‘คลั่ง’ เป็นหนึ่งคำที่เราอยากจะใช้อธิบายภาพยนตร์ ธี่หยด 2 ทุกมิติของหนังเรื่องนี้สื่อสารความคลั่งได้สุดในทุกทาง เนื้อเรื่องที่คลั่งและกลั่นออกมาในมุมมองใหม่ ต่อยอดจากหนังภาคแรก ต่างจากฉบับนิยาย ทีมทำหนังทำได้คลั่ง จัดเต็มทั้งภาพ เสียง สีสัน รังสรรค์ความจริงและความบันเทิง ทีมนักแสดงก็คลั่งและทำถึงในทุกฉาก เชื่อว่าถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ใน ธี่หยด ภาคแรก จะยิ่งทวีความคลั่งใน ‘จักรวาลเรื่องเล่า ธี่หยด’ ที่กำลังส่งต่อความคลั่งไปให้ผู้ชม
บทความนี้หลีกเลี่ยงการเผยความลับของเรื่องให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ธี่หยด 2 (Death Whisperer 2)
Type : ภาพยนตร์ไทย
Genre : สยองขวัญ แอคชัน เหนือธรรมชาติ
Director : ทวีวัฒน์ วันทา
Writer : สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์ และ พลพล พงษ์แพทย์
Producer : ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์
Actors : ณเดชน์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา คัปปุน, กาจบัณฑิต ใจดี, พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน, พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, อริศรา วงษ์ชาลี และ ปรเมศร์ น้อยอ่ำ
ความยาว : 1 ชั่วโมง 50 นาที

ความน่าสะพรึงกลัวของภาพยนตร์ ธี่หยด เมื่อภาคแรกยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ด้วยเรื่องราวลึกลับเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับครอบครัวใหญ่ พ่อ แม่ ลูกชาย 3 คน และลูกสาว 3 คน ทว่าครอบครัวอันอบอุ่นต้องสั่นคลอนเพราะสิ่งเร้นลับที่อธิบายไม่ได้ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวที่มีอาการป่วยอย่างผิดธรรมชาติ ในสมัยนั้นเชื่อกันว่าเป็นเพราะผีเข้าสิง และเป็นผีที่มีพลังอำนาจมหาศาล
เรื่องราวในภาคแรกยังทิ้งปมต่อเนื่องให้เล่าต่อได้อีกมากมาย ถ้าใครติดตามอยู่แล้ว คงรู้มาบ้างว่าเรื่องนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริงที่เล่าผ่านกระทู้พันทิป มีการเล่าต่อในรายการวิทยุ และนำมาเขียนเป็นนิยายโดยผู้เล่าคนเดิมที่ใช้นามปากกาว่า กฤตานนท์ หรือ กิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ ทายาทของบุคคลต้นเรื่อง โดยมีนิยายออกมา 2 เล่ม คือ ธี่หยด…แว่วเสียงครวญคลั่ง และ ธี่หยด…สิ้นเสียงครวญคลั่ง ที่มีสำนวนภาษาในการเล่าเรื่องแบบนิยายไทยย้อนยุคอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งเรื่องเล่า นิยาย ภาพยนตร์ ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ภาพยนตร์ภาคแรกทำรายได้กว่า 500 ล้านบาท และยังได้ออกฉายใน 20 ประเทศทั่วโลก


ธี่หยด 2 กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับความเข้มข้นของเรื่องราวที่เพิ่มความคลั่งให้ผู้ชมไม่อาจละสายตาจากหน้าจอ เนื้อหามีการปรับดัดแปลงจากฉบับนิยาย กลายเป็นการต่อเติมจักรวาลของธี่หยดให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น ภาค 2 ยังเป็นผู้กำกับคนเดิมคือ ทวีวัฒน์ วันทา เขียนบทโดย สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์ และ พลพล พงษ์แพทย์
บทความชิ้นนี้จึงอยากชวนมาถอดรหัสมิติของ ‘ความคลั่ง’ ที่เราตีความว่าคือความสุด ความข้นคลั่กทั้งเชิงเนื้อหาที่มีการดัดแปลงและการเล่นกับอารมณ์ของผู้ชมที่ซ่อนอยู่ภายในภาพยนตร์ เป็นอีกรสชาติหนึ่งของหนังผีไทยที่ก้าวไปอีกขั้น และพยายามหลีกเลี่ยงการเผยความลับของเรื่องให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
คลั่งรัก ครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น
ความคลั่งมิติแรกที่เราอยากเปิดประเด็นคือ ‘คลั่งรัก’ แม้จะเป็นหนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติ ที่ดึงอารมณ์ให้คนดูแทบจะไม่ได้พักหายใจเลย แต่ส่วนที่เป็นฉากฮีลใจ เล่าเรื่องความรักความผูกพันในครอบครัวก็ยังพอมีให้เห็นอยู่ หลังจากน้องสาวคนรอง แย้ม (รับบทโดย รัตนวดี วงศ์ทอง) จากไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เฮียฮั่ง ผู้เป็นพ่อ (รับบทโดย ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) และ แม่บุญเย็น (รับบทโดย อริศรา วงษ์ชาลี) ยังคงอยู่ดูแลลูกทุกคนที่บ้านหลังเดิมในจังหวัดกาญจนบุรี มีฉากล้อมวงกินข้าวบนโต๊ะอาหาร พูดคุยกัน ได้เห็นรอยยิ้มของสมาชิกในครอบครัว ได้เห็นการเติบโต สัมผัสได้ถึงความรัก ความผูกพันของสมาชิกในครอบครัว เป็นช่วงที่ผ่อนคลายอารมณ์ผู้ชม แม้จะมีอยู่ไม่มากนักก็ตาม

ความรัก ความผูกพัน และประเด็นเกี่ยวกับของครอบครัวยังเป็นจุดแข็งสำคัญของหนังเรื่องนี้ที่เชื่อมโยงกับผู้ชมได้อย่างมีเสน่ห์ และในภาค 2 ยังเพิ่มความคลั่งรักในแง่มุมของการสร้างครอบครัวใหม่ของ หยาด (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) พี่สาวคนโตที่กำลังจะแต่งงานกับ ประดิษฐ (รับบทโดย พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร) ในฉากนี้เป็นอีกหนึ่งฉากที่รวมตัวสมาชิกในครอบครัวอย่างพร้อมหน้า พี่ชายทั้ง 2 คนคือ ยศ (รับบทโดย กาจบัณฑิต ใจดี) และ ยอด (รับบทโดย พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ) รวมถึงน้องสาวคนเล็ก ยี่ (รับบทโดย ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน)


ที่สำคัญคือการปรากฏตัวของ ยักษ์ (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) พี่ชายคนโตของบ้าน ผู้มีความกล้า บ้าบิ่น ไม่กลัวใคร ตรงไปตรงมา และพร้อมจะปกป้องทุกคนในครอบครัว เขาเดินทางกลับบ้านเพื่อมาแสดงความยินดีกับน้องสาว และเพราะความรักเช่นเดียวกันที่ทำให้ยักษ์ยังก้าวข้ามเรื่องราวในอดีตที่เขาสูญเสียแย้ม ซึ่งเป็นน้องสาวอีกคนไปไม่ได้ เขายังคงตามหาผีชุดดำ (รับบทโดย มานิตา ชอบชื่น) เพื่อที่จะแก้แค้นให้สำเร็จ
คลั่งแค้น ออกตามล่าผีกลางป่าใหญ่
จากบ้านอันอบอุ่นในกาญจนบุรี แม้จะอยู่ไกลปืนเที่ยง ทว่าบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวคือฐานที่มั่นในการปักหลักยืนหยัดต่อสู้กับผีชุดดำ ตัดภาพไปสู่การเดินทางเข้าสู่ ‘ดงโขมด’ ดงผีห่าของทีมนักล่าปอบที่มียักษ์และ จ่าปพันธ์ (รับบทโดย องอาจ เจียมเจริญพรกุล) เป็นแกนนำ พ่วงด้วยกลุ่มคนล่าผีที่มีความเกี่ยวโยงกับผีชุดดำและปอบตาพวง
‘ปอบตาพวง’ ตามตำนานคือปอบตัวแรกของไทยที่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยจากหนังสือ วชิรญาณวิเศษ ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องราวของปอบตาพวงเกิดขึ้นที่เมืองอุตรดิตถ์ ตาพวง คือคนแปลกหน้าที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน และช่วงนั้นมีคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ จนตาพวงถูกขับไล่โดยการเผากระท่อมและสูญหายไป

การออกตามล่าหาต้นตอของผีชุดดำจากร่องรอยของบันทึกปอบตาพวง ทำให้ยักษ์และคณะมุ่งหน้าสู่ดงโขมด ป่าอาถรรพ์ที่มีผีอาศัยอยู่มากมาย ใครเข้าไปก็ไม่มีทางรอดมาได้ ต้นไม้สูงใหญ่ หนาทึบ ปิดล้อมทุกทิศทาง ยิ่งฉายภาพให้เห็นว่าธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่ งดงาม และน่ากลัว เป็นดินแดนของสิ่งเหนือธรรมชาติ เร้นลับที่มนุษย์ธรรมดาไม่มีทางมีชีวิตรอดกลับมาได้
ยักษ์ที่ยังคงมีความแค้นฝั่งใจอยู่ เขาตั้งใจจะสู้ จะเอาคืนให้ถึงที่สุด สิ่งที่ช่วยให้ยักษ์มีต้นทุนในการสู้คือความรู้เกี่ยวกับปอบจากการค้นคว้า และมีจ่าปพันธ์ คู่หูล่าผีต่างวัยที่เอาตัวรอดมาได้จากภาคที่แล้ว จ่าปพันธ์มีความรู้ทางด้านคาถาอาคม ช่วยให้ยักษ์รอดพ้นเมื่อถึงตาจน รวมถึงความรักที่มีต่อครอบครัวเป็นแรงผลักดันสำคัญทางด้านจิตใจในการต่อสู้กับผีที่มีพลังอำนาจมากกว่าเขามหาศาล
หนังค่อย ๆ พาเราเดินเข้าสู่ป่าลึกลับ ติดตามเอาใจช่วยตัวละครในการเดินป่า พร้อมเรื่องเล่า เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเดินป่า การต่อสู้กับผี การเดินหน้าเข้าหาผีจัดการกับผี ถ้าเป็นคนธรรมดาที่จิตไม่แข็ง อาจจะยอมแพ้ไปแล้ว แต่สำหรับยักษ์ผู้ไม่เคยกลัวใคร เขาใช้ใจที่เข้มแข็งและกำลังในการจัดการกับผี ไม่หนี แต่พุ่งเข้าไปสู้กับปัญหา ก็ยิ่งทำให้ตัวละครนี้โดดเด่น ความคลั่งแค้นของยักษ์อาจเรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาเชิงรุกมากกว่าการตั้งรับหรือรอคอยรับมือกับผีที่จะเข้ามาทำร้าย

คลั่งหลอน ตัวตนของผีที่ปรากฏ
การปรากฏตัวตนของผีในเรื่องนี้ยังคงความหลอนและเป็นการปรากฏตัวในหลากหลายรูปแบบ จากภาคที่แล้ว ผีชุดดำจะก่อกวนรอบบ้าน บุกเข้ามาในบ้าน สิงร่างคน ควบคุมคน เผยความน่ากลัว หลอน แบบเนิบช้า เย็นยะเยือกด้วยเสียงธี่หยดที่โหยหวน
ในภาคนี้เราได้เห็นผีในป่าที่ทั้งคลานบนพื้นดิน ห้อยโหนจากต้นไม้ ปรากฏในร่างของเสือ เป็นการปะทะกันระหว่างคนกับผีอย่างซึ่งหน้า มีความเป็นหนังผีที่แทรกด้วยความแอคชันที่ทำให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา
ผีชุดดำเป็นผีที่ไม่เหมือนปอบธรรมดาที่เราคุ้นชิน ผีชุดดำเข้าสิงร่างคน ควบคุมจิตใจคน เล่นกับจิตใจของคนที่อ่อนแอ เมื่อเข้าสิงร่างคน ทำให้ลักษณะการพูด ทั้งเสียง สีหน้า แววตา และการเคลื่อนไหวเปลี่ยนไป เป็นความหลอนที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูด การออกแบบผีของทวีวัฒน์ ส่วนหนึ่งอาจได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ชุดผีอมตะของ แซมูเอล มาร์แชลล์ แซม เรย์มี (Samuel Marshall Sam Raimi) เขาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกันกำกับ Cult Films แนวสยองขวัญ อีกทั้งยังเป็นนักแสดง นักเขียน และโปรดิวเซอร์ ผลงานที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ได้แก่ ผีอมตะ และ กระชากลงหลุม รวมถึงหนังฮีโร่อย่าง สไปเดอร์แมน
ลักษณะของผีในเรื่องมาจากการออกแบบให้มีความเป็นผีไทย ผสมผสานกับกลิ่นอายผีตะวันตก เกิดส่วนผสมของตัวละครผีที่แตกต่างจากที่ผ่านมา รูปร่างภายนอกของผีที่นำเสนอในภาคนี้ยังคงความน่ากลัว ลึกลับ และความน่าสะอิดสะเอียน จากทั้งภาพและเสียงในทุกทิศทาง

ด้วยระบบการถ่ายทำด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ยิ่งเข้าฉายในระบบ IMAX การฉายภาพยนตร์บนจอขนาดใหญ่ยักษ์ มีความละเอียดสูง เป็นอีกมิติหนึ่งที่ทำให้ ธี่หยด 2 ส่งต่อความน่าสะพรึงกลัวได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น
ลักษณะการจัดการกับผีมีทั้งการหนีผี การสู้ผี ก็แตกต่างไปจากหนังผีที่เคยเห็นที่ผ่านมา บทสวดอาจจะใช้ปราบผีไม่ได้ในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ผีกลัวคือความเข้มแข็งทางจิต ยิ่งจิตแข็ง ไม่หวั่นไหวไปกับเสียงที่ใช้สะกด ก็จะยิ่งมีพลังต่อสู้มากขึ้น
คลั่งแล้วสู้ไม่ถอย โรงแรมผีชุดดำ และการพยายามเอาตัวรอด
หนึ่งในการต่อสู้ที่สำคัญของเรื่อง คือการต่อสู้ระหว่างคนกับผีที่เกิดขึ้นในโรงแรม ส่วนนี้มีความต่างจากการปักหลักอยู่ที่บ้าน ออกไปล่าผีกลางป่า โรงแรมเป็นสถานที่พักระหว่างทาง เป็นสถานที่ที่ไม่มีความทรงจำเดิม เป็นสถานที่ที่ตัวละครไม่คุ้นเคย และอาจจะตีความได้ว่าเป็นสถานที่แห่งการเริ่มต้นใหม่ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ


โรงแรมที่เห็นภายในเรื่องเป็นโรงแรมยุคคลาสสิก ห้องภายในปิดทึบ ทางเดินหน้าห้องพักที่เรียงรายคับแคบ บีบอัด น่าอึดอัด เหมาะกับการปรากฏตัวของผีที่เข้ามาโจมตีได้ทุกทิศทาง
ผีชุดดำที่ตามไล่ล่าครอบครัวยักษ์มาถึงโรงแรมที่เป็นการจัดงานแต่งระหว่างหยาดกับประดิษฐ์ ยังคงทรงพลังทั้งสิงร่าง สร้างภาพลวงตา และออกล่าสมาชิกในครอบครัวยักษ์ทุกคนอย่างไม่ลดละ
การต่อสู้ภายในโรงแรม เรายังเห็นบทบาทของการต่อสู้เป็นทีม แต่ละคนมีวิธีรับมือกับผีแตกต่างกัน น้องสาวคนเล็กรับมือด้วยการหนี การซ่อน บรรดาพี่ชายรับมือสู้ด้วยพละกำลัง และหยาดที่ต้องสู้กับผีด้วยการพยายามปล่อยวางเรื่องราวในอดีต หยาดโดนผีเล่นงานกับความทรงจำ เป็นความทรงจำที่สวยงามระหว่างพี่สาว-น้องสาว สร้างความรู้สึกผิดให้กับหยาดที่กำลังจะแต่งงาน มีชีวิตใหม่ ขณะที่แย้มไม่มีโอกาสนั้นแล้ว
เราเห็นความพยายามในการต่อสู้ ความอยากในการมีชีวิตอยู่ ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ทุกวินาทีคือการลุ้น เอาใจช่วย กราฟของหัวใจผู้ชมเต้นไม่เป็นจังหวะตลอดทุกวินาที

ความคลั่งและพลังของการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เหนือธรรมชาติ
การกลับมาของ ธี่หยด 2 คืออีกหนึ่งรสชาติใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการหนังผีไทยก้าวไปอีกขั้น ใจความสำคัญหนึ่งที่เราได้จากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการต่อสู้กับสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติ การพยายามพิสูจน์ค้นหาความจริง สิ่งนี้อาจจะค่อย ๆ กัดกร่อนความเชื่อเดิมทีละเล็กทีละน้อยที่มีคนเคยพูดไว้ว่า ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ กลายเป็นการต่อสู้กับความลึกลับ เรียนรู้ที่จะเผชิญหน้า ปะทะกับสิ่งที่ไม่รู้ เพื่อค้นหาว่าความจริงนั้นคืออะไร

ความคลั่งของยักษ์ในการพยายามเอาชนะผีชุดดำ ซึ่งเป็นตัวแทนของสิ่งที่เร้นลับ มีพลังอำนาจมหาศาล อาจเป็นการส่งสัญญาณให้มนุษย์ธรรมดารับรู้ว่าความคลั่งในการมีชีวิตอยู่ การใช้ชีวิต การปฏิวัติทวงคืนชีวิตที่ธรรมดา อย่างการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ได้กินข้าวพร้อมหน้ากัน มีชีวิตที่แสนธรรมดา นี่คือความสุขแสนเรียบง่ายที่เราอาจจะหลงลืมไปในระหว่างทางของการใช้ชีวิตก็เป็นได้
รับชม ธี่หยด 2 ได้แล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์