คริสต์มาสกำลังมา ซ้อมเที่ยวสักหน่อยกับกิจกรรมที่ 1 ปีมีแค่ครั้งเดียว อย่างงาน ‘Night at the Museum Festival 2023 เทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน’ จัดโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) และเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ไทย Museum Thailand ตั้งแต่วันที่ 15 – 24 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ใครที่เฝ้าฝันถึงฉากในหนังคอมเมดี-ผจญภัยอย่าง Night at the Museum นำแสดงโดย เบน สติลเลอร์ ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะได้ลองสวมบทเป็นยามกะดึก สัมผัสบรรยากาศพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนด้วยตัวเอง ในพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ 48 แห่ง (ในกรุงเทพฯ 25 แห่ง ในปริมณฑลและต่างจังหวัดอีก 23 แห่ง) รับรองว่าจุใจ มีหลายสไตล์ให้เลือก ทั้งด้านประวัติศาสตร์ สังคม วิถีชีวิต ความเป็นไทย ทรัพยากร ธรรมชาติวิทยา ไปจนถึงวิทยาศาสตร์และการบิน!

หากทุกท่านกำลังคิดว่าแค่เปลี่ยนเวลาเข้าชมจากกลางวันเป็นกลางคืน The Cloud บอกเลยว่า Night at the Museum Festival 2023 มีอะไรพิเศษกว่านั้น เพราะเรารวบรวมลิสต์ 25 ‘ไฮไลต์’ ห้ามพลาด ทั้ง ‘ไอเทม’ ชิ้นสำคัญจากใต้ดิน ในวัง จนถึงอวกาศ และ ‘กิจกรรม’ เหนือความคาดหมาย ลองเป็นช้าง ท้าท้ายงู 53 ตู้ แนะนำโดยภัณฑารักษ์ตัวจริงที่รอต้อนรับทุกคนอยู่ตั้งแต่หน้าประตูพิพิธภัณฑ์ 25 แห่ง

#01

มิวเซียมสยาม

กิจกรรม Tales from the Trunk

แม้จะไม่ใช่สิ่งของ แต่รับรองว่าค่ำคืนสุดพิเศษย่อมมาพร้อมกิจกรรมและเรื่องราวแสนพิเศษที่หาฟังกันไม่ได้ง่าย ๆ โดย ‘An Elephantastic Night at the Museum : Tales from the Trunk’ มีเรื่องเล่าจาก ‘ปลายงวง’ มาชวนทุกคนนั่งฟัง

เรื่องเล่ารอบพิเศษพาย้อนเวลาไปรู้จัก ‘ช้าง’ ในหลากหลายมิติ ตั้งแต่สมัยที่ราชสำนักสยามส่งออกช้างศึกสุดพรีเมียม วิธีฝึกช้างสมัยพระเพทราชาที่ออเจ้าห้ามพลาด! จนถึงตำนานสุดคลาสสิกบนทางช้างเผือกที่รอคอยให้หนุ่มสาวมาพบกันอีกครั้ง 

และอย่างที่ทราบดีว่ามิวเซียมสยามเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งแรกที่เน้นสร้างประสบการณ์สดใหม่ในการชม พวกเขาจึงมีกิจกรรมให้ทุกคนลองมาเป็นช้าง! ด้วยการชิมอาหารช้างดูสักครั้ง แถมยังได้ ‘ส่องช้าง’ พร้อมฟังที่มาที่ไปของชื่อช้างแต่ละเชือก ปิดท้ายด้วยภารกิจ ‘ช้างกูอยู่ไหน’ ใครก็ได้ช่วยคิวเรเตอร์ตามหาช้างที

งานนี้เจอกันที่หน้าเพนียด แล้วมาลอดท้องช้างด้วยกันที่มิวเซียมสยาม เฉพาะวันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ในงาน Night at the Museum Festival 2023 เท่านั้น

#02

พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์

Lord Ganesha Coin

งานหมด อดชม! เพราะพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ ได้รวบรวม ‘เหรียญและเงินตรา’ ที่มีสัญลักษณ์ช้าง มาจัดแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรก ในนิทรรศการพิเศษ ‘แกะรอยช้าง กลางหน้าเหรียญ’

ไอเทมห้ามพลาดคือ ‘เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเงินกะไหล่ทองรูปพระพิฆเนศวร’ ซึ่งไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน โดยเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกนี้อยู่ในชุดเหรียญศิลปะแห่งจิตวิญญาณ จัดทำเพียงแค่ 501 เหรียญทั่วโลกเท่านั้น

เดินชมเหรียญแล้ว ยังมีกิจกรรม ‘ผจญภัย…ไปตามทางช้างผ่าน’ พาทุกคนไปเรียนรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างช้างกับคนในหลากหลายมิติผ่านเหรียญและเงินตราที่ปรากฏภาพช้างหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมลุ้นรับของรางวัลภายในงานจำนวนมาก

เข้าชมฟรี วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 08.30 – 21.30 น. และวันที่ 16 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10.00 – 21.30 น.

#03

พิพิธบางลำพู

กิจกรรม วาดภาพชมเมือง เล่าเรื่องมนต์รัก

พิพิธบางลำพูชวนทุกคนมาสัมผัสบรรยากาศงานวัดในวันวานกลางกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 แต่สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ ‘วาดราตรีนี้…ที่พิพิธบางลำพู’ จัดเพียงวันที่ 16 เท่านั้น

วาดราตรีนี้…ที่พิพิธบางลำพู เป็นกิจกรรมจาก Bangkok Sketchers ที่ชวนทุกคนสเกตช์ภาพกันสด ๆ บนดาดฟ้ามุมสูงของอาคารพิพิธภัณฑ์ มองเห็นป้อมพระสุเมรุอย่างใกล้ชิด รวมถึงวิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน ซึ่งมุมสวย ๆ แบบนี้เปิดให้เข้าชมเพียงปีละครั้งเท่านั้น

ระหว่างทุกท่านดื่มด่ำกับบรรยากาศดี ๆ ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีวงดนตรีและแสงไฟสวย ๆ ให้ชม ในธีม ‘มนต์รัก…บางลำพู’ พร้อมให้ทุกคนร่วมกิจกรรมศิลปะ เช่น Workshop ระบายสีตกแต่งโคมกระดาษ Workshop ระบายสีตุ๊กตา

ที่นี่เปิดเข้าชมฟรีตลอดงาน โดยนำชมเป็นรอบตั้งแต่เวลา 17.00 – 21.30 น. ใครอยู่ใกล้รีบมา อยู่ไกลมาแล้วก็คุ้มแน่นอน

#04

หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา

กิจกรรม โปสต์การ์ดฮีลใจ

 นอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 4 รายล้อมด้วยกระบอกโคมไฟหลากสีสัน ณ บริเวณหน้าอาคารอนุรักษ์ และนิทรรศการทัศนศิลป์ภาพพิมพ์ จากศิลปินแห่งชาติ

ปีนี้ หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ยังรอให้ทุกคนได้มาระบายความรู้สึกและเรื่องราวในชีวิตผ่านกิจกรรมไฮไลต์ในชื่อ ‘โปสต์การ์ดฮีลใจ’ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่อยากชวนทุกคนมาระบายความรู้สึกผ่านการเขียน วาด ระบายสี ลงบนโปสต์การ์ด เมื่อเขียนเสร็จแล้วนำกลับบ้านก็ดี หรือนำไปแขวนไว้บนราวเพื่อส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ให้คนได้เข้ามาอ่านก็ได้

หากวันที่ 15 – 17 ธันวาคมนี้ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ขอเชิญมาปลดปล่อยกันที่หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยาได้เลย

#05

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

1 ใน 9 ลูกโลกของราชนาวีอังกฤษ

ใครสนใจประวัติศาสตร์ ติดตามงานประณีตศิลป์ บอกเลยว่าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กำลังจัดแสดงของชิ้นสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ระดับโลกอยู่!

หนึ่งในไอเทมลับระดับโลกคือ ‘ลูกโลกที่มาพร้อมแผนที่โลกและดวงดาว’ ของสำคัญที่ราชนาวีอังกฤษมักใช้ในการเดินเรือ โดยเป็นเรือที่ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ส่งไปตามประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างสัมพันธไมตรี เช่นเดียวกับที่มาถึงสยามในสมัยรัชกาลที่ 4 

ปัจจุบันลูกโลกนี้เหลือเพียง 9 ชิ้น โดยหนึ่งในนั้นอยู่ที่ประเทศไทย

ชมของดีไปแล้ว ภายในงานยังมีจัดกิจกรรมธีม ‘สยามใหม่ ไทยวิวัฒน์’ ที่จะนำโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงรัชกาลที่ 7 ออกมาให้ชมกันอีกด้วย

กิจกรรมแบ่งเป็น 2 รอบ เวลา 17.00 น. และ 18.00 น. มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เฉพาะวันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เท่านั้น

#06

หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร

นิทรรศการศิลปะแห่งรอยเคลื่อน

หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากรจัดเต็มด้วยนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย ‘Fragmentation / ฟแรกเม็นเทฌัน’ ชวนมอง ‘รอยเคลื่อน’ ร่องรอยปริแตกทางความคิด ทั้งที่ปรากฏตรงหน้าและซ่อนเร้นอยู่หลังอะไรบางอย่าง เป็นงานนิทรรศการกลุ่มของศิลปิน 5 คน คือ วัชรนนท์ สินวราวัฒน์, ลิค ศรีประเสริฐ, ดุษฎี ฮันตระกูล, อติ กองสุข และ พีรนันท์ จันทมาศ โดยหนึ่งในไฮไลต์ห้ามพลาด คืองานจิตรกรรมสีน้ำมัน ‘Dusk – โพล้เพล้’ ของ วัชรนนท์ สินวราวัฒน์

นอกจากนี้ กิจกรรมพิเศษสำหรับงาน ‘Night at the Museum งานมาร์ก๊ง มาร์เก็ต’ ยังมีร้านค้างานศิลปะ งานออกแบบ งานฝีมือ เสื้อผ้าให้ช้อป พร้อมเวิร์กช็อปศิลปะ มัดรวมไปกับภาพยนตร์กลางแจ้ง 3 เรื่อง ดูให้ตาแฉะ หิวแล้วค่อยไปเดินหาของกินและเครื่องดื่มมาปรนเปรอให้อิ่มท้อง 

บอกก่อนว่างาน มาร์ก๊ง มาร์เก็ต มีเฉพาะวันที่ 15 – 17 ธันวาคม เวลา 16.00 – 20.00 น. เท่านั้น

#07

พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

เชือกคล้องพระเศวต

พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเต็มไปด้วยเรื่องราวของ ในหลวงรัชกาลที่ 7 และไอเทมลับอายุนับร้อยปี 

หนึ่งในนั้นคือ ‘เชือกคล้องพระเศวตคชเดชน์ดิลก’ ที่มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อ พ.ศ. 2468 เป็นเชือกเอาไว้คล้องช้างเผือกคู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทย ทำขึ้นจากไหม ถักเป็นเกลียวหุ้มแพร

นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ส่วนพระองค์จัดแสดงภายในงาน พร้อมกิจกรรม ‘ชม ชอ ช้าง’ ที่จะพาทุกคนร่วมสนุกไปกับการตามหาวัตถุและเรื่องราวในอดีตของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เฉพาะวันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เท่านั้น

#08

นิทรรศน์รัตนโกสินทร์

กิจกรรม คีตรัตติกาล

อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์เป็นหนึ่งในศูนย์การเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีของชาติไทย อีกทั้งเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถด้านศิลปะการแสดง ทั้งนาฏศิลป์และดุริยางคศิลป์ ครอบคลุมศิลปะไทยและสากล ภายใต้ชื่อ ‘เวทีการแสดงเพื่อเด็กและเยาวชน’

ใครอยากผ่อนคลายท่ามกลางเสียงดนตรี อย่าลืมแวะมาฟังวงสานฝันดนตรีเพื่อเยาวชน โดย สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แสดงดนตรี Light Orchestra, Winds Ensemble, String Ensemble บรรเลงเพลงในธีม ‘คีตรัตติกาล’ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 19.00 น. ณ เวทีการแสดงเพื่อเด็กและเยาวชน ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ธันวาคม ภายในงานมีการออกร้านอาหารทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่ม อาทิ ผัดไทยโบราณ หมูแดดเดียวทอด ข้าวเหนียวมะม่วง ชาเย็น ชามะนาว มีให้เลือกซื้อกันแบบจัดเต็ม รับรองความอร่อยถูกใจแน่นอน

นอกจากนี้ ในวันที่ 17 ธันวาคม จะมีการแสดงจาก Diva ระดับตำนาน รัดเกล้า อามระดิษ และการแสดงดนตรี Light Orchestra, Winds Ensemble, String Ensemble โดยวงสานฝันดนตรีเพื่อเยาวชน โดย สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ทุกการแสดงชมฟรี

#09

ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย

กิจกรรม ส่องช้างใต้เจ้าพระยา ส่องเงินตรายามราตรี

ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ ศูนย์การเรียนรู้แบงก์ชาติ มีช้างเต็มเลยนะ น้องรู้หรือเปล่า

ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทยชวนทุกท่านมาส่องช้างใต้เจ้าพระยา เพราะลึกลงไปใต้ดินคือ ‘ห้องมั่นคง’ สถานที่เก็บรักษาธนบัตรสำรองของประเทศ มีประตูนิรภัยทำจากเหล็กกล้าและกำแพงกันไฟโดยรอบหนากว่า 1 เมตร การนำชมพิเศษครั้งนี้เกี่ยวกับ ‘ช้างที่ปรากฏบนเงินตราของไทย’ โดยเฉพาะ ตั้งแต่ช้างบนพดด้วงสมัยสุโขทัย-อยุธยา จนถึงธนบัตรในปัจจุบัน

ไอเทมห้ามพลาดคือ ‘เหรียญทองคำพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 – ไอราพต’ เหรียญทองคำที่ระลึกเพียงชุดเดียวในประเทศไทย ดูได้แค่ที่นี่เท่านั้น!

นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ยังขยายรอบเวลาเข้าชมอีก 3 รอบ คือ 17.00, 18.00 และ 19.00 น. โดยผู้เข้าชมที่แต่งชุดธีม ‘ช ช้าง น่ารัก’ ทุกรอบในวันที่ 15 – 17 ธันวาคม จะมีโอกาสลุ้นรางวัลขวัญใจกรรมการเป็นแฟลชไดรฟ์ทองคำแท่ง และตุ๊กตาช้างปั้นโดยผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย

#10

หอวชิราวุธานุสรณ์

เมืองจำลอง 100 ปี ดุสิตธานี

หอวชิราวุธานุสรณ์ รวบรวมเรื่องราวในสมัยรัชกาลที่ 6 เอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งนิทรรศการสาระแห่งช้างสารในรัชกาลที่ 6 และนิทรรศการถาวรเหตุการณ์สำคัญพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวผ่านการจัดแสดงพระบรมรูปหุ่น แต่ความพิเศษเพิ่มเติมสำหรับ Night at The Museum คือการเรียนรู้นอกห้องเรียนฉบับนักศึกษาภาคค่ำ

ไฮไลต์สำคัญ คือ ‘เมืองจำลองดุสิตธานี’ อาคารที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองดุสิตธานี ซึ่งในปัจจุบันได้รับการบูรณะจนกลับมาสวยงามดังเดิม พร้อมแสดงภาพหาชมยาก อย่างภาพถ่ายดุสิตธานีในช่วงเวลานั้นด้วยทั้งหมดชมฟรี แต่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทาง QR Code เพราะรับผู้เข้าชมจำนวนจำกัด โดยแบ่งการเข้าชมเป็น 2 รอบ เวลา 16.30 น. และ 18.30 น. เฉพาะวันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566

#11

วังรื่นฤดี

ตุ๊กตางาช้าง ของเล่นส่วนพระองค์

ต้องเป็นโอกาสพิเศษสุด ๆ เท่านั้นที่วังรื่นฤดีจะเปิดให้เข้าชมพระตำหนักอายุ 50 ปี ที่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เคยประทับ 

สำหรับงาน Night at the Museum วังรื่นฤดีจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ที่ทำจากงาช้าง ทั้งพัด ตลับงานช้าง ตะเกียบ และมรดกตกทอดตั้งแต่รัชกาลที่ 5 โดยมีไอเทมสำคัญ คือ ‘ตุ๊กตางาช้าง’ ของเล่นส่วนพระองค์ที่ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โปรดพระราชทานแด่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ จัดแสดงที่ท้องพระโรงชั้น 1ใครสนใจอย่าลืมลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทาง QR Code เพราะที่นี่จำกัดการเข้าชมเพียง 100 คนต่อวัน เมื่อลงทะเบียนแล้ว ให้รอการตอบรับยืนยันจากเจ้าหน้าที่ โดยบริจาคสมทบทุนการกุศล จำนวน 100 บาท ต่อคน ต่อรอบการเข้าชม เฉพาะวันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 14.00 – 20.00 น. และโปรดแต่งกายสุภาพ

#12

พิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ชมแสงเรืองรองของแร่ฟลูออเรสเซนต์กว่า 20 ก้อน

แม้จะเดินชมพิพิธภัณฑ์หลังพระอาทิตย์ตก ก็รับรองว่าพิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่มืดแน่นอน เพราะภายในห้องนิทรรศการหมุนเวียน คุณจะได้เห็นไฮไลต์ของงานคือ ‘แร่ฟลูออเรสเซนต์’ (Fluorescence) กว่า 20 ก้อนที่เรืองแสงอยู่ในงานนิทรรศการหินและแร่ ‘ขุมทรัพย์ธรรมชาติ’ (Nature’s Treasures) ซึ่งจัดพิเศษเฉพาะช่วง Night at The Museum เท่านั้น

โดยในงานมีแร่บางชนิดที่เมื่อมองในความมืด ภายใต้แสง ‘อัลตราไวโอเลต’ (แสง UV) จะเห็นว่าเรืองแสงได้ ผู้ชมจึงได้เดินชมสีสันอันสวยงามท่ามกลางความมืดผ่านไฟแบล็กไลต์ พร้อมถ่ายภาพกับผลงานศิลปะของศิลปิน Aninta

ส่วนใครที่สนใจเนื้อหาด้านธรณีวิทยา ขอบอกว่าคุณมาถูกที่แล้ว เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทำให้วิทยาศาสตร์และศิลปะผสานรวมกันอย่างลงตัว ทั้งยังถ่ายทอดออกมาให้บุคคลทั่วไปเข้าใจได้แน่นอน

#13

พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เปิดเคสพะยูนดงตาล พะยูนน้อยที่ขี่หลังเต่าก่อนตาย

รู้หรือไม่ว่าพะยูนในประเทศไทยมีไม่ถึง 300 ตัวแล้ว มีคนใจร้ายไล่ล่า นำส่วนต่าง ๆ ของพะยูนมาเป็นเครื่องราง มีการทำลายแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะถูกทำร้ายจากการท่องเที่ยวทางเรือและขยะในทะเล ทำให้พะยูนที่มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมและรักษาสมดุลของระบบนิเวศหญ้าทะเล โดยเฉพาะการกระจายเมล็ดของหญ้าทะเล สุ่มเสี่ยงจะตายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

งานนี้พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชวนดู ‘นิทรรศการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พะยูน’ ซึ่งจะเปิดเผยและบอกเล่าการสูญเสียลูกพะยูนตัวน้อยแห่งอ่าวดงตาล จ.ชลบุรี ที่เคยปรากฏเป็นข่าวดังว่าอาศัยอยู่ในทะเลตัวเดียวเพราะแม่ตาย ก่อนจะไปอาศัยอยู่กับเต่าและถูกพบเป็นซากในเวลาต่อมา ทั้งการวินิจฉัยสาเหตุการตายที่เต็มไปด้วยการช้ำรุนแรงภายใน ความสัมพันธ์ต่างสายพันธุ์ระหว่างพะยูนดงตาลกับลุงเต่าทะเล จนถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่จะทำให้คุณตัดสินใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการตระหนักรู้และอนุรักษ์พะยูนมากขึ้น

#14

พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาพฟิล์มกระจกพิธีคล้องช้างสมัยโบราณที่ติดมากับกล้องสามมิติ

เชื่อว่าน้อยคนนักจะเคยเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่หากได้เข้าไปแล้วรับรองจะติดใจ เพราะมีแต่ไอเทมทางการถ่ายภาพชิ้นสำคัญและภาพถ่ายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงกล้องถ่ายภาพและภาพถ่ายเป็นการเฉพาะแห่งแรกของประเทศไทยและเอเชีย

ไฮไลต์สำคัญสำหรับงาน Night at The Museum คือภาพ ‘พิธีคล้องช้างสมัยโบราณ’ ที่ติดมากับกล้องสามมิติ ถือเป็นภาพถ่ายฟิล์มกระจกสามมิติหาดูยาก นอกจากนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีกล้องถ่ายภาพสามมิติของรัชกาลที่ 7 และกล่องดูภาพสามมิติฟิล์มกระจกจากต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งมีให้ชมที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

ส่วนงานอื่น ๆ ยังมีการจัดแสดงภาพถ่ายช้างป่า และเสวนาการถ่ายภาพธรรมชาติและภาพสัตว์ป่าให้เข้าร่วมด้วยตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566

#15

พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ส่องฟอสซิลช้างไทยผ่านทัวร์กับนักธรณีวิทยา

พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชวนทุกคนร่วมกิจกรรม ‘ทัวร์กับนักธรณีวิทยา’ ลองส่องฟอสซิลช้างไทย ทั้งรูปหล่อฟอสซิลเสมือนจริงของหนึ่งในช้างดึกดำบรรพ์ตัวแรกของโลก อายุกว่า 56 ล้านปีจากทวีปแอฟริกา ฟอสซิลจริงของช้างดึกดำบรรพ์อายุ 8 – 6 ล้านปีหลากหลายสายพันธุ์ที่พบในไทย จนถึงฟอสซิลขากรรไกรล่างที่สมบูรณ์ของช้างแมมมอทยุคน้ำแข็งจากไซบีเรีย เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของช้างในอดีตที่ไม่เหมือนปัจจุบัน

เท่านั้นยังไม่พอ ทุกท่านจะได้สัมผัสหินหนังช้างด้วยมือและดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ เพื่อค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ โดยผู้ที่สนใจกิจกรรมทัวร์กับนักธรณีวิทยา ต้องติดต่อรับบัตรคิวที่โต๊ะลงทะเบียนหน้าภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อน

ทัวร์พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยากับนักธรณีวิทยา จัดตั้งแต่วันที่ 15 – 17 วันละ 1 รอบ เวลา 18.30 – 19.00 น. (ไม่เกิน 10 คนต่อรอบ) และทัวร์เสมือนกับนักธรณีวิทยา จัดเฉพาะวันที่ 16 – 17 วันละ 5 รอบ ได้แก่ 16.30, 17.30, 19.30, 20.30 และ 21.30 น. รอบละ 20 นาที (ไม่เกิน 15 คนต่อรอบ)

#16

พิพิธภัณฑ์พืช ศาสตราจารย์กสิน สุวตะพันธุ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สำรวจไข่น้ำ พืชแห่งดาวดวงใหม่ของมนุษย์โลก

นี่คือสุดยอดพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมตัวอย่างพืช เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับพืชของประเทศไทยมากกว่า 20,000 ตัวอย่าง ทั้งยังมีบริการตรวจวิเคราะห์ชื่อวิทยาศาสตร์ของพรรณไม้และรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อการวิจัยและตอบปัญหาแก่ประชาชนอีกด้วย

ระหว่างวันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 พิพิธภัณฑ์พืช ศาสตราจารย์กสิน สุวตะพันธุ์ มี ‘นิทรรศการพืชมีชีวิต’ (Living Plant Museum) ขนมาทั้งพืชในทะเลทราย แหล่งน้ำจืด ป่าดิบชื้นในเขตร้อน พืชในเขตอบอุ่นจากทั่วโลก จนถึงสิ่งมีชีวิต Unseen ใต้ดิน รวมถึงการถ่ายทอดความหมายของพืชเชิงศิลปะในนิทรรศการ Botanical Illustration

แต่ที่พลาดไม่ได้คือการเจาะลึกชีววิทยาของพืชดอกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกอย่าง ‘ผำ’ หรือ ‘ไข่น้ำ’ มาร่วมค้นหากันว่า ผำมีดีอย่างไร ถึงได้นำไปสู่การทดลองพืชอวกาศ พืชแห่งดาวดวงใหม่ของมนุษย์โลก!

#17

พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน

พลบแล้วพาพับ

ณ อดีตเคหสถานของ เจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน หรือที่รู้จักกันในนาม จิม ทอมป์สัน

แขกผู้มาเยือนพิพิธภัณฑ์จะได้พบกับ ‘บ้านของจิม’ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสำคัญทางประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรม 

เมื่อพลบค่ำ ภัณฑารักษ์จะพาคุณดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในบ้าน พร้อมเล่าประวัติเจ้าบ้านผู้เป็นนักสะสมตัวยง พาสำรวจคอลเลกชันงานศิลปะ และทำความรู้จักโบราณวัตถุสไตล์เอเชียหลากหลายชิ้นที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน

ไฮไลต์ห้ามพลาด คือกิจกรรม ‘โอริกามิ พับกระดาษให้มีชีวิต’

แน่นอนว่าคงไม่ใช่การพับกระดาษทั่วไป เพราะคุณจะได้สร้างงานศิลปะของตัวเองผ่านการพับกระดาษโอริกามิเป็นรูปทรงต่าง ๆ พร้อมใส่วิญญาณให้มีชีวิต อาทิ การพับนกให้บินได้ พับกบให้กระโดดได้ หรือจะพับรูปทรงปากอย่างไรให้ขยับได้ ย้ำอีกครั้งว่ากิจกรรมนี้จัดขึ้นเฉพาะวันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เวลา 18.30 – 21.00 น. พลบแล้วไปพับกันนะ

#18

หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

Hope at Night

พบกับนิทรรศการที่จะบอกเล่าเรื่องราวแห่งความหวังให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในนิทรรศการ ‘A Hope and Peace to End All Hope and Peace’ สร้างสรรค์ผลงานโดย รัชดี อันวาร์ (Rushdi Anwar) ศิลปินชาวเคิร์ดจากเคอร์ดิสถาน ผู้ซึ่งพยายามแสวงหาความหวังและสันติภาพ ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของความขัดแย้งและสงครามใน ‘ตะวันออกกลาง’ พร้อมสะท้อนความเจ็บปวด ความโหดร้าย และผลกระทบ อันมาจากความพยายามในการช่วงชิงดินแดนของประเทศมหาอำนาจในยุคสมัยแห่งการล่าอาณานิคม ซึ่งส่งผลกระทบจวบจนปัจจุบัน

อีกหนึ่งนิทรรศการห้ามพลาดคือ ‘Echoed Tranquility’ นำเสนอผลงานที่แฝงไปด้วยเสียงกระซิบแห่งความหวัง และบทสนทนาอันลึกซึ้งของผู้คน หลังพบความแตกสลายของจิตวิญญาณกับบ้านเมืองที่พังทลาย เพื่อรับรู้ถึงการมีชีวิตหลังเหตุการณ์ความขัดแย้ง มีศิลปินร่วมจัดแสดงผลงานมากถึง 3 สัญชาติ ได้แก่ ดินห์ คิว เลย์ (Dinh Q. Lê) ศิลปินชาวเวียดนาม ปรัชญา พิณทอง (Pratchaya Phinthong) ศิลปินชาวไทย และ โทชิโกะ ทานากะ (Toshiko Tanaka) ศิลปินชาวญี่ปุ่น ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ปรมาณูที่ฮิโรชิมา 

เริ่มทัวร์ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 การนำชมแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือเวลา 18.00 – 19.30 น. และ 19.30 – 21.00 น. รับรอบละ 15 – 20 คน มีค่าใช้จ่ายคนละ 50 บาทเท่านั้น รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

#19

พิพิธภัณฑ์อาคารสายสุทธานภดล

แฟชั่นโชว์เครื่องแต่งกายเจ้านายฝ่ายในสมัยรัตนโกสินทร์

วังเก่าสวนสวนสุนันทาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ชาววังอันน่าสนใจ รวมไปถึงแฟชั่นฝ่ายในที่น้อยคนจะเคยเห็น 

ครั้งนี้พิพิธภัณฑ์อาคารสายสุทธานภดลจัดนิทรรศการเครื่องแต่งกายเจ้านายฝ่ายในสมัยรัตนโกสินทร์เป็นครั้งแรก ในชื่อ ‘พหุพัสตราภรณ์’ ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ธันวาคม พ.ศ.​ 2566 เวลา 16.00 – 21.00 น. พร้อมด้วยแฟชั่นโชว์ ‘ราชพัสตราภรณ์’ 20 ชุด ที่เปลี่ยนตำหนักเป็นรันเวย์ครั้งแรกและครั้งเดียวในวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 19.00 น.

ทุกชุดในการแสดงแบบเครื่องแต่งกายมาจาก ‘ภาพถ่าย’ เครื่องแต่งกายเจ้านายฝ่ายในสมัยรัตนโกสินทร์ของจริง ตัดเย็บออกมาใหม่โดยสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยไฮไลต์คือ ชุดสมัยรัชกาลที่ 6 เรียกว่า ‘แกสบี้’ เป็นชุดที่สตรีใช้ออกงานตอนกลางคืน ผู้สวมชุดในภาพต้นแบบคือ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี พระวรราชเทวีใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

อย่าลืมจองที่นั่งกันล่วงหน้าที่นี่ รับรองว่าทุกท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศวังเก่า ได้เห็นภาพเจ้านายฝ่ายในทั้งหญิงและชายกันแบบใกล้ชิดแน่นอน

#20

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ)

The Galilean Moons

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) พร้อมพาทุกคน ‘สำรวจอวกาศผ่านกล้องโทรทรรศน์’ เพื่อหาวัตถุทางดาราศาสตร์บนท้องฟ้าจริง กิจกรรมไฮไลต์จะเริ่มขึ้นเมื่อฟ้ามืด เข้าชมฟรี โดยทุกท่านจะได้เห็น ‘วงแหวนของดาวเสาร์’ และ ‘ดาวพฤหัสบดี’ ด้วยตาตัวเอง! และยังได้เห็นดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีทั้ง 4 ดวงที่เรียกว่า ‘ดวงจันทร์ของกาลิเลโอ’ ด้วย

นอกจากนี้ยังเปิดให้เข้าชมนิทรรศการต่าง ๆ อีก 3 อาคาร พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมาย มีรถขายอาหารให้บริการมากกว่า 10 ร้าน อัตราการเก็บค่าเข้าชม คนไทย/ต่างชาติ ราคาเดียวกัน ชมการแสดงท้องฟ้าจำลอง: ผู้ใหญ่ 50 บาท/ เด็ก 30 บาท
ชมนิทรรศการ : ผู้ใหญ่ 50 บาท/ เด็ก 30 บาท (จ่ายครั้งเดียว เข้าชมได้ทั้ง อาคาร 1,อาคาร 2 และ อาคาร 3 )

โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ เพราะฉะนั้น เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเจอกันที่ลานด้านหน้าอาคาร 2 และสนามฟุตซอล ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) กิจกรรมนี้มีเพียง 2 วันเท่านั้น คือวันที่ 15 – 16 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.30 – 20.30 น.

#21

จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เดอะสตรีท รัชดา

เปิดฟ้ามองดาว

ทุกค่ำคืนมีดาวเป็นล้านดวง แต่กิจกรรมเปิดฟ้ามองดาวมีเพียงวันเดียว!

จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เดอะสตรีท รัชดา จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘เปิดฟ้ามองดาว’ เฉพาะวันที่ 22 ธันวาคม เวลา 18.00 – 20.00 น. เท่านั้น

กิจกรรมเปิดฟ้ามองดาว เป็นกิจกรรมเพิ่มประสบการณ์ การเรียนรู้เรื่องกลุ่มดาว การหาทิศทางและตำแหน่งบนท้องฟ้า ให้ทุกท่านตื่นตาตื่นใจไปกับการเรียนรู้ผ่านภาพยนตร์ทางดาราศาสตร์ในลักษณะ 3 มิติ แบบ full-Dome โดยกิจกรรมนี้ ซื้อบัตรหน้างานได้เลย ราคาเพียง 50 บาท / คน ใช้เวลา 40 นาที / รอบ มีจัดทั้งหมด 4 รอบตลอด 3 วัน (วันที่ 22 – 24 ธันวาคม พ.ศ. 2566) ดังนี้ 17.00 น., 17.40 น., 18.20 น. และ 19.00 น.

พิเศษสุด ๆ เฉพาะ วันที่ 22 ธันวาคม มีกิจกรรมดูดาวออนไลน์จากดอยอินทนนท์ ความเจ๋งอยู่ที่ทางจัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช.จะบังคับกล้องจากเดอะสตรีท รัชดา ใจกลางเมือง ไปที่กล้องดูดาวที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในคืนนี้ เราจะพาไปสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ด้วยตาตนเอง รวมถึงดาวพฤหัสบดีที่สวยงามไม่แพ้ดวงจันทร์ โดยเฉพาะกิจกรรมนี้มีเพียง 2 รอบเวลาเท่านั้นคือ 18.00 น. และ 19.00 น. ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 100 บาท / คน / รอบ เรียกว่าคุ้มค่ากับการเปิดประสบการณ์การดูดาวแบบใหม่อย่างแน่นอน

#22

พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ

Crystals from Swarovski

พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับเพิ่งเปิดให้บริการใหม่หลังจากรีโนเวตเสร็จ ภายในจัดแสดงอัญมณีและเครื่องประดับ ‘ครบวงจร’

สำหรับไอเทมที่เราเองยังกรี๊ดตั้งแต่ได้เห็นภาพคือ ‘Crystals from Swarovski’ คริสตัลยักษ์ที่งดงาม เปล่งประกายระยิบระยับ เจียระไนรูปแบบเพชร มีน้ำหนักมากถึง 300,000 กะรัต หรือ 62 กิโลกรัม บอกเลยว่าคริสตัลยักษ์นี้มีเพียง 2 เม็ดในโลกเท่านั้น เม็ดหนึ่งอยู่ที่ประเทศออสเตรีย และอีกเม็ดอยู่ที่พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ ประเทศไทย

ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีกิจกรรม ‘Lucky Draw’ ลุ้นรับรางวัลพิเศษเพียงลงทะเบียนเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ภายในงาน ในวันที่ 22 – 24 ธันวาคม วันละ 4 รอบ คือ เวลา 11.00 น., 14.00 น., 16.00 น. และ 19.00 น. รอบละ 3 รางวัล

#23

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

กิจกรรม ท่องโลกศิลปะร่วมสมัยผ่าน BACC Board Game

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ชวนมาท่องงานศิลปะร่วมสมัยไปด้วยกันผ่านกิจกรรม ‘BACC Board Game’ ที่พร้อมพาทุกท่านไปเรียนรู้ศิลปะร่วมสมัยผ่านศิลปะไทยและศิลปินระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Van Gogh หรือ Claude Monet เข้าร่วมฟรี มีเฉพาะวันที่ 22 – 24 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 – 19.00 น. 

นอกจากนี้ยังพบกับกรอบ Photo Booth ลายสุดพิเศษที่ BACC ร่วมกับ Sx.automat X Phannapast ที่จะมาร่วมอวยพรให้ทุกท่านมีแต่ความสุข สมหวังตลอดเทศกาลคริสต์มาส และร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ผ่านธีม ‘Tarot Tales – You are full of magic’ แล้วพบกันที่ชั้น 5 นะ

#24

พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

ยุทธเวหาเหนือน่านฟ้าไทย ปลอบขวัญปลุกใจด้วยเสียงเพลง

พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ ชวนย้อนรอยประวัติศาสตร์ทัพฟ้า ในช่วงกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส จนถึงสงครามมหาเอเชียบูรพา ผ่านการเยี่ยมชมอากาศยานยามค่ำคืนและกิจกรรมเชิงอากาศมากมาย

ไอเทมชิ้นสำคัญคือ ‘เครื่องบินฮอว์ค 3’ และ ‘เครื่องบินคอร์แซร์’ อากาศยานที่ใช้ในยุทธเวหาเหนือน่านฟ้าไทยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเครื่องจริงที่เหลือเพียงแบบละ 1 ลำในโลก จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติแห่งเดียวเท่านั้น!

เชิญชวนทุกท่านหยิบชุดคุณปู่ สวมชุดคุณย่า ไปเดินชมประวัติศาสตร์การปกป้องน่านฟ้าไทย รับชมรับฟังดนตรีจากวงดุริยางค์ทหารอากาศและการแสดงจากเด็กๆ และเยาวชนได้วันที่ 22 – 24 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.00 – 22.00 น. สำหรับผู้ที่แต่งกายย้อนยุคจะได้ร่วมสนุกลุ้นรับของที่ระลึกอีกด้วย

#25

สยาม เซอร์เพนทาเรียม

Snake Planet เข้าป่าหางู

คำเตือน มีงูอยู่ที่นี่

สยาม เซอร์เพนทาเรียม หรือที่รู้จักกันในนาม พิพิธภัณฑ์งู ขยายเวลาเข้าชมถึงช่วงค่ำ แต่ไม่ใช่แค่การเข้าชมแบบธรรมดา เพราะนี่คือการ ‘เข้าป่าหางู’

‘Snake Planet’ เป็นกิจกรรมที่ปิดไฟมืดเสมือนไนต์ซาฟารี แล้วให้ทุกคนเดินตามทางไปเรื่อย ๆ โดยมีเพียงไฟฉาย 1 กระบอกเท่านั้น แน่นอนว่ารอบตัวของทุกคนมีงูจัดแสดงอยู่มากถึง 53 ตู้

นอกจากความตื่นเต้นแล้ว เรายังได้เห็นพฤติกรรมของงูที่ไม่อาจเห็นได้ในช่วงกลางวัน ได้เรียนรู้ถึงธรรมชาติ พฤติกรรมของงู จนถึงความแตกต่างระหว่างงูตอนกลางวันกับกลางคืน พร้อมการบรรยายพิเศษเรื่องการเฝ้าระวังงูเข้าบ้าน

กิจกรรมแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ 19.00 น. และ 19.30 น. หากพร้อมแล้ว จับมือคนที่ไปด้วยให้แน่น ๆ เปิดไฟฉายไปผจญภัยกันได้ในวันที่ 22 – 24 ธันวาคมนี้ เท่านั้น