หลายคนคงได้ยินข่าวสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยตัดสินใจขายอาคารและพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ในย่านเพลินจิตด้วยมูลค่า 420 ล้านปอนด์ หรือ 1.86 หมื่นล้านบาท นับเป็นการซื้อขายที่ดินที่มีราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
และหลายคนคงรู้ว่าโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ ที่อยู่ติดกันได้ถูกขายต่อให้บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการด้วยมูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาทในปี 2016 แต่ทายาทของ พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) ยังคงเก็บรักษาบ้านไม้สัก ของสะสมเก่าแก่ และสวนต้นไม้ยักษ์ของ ‘นายเลิศ’ ไว้อย่างสมบูรณ์
คุณค่ามหาศาลของที่ดินบริเวณนี้ไม่ใช่แค่ทำเลงามใจกลางเมือง แต่ยังมีเรื่องราวร้อยกว่าปีของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประวัติศาสตร์การขยายเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และตำนานของนายเลิศ ผู้ตั้งชื่อย่านเพลินจิต ซอยสมคิด และชิดลม ทั้งยังเป็นเจ้าของที่ดินเหล่่านี้ เขาแบ่งพื้นที่กึ่งหนึ่งของสวนสาธารณะปาร์คนายเลิศขนาด 60 ไร่ ขายให้สถานเอกอัครราชทูตซึ่งย้ายมาจากย่านบางรัก
ก่อนสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรจะย้ายอีกครั้งในช่วงกลางปี 2019 The Cloud และเครื่องดื่ม 100PLUS อยากชวนผู้อ่านไปเดินอำลาสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร และเข้าไปชมร่องรอยอาณาจักรของนายเลิศ ผู้ริเริ่มธุรกิจหลายอย่างในเมืองไทย อาทิ รถเมล์ เรือเมล์ โรงน้ำแข็ง บาร์ ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมแห่งแรกที่เจ้าของเป็นชาวไทย
เราจะเข้าไปเยี่ยมชมอาคารทำเนียบเอกอัครราชทูตที่เคยใช้รับรองสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และพระราชสวามี เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ แล้วออกไปชมพื้นที่สีเขียวโดยรอบ รวมถึงพระบรมรูปสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรีย
จากนั้นจะรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านปาร์คนายเลิศ ก่อนจะเยี่ยมชมเรือนไม้สักทองอายุร้อยกว่าปีที่รอดพ้นระเบิดในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ชมอดีตหลุมหลบภัย สวนต้นไม้ยักษ์อันร่มรื่น และผลงานลือชื่อต่างๆ ของนายเลิศ เช่น รถเมล์ และเรือเมล์
มาทำความรู้จักประวัติศาสตร์บทสำคัญและสถาปัตยกรรมเก่าแก่แห่งย่านเพลินจิต และบันทึกความทรงจำเก็บไว้ร่วมกันเถอะ
ใครพลาดกิจกรรมนี้ไม่ต้องเสียใจ รอติดตามสรุปเรื่องราวของกิจกรรมครั้งนี้ได้ในคอลัมน์ Walk with The Cloud บนเว็บไซต์ readthecloud.co หลังจบกิจกรรมได้เลย