครึกครื้นทุกโรงภาพยนตร์ ผลงานล่าสุดจากค่ายหนัง GDH ที่เรียกเสียงหัวเราะและสะอื้นกันสนั่นทั่วฟ้าเมืองไทย ผลงานการกำกับลำดับที่ 4 ของผู้กำกับบอล-วิทยา ทองอยู่ยง ต่อจาก แฟนฉัน, เก๋า..เก๋า และ บ้านฉัน ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้) เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อลเวงระหว่างสองพี่น้องคนละขั้ว ‘ชัช’ และ ‘เจน’ ที่มี ‘โมจิ’ คนรักของเจนเข้ามาเป็นตัวแปร ถ่ายทอดบทบาทความสัมพันธ์ของพี่น้องและที่รัก โดย 3 นักแสดงแม่เหล็ก ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ และ นิชคุณ หรเวชกุล”

แน่นอนว่าจุดเด่นของ น้อง.พี่.ที่รัก คือเรื่องราวที่ถ่ายทอดมาอย่างน่ารักและสนุกสนานชวนติดตาม แต่ถ้าดูแล้วยังเกิดความอินน้ำตาแตกแค่ในโรงหนังอาจจะยังไม่พอ เกิดเป็นความสงสัยว่า เอ๊ะ ร้านรวงต่างๆ ที่เราเห็นในหนังนั่นมันคือที่ใดกันบ้าง สำหรับสายติ่งก็อย่าได้กังวลแต่อย่างใดเพราะเราได้ทำการปักหมุดไว้ให้ทุกท่านแล้ว! วันนี้จะขออาสาเป็นไกด์พาทัวร์ลัดเลาะรอบกรุงเทพฯ ตามรอยพี่ชัช น้องเจน และโมจิที่รัก สานต่อความฟินให้ทะลุจอ

ONEDAY WALLFLOWERS

น้อง.พี่.ที่รัก ญาญ่า

ถึงแม้ร้านนี้พี่ชัชจะโดนแบนไม่ให้เข้า (ทำไมน่ะหรือ ต้องไปดูในหนัง!) แต่แฟนๆ หนัง น้อง.พี่.ที่รัก ทุกคนต้องลองมาเยือนสวมบทบาทความเป็นน้องเจนให้ได้ เพราะที่นี่ไม่ได้มีความดีงามเพราะอยู่ในหนังเท่านั้น แต่ยังซ่อนความน่าค้นหาแอบอิงอยู่ในย่านเก่าแห่งกรุงเทพมหานคร และเป็นหนึ่งในร้านบุกเบิกความฮิปและร่วมฟื้นฟูถิ่นนานาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ร้าน ‘Oneday Wallflowers’ ในหนังถูกเซ็ตให้เป็นร้านดอกไม้ของ ‘หมวย’ เพื่อนสนิทของเจน ที่จำเป็นต้องมาช่วยเพื่อนดูแลร้านชั่วคราวกับแฟนหนุ่มโมจิ ในความเป็นจริงแล้ว Oneday Wallflowers นั้นเป็นร้านดอกไม้ของอดีตสถาปนิกหนุ่ม ลักษณ์-ณัฐพัชร สุริยะกำพล ผู้เริ่มหลงใหลในดอกไม้เมื่อต้องหาซื้อดอกไม้เพื่อมาตกแต่งงานออกแบบของเขา ผันเปลี่ยนนำความหลงใหลนี้มาเป็นร้านจัดดอกไม้เต็มรูปแบบด้วยจุดขายที่การออกแบบช่อไม่เหมือนร้านไหนๆ ด้วยวิธีการรับฟังความต้องการของลูกค้าและตีความผู้ให้และผู้รับ ทุกๆ ช่อดอกไม้จึงมีความหมายมากกว่าการจัดดอกไม้ทั่วไป

Oneday Wallflowers Oneday Wallflowers

และด้วยความชำนาญทางการออกแบบนี่เอง ทำให้ร้าน Oneday Wallflowers สวยงามเป็นเอกลักษณ์น่าเยือนชม (และเตะตาผู้กำกับ น้อง.พี่.ที่รัก เข้าให้อย่างจัง) จากการซ่อมแซมอาคารเก่า เก็บเอกลักษณ์ความเป็นย่านเก่าร่วมร้อยปีไว้อย่างดี เพิ่มดีเทลแบบอินดัสเทรียลและอิงลิชคอตเทจด้วยดีเทลงานไม้ ผนังเปลือย หลังคาด้านบนจากชั้นสามส่องแสงสบายตาทอดยาวมาถึงชั้นล่าง ประดับประดาด้วยดอกไม้และสารพัดพืชพรรณ เหมือนได้อยู่ในเรือนแก้วร่มรื่นจนเหมือนเราได้พักจากความวุ่นวายในกรุงเทพฯ ได้เลยทีเดียว

Oneday Wallflowers

Oneday Wallflowers

แต่ถ้าคุณกลัวไปดูอย่างเดียวแล้วเขินจัง ไม่รู้จะซื้อดอกไม้ไปฝากใคร ที่ร้าน Oneday Wallflowers ยังมีร้านกาแฟอยู่ชั้นบนในนามว่า NANA Coffee Roasters ซึ่งเกิดมาจากการชักชวน กุ้ง-วรงค์ ชลานุชพงศ์ เจ้าของโรงคั่วและร้านกาแฟชั้นนำของประเทศไทยมาร่วมเปิดร้านในอาคารเดียวกัน เสิร์ฟกาแฟคุณภาพเคล้าบรรยากาศสวนดอกไม้ ซึมซับบรรยากาศสวยๆ แบบญาญ่า เอ๊ย! น้องเจน ได้อย่างเต็มที่

STUDIO LAM

น้องพี่ที่รัก น้อง.พี่.ที่รัก

อยากมันสะเดิดแบบพี่ชัช เซิ้งน่ารักๆ แบบน้องเดียร์ หรือจะกระดกยาดองไม่ยั้งแบบไควะ ไม่ต้องไปไกลถึงแดนอีสาน เพราะกรุงเทพฯ ก็มีร้านสุดสะเดิดแบบนี้อยู่จริง ไม่ใกล้ไม่ไกลใจกลางเมืองท่ามกลางตึกสูงใหญ่แห่งสุขุมวิท กับร้านที่มีชื่อลำคั่กๆ ‘Studio Lam’

จากความชื่นชอบในเพลงหมอลำและความเป็นนักสะสมแผ่นเสียงตัวยงของ ณัฐ-ณัฐพล เสียงสุคนธ์ และ เบน-สรวรรธน์ สุวิพร เจ้าของร้าน การหาพื้นที่แฮงเอาต์สำหรับคนที่ชื่นชอบในเพลงนอกกระแสนั้นเป็นเรื่องยาก เมื่อโอกาสดีเจอพื้นที่อันเหมาะสม จึงเริ่มตั้งเป็นร้านขายแผ่นเสียงเล็กๆ ในซอยสุขุมวิท 51 แต่เมื่อสังคมการฟังเพลงนอกกระแสเริ่มขยายขึ้น ร้านแผ่นเสียงร้านเดียวดูท่าจะไม่พอจึงขยับขยายเป็นบาร์ขนาดเล็กถัดจากร้านขายแผ่นเสียงไปเล็กน้อย

Studio Lam

Studio Lam

นอกจากบรรยากาศของ Studio Lam อันสนุกสนานที่ถูกถ่ายทอดลงในภาพยนตร์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน คือแขกเหรื่อลูกค้าของร้านนี้ที่มีความหลากหลายทั้งไทยและต่างชาติ (รวมไปถึงชาวญี่ปุ่นเหมือนในหนังเด๊ะๆ) ที่ต่างตามมาสนุกกันที่ร้านนี้ด้วยจุดขายด้านดนตรีที่หลากหลาย และเป็นพื้นที่ในการทดลองทางด้านดนตรี หมุนเวียนดีเจทั้ง World Music, Soul, Funk, Disco, House, Techno, หมอลำ และการแสดงดนตรีต่างๆ ที่หาไม่ได้จากที่ไหนในกรุงเทพฯ

Studio Lam ไม่ได้เด่นที่เรื่องดนตรีอย่างเดียว แต่ยังมี ‘ยาดอง’ สูตรพิเศษทำหน้าที่เป็นนางกวักเรียกแขกเหรื่อให้มาทดลองกันอยู่ร่ำไป โดยยาดองสูตรของ Studio Lam นั้น ไม่ได้มีส่วนผสมของแปลกเหมือนตามซุ้มยาดองทั่วไป แต่เป็นสูตรที่นำมาฟิวชันเพื่อให้บริโภคง่าย ผสมเหล้าชั้นดีเข้ากับสมุนไพรแบบไทยต่างๆ เกิดเป็นรสชาติที่เพลินปากจนอาจเผลอสั่งเพิ่มไปโดยไม่รู้ตัว มีตั้งแต่สูตรดั้งเดิม ‘ม้ากระทืบโรง’ และ ‘โด่ไม่รู้ล้ม’ ไปจนถึงสูตรผสมใหม่ๆ ที่ผันเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

Studio Lam Studio Lam

อ่อ…แล้วเพลงที่ใช้ประกอบในฉากนั้นก็เป็นการแสดงของวงดนตรีที่มีอยู่จริงไม่ใช้สแตนด์อิน แถมยังเป็นวงที่มีชื่อเสียงระดับโลก นั่นก็คือ “’The Paradise Bangkok Molam International Band’ ซึ่งเป็นแขกรับเชิญแสดงสดขาประจำร้าน Studio Lam นั่นเอง

HAVANA SOCIAL

Havana Social Havana Social

เซิ้งมันกับ Studio Lam  ไปแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนจากผ้าขาวม้ามาเป็นสูทสีสันสดใสเหมือนพีชัช เช็ดรองเท้าหนังของคุณให้พร้อม แล้วบุกไปหาบาร์ลับสไตล์คิวบากัน!

เมื่อความสัมพันธ์ของชัชและเดียร์เด็กฝึกงานประจำออฟฟิศ​กำลังอยู่ในความคลุมเครือว่าจะไปในทิศทางไหน ร้านที่สองคนตัดสินใจไปเต้นอย่างสนุกสนานนั้นก็คือ บาร์ลับ ‘Havana Social’ แต่ก่อนคุณจะไปต้องทำการบ้านเตรียมความพร้อมมาให้เรียบร้อยก่อน จะดุ่มๆ เดินเข้าไปมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะ Havana Social มากับคอนเซปต์ Secret Bar บาร์ลึกลับซ่อนอยู่อย่างเงียบๆ กลางซอยสุขุมวิท 11 ที่มองผ่านๆ เหมือนจะไม่มีร้านอะไรนอกจากตู้โทรศัพท์เก่าๆ อยู่หนึ่งตู้ จะเข้าได้ต้องมีโค้ดลับกดที่ตู้โทรศัพท์นี้เท่านั้น หาได้จากการโทรเข้าไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของร้าน 087-066-7711 หากโค้ดถูกต้อง ประตูก็จะเปิดให้โดยอัตโนมัติ

Havana Social Havana Social

เมื่อก้าวผ่านพ้นตู้โทรศัพท์ คุณจะพบกับบรรยากาศที่เหมือนวาร์ปมาอีกฟากโลก หลบพ้นจากความวุ่นวายของสุขุมวิทไปสู่เมือง Havana เมืองหลวงของประเทศคิวบา ด้วยการตกแต่งสร้างบรรยากาศประหนึ่งย้อนกลับไปสู่คิวบาเมื่อยุครุ่งเรืองช่วง 50s จากการผสมความเก่าของตึกที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกับการตกแต่งภายในเพิ่มเติม ด้วยการจัดแสงจัดไฟอย่างสลัว เลือกเฟอร์นิเจอร์เก่ามาประดับร่วมกับผนังวอลล์เปเปอร์ลอกเผยผิวรายละเอียดความเก่าของอาคาร และพื้นแผ่นกระเบื้องตัดกับไม้วางเป็นการขัดกันอย่างสวยงาม พร้อมกับแสงไฟสลัวๆ ให้ความหรูหราเหมือนอยู่ Havana

Havana Social

Havana Social เปิดบริการทุกวัน โดยในวันธรรมดานั้นจะเป็นดีเจเปิดเพลงแนวละติน แต่ถ้าไฮไลต์จริงๆ ต้องมาคืนวันศุกร์และเสาร์ที่ร้านแน่นกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เพราะเป็นคืนดนตรีสดบรรเลงเพลงประกอบการเต้นรำแบบ Salsa ที่หลายๆ คนปล่อยสเต็ปเต้นกันอย่างสนุกสนาน เป็นบ้างไม่เป็นบ้างสลับกันสนุกกันไป เพิ่มความกล้าอีกนิดด้วยสารพัดค็อกเทลที่ขึ้นชื่อของที่นี่อันล้วนมีส่วนผสมของรัมเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศความคิวบา รับประกันบรรยากาศความสนุกที่จะทำให้เท้าคุณขยับไม่หยุดอย่างแน่นอน

น้อง.พี่.ที่รัก ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ขอขอบคุณ: ปุญญรักข์ นิ่มเชื้อ

Writer & Photographer

Avatar

ศิขรินทร์ ลางคุลเสน

นักเพ้อฝันมืออาชีพ งานประจำคือทาสแมว ส่วนยามว่างก็จัดทำกิจกรรมด้านภาพยนตร์กับเพื่อนๆ ในนาม "YOUNG จะทำ”