Queen of Tears (2024) ราชินีแห่งน้ำตา

Type : Korean Series 

Country : Korea

Director : Jang Young-woo and Kim Hee-won

Written : Park Ji-eun

Actors : Kim Soo-hyun, Kim Ji-won

Duration : 16 Episodes 

ภาพที่เราเห็นในซีรีส์และละคร ฉากจบมักจะเป็นการแต่งงานของพระเอกและนางเอก แล้วพวกเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป แต่ทว่าในซีรีส์เรื่อง Queen of Tears (ปี 2024) ฉากแต่งงานคือการเริ่มต้นเรื่อง การก้าวเข้าสู่ความสัมพันธ์ของหญิงสาวนักธุรกิจจากตระกูลร่ำรวยและชายคนรัก ทนายผู้เฉลียวฉลาด กับความรักที่ไม่ใช่มีเพียงพวกเขา 2 คน แต่รายล้อมไปด้วยพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ครอบครัว ธุรกิจมูลค่ามหาศาล และความคาดหวังอีกมากมายในสายตาของสังคม

Queen of Tears คือซีรีส์เกาหลีที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ ผู้กำกับคือ จางยองอู ที่สร้างความประทับใจจากซีรีส์เรื่อง Bulgasal: Immortal Souls (ปี 2021) และ Entourage (ปี 2016) และ คิมฮีวอน จากซีรีส์เรื่อง Vincenzo (ปี 2021) และ Little Women (ปี 2022) 

รังสรรค์เรื่องด้วยฝีมือของนักเขียนบทอย่าง พัคจีอึน ที่สร้างชื่อให้กับซีรีส์ เช่น Crash Landing on You (ปี 2019), The Legend of the Blue Sea (ปี 2016), My Love from the Star (ปี 2013) ฝีมือการเขียนบทของพัคจีอึนที่นำเสนอเรื่องราวความรักในมุมมองที่แตกต่าง ควบคู่ไปกับประเด็นเชิงสังคมที่แทรกอยู่ภายในเรื่องก่อให้เกิดการครุ่นคิด ตั้งคำถาม เรียนรู้สภาพสังคมและวัฒนธรรมของเกาหลีได้อย่างน่าสนใจ

Crash Landing on You นำเสนอเรื่องรักของนักธุรกิจสาวชาวเกาหลีใต้กับนายทหารชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งก้าวข้ามเส้นพรมแดนและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน The Legend of the Blue Sea เล่าความรักระหว่างคนกับเงือกซึ่งแรงบันดาลใจมาจากนิทานปรัมปรา และ My Love from the Star นำเสนอเรื่องรักที่ข้ามเวลาและข้ามจักรวาลระหว่างหญิงสาวกับมนุษย์ต่างดาว

การสร้างเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ที่พระเอก-นางเอก แตกต่างกัน ไม่ว่าจะมาจากคนละโลก มีอุดมการณ์ต่างกัน ต่างสปีชีส์ แต่พวกเขารักกัน เป็นจุดเด่นที่ทำให้คนดูเอาใจช่วย เมื่อมาถึงผลงานล่าสุดอย่าง Queen of Tears (ปี 2024) เรื่องนี้บอกเล่าความสัมพันธ์หลังการแต่งงาน ความรักต่างชนชั้น สถานะทางสังคม เชื่อมร้อยให้เห็นสภาพสังคมและวัฒนธรรม รวมไปถึงการสะท้อนภาพวัฒนธรรมแบบเอเชียในเรื่องชีวิตครอบครัว

เราอยากจะพาทุกคนมาร่วมสำรวจและเดินทางต่อในความสัมพันธ์ หลังการแต่งงาน มีโลกแห่งความเป็นจริงอะไรที่รอคู่สามีภรรยาอยู่บ้าง เพราะความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นเรื่องที่เรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด ตั้งแต่แรกรัก จืดจาง ร้างรา อิทธิพลจากครอบครัว เรื่อยมาจนมาถึงการรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว

มาเรียนรู้ชีวิตคู่จากซีรีส์รักที่บอกเล่าการร้างรา และชุบชูหัวใจที่แตกสลาย เรื่องราวของ ราชินีแห่งน้ำตา อาจจะได้ทำให้เราหันกลับมาทบทวนการใช้ชีวิตและการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้ 

แรกรัก รอยยิ้ม และความสุขของวันวาน

การสร้างครอบครัวเริ่มต้นด้วยคน 2 คน เรารักกันได้อย่างไร คู่รักมักจะถูกถามด้วยคำถามเหล่านี้เสมอ ฮงแฮอิน (รับบทโดย คิมจีวอน) นักธุรกิจสาวสวย ทายาทของมหาอำนาจทางธุรกิจอย่าง ควีนส์กรุ๊ป ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ ก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งผู้นำธุรกิจ ฮงแฮอินเคยปลอมตัวเป็นเด็กฝึกงานและได้พบกับ แบคฮยอนอู (รับบทโดย คิมซูฮยอน) ทนายหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง แบคฮยอนอูตกหลุมรักฮงแฮอิน โดยที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือทายาทมหาเศรษฐี 

ฮงแฮอิน สาวสวยที่มั่นใจในตนเอง เข้มแข็ง ตรงไปตรงมา ทำงานเก่ง ไม่กลัวใคร ต่างจากแบคฮยอนอูที่อ่อนโยน ประนีประนอม เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนร่วมงาน ในคืนวันที่สายฝนโปรยปรายหน้าห้างควีนส์ แบคฮยอนอูบอกฮงแฮอินว่าเขาจบจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล เรียนกฎหมาย พ่อแม่อยู่หมู่บ้านทางใต้ พอมีฐานะ และหนุ่มชนบทอย่างเขาดูแลเธอได้โดยที่เธอไม่ต้องทำงาน แบบที่ผู้ชายเกาหลีจะดูแลผู้หญิงที่เขารักได้สักคน และเมื่อเขารู้ความจริงภายหลังว่าเธอคือทายาทเจ้าของห้างควีนส์ แบคฮยอนอูก็เลือกที่จะหายหน้าไป เธอจึงมาตามหาเขาที่บ้านเกิด เธอได้สัมผัสกับความงดงามของชีวิตชนบท และสัญญากับเขาว่าจะไม่ทำให้เขาเสียน้ำตา 

ความรักของทั้งคู่ที่เริ่มต้นอย่างสวยงามราวกับเทพนิยาย เมื่อเจ้าหญิงได้พบกับชายหนุ่มธรรมดาที่รักเธออย่างจริงใจ ไม่ใช่เพราะเธอเป็นทายาทตระกูลที่ร่ำรวย ความกล้า ความเด็ดเดี่ยวในการทำตามหัวใจตนเองของฮงแฮอินและแบคฮยอนอูทำให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ภาพความรักที่สวยงาม งานแต่งงานแห่งศตวรรษสุดยิ่งใหญ่ คู่รักตัวอย่างที่หลายคนจับตามอง แรกรักของคนทั้งคู่ก็อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ราวกับภาพฝัน 

ทว่าความรักที่เห็นอย่างหวานชื่นกลับไม่ใช่เวลา ณ ปัจจุบัน ภาพความรักเหล่านั้นคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว ซีรีส์บอกเล่าช่วงเวลาในอดีตด้วยภาพสีสันชวนฝัน ตัดสลับกับกับภาพปัจจุบันที่จืดจาง ห่างเหิน ชีวิตใน 1 วันของคู่แต่งงานซึ่งอยู่กันมา 3 ปีกลายเป็นความจำเจ ตื่นนอน กินข้าวเช้าด้วยกัน (แบบอยู่ห่างกันคนมุมโต๊ะ) ไปทำงานด้วยกัน ตอนเย็นกลับมาเจอกัน เป็นความธรรมดาและน่าเบื่อ อะไรที่ทำให้ความรักของคนทั้งคู่เริ่มหมดความหวาน เรื่องราวในซีรีส์เปิดเผยทีละเล็กทีละน้อย คลี่ภาพนั้นให้เราเห็น

รอยร้าว ความเย็นชา และการห่างเหิน

คู่รักที่ความสัมพันธ์เริ่มจืดจาง หลังจาก 3 ปีแรกของการแต่งงานปรากฏให้เราเห็นในซีรีส์ ตั้งแต่การแยกห้องนอน ความคิดเห็นขัดแย้งกัน การไม่พูดคุย ไม่สื่อสารกัน ไม่มี Magic Moment ในวันพิเศษ วันสำคัญ โดยเฉพาะมุมมองจากแบคฮยอนอู ฝ่ายชายที่ดูเหมือนจะด้อยกว่าฝ่ายหญิง แต่สิ่งที่มีเหนือกว่าคือความน่ารัก อ่อนโยน เห็นอกเห็นใจ ใส่ใจความรู้สึกของผู้คนมากกว่า 

ในที่ทำงาน ฮงแฮอินคือประธานบริษัท ผู้บริหารสูงสุดของเครือควีนส์กรุ๊ป เธอเก่งรอบด้าน เด็ดขาด มั่นใจ มีอำนาจ การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลมหาอำนาจทางธุรกิจการค้าของแบคฮยอนอู ความรักอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ เพราะเมื่อมองในฐานะปัจเจกบุคคล เขาต้องการเพียงการได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักอย่างสงบสุข ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบขัดแย้งกับใคร 

สิ่งที่เขาต้องการคือความเข้าใจ ทว่าภรรยากลับไม่ใส่ใจ เย็นชา ไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น และในวันที่ความกดดันถาโถม ความรู้สึกที่ท้วมท่น หม่นหมองจากความสัมพันธ์ที่ไม่มีความสุข เขาคิดจะหย่า แต่ในวัฒนธรรมเกาหลีอาจไม่ยอมรับเรื่องนี้กันได้มากนัก เมื่อข่าวนี้รู้ไปถึงที่บ้าน พ่อแม่ พี่สาว และคนในครอบครัวทัดทานและอยากให้เขาคิดใคร่ครวญให้ดีก่อน

วัฒนธรรมการหย่าร้างในสังคมเกาหลีมีข้อปฏิบัติด้านกฎหมาย ต้องมีการยื่นคำร้องต่อศาลพิจารณาเรื่องการหย่า คู่สามีภรรยาต้องมีช่วงเวลารอคอยและทบทวนเพื่อตัดสินใจ หากไม่มีลูก ช่วงเวลาพักเพื่อทบทวนเรื่องการหย่าอาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แต่ถ้ามีลูกอาจกินเวลานาน 2 – 3 เดือน ซึ่งเงื่อนไขการประวิงเวลาของกฎหมายการหย่าก็เพื่อให้คู่สามีภรรยาได้มีโอกาสทบทวนความสัมพันธ์มากขึ้น (Simon D. Lee, Esq, 2024, 2 January)

ถึงแม้แบคฮยอนอูจะเป็นทนายความ แต่เขาก็มองเห็นเค้าลางความยุ่งยากที่ตามมา การเดินจากฮงแฮอินไม่ง่าย เพราะการเกี่ยวพันกับตระกูลใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยจะเกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพย์สิน เงื่อนไข และข้อตกลงหลังการหย่าอีกมากมายที่จะตามมา

ในวันที่ตัดสินใจว่าจะขอหย่า เขากำลังจะบอกฮงแฮอิน แต่ทว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมายกว่านั้น ฮงแฮอินบอกเขาว่าเธอป่วยเป็นเนื้องอกชนิดพิเศษและอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือน ความรู้สึกตอนนั้นของแบคฮยอนอูที่หนักอึ้งเปลี่ยนไปในทันที เขาจึงตัดสินใจไม่บอกเธอ ยิ่งทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากขึ้นว่า แล้วความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะดำเนินไปอย่างไร

เมื่อมองกลับมาที่โลกความจริง สถานการณ์การหย่าร้างในเกาหลี 2 ปีที่แล้วมีแนวโน้มลดลง มีการปรับเปลี่ยนความคิดมากขึ้นว่าการหย่าร้างนั้นไม่ได้เป็นตราบาปของชีวิต หากไม่มีความสุขในชีวิตคู่ก็หย่าร้างได้ ข้อมูลที่น่าสนใจพบอีกว่าคนเกาหลีแต่งงานน้อยลง คู่แต่งงานใหม่มีจำนวนลดลง ส่งผลให้มีเด็กเกิดน้อยลง และเกาหลีเองก็ต้องรับมือกับสังคมผู้สูงวัยมากขึ้นด้วย (Crude divorce rate in South Korea from 2008 to 2022)

ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นทั้งภาพสะท้อนสถานการณ์ปัญหาเชิงสังคม ขณะเดียวกันก็อาจเป็นอีกหนึ่งพลังอันอ่อนโยนที่ทำให้ชาวโสมขาวใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์และการดูแลครอบครัวมากยิ่งขึ้นก็อาจเป็นได้

ความรักของเธอกับฉัน และครอบครัวของเรา

ความสัมพันธ์ของคู่รักที่อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่หรือครอบครัวขยาย (Extended Family) ที่มีคนหลายวัยอยู่ร่วมกัน เป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันในสังคมเอเชีย ทว่าความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหญิงมีอำนาจ สถานะทางสังคมมากกว่า มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในซีรีส์เกาหลีที่มีหลายเรื่องให้ตัวละครเอกของเรื่องเป็นผู้หญิงที่มีคุณลักษณะพิเศษบางอย่างเหนือกว่าผู้ชาย และเมื่อเชื่อมโยงกับสภาพสังคมวัฒนธรรมเกาหลีที่ผู้ชายมีอำนาจมากกว่าก็ยิ่งทำให้คนดูอยากติดตามมากขึ้น

แบคฮยอนอูแต่งงานเข้าไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง ครอบครัวใหญ่ของฮงแฮอินที่มีทั้งคุณปู่ คุณพ่อ คุณแม่ คุณอา น้องชาย ภรรยาน้องชาย บรรดาญาติ รวมไปถึงชายหนุ่มที่เคยชอบเธอ ผู้คนมากมายล้วนเข้ามาเกี่ยวข้องในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ มีทั้งวัฒนธรรมและกิจกรรมภายในครอบครัวที่ต้องทำร่วมกัน มีการประชุมครอบครัวในเวลา 3 ทุ่มของทุกวัน วันรำลึกก็ต้องมีการจัดงาน โดยบรรดาลูกเขย (ฝ่ายชาย) ต้องเป็นคนเตรียมอาหารและพิธีการมากมาย

ต้นเรื่องซีรีส์ฉายภาพให้เห็นระยะห่างในความสัมพันธ์ระหว่างฮงแฮอินและแบคฮยอนอูที่มีให้เห็นเพิ่มมากขึ้น ความไม่ลงรอยกันทางความคิด การไม่สื่อสารความรู้สึกของกันและกัน การมีลูกเพราะเป็นหน้าที่ รวมถึงการไม่ได้ตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิตด้วยตนเอง ตกลงแล้วพวกเขาเป็นเจ้าของความรักของตนเองได้หรือไม่ หรือความรักของพวกเขาขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในครอบครัวที่แวดล้อมและคอยบอกว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในความสัมพันธ์ของครอบครัวคนมีฐานะคือการมีแม่สื่อ คอยแนะนำและเชื่อมต่อให้บรรดาลูกหลานของครอบครัวผู้มีฐานะได้ทำความรู้จักกัน หรือการมีความรักกลายเป็นการสานสัมพันธ์เชิงธุรกิจ สร้างอำนาจให้กับครอบครัวของตนเอง แม่สื่อในเรื่องยังมองเรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องการใช้อำนาจมากกว่าความรัก สิ่งที่แม่สื่อพูดกับแบคฮยอนอูว่า เขาอาจไม่ได้มีความสำคัญกับครอบครัวนี้มากนัก ด้วยความน่ารักและใจดี เขาแค่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของตระกูลฮงให้ดูดีขึ้นเท่านั้นเอง

ขณะเดียวกันการต่อต้านความคิดของคนรุ่นพ่อแม่ก็มีให้เห็น การปฏิเสธแม่สื่อแล้วเลือกแต่งงานด้วยตนเอง หรือการไม่แต่งงานในสังคมเอเชียเริ่มมีมากขึ้น ฮงแฮอินจึงเป็นตัวแทนผู้หญิงรุ่นใหม่ที่คิดและตัดสินใจด้วยตนเอง มีฉากหนึ่งที่เธอปฏิเสธการรู้จักกับแม่สื่ออย่างตรงไปตรงมา

ขณะที่แบคฮยอนอูแทบจะไร้คนที่เป็นมิตรแท้ในครอบครัวของภรรยา เขาพูดความรู้สึกของตนเองออกไปไม่ได้จนต้องไปพึ่งพาจิตแพทย์ แบคฮยอนอูเข้าไปปรึกษาจิตแพทย์ว่าเขาไม่ค่อยมีความสุขจากการอยู่ร่วมกับครอบครัวของภรรยา ต้องเจอกันตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน ซึ่งจิตแพทย์บอกว่าการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวขยายที่มีคนหลายรุ่น-หลายวัยในยุคนี้พบไม่ค่อยมากนัก เขาโชคดีมาก แต่แบคฮยอนอูกลับบอกว่าเวลาที่มีทั้งหมด เขาไม่ค่อยได้อยู่กับตัวเองเลย ทุกเทศกาล เช่น ปีใหม่ คริสต์มาส วันหยุด วันรำลึกผู้ที่จากไป วันเกิด เขาล้วนใช้ไปกับครอบครัวภรรยาทั้งหมด 

คุณหมอถามต่อถึงชีวิตในที่ทำงาน แบคฮยอนอูบอกอย่างน่าสงสารว่าภรรยาของเขาเป็นเจ้านายในที่ทำงาน คุณพ่อของภรรยาเป็นเจ้านายภรรยา และคุณปู่ก็เป็นเจ้านายคุณพ่ออีกที รายล้อมรอบตัวแบคฮยอนอูคือครอบครัวของภรรยาทั้งหมด ภารกิจทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ประเพณี พิธีการ ของครอบครัวใหญ่ สร้างความอึดอัดให้เขามาก แต่สิ่งที่มากไปกว่านั้น คือเขารู้สึกว่าเขาเกลียดภรรยา เธอเย็นชา เห็นแก่ตัว สิ่งที่เขาต้องการคือการหย่าขาดจากเธอ

ขณะที่ฝั่งครอบครัวของแบคฮยอนอู คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว พี่ชาย รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้เขาหย่า โดยเฉพาะคุณแม่ของเขา ซึ่งสนับสนุนการแต่งงาน คอยให้กำลังใจ และพร้อมที่จะโอบอุ้มเขา หากมีปัญหาในการใช้ชีวิตคู่ ต่างจากคุณแม่ของฮงแฮอินที่อาจไม่ค่อยเห็นด้วยในการแต่งงานครั้งนี้ แถมยังเข้าไปบงการชีวิตของลูกสาวอีกด้วย

การเติบโตของทั้ง 2 ตัวละครที่มาจากพื้นเพของครอบครัวที่แตกต่างกัน ชนชั้น สถานะทางสังคม มุมมองการดูแลลูก การใช้ชีวิต ส่งผลถึงการใช้ชีวิตคู่ สิ่งที่แบคฮยอนอูพูดกับจิตแพทย์อาจยังไม่ใช่เหตุผลที่สุดของการหย่าร้าง แล้วเขาจะหย่าได้หรือไม่ หรือความสัมพันธ์จะเดินต่อไปอย่างไร เป็นสิ่งที่ Queen of Tears ยังต้องใช้เวลาเผยให้เห็นรายละเอียดเพิ่มขึ้น และมีอีกหลายตัวละครที่เข้ามาเติมเต็มความเข้มข้นของเรื่อง

เกมแห่งอำนาจ ต้นทุนทางสังคม
การงาน ธุรกิจครอบครัว และมรดกพันล้าน 

ความสัมพันธ์กับบทบาทหน้าที่การงาน การบริหารธุรกิจครอบครัว และมรดกพันล้าน องค์ประกอบที่เพียบพร้อมทั้งความสวย ความเก่ง และความร่ำรวยที่ทำให้ฮงแฮอินมีต้นทุนทางอำนาจมาก เธอเป็นทายาทอันดับ 1 ของตระกูลฮง ตระกูลใหญ่ที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก 

ความมีอำนาจของตระกูลฮงที่ทำได้ทุกอย่าง คุณปู่และคุณพ่อของฮงแฮอินคือบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลมาก พวกเขาไม่ยอมถูกหักหลัง และพยายามขยายอำนาจของตนเอง ลูกหลานที่เกิดจากสมาชิกในตระกูลต้องใช้นามสกุลฮง แม้ว่าแบคฮยอนอูจะพยายามต่อรองว่าหากมีลูกอยากให้ใช้นามสกุลของเขามากกว่าก็ทำไม่ได้

แบคฮยอนอูต้องพยายามทำให้ตนเองได้เปรียบ เมื่อหย่าร้างหรือมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น มูลค่าของทรัพย์สินที่ฮงแฮอินและครอบครัวมีจะจัดการอย่างไร แบคฮยอนอูจะเดินเกมความสัมพันธ์ และเดินหน้าให้ตนเองได้เปรียบทางทรัพย์สินหลังจากการเลิกราได้หรือไม่ เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจของการติดตามซีรีส์เรื่องนี้ เพราะการช่วงชิงอำนาจเกิดขึ้นได้ในทุกที่ โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ของคู่แต่งงานที่เกิดการหย่าร้าง การนำเสนอประเด็นตรงนี้จะช่วยให้คนดูเข้าใจและมีความรู้ในเรื่องกฎหมาย

การทรงอำนาจของตระกูลนี้ยังเล่าผ่านความหรูหราในการใช้ชีวิต ทั้งบ้านหลังใหญ่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เป็นที่สนใจของสังคม มีสื่อมาติดตามทำข่าว รวมถึงการมีที่ดินมหาศาล มีกิจกรรมแบบคนรวย เช่น การออกล่าสัตว์ในผืนป่าขนาดใหญ่ 

ฮงแฮอินต้องทำเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้ห้างควีนส์มีกำไรให้มากที่สุด พร้อมกับต่อสู้กับโรคร้ายของตนเองเพื่อให้มีชีวิตรอด ต่อสู้กับคนในครอบครัวด้วย เพื่อรักษาฐานอำนาจของตนเอง ขณะที่แบคฮยอนอู ถึงแม้จะเข้ามาในตระกูลด้วยความรักที่ให้ภรรยา ความน่ารัก จิตใจดี และต้นทุนที่มีความเก่ง ความเฉลียวฉลาดทางกฎหมาย ทำให้เขาก็ต้องต่อสู้เพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าเช่นกัน

Queen of Tears คืออีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่เข้มข้นและน่าติดตาม ทั้งเส้นเรื่องในเรื่องความรักของคู่พระนาง ต้นทุนทางสังคมของทั้งสองที่มีดีคนละมุม รายล้อมด้วยการสะท้อนภาพครอบครัว 2 ชนชั้น คนร่ำรวยในเมืองใหญ่ ทรงอำนาจ กับความจริงใจ ความเป็นมิตรของครอบครัวคนชนบท ประกอบกับการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิง ตัดสลับไปมาระหว่างช่วงรักกันหวานชื่นกับสถานการณ์ปัจจุบันของคู่รักอีกฝ่ายพยายามหาทางจะจบความสัมพันธ์ 

ความรักที่ดูเหมือนใกล้ร้างราจะกลับมามีความหมายได้อีกครั้งหรือไม่ นี่คือซีรีส์รักที่กำลังจะบอกว่าทุกความรักและทุกความสัมพันธ์ล้วนมีปัญหา ทว่าเราแต่ละคนคงมีวิธีการที่จะชุบชูมัน เห็นคุณค่าของกันและกัน อยู่ร่วมกัน หรือแยกย้ายกันไปตามเส้นทางที่งดงามของตนเองก็ได้เช่นกัน 

เชื่อแน่ว่าการดูซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้เราได้ทบทวนชีวิตครอบครัวและเสียน้ำไปกับความงดงามของการรักได้รักใครสักคนอย่างมีคุณค่า พร้อมที่จะเรียนรู้ เติบโต และใช้ชีวิตอย่างมีความหมายไปด้วยกัน

ข้อมูลอ้างอิง
  • Queen of Tears. (2024). Wikipedia, the free encyclopedia. Retrieved March 21, 2024 from en.wikipedia.org/wiki/Queen_of_Tears
  • Simon D. Lee, Esq. (2024, 2 January). Divorce in Korea (Up-to-date information on Korean Divorce in 2024). Retrieved March 21, 2024 from pureumlawoffice.com/blog-updates/divorce-in-korea
  • Statista.com (2024). Crude divorce rate in South Korea from 2008 to 2022. Retrieved March 21, 2024 from www.statista.com/statistics/642501/south-korea-divorce-rate

Writer

ศุภมณฑา สุภานันท์

ศุภมณฑา สุภานันท์

สนใจเรียนรู้เรื่องราวรอบตัว ชีวิต ผู้คน สังคม รักการอ่าน งานศิลปะ ภาพยนตร์ และการเดินทาง ชอบฤดูหนาว หลงใหลการฟังเสียงของธรรมชาติ