ร้าน PRU ได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาวครั้งแรกเมื่อปี 2019 และได้รับรางวัลมิชลินกรีน สตาร์ ที่มอบให้ร้านอาหารที่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนครั้งแรกเมื่อปี 2021

หลังจากนั้นในปี 2024 ร้าน Jampa ก็ได้รับรางวัลดาวสีเขียวของมิชลินเช่นกัน

ทั้ง 2 ร้านถือเป็นร้านอาหารของ ‘ตรีสรา รีสอร์ต ภูเก็ต’ (Trisara Resort Phuket)

แค่ 2 ร้านนี้ก็ทำให้ตรีสรากลายเป็นจุดหมายใหม่ของนักชิมที่เดินทางมาจากทั่วโลก และในรีสอร์ตยังมีห้องอาหาร Cielo เสิร์ฟอาหารแบบเมดิเตอเรเนียน โดยเชฟรุ่นใหม่ที่สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้ PRU และ Jampa 

ร้าน SaT หรือ Seafood at Trisara เสิร์ฟอาหารทะเลสด ๆ ที่ปรุงเป็นอาหารภูเก็ตท้องถิ่น เน้นรสมือแม่และจัดจ้านไม่เกรงใจชาวต่างชาติ หรือ DALA บาร์ที่ซิกเนเจอร์ดริงก์ดีไม่แพ้กัน 

ยังไม่รวมถึงกิจกรรมในวันหยุด ณ สวนริมบึงที่จองกันเต็มอย่างรวดเร็ว อย่าง Sunday Brunch ของ Cielo, HIDEAWAY by Jampa ร้านเฉพาะกิจที่ทำอาหารจากการย่างไฟจากฟืน และ Local Roots by Jampa ตลาดขายอาหารและวัตถุดิบจากชุมชน

PRU

ร้านมิชลิน 1 ดาวร้านแรกในภูเก็ต

‘PRU’ ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินหนึ่งเดียวในจังหวัดภูเก็ต โดย เชฟจิม โอฟอสต์ (Jim Ophorst) เสิร์ฟอาหารแบบไฟน์ไดนิงจากวัตถุดิบท้องถิ่นทั้งในภูเก็ตและทั่วประเทศไทย ด้วยคอนเซปต์ Communities to Fork เช่น ปลาจากประมงพื้นบ้าน ทุเรียน ช็อกโกแลต และใช้ความคิดสร้างสรรค์กับวัตถุดิบที่คนไม่ค่อยรู้จักอย่างว่านสาวหลง ตะคร้อ หรือจำปูลิง มาสร้างเป็นอาหารจานใหม่ ซึ่งเป็นการผจญภัยทางรสชาติที่น่าสนใจมาก

นอกจากดาวมิชลินดวงแรกของภูเก็ต PRU ยังเป็นร้านแรกในประเทศไทยที่ได้รางวัล Michelin Green Star รางวัลสำหรับร้านที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน ด้วยงานออกแบบร้านให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในครัวที่ลดการใช้พลังงานจากไฟฟ้า ใช้ระบบโซลาร์เซลล์ทดแทน ใช้ไฟในการย่าง และออกแบบอาหารโดยคำนึงถึงเรื่องของเหลือจากในครัว

PRU เลยกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักชิมจากทั่วโลกให้มาที่ภูเก็ตเพื่อมาชิมอาหารโดยเฉพาะ

Jampa

จานผักย่างไฟจากสวนพรุจำปา

‘Jampa’ เพิ่งได้รับรางวัล Michelin Green Star รางวัลสำหรับร้านที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน ฝีมือของ เชฟริค ดินเจน (Rick Dingen) เชฟชาวดัตช์ที่ทำอาหารของ Jampa ออกมาได้โดดเด่นเรื่องผักและการย่างไฟ ไปจนถึงการเปลี่ยนเมนูอาหารไปตามธรรมชาติ

Jampa ใช้ผักและวัตถุดิบบางส่วนจากสวนพรุจำปา ฟาร์มที่อยู่ในโครงการตรีวนันดา Wellness Community แห่งใหม่ในเครือเดียวกันกับตรีสรา เป็นฟาร์มปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เพื่อเอาไข่ส่งต่อให้กับร้าน PRU และ Jampa เป็นหลัก รวมถึงร้านต่าง ๆ ในโรงแรมด้วย

อาหารของ Jampa มีทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ เสิร์ฟอาหารที่เน้นรสจากธรรมชาติ มีความสร้างสรรค์ในอาหาร และมีจานผักอร่อยมาก โดยเฉพาะผักย่างกับซอสอร่อยฝีมือเชฟริค

HIDEAWAY by Jampa

พักผ่อนวันหยุด อาหารย่างไฟริมบึงใหญ่

‘HIDEAWAY by Jampa’ ร้านอาหารที่เปิดเฉพาะวันเสาร์ กำลังได้รับความสนใจมากจากนักชิม และถูกจองเต็มอย่างรวดเร็ว จุดเด่นของที่นี่น่าจะเป็นการได้กินอาหารกลางวันวัตถุดิบดี ๆ และได้นั่งกินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในวันพักผ่อน

HIDEAWAY by Jampa อยู่ในพื้นที่ใกล้ ๆ กันกับ Jampa เต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นและบึงน้ำแสนสงบ

อาหารเป็นฝีมือของเชฟริคแห่งร้าน Jampa แต่ละเมนูใช้การย่างไฟจากฟืน เลยได้กลิ่นควันอย่างพอดิบพอดีเป็นเอกลักษณ์ในทุกจาน และมีเมนูให้เลือกได้ตามใจชอบ นอกจากนั้น ความแตกต่างจาก Jampa คือเราจะได้เห็นการทำอาหารจากครัวเปิด ได้กลิ่นหอมจากเตาฟืน กลิ่นย่างหอม ๆ เสียงนก สัมผัสลม แดด และกินอาหารอร่อยแบบครบทุกสัมผัสพร้อม ๆ กัน

และถ้าไปในช่วงที่มีตลาด Local Roots by Jampa ด้วย ก็จะได้เดินช้อปผลผลิตจากเกษตรกร อาหาร และขนมจากคนในพื้นที่ กิจกรรมตลาดจะจัดขึ้นทุก ๆ 3 เดือน ลองเช็กจาก Facebook : Jampa ได้ครับ

 SaT (Seafood at Trisara)

อาหารท้องถิ่นจากภูเขาและทะเลแบบรสมือแม่ 

ร้านที่ชื่ออาจชวนเข้าใจว่าเป็นร้านขายอาหารทะเลปกติ แต่ที่จริงแล้วอาหารจาก ‘SaT (Seafood at Trisara)’ มีทั้งอาหารจากท้องทะเล ใช้ปลา กุ้ง หมึกจากชาวประมง และอาหารจากภูเขาที่ใช้สมุนไพร พืชผัก และเนื้อสัตว์ ให้เราเลือกได้ ทำเป็นอาหารพื้นบ้านทั้งภูเก็ตและภาคใต้ เช่น แกงตูมี้ หมึกผัดน้ำดำ หอยกอและ แกงคั่วเนื้อหัวทือ ผัดมันแกว อาหารท้องถิ่นแบบภูเก็ต หรือลิ้นวัวโลบะย่างที่อร่อยมาก เสิร์ฟเป็นลำดับแบบ Tasting Menu 

รสชาติอาหารของร้านอาหารไทยแห่งเดียวในรีสอร์ตนี้ถือว่าไม่เผ็ดร้อนรุนแรง แต่รสชาติจัดจ้านแบบถึงเครื่อง ครบรส ตามแบบอาหารครอบครัวคนใต้

DALA Bistro & Bar

Sunset Bar of Trisara

‘DALA Bistro & Bar’บาร์ค็อกเทลที่มีคราฟต์ซิกเนเจอร์ค็อกเทลและคลาสสิกค็อกเทลให้เลือกไว้นั่งจิบชมพระอาทิตย์ตกที่ริมชายหาด กับของกินเล่นและอาหารทาปาสคำเล็ก ๆ ไว้ระหว่างรอดินเนอร์

Cielo

อาหารเมดิเตอเรเนียนและรสจากทะเลอันดามัน

‘Cielo’ เป็นร้านที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้เรา เหตุผลหลักคือฝีมือและความสร้างสรรค์ของ เชฟนอตตี้ เชฟรุ่นใหม่ที่ทดลองทำอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นได้ออกมาอร่อยและน่าสนใจมาก เชฟทำแฮมจากปลาทูน่าในทะเลระนอง เอาเนื้อแดงของทูน่ามาบ่มกับสาหร่ายและเกลือจนได้แฮมที่รสนุ่มนวล สัมผัสดีมาก ๆ เชฟยังทำแฮมจากโคขุนจากจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ผลเป็นรสเนื้อที่เข้มข้น น้ำมันที่บ่มด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรต่าง ๆ ก็ช่วยทำให้รสอาหารแบบเมดิเตอเรเนียนของ Cielo มีความเป็นท้องถิ่นผสมอยู่ด้วย รสของอาหารก็มีมิติมาก 

เราแนะนำ Focaccia ที่ใช้แป้งซาวร์โด เสิร์ฟกับน้ำมันมะกอกและน้ำมันโหระพา เข้ากับแฮมทูน่าบ่มมาก ๆ Ceviche ปลาช่อนทะเลกับเสาวรสก็สดชื่น รู้สึกได้ถึงยำแบบผลไม้เขตร้อน จานหอยผัดไวน์ขาวกับสมุนไพรและจานปลาก็ทำได้ดีเช่นกัน

Cielo ยังมี Sunday Brunch ในทุก ๆ วันอาทิตย์ มีอาหารจานทานเล่น จานหลัก เครื่องดื่มค็อกเทล ของหวาน และไอศกรีม ที่เราว่ามีตัวเลือกหลากหลายมากให้เลือกชิม

ร้านทั้งหมดที่เล่ามาทำให้ปีนี้ ตรีสรา รีสอร์ต ภูเก็ต กลายเป็นจุดหมายใหม่ของนักชิมที่น่าจับตามาก ๆ 

ไม่ต้องเป็นแขกที่เข้าพักกับรีสอร์ตก็จองเข้ามาชิมได้ทุกร้าน แต่เราแนะนำว่าหากมีโอกาสและต้องการรับประสบการณ์ให้ครบถ้วน ให้ไปพักในวันสุดสัปดาห์ ที่จะไม่ใช่แค่ได้กินอาหารอร่อย แต่จะได้ใช้วันหยุดพักผ่อนในพูลวิลล่าส่วนตัว หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทางรีสอร์ตมีไว้บริการด้วย