ไม่ว่าจะแบกเป้มาเดี่ยว เที่ยวเป็นครอบครัว หรือมาทัวร์เป็นหมู่คณะ ‘ระยอง’ ก็พร้อมต้อนรับทุกคน

แม้ด้านหนึ่งจะเป็นเมืองอุตสาหกรรม เราก็ยังเชื่อว่าที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวในเป้าหมายของใครหลายคน เพราะมีทั้งชายหาดและเกาะกลางทะเลที่สวยงาม โด่งดัง แต่ระยะเวลา 1 เดือนที่โครงการ Happy City จัดให้เราใช้ชีวิตในเมืองนี้ เราค้นพบว่า แท้จริงแล้วระยองยังมีอะไรให้ค้นหาในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะสถานที่เที่ยวลับอันน่าสนใจที่กำลังรอคอยให้คนเข้าไปทำความรู้จัก

Take Me Out ครั้งนี้ เราจึงอยากชวนทุกคนออกเดินทางไปยัง 20 สถานที่เที่ยวที่สะท้อนความหลากหลายในจังหวัดระยอง ตั้งแต่แหล่งเรียนรู้ทางอุตสาหกรรม ไปจนถึงชุมชนประมง สวนป่า และร้านรวงขนาดเล็กที่ทำภารกิจเพื่อสังคมอันยิ่งใหญ่ รับรองว่าทุกที่ทั้งสวยงาม เป็นมิตร และมีเรื่องราวไม่เหมือนใคร แม้คุณจะไปมือเปล่า แต่ไม่มีทางกลับมามือเปล่าแน่นอน เพราะความสุขจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนได้รับกลับไป

หมวดที่ 1

พื้นที่สาธารณะเพื่อครอบครัวและคนทุกวัย

#01

 ย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำระยอง

ชมสถาปัตยกรรมเก่าใจกลางเมือง ฟังเรื่องเล่าริมแม่น้ำระยอง

ตั้งต้นที่ถนนยมจินดา ถนนสายหลักเส้นแรกของเมือง เลาะเลียบไปยังพื้นที่ใกล้เคียง อย่างถนนชุมพล ถนนบุญศิริ ถนนภักดีบริรักษ์ และถนนศรีสมุทรโภค ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นย่านการค้าที่มีความรุ่งเรืองและเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย เช่น บ้านเจ้าเมืองระยอง ธนาคาร โรงหนัง วัด ศาลเจ้า ฯลฯ สิ่งที่ยังหลงเหลือมาถึงรุ่นหลังคือสถาปัตยกรรมที่เหมือนเดิมเกือบจะครบถ้วน 

มาถึงแล้วอย่าลืมแวะไปที่ ‘บ้านเจ้าเมืองระยอง’ ต้นตระกูลยมจินดา บ้านสัตย์อุดมหรือพิพิธภัณฑ์เมืองระยอง ศาลเจ้าแม่ทับทิม วัดโขด (ทิมธาราม) ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หรือจะแวะดื่มแวะกินของอร่อย เช็กอินในร้านสวยเก๋ก็มีให้เลือกหลายร้าน ซึ่งเวลาในการเปิด-ปิดไม่เหมือนกัน ต้องเช็กให้ชัวร์ก่อนไป

ใครชอบบรรยากาศของเมืองเก่าและเรื่องราวประวัติศาสตร์ ต้องไม่พลาดย่านเมืองเก่าระยองเด็ดขาด

ถนนยมจินดา 
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง 123 ถนนยมจินดา ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • 08 1429 1326
#02

แหลมรุ่งเรือง

แสงแรกและแสงสุดท้าย ณ ชุมชนประมงที่รอทุกคนมาทักทาย

เมื่อเห็นภาพวิวทะเลสวยงามยามพระอาทิตย์ตกดิน คนระยองบางคนยังถามเราว่า ‘ที่นี่ที่ไหน’

แหลมรุ่งเรือง อยู่ในเขตอำเภอเมืองระยอง เคยเป็นแหลมที่ชาวประมงพื้นบ้านหรือเรือเล็กตามชายฝั่งใช้เป็นที่หลบคลื่นลมในช่วงมรสุม และเริ่มทยอยเข้ามาตั้งถิ่นฐานจนเกิดเป็นชุมชนขึ้นมา เกือบทุกครัวเรือนทำอาชีพประมง เราหาซื้อปูม้าสด ๆ ชนิดแกะออกจากอวนกันตัวเป็น ๆ ได้

อีกไฮไลต์ที่ควรเก็บให้ครบ คือชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น หรือจะมาวิ่งออกกำลังกายตามชายหาดก็น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวไม่ได้พลุกพล่านหนาแน่นเหมือนหาดอื่น 

วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.00 น. ยังมีตลาดนัดขนาดเล็กให้ครอบครัวหรือคนทำงานมานั่งปิกนิกกันริมทะเล ลิ้มลองอาหารสด ดื่มด่ำกับบรรยากาศดี ๆ ปล่อยกายปล่อยใจไปกับสายลมและแสงแดดที่จะเพิ่มพลังชีวิตให้ทุกคนโดยไม่รู้ตัว

แหลมรุ่งเรือง
  • ถนนเลียบชายฝั่ง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง (ทางเข้าท่าเรือน้ำลึกไออาร์พีซี) (แผนที่)
#03

สวนศรีเมือง

เกาะกลางใจ พื้นที่ความสุขของคนทุกวัยใจกลางระยอง

สวนสาธารณะในตัวเมืองระยองไม่ได้มีเพียงแห่งเดียว แต่ถ้าถามว่าที่ไหนมีผู้ใช้บริการมากสุด ก็คงต้องเป็นที่นี่ ‘สวนศรีเมือง’ ตั้งอยู่ด้านหลังศาลากลางจังหวัด 

จุดสังเกตเด่นชัดคือศาลาหอพระกลางสระน้ำที่ด้านในประดิษฐานพระพุทธอังคีรส พระพุทธรูปประจำเมืองระยอง เป็นสวนสาธารณะที่กว้างใหญ่ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ มีพื้นที่ทำกิจกรรมทางกายแบ่งเป็นโซนชัดเจน เช่น สนามฟุตบอล สนามบาสเกตบอล ลู่วิ่ง สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นออกกำลังกาย 

หรือใครอยากมานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจก็มีพื้นที่ให้อีกเหลือเฟือ จากประสบการณ์การส่วนตัว ในช่วงเย็นเรามักเห็นครอบครัวพากันมาพักผ่อน เพราะมีกิจกรรมรองรับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แถมยังมาสะดวก

จุดเด่นอีกประการ คือห้องน้ำสาธารณะของที่นี่ออกแบบให้อยู่พื้นที่โซนกลาง ๆ ไม่ได้แอบซ่อนในมุมลับตา ทำให้สะอาดและปลอดภัย

สวนศรีเมือง
  • ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • เปิดทุกวัน เวลา 04.00 – 22.00 น.
  • 03 862 0111
#04

สวนพฤกษชาติโสภา

พิพิธภัณฑ์กลางสวนป่า สวรรค์ของคนรักต้นไม้และของโบราณ

ใครลุ่มหลงต้นไม้และชื่นชอบวัตถุโบราณต้องห้ามพลาด ‘สวนพฤกษชาติโสภา’ ตั้งอยู่ในตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง บนเนื้อที่กว่า 21 ไร่ เขียวครึ้มด้วยพรรณไม้มากกว่า 1,000 ชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ใบ ไม้ยืนต้น และพรรณไม้ในวรรณคดีที่หาดูยาก 

ส่วนที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางคือพิพิธภัณฑ์เรือนไทยอายุกว่า 140 ปีที่ใช้วิธีเข้าเดือยแบบโบราณแท้ ๆ โดยเรือนไทยเป็นที่จัดแสดงวัตถุโบราณและศิลปกรรมล้ำค่า ได้แก่ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องปั้นดินเผา เครื่องลายคราม จนถึงของเก่าสมัยสุโขทัยและบ้านเชียง 

สวนพฤกษชาติโสภาสร้างโดย เสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ (อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช) และ โสภา เปี่ยมพงศ์สานต์ ผู้เป็นภรรยา ทั้ง 2 ท่านตั้งใจเก็บสะสมทั้งต้นไม้และวัตถุโบราณ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้แด่คนรุ่นหลัง เปิดเป็นสวนสาธารณะมาตั้งแต่ พ.ศ. 2523 ผ่านการบูรณะปรับปรุงมาเรื่อย ๆ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของมูลนิธิเสวตร-โสภา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ยกเว้นวันพฤหัสบดี

สวนพฤกษชาติโสภา
#05

ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ

กิจกรรมครบเครื่องกลางเมืองระยอง พายซัพบอร์ดสำรวจป่า หลับตาสำรวจใจ

ใครขับรถผ่านไปมาในตัวเมืองคงจะเคยเห็นเจดีย์สีขาวโดดเด่นริมแม่น้ำ เจดีย์แห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2416 เพื่อให้คนที่เดินทางทางเรือในสมัยนั้นได้รู้ว่ามาถึงเมืองระยองแล้ว 

รอบองค์พระเจดีย์คือพื้นที่ป่าชายเลนขนาดใหญ่มากกว่า 52 ไร่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้อย่าง โกงกาง แสม ตะบูน ฯลฯ มีปู ปลา และนกหลายชนิดมาอยู่อาศัย ทั้งยังเป็นพื้นที่ Pet-friendly พาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นด้วยได้ (แค่อย่าลืมคล้องเชือกน้อง ๆ เพื่อความปลอดภัยและจะได้ไม่พลัดหลงกัน) 

ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำยังเป็นเหมือนปอดของคนที่นี่ ผู้คนนิยมมาเดินเล่น ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะมีสะพานไม้ทอดยาวไปตามแนวป่า บางคนมาวิ่งจ็อกกิงหลังเลิกงาน หรือใครอยากสัมผัสบรรยากาศในป่าโกงกางเป็นพิเศษก็หาเช่าเรือซัพบอร์ด พายรอบระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรได้ และอย่าลืมแวะขึ้นไปบนหอชมวิวเพื่อถ่ายรูปจากมุมสูงเป็นที่ระลึก

ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ 
  • ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • ป่าในเมืองเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.30 น.
  • 03 894 0108
#06

สวนพฤกษศาสตร์ระยอง

มหัศจรรย์ป่าชุ่มน้ำแห่งภาคตะวันออก

‘สวนพฤกษศาสตร์ระยอง’ ตั้งอยู่ในอำเภอแกลง มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 3,800 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำประมาณ 1,000 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชพรรณหายากมากกว่า 400 ชนิด มีตั้งแต่เสม็ดแดง แต้ว พะยอม หวาย กะพ้อ โคลงเคลง สาหร่ายข้าวเหนียว ฯลฯ 

นางเอกของที่นี่คือ ‘ต้นเสม็ดขาว’ ปกติเป็นพืชบก แต่เมื่อสภาพแวดล้อมทำให้ต้องแช่อยู่ในน้ำ ต้นเสม็ดจึงปรับตัวตามธรรมชาติ คือเราจะเห็นรากของมันพ้นขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำ

กิจกรรมสนุก ๆ ของสวนพฤกษศาสตร์ระยองมีทั้งการปั่นจักรยานไปตามเส้นทางชมธรรมชาติ พายเรือคายัคล่องชมบึงบัวขนาดมหึมา และนั่งเรือไปถ่ายรูปบนแพหญ้าหนังหมา ต้นหญ้าในน้ำที่ทับถมกันมานานกว่าร้อยปีจนมีลักษณะเป็นแพหนาทำให้เราเดินบนนั้นได้ นอกจากเป็นสถานที่ให้มาทำกิจกรรมกลางแจ้งแล้ว สวนแห่งนี้ยังเป็นแหล่งความรู้ทางนิเวศที่สำคัญของประเทศไทยด้วย ถ้าพานักเรียนมาทัศนศึกษาก็มีเจ้าหน้าที่เป็นไกด์ให้ตลอดเส้นทาง

สวนพฤกษศาสตร์ระยอง
  • หมู่ 2 ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น.
  • ค่าบำรุงสถานที่คนละ 20 บาท
  • 03 863 8880
  • สวนพฤกษศาสตร์ระยอง

หมวดที่ 2

พื้นที่ไลฟ์สไตล์ ถ่ายรูปเช็กอิน กิน เที่ยว นอน

#07

โอบบ์ Farm & Cafe

คาเฟ่ลับที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและต้นไม้

ร้านกาแฟกลางขุนเขา บรรยากาศคันทรี เริ่มต้นจากเพื่อน 4 คนที่รักธรรมชาติ จึงอยากทำสถานที่ให้ดีต่อชุมชนรอบข้างและดีต่อสิ่งแวดล้อม โอบบ์ฟาร์มสร้างด้วยแนวคิด Decarbonization หรือการทำกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยที่สุด เพื่อเป็นมิตรกับโลกใบนี้ให้มากที่สุด และยังพยายามทำให้ทุกอย่างเป็น Zero Waste และ Food Waste หรือลดการสร้างขยะทั้งขยะทั่วไปและขยะอาหารให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

ใครมาถึงโอบบ์ฟาร์มจะได้ปลดปล่อยความเมื่อยล้าทั้งกายและใจไปกับต้นไม้และพื้นที่กว้างสุดสายตาให้เยียวยาจนหายเหนื่อย ต้นไม้ทุกต้นที่นี่ไม่ใช้สารเคมีในการปลูก แม้แต่ดินที่เคยแห้งแข็งก็ใช้ไส้เดือนในการพรวนดิน พืชผักที่เก็บมาปรุงอาหารจึงมั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัย

ที่ โอบบ์ Farm & Cafe มีเครื่องดื่มและอาหารหลากหลาย หากไม่รู้จะเริ่มจากอะไร ขอแนะนำ ‘ข้าวผัดป่าวนารี’ เมนูพิเศษที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น มาพร้อมน้ำบ๊วยมะนาวโซดาเย็นชื่นใจ นอกจากมีมุมสวย ๆ ให้ได้ถ่ายรูป ยังได้หายใจเอาอากาศดี ๆ เข้าปอด แถมด้วยดนตรีสดให้ฟังทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เหมาะพาครอบครัวและคนที่รักมาพักผ่อน น้องหมาน้องแมวก็พามาวิ่งเล่นที่นี่ได้ด้วย

โอบบ์ Farm & Cafe
  • 339 หมู่ 2 ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00 – 18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.00 น.
  • 08 0740 1111
  • โอบบ์ Farm & Cafe แกลง ระยอง
#08

ฟาร์มเห็ดบูรพา

สรวงสวรรค์ของเห็ดที่จะชวนคุณรักทั้งเห็ดและสุขภาพ

อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านเพียงเพราะไม่ชอบกินเห็ด เพราะนั่นอาจทำให้คุณพลาดสถานที่ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศน่ารักและอาหารอร่อยเยี่ยมยอด 

‘ฟาร์มเห็ดบูรพา’ เริ่มต้นจากก้อนเห็ดเพียงไม่กี่ก้อน ก่อนขยับขยายมาเป็นแหล่งขายส่งก้อนเห็ดและร้านอาหารครัวป้าจุ่น ที่นี่มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายละลานตา ซึ่งไม่ใช่แค่นำเห็ดมาปรุงเป็นอาหาร แต่กว่าจะทำออกมาได้สักจาน เจ้าของร้านทั้งคิดและทดลองมาแล้วหลายรอบ เพื่อให้รู้ว่าเห็ดชนิดไหนต้องปรุงอย่างไร และทำเมนูอะไรจึงจะอร่อยและรสชาติกลมกลืนเข้ากัน 

ที่เราอยากแนะนำแบบสุด ๆ คือแกงคั่วเห็ด ส้มตำเห็ดกรอบ และเมนูที่ทุกคนมาแล้วต้องสั่ง คือนางฟ้าแปลงกาย เห็ดนางฟ้าทอดกรอบรสชาติกลมกล่อม

เราชอบฟาร์มเห็ดบูรพา เพราะไม่เพียงอาหารอร่อย แต่ยังมีสวนหย่อมบรรยากาศร่มรื่น เรียกว่าฟาร์มเห็ดแห่งนี้เหมาะจะพาคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวมาเที่ยว หรือถ้าต้องการห้องจัดเลี้ยงสำหรับหมู่คณะ ทางร้านก็มีพื้นที่ไว้รองรับด้วยเช่นกัน

ฟาร์มเห็ดบูรพา
  • 242/1 หมู่ที่ 1 ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์แรกของเดือน)
  • 03 801 8189
  • ณ ฟาร์มเห็ดบูรพา
#09

สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ (HRH Herb Garden)

ขุมทรัพย์ความรู้จากธรรมชาติ เล่าเรื่องสมุนไพรให้สนุกกว่าที่เคย

ใครคิดไม่ออกว่าสวนสมุนไพรจะมีอะไรน่าสนใจนักหนา แนะนำเลยว่าต้องมาที่ ‘สวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี’ สักครั้ง เพราะไม่เพียงเป็นสถานที่ที่คนแถวนั้นมาเดินวิ่งออกกำลังกาย พักผ่อนในบรรยากาศร่มรื่น ยังมีเรื่องราวของสมุนไพรแบบไม่น่าเบื่อให้รู้จักด้วย

เพียงแค่เลี้ยวรถเข้ามา น้ำพุกลางสระบัวก็พวยพุ่งเหมือนรอต้อนรับ สวนหย่อมกว้างขวางละลานตาไปด้วยพรรณไม้ที่จัดวางและตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม ไม้ดอกไม้ประดับเหล่านี้ไม่ใช่แค่มีไว้เพื่อตกแต่ง แต่ทั้งหมดคือพืชที่มีสรรพคุณทางยา รวมแล้วกว่า 20,000 กว่าต้น ยังมีต้นไม้มงคลประจำจังหวัดปลูกไว้ครบทั้ง 77 จังหวัด และเจ้าหน้าที่บอกว่าพื้นที่ตรงนี้ยังช่วยดูดซับสารพิษในอากาศได้ด้วย

หลังจากนั่งรถรางชมสวนสมุนไพรจนทั่วแล้ว เราไปต่อกันที่ห้องจัดแสดงเย็นฉ่ำ มีระบบการให้ข้อมูลทั้งภาพและเสียง (สำหรับผู้พิการทางการได้ยิน) แม้แต่คนที่ไม่เคยสนใจเรื่องนี้ก็ยังเพลิดเพลินไปกับส่วนจัดแสดงที่สวยงามน่าเรียนรู้ 

สวนสมุนไพรแห่งนี้เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปและคณะดูงาน ใครผ่านไปผ่านมายังไม่เคยแวะชม ก็อยากชวนให้ลองเข้ามาสักครั้ง แล้วเราจะพบว่าเรื่องของสมุนไพรนั้นสนุกกว่าที่คิด

สวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
#10

คลองหลังบ้าน Cafe camp

ชุ่มฉ่ำ ชื่นใจ เหมือนเล่นน้ำคลองใกล้บ้าน

จะดีแค่ไหนหากหลังบ้านของเรามีสายน้ำไหลผ่านให้ความรู้สึกชุ่มเย็นอยู่ตลอดเวลา แต่หากบ้านเราไม่มีสิ่งนั้น ก็ลองพาตัวเองมานั่งหลังบ้านคนอื่นได้ที่ ‘คลองหลังบ้าน Cafe camp’ ร้านกาแฟและอาหารบรรยากาศน่ารักเป็นกันเอง เหมือนอยู่ในแคมป์รอบกองไฟ 

คลองหลังบ้าน Cafe camp เกิดขึ้นในช่วงโควิด เมื่อธุรกิจรับเหมาที่เคยทำมีอันต้องล้มลง ชายหนุ่มเหลือเพียงเงินค่ารถกลับบ้านในสภาพหมดเนื้อหมดตัว หลังนอนทอดอาลัยอยู่หลายเดือน เขาก็ตัดสินใจลุกมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ถางหญ้า ปรับปรุงบริเวณบ้าน เปิดเป็นร้านขายกาแฟ โดยมีจุดขายคือคลองน้ำเย็นที่ไหลผ่าน หวังให้คนที่มาซื้อกาแฟได้มีสายน้ำเย็น ๆ เป็นที่ชื่นชูใจ เพียงไม่นานด้วยกระแสปากต่อปากก็ทำให้คลองหลังบ้าน Cafe camp กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนบ้านค่ายและใกล้เคียง

นอกจากมุมถ่ายรูปสวย ๆ บนบก ในน้ำก็มีโต๊ะเก้าอี้พร้อมให้เราลงไปนั่งจุ่มเท้าเล่น ดื่มด่ำกับความฉ่ำเย็นของสายธาร เพิ่มเครื่องดื่มรสชาติดีลงคอสักหน่อย ถ้าเริ่มหิวก็มีขนมเค้กและอาหารให้บริการ หากพาเด็ก ๆ มาด้วยก็เตรียมตัวได้เลยว่าต้องเปียก หรือใครอยากมานั่งพักผ่อนปล่อยใจอยู่คนเดียวก็มีมุมนั่งชิลล์เช่นกัน จุดเด่นของที่นี่คงไม่พ้นรอยยิ้มของพนักงานและเจ้าของที่เต็มใจต้อนรับทุกท่าน

คลองหลังบ้าน Cafe camp
#11

มาหาสมุทร บูติคโฮมสเตย์

ที่พักเงียบสงบ เต็มไปด้วยเรื่องเล่าของชาวประมง ณ ปากน้ำประแส

ย้อนไปเพียงไม่กี่สิบปี ปากน้ำประแสถือเป็นแหล่งประมงพาณิชย์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศ แต่วันที่สหภาพยุโรปให้ใบเหลือง (Yellow Card) ประมงไทย รัฐบาลต้องปฏิรูปกฎระเบียบในการทำประมงพาณิชย์ครั้งใหญ่เพื่อให้ได้มาตรฐาน EU เรือนับหมื่นลำได้รับผลกระทบ หลายครอบครัวต้องบอกลาอาชีพนี้ถาวร และอีกหลายครอบครัวเริ่มปรับตัวเข้าสู่อาชีพใหม่ ชุมชนท่องเที่ยวประแสจึงเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนนั้น

มาหาสมุทร บูติคโฮมสเตย์ เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่เปลี่ยนท่าจอดเรือและโรงงานแปรรูปแมงกะพรุนให้กลายเป็นโฮมสเตย์ที่มีเสน่ห์โดดเด่นไม่ซ้ำแบบใคร แต่ยังคงกลิ่นอายอาชีพเดิมของบรรพบุรุษด้วยสิ่งของตกแต่งจากเรือประมงแท้ ๆ ทั้งทุ่น อวน และดวงไฟไดหมึก เพิ่มเติมอารมณ์ย้อนยุคด้วยโครงสร้างไม้และพื้นไม้ขัดมันที่ทำให้เราต้องเดินอย่างสงบเสงี่ยมโดยปริยาย 

ใครตั้งใจมาเฮฮาแบบเอะอะมะเทิ่งจะต้องถอยกลับไปด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครอยากมาเสพบรรยากาศสงบเงียบริมแม่น้ำประแสก็คงจะชอบที่นี่เหมือนที่เราชอบ ตื่นเช้ามาทานอาหารท้องถิ่นในสำรับปิ่นโตที่โฮมสเตย์เตรียมไว้ให้ ก่อนออกไปสัมผัสบรรยากาศชุมชนประมงแท้ ๆ ในตลาดบ้านเก่าริมน้ำประแส ชุมชนห้องแถวโบราณอายุกว่า 100 ปี และยังมีรถสองแถวที่พร้อมนำเที่ยวสถานสำคัญ เช่น ทุ่งโปรงทอง อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ 

ย้ำอีกครั้งว่าที่นี่ไม่เหมาะกับสายปาร์ตี้ แต่ถ้าใครมองหาที่พักบรรยากาศดี มีมุมสวยให้ถ่ายรูป และมีความเงียบสงบพร้อมให้ได้พักเติมพลังชีวิต มาหาสมุทร บูติคโฮมสเตย์ คือที่ที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง

มาหาสมุทร บูติคโฮมสเตย์ 
#12

บ้านลืมเพ-ลา เฮอร์ริเทจ โฮมสเตย์ Baan Leum Payla Heritage Homestay

บ้านสวนของคนรักธรรมชาติ ใจกลางเมืองระยอง

ไม่แปลกที่ใครเข้ามาใน ลืมเพ-ลา เฮอร์ริเทจ โฮมสเตย์ แล้วจะรู้สึกเหมือนลืมเวลาไว้นอกรั้ว เพราะความสงบเงียบของที่นี่ชวนให้เราไม่อยากทำอะไรเลย นอกจากปล่อยตัวและหัวใจให้ได้พักผ่อนอย่างแท้จริงด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ โอบล้อมด้วยพรรณไม้หลายชนิด และสนามหญ้าสีเขียวที่พร้อมให้สัตว์เลี้ยงของแขกผู้เข้าพักมาวิ่งเล่นได้ 

ห้องพักที่นี่มี 3 ห้อง 3 สไตล์ เริ่มจาก ‘ห้องเขียวใบแค’ ใช้โทนสีเขียวเย็นตา พาสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ มาพักด้วยได้ ห้องนี้บอกเล่าเรื่องราวของบรรพบุรุษที่ทำสวนผลไม้ และเจ้าของยังเป็นคนชอบต้นไม้มาก

‘ห้องฟ้าตาแมว’ โทนห้องสว่างสดใสและมีแมวเป็นหัวใจหลักในการตกแต่ง นอกจากต้องการระลึกถึงมวลหมู่แมวที่คุณย่าของเจ้าของบ้านเคยเลี้ยงไว้ ยังอยากให้คนที่ได้มาพักรู้สึกผ่อนคลายสบายใจเหมือนเวลาที่แมวนึกอยากนอนตรงไหนก็นอน

ปิดท้ายด้วย ‘ห้องแดงก้ามปูอสุรา’ โทนสีและการตกแต่งให้อารมณ์ขึงขังแบบผู้ชายที่ใช้ชีวิตโลดโผน เพราะต้องการให้เป็นตัวแทนของคุณปู่ผู้ชื่นชอบการผจญภัยในท้องทะเล จนลาออกจากอาชีพครูเพื่อไปทำงานบนเรือประมง

ทุกห้องที่นี่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ยกเว้นอย่างเดียวที่ไม่มีคือโทรทัศน์ 

อีกหนึ่งความดีงาม คืออาหารเช้าที่อร่อยอลังการดาวล้านดวง เจ้าของโฮมสเตย์ลงมือทำเองเสิร์ฟเองทุกจาน ไม่ไกลจากที่พักยังมีสะพานก้นปึกที่มองเห็นวิวทะเล ขอยืมจักรยานปั่นไปเที่ยวเล่นได้ 

วันหยุดครั้งต่อไปใครอยากพาตัวเอง พาคุณพ่อคุณแม่ และคน (หรือสัตว์เลี้ยง) ที่เรารักมาพักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติ แต่ยังต้องการความสะดวกสบายใกล้เมือง ต้องใส่ ลืม-เพลา เป็นอีกตัวเลือกในรายชื่อที่พักครั้งต่อไป

บ้านลืมเพ-ลา เฮอร์ริเทจ โฮมสเตย์ Baan Leum Payla Heritage Homestay
#13

Converstation

พื้นที่เรียนรู้ที่พร้อมเป็นทุกอย่างให้เธอ

มั่นใจว่าไม่ใช่เราคนแรกที่เปิดประตูเข้ามาใน Converstation แล้วคิดว่านี่คงจะเป็นร้านหนังสือที่มีมุมกาแฟ แต่เอ๊ะ! มองไปอีกด้านก็เห็นคนกำลังเล่นบอร์ดเกมกัน แล้วมุมนั้นก็มีกลุ่มคนกำลังเรียนภาษาอังกฤษกันอยู่ 

เมื่อเราถามว่าที่นี่คืออะไรกันแน่ จึงได้คำตอบว่าเป็นพื้นที่เรียนรู้สาธารณะ ใครอยากมาทำอะไรก็ได้ จะนอนอ่านหนังสือหรือกระทั่งตีลังกา (เขาว่างั้นจริง ๆ) ก็ตามชอบใจ ตราบใดที่ไม่ทำให้เพื่อนร่วมพื้นที่เดือดร้อน 

Converstation หรือที่คนย่านถนนยมจินดาเรียกว่า ‘บ้านเหลือง’ ก่อตั้งขึ้นโดยคนรุ่นใหม่ที่สนใจประเด็นการศึกษา และเชื่อว่าสิ่งสำคัญของการเรียนรู้คือการปล่อยให้ผู้เรียนได้คิด ได้พูด ได้ตั้งคำถาม และได้ทดลองหาคำตอบด้วยตัวเองอย่างเป็นอิสระ โดยครูเป็นผู้นำทาง ไม่ใช่ผู้กำกับบังคับให้เดินตามกรอบ 

ที่นี่จึงไม่ใช่แค่ห้องสมุด ไม่ใช่แค่ร้านบอร์ดเกม แต่คือพื้นที่ที่ใครอยากมาใช้ทำอะไรก็ได้เท่าที่ความสนใจใคร่รู้ในตัวจะพาไป หากต้องการสนับสนุนร้าน จะอุดหนุนกาแฟสักแก้วหรือเช่าเหมาพื้นที่เป็นครั้งคราวก็ไม่ติด ขอแค่ให้ทุกคนที่มารู้สึกว่าที่นี่เป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยไม่มีใครมาตัดสินถูกผิดในวิธีเรียนรู้ของเขาก็พอ

Converstation 
  • 107 ถนนยมจินดา อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • เปิดทุกวัน เวลา 12.00 – 20.00 น.
  • 09 1017 4914
  • Converstation
#14

ร้านหนังสือสุนทรภู่

มุมอุ่นใจที่ให้มากกว่าการขายหนังสือ

ต้องเป็นหนอนหนังสือหรือเปล่าจึงจะเข้าร้านหนังสือได้ แน่นอนว่าไม่ใช่ โดยเฉพาะ ร้านสุนทรภู่ ร้านหนังสือสีฟ้าน่ารักในอำเภอแกลงที่ไม่ได้เป็นแค่พื้นที่ต้อนรับนักอ่าน แต่ยังเป็นพื้นที่ในการสื่อสารเรื่องราวอันเป็นประโยชน์ต่อคนแกลงและคนระยอง 

หรือใครแค่อยากแวะมาหยิบหนังสือแปลกตาที่ไม่เคยรู้จักแล้วนั่งอ่านเงียบ ๆ อยู่มุมใดมุมหนึ่งของร้าน รับรองได้ว่าจะไม่มีใครเข้าไปรบกวน บางคนมาซื้อหนังสือแล้วกลับ บางคนมานั่งอ่านอย่างสบายใจแทนการไปนั่งห้องสมุดหรือร้านกาแฟ บางทียังมีเด็กนักเรียนขออนุญาตมานั่งทำรายงานที่นี่ เพราะไม่เพียงรายล้อมด้วยบรรยากาศของการเรียนรู้ แต่เจ้าของร้านยังมีรอยยิ้มใจดีพร้อมต้อนรับทุกคนที่เข้ามา และหากแวะมาบ่อย ๆ จนเริ่มสบายใจ นึกอยากจะชวนเจ้าของร้านคุยเรื่องหนังสือหรือการทำสาธารณประโยชน์ในเมืองระยอง เธอก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ร้านสุนทรภู่

หมวดที่ 3 

พื้นที่เรียนรู้ที่ต้อนรับตั้งแต่บุคคล ครอบครัว จนถึงหมู่คณะ

#15

วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา

ไข่แดงกลางดงอุตสาหกรรม ความสำเร็จของคนรักผึ้งจิ๋ว

แม้วิสาหกิจแห่งนี้จะเปิดทุกวัน แต่เราแนะนำให้หาเวลาไปเที่ยวในเช้าตรู่วันเสาร์-อาทิตย์ เพราะทุกเช้าวันหยุดจะมีร้านกาแฟและไข่กระทะบริการ รวมถึงได้เห็นบรรดาแก๊งจักรยานทางไกลแวะมาเติมพลังกันอย่างครึกครื้น 

วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา ตั้งต้นจากครอบครัวพ่อแม่ลูก เมื่อคุณแม่สนใจเลี้ยง ‘ชันโรง’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘ผึ้งจิ๋ว’ ลูกชายจึงหาข้อมูลโดยมีคุณพ่อให้การสนับสนุนแบบว่าไงว่าตามกัน เรียนรู้ถูกผิดจนวันนี้เปิดบ้านให้ผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้เส้นทางการเลี้ยงชันโรงได้อย่างภาคภูมิ

พวกเขายังมีส่วนทำให้เทศบาลตำบลทับมาได้รางวัลเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับประเทศ จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะการจะเลี้ยงชันโรงได้ ต้องมีต้นไม้และสิ่งแวดล้อมที่ดี ปลอดภัยจากสารเคมี 

นอกจากนี้ น้ำผึ้งจากชันโรงยังหายาก ความต้องการในตลาดมีมากกว่าจำนวนคนเลี้ยง ใครสนใจอยากเลี้ยงผึ้งจิ๋วชันโรงก็รวมกลุ่มกันและติดต่อขอดูงานได้ ที่นี่ต้อนรับทุกท่านด้วยความเต็มใจ

วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา 
#16

วัดหนองจระเข้

ป่ายั่งยืนเพื่อโลกที่เย็นลง

วัดหนองจระเข้ ไม่ได้เปิดต้อนรับเพียงชาวพุทธที่มาไหว้พระทำบุญ แต่ทุกคนทุกศาสนาก็มาที่นี่ได้เพื่อมาสัมผัส ‘เส้นทางชมธรรมชาติ’ บนเนื้อที่ป่ากว่า 80 ไร่ ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ปลูกเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและต้นสูงจนยอดใบพรางแสงอาทิตย์ ทำให้ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลก ได้ยินเพียงเสียงไก่ขันนกร้อง แต่ไม่ต้องกลัวว่าหลง เพราะทางเดินวนรอบและมีป้ายกำกับ ที่สำคัญคือยังอยู่ในเขตวัด

ต้นไม้ที่ขึ้นหนาตาจนเหมือนป่าขนาดย่อมเหล่านี้ เป็นโครงการ ‘ป่ายั่งยืน’ ของวัดหนองจระเข้ จุดประสงค์แรกเริ่มเพื่อต้องการรักษาป่าไม้เอาไว้ให้อยู่กับชุมชน เวลาผ่านไป ต้นไม้ไม่เพียงให้ความร่มรื่นกับคนที่นี่ แต่ยังช่วยลด ดูดซับ และกักเก็บก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอน) อย่างวัดผลได้ จนทำให้วัดหนองจระเข้ได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) (อบก.) 

วัดหนองจระเข้ เปิดต้อนรับทุกคนในทุกวัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบและอยากมีสถานที่ให้หายใจได้อย่างเต็มปอด

วัดหนองจระเข้ 
#17

ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย ระยองฮิ

ของดีท้องถิ่นที่เกิดจากการรวมตัวร่วมใจ ใครอยากกินต้องมาเอง

‘บ้านทะเลน้อย’ เคยเป็นเพียงชุมชนเล็ก ๆ ที่มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่ใครจะมุ่งหน้าเดินทางมา แต่ความจริงคือที่นี่เป็นชุมชนที่มีต้นทุนหลากหลาย ทั้งทุนธรรมชาติ มีแม่น้ำประแสรอบหมู่บ้าน 

ทุนประวัติศาสตร์ คือมีวัดที่สันนิษฐานว่าพระเจ้าตากสินเคยมาพักทัพและเคยมีบัลลังก์ที่ประทับของพระองค์เก็บไว้ 

ทุนสังคม คือมีกลุ่มอาชีพและภูมิปัญญาหลายด้าน เมื่อตระหนักถึงของดีในชุมชนตนเอง ชาวบ้านจึงรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่ม ‘ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย ระยองฮิ’ และเลือกหยิบจุดเด่นในหมู่บ้านมาตั้งเป็นคำขวัญที่ว่า

กล้วยน้ำว้าขึ้นชื่อ เลื่องลือผักกระชับ ถิ่นพักทัพพระเจ้าตาก ของฝากกะปิน้ำปลา ล่องธาราลำน้ำประแส 

ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย ระยองฮิ ให้บริการหมู่คณะที่สนใจมาศึกษาดูงาน ทั้งแบบวันเดย์ทริป หรือ 2 วัน 1 คืนตามสะดวก เส้นทางท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่การล่องแพดูเหยี่ยวแดงในแม่น้ำประแส แวะไหว้พระและฟังเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ที่วัดราชบัลลังก์ แวะถ่ายรูปอุโบสถเก่า สันนิษฐานว่ามีอายุกว่า 300 ปี ก่อนกลับยังจะได้ชิมกล้วยน้ำว้าสามน้ำ (น้ำจืด น้ำเค็ม น้ำกร่อย) และผักกระชับ ผักพื้นถิ่นของประแสที่หากินที่อื่นไม่ได้ 

ก่อนกลับอย่าลืมซื้อ ‘ปลาเค็มแดดเดียว’ ติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านด้วยนะ

ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย ระยองฮิ 
#18

ชุมชนท่องเที่ยวบ้านมาบจันทร์

จากพื้นที่ต้นน้ำสู่หมู่บ้านท่องเที่ยวผู้พิทักษ์เขายายดาและหมีควาย

‘บ้านมาบจันทร์’ คือชุมชนขนาดเล็กที่มีเพียง 200 กว่าครัวเรือน สิ่งที่เคยเป็นปัญหาของคนที่นี่คือความแห้งแล้ง แม้จะอยู่ติดกับภูเขา แต่ด้วยสภาพดินทราย ประกอบกับมีสัมปทานป่าไม้ ทำให้ภูเขาต้นน้ำที่ชื่อว่า ‘เขายายดา’ อยู่ในสภาพแห้งแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อน พืชสวนล้มตาย แต่ด้วยความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอกบวกกับความขันแข็งของชาวบ้านที่จะทวงคืนความชุ่มชื้นกลับมาให้ได้ ผ่านการทำวิจัยชุมชน ทำฝายชะลอน้ำ ทำให้เขายายดากลับมาเป็นพื้นที่ต้นน้ำอันอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง และหมู่บ้านมาบจันทร์ก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางในการศึกษาของกลุ่มคนที่อยากเรียนรู้เรื่องการจัดการป่าต้นน้ำ

นอกจากเรื่องการดูแลแหล่งต้นน้ำ ชุมชนท่องเที่ยวบ้านมาบจันทร์ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง หากมาทุกต้นเดือน จะมีโอกาสได้เห็นพระสงฆ์ที่วัดมาบจันทร์ย้อมจีวรแบบโบราณ คือย้อมโดยใช้แก่นขนุนต้ม ไม่ใช้สีสังเคราะห์ มาบจันทร์ยังมีอาหารพื้นถิ่น ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ ขนมจีนซาวน้ำ หมูยำมะม่วง และอีกหนึ่งสัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์คือ ‘หมีควาย’ ที่อาศัยในป่าเขายายดาและไม่เคยทำร้ายใคร ทุกวันอาทิตย์จะมีกลุ่มอนุรักษ์ป่าขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปช่วยกันสำรวจตรวจตราความเรียบร้อยของป่า เพราะรู้ดีว่า ถ้าป่าอุดมสมบูรณ์ ทั้งคนและป่าก็จะมีชีวิตอยู่ได้ สำหรับคนมาบจันทร์ ชีวิตที่ดีจึงไม่ได้หมายถึงแค่ชีวิตมนุษย์ แต่คือทุกสรรพสิ่งที่อาศัยต้นน้ำเดียวกันในการอยู่รอด

หากชุมชนไหนต้องการเรียนรู้ดูงานเรื่องการจัดการป่าต้นน้ำและการจัดการชุมชน ชุมชนท่องเที่ยวบ้านมาบจันทร์ควรเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องอยู่ในลิสต์ของคุณ

แหล่งเรียนรู้วิจัยชุมชนรอบเขายายดา
#19

สวนป่านาเล

4 อัตลักษณ์ที่ร้อยรวมธรรมชาติและผู้คนในตำบลเนินพระเข้าด้วยกัน

เราเริ่มต้นกันที่ป่าชุมชนตำบลเนินพระ ป่ากลางเมืองระยอง สถานที่ซึ่งเป็นเหมือนปอดขนาดใหญ่ใจกลางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดบนพื้นที่กว่า 118 ไร่ที่ไม่ได้ถูกสงวนไว้เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า แต่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน 

ชาวบ้านมาเก็บเห็ดและพืชผักต่าง ๆ ได้ตราบที่ไม่รบกวนป่าและอยู่บนพื้นฐานของการแบ่งปัน นอกจากมีเส้นทางให้เดินและปั่นจักรยานชมธรรมชาติ ป่าแห่งนี้ยังเป็นทั้งตลาดชุมชน แหล่งวัตถุดิบให้นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้เข้าหมู่บ้าน เป็นสถานที่ให้คนในท้องถิ่นมาพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนตำบลเนินพระที่ยังรักษา ‘สวน ป่า นา เล’ 4 อัตลักษณ์ของคนเนินพระเอาไว้ได้

‘สวน’ สวนมะม่วงที่ปลูกบนผืนทราย รสชาติไม่เหมือนที่อื่น อาจเคยได้ยินคนพูดถึงมะม่วงกรอกยายชา ของแท้ต้องที่นี่นี่แหละ

‘ป่า’ ป่าชุมชนบ้านศาลเจ้าหรือป่าชุมชนเนินพระ ป่าใจกลางเมืองผืนสุดท้ายที่ชุมชนปกปักรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุด

‘นา’ นาข้าวแปลงสุดท้ายใจกลางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อยู่ที่ชุมชนเกาะกก เกิดจากความตั้งใจของชาวบ้านที่จะรักษาผืนนาและอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษไม่ให้หายไปพร้อมกับการพัฒนาเมือง

‘ทะเล’ หาดแสงจันทร์ หาดสุชาดา พ่อค้าแม่ขายที่ทำมาหากินอยู่ริมหาดมีการรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มรักษ์ชายหาดและคอยช่วยเจ้าหน้าที่เทศบาลในการดูแลนักท่องเที่ยวไม่ให้เล่นน้ำทะเลแบบเสี่ยงภัย

สวน ป่า นา เล จึงเป็นความภูมิใจที่คนเนินพระอยากให้ทุกท่านได้มาลองสัมผัสดูสักครั้ง

ป่าชุมชนเนินพระ 
#20

EECi และ วังจันทร์วัลเลย์

เมืองแห่งอนาคตเพื่อคนทั้งประเทศ

หลายคนอาจเคยนึกฝันไว้ในใจ… ว่าจะดีแค่ไหนถ้าประเทศไทยไม่ใช่แค่ประเทศเกษตรกรรมที่ส่งออกของสดของแห้ง แต่ยกระดับตัวเองเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบอุตสาหกรรมที่ทำจากพืช และเป็นพืชที่ปลูกได้ดี มีคุณภาพที่สุดแค่ในประเทศไทยเท่านั้น

นั่นเป็นเพียงแค่ฝันเล็ก ๆ อย่างหนึ่งที่ ECCi กำลังคิดและทำ

ECCi หรือ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation) คือหน่วยงานภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโครงการวังจันทร์วัลเลย์ 

ต้องย้ำก่อนว่า EECi ไม่ใช่เขตพื้นที่อุตสาหกรรม แต่เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่สนับสนุนด้าน Echosystem และ Infrastructure ต่าง ๆ ให้กับนักวิจัยและนักอุตสาหกรรมอีกต่อหนึ่ง โดยมีพันธกิจว่าต้องทำให้เกิดการพัฒนาร่วมกับชุมชนโดยรอบ และงานวิจัยจะต้องถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมได้จริง ๆ 

หนึ่งในตัวอย่างผลงานเล็ก ๆ ที่ ECCi ทำร่วมกับท้องถิ่น คือการร่วมมือกับสถาบันการเรียนรู้ของคนทุกช่วงวัย จังหวัดระยอง หรือ RILA (RAYONG INCLUSIVE LEARNING ACADEMY) ออกแบบ Smart Farm Demo Size อุปกรณ์อัจฉริยะที่ใช้นวัตกรรมมาช่วยในการทำการเกษตร ด้วยแนวคิดว่านักวิจัยอาจจะทำสวนไม่เป็น แต่สร้างนวัตกรรมที่สนับสนุนให้เกิดเกษตรสมัยใหม่ได้

ที่นี่ยังมีโรงงานต้นแบบด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biorefinery) หรือการนำวัตถุดิบเช่นพืชในประเทศ มาสกัดหาสารตั้งต้น (Feedstock) เพื่อใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ สารเคมี พลาสติก หรือผลิตภัณฑ์ชีวภาพต่าง ๆ 

หรือโรงเรือนอัจฉริยะที่นักวิจัยกำลังพัฒนาพันธุ์พืชให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม เพิ่มผลผลิต ลดระยะเวลาการเพาะปลูก 

นวัตกรรมการเกษตรเป็นแค่ 1 ใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (New S-curve) ที่ ECCi สนับสนุน แต่ยังมีอีก 5 อุตสาหกรรมหลักที่ครอบคลุมคุณภาพชีวิตของคนในประเทศแทบจะทั้งหมด

ลองนึกดูว่าชีวิตของเราจะดีขึ้นได้อีกแค่ไหน ถ้านักวิจัยของ ECCi สร้างนวัตกรรมเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นพลังงานสะอาดชั้นดีได้ ออกแบบระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ทำงานแทนมนุษย์ในส่วนที่เสี่ยงอันตรายได้ หรือการคิดค้นเครื่องมือแพทย์ที่จะมาช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้น 

การสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมก็เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ และนั่นคือสิ่งที่ ECCi กำลังทำ

เพิ่มเติม

  1. ECCi ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการ ‘วังจันทร์วัลเลย์’ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
  2. ‘โครงการวังจันทร์วัลเลย์’ หรือโครงการนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สร้างขึ้นด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ที่นี่เป็นเมืองแห่งนวัตกรรมต้นแบบระดับโลก (Innovation Ecosystem) เพราะเชื่อว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีจะเป็นกลไกในพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
  3. 6 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของ ECCi ได้แก่ อุตสาหกรรมนวัตกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติหุ่นยนต์และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงและการขนส่งสมัยใหม่ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ และอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์
EECi เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก 
  • 333 สำนักงานใหญ่ อีอีซีไอ (ในวังจันทร์วัลเลย์) ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • 02 140 2424
  • Wangchan Valley
  • www.eeci.or.th และ www.nectec.or.th

Happy City เป็นแคมเปญในความร่วมมือของ The Cloud, สถาบันอาศรมศิลป์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมีเป้าหมายในการสื่อสารความสำคัญของการพัฒนาเมืองและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ

ความพิเศษของแคมเปญนี้คือ ทีมงานก้อนเมฆไม่ได้เป็นคนเล่าเอง แต่เฟ้นหาผู้สนใจ 5 คน มาทำหน้าที่ ‘นักเขียนพิเศษ’ แทนพวกเรา ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ผู้ได้รับเลือกทั้ง 5 ต้องไปใช้ชีวิต ทำความรู้จักผู้คน กิจการ อาณาบริเวณต่าง ๆ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ระยอง เชียงใหม่ อุบลราชธานี และสงขลา แล้วเขียนถ่ายทอด 20 เรื่องราวสุขภาวะของจังหวัดนั้น ๆ ออกมาเป็นหนังสือคนละ 1 เล่ม และบทความคอลัมน์ Take Me Out อีกคนละ 1 บทความ

บทความด้านบนเป็นเพียง 1 ใน 5 บทความของแคมเปญ Happy City เท่านั้น เราหวังว่าคุณจะติดตามอ่านจนครบ 5 จังหวัดด้วยความเพลิดเพลิน 

ถ้าอ่านแล้วอยากลุกขึ้นมาร่วมสร้างเมืองน่าอยู่อีกแรง พวกเราและเหล่านักเขียนพิเศษก็จะดีใจที่สุด!

Writer

อรุณวนา สนิกะวาที

อรุณวนา สนิกะวาที

มีความสุขกับการเขียนนิยาย ขายของ ทำช่องยูทูบ มี blog ชื่อนักเขียนฐานะดีมีแมวหลายตัว

Photographer

ธนาธิป อดิเรกเกียรติ

ธนาธิป อดิเรกเกียรติ

ช่างภาพรักความสงบ กำลังพยายามค้นหาความสุขให้กับตัวเอง ผู้หลงใหลระหว่างบรรทัดของบทกวี