“แค่เปลี่ยนถุงเท้าให้เป็นสีๆ ผมก็รู้สึกวัยรุ่นขึ้นมาทันตาเลย”

คุณหนุ่ม-เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ ทายาทรุ่นที่สองของแบรนด์ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน บอกเราขณะรอถ่ายรูป

หลังจากกล้าๆ กลัวๆ ขอให้ผู้บริหารหนุ่มเปลี่ยนถุงเท้าจากถุงเท้าทำงานสีฟ้าคู่เดิม มาใส่ถุงเท้าลาย Stripe สีแดงสดตัดสลับสีน้ำเงินอมม่วงของ Carson Collection เพื่อถ่ายภาพประกอบบทความ เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มสนุก เราก็ใจชื้นขึ้น และรู้สึกเห็นตรงกันว่าถุงเท้ามีสีช่วยเปลี่ยนให้บรรยากาศรอบตัวสดใส

เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ Carson Collection

เป็นเหตุผลเดียวกับที่ The Cloud ขอนัดหมายทายาทรุ่นสองถุงเท้านักเรียนคาร์สันทันทีที่เห็นชุดภาพถุงเท้าลายใหม่ของ Carson Collection ในโซเชียลมีเดียของแบรนด์

สารภาพตามตรงว่า แม้จะชื่อแบรนด์ใกล้เคียงกัน บ่งบอกว่ามีความเกี่ยวข้อง แต่เราก็ไม่แน่ใจในทันทีว่าถุงเท้าแฟชั่นสีสวยตรงหน้าจะเป็นเจ้าของเดียวกับถุงเท้านักเรียนคาร์สันสีขาว ไอเทมแสนสนิทสมัยเรียนหรือไม่

ถุงเท้าคาร์สัน

Carson Collection

และเมื่อคำตอบว่าใช่ เราก็ไม่รอช้า ชวนคุณหนุ่มคุยเรื่องคาร์สันที่คนไม่ค่อยรู้ อย่างการเป็นถุงเท้าสีขาวที่ขายได้ตลอดปีตลอดชาตินั้นสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์จนเกิดเป็นสิ่งใหม่ได้มากมายอย่างไร การต่อยอดแบรนด์ที่เป็นที่รักด้วยการคิดถึงผู้ใช้งานจริง แคมเปญการตลาดสนุกๆ ทีไม่ได้หยุดอยู่แค่ในโรงเรียน

รวมถึงพระเอกของเรื่องอย่างถุงเท้าสีสันสดใส ที่เห็นแล้วกระเป๋าสตางค์สั่นไหวไปหมด ก่อนจะไปฟังเรื่องราวเบื้องล่าง เราขอเปิดบทความเท่ๆ ด้วยคำคูลจากคนคูล ของ Gary Oldman นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ปีล่าสุด ที่บอกว่า

“You choose your friends by their character and your socks by their color.”

ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน

ธุรกิจ : บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด (พ.ศ. 2516) : ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน
ประเภทธุรกิจ : อุตสาหกรรมสิ่งทอ
อายุ : 45 ปี
ผู้ก่อตั้ง : สุพจน์ ศรีโรจนันท์
ทายาทรุ่นที่สอง : เอกพงศ์ ศรีโรจนันท์, เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์, รัตนพงศ์ ศรีโรจนันท์

ถุงเท้าที่ทุกคนใส่กัน

“ถ้าตัดเรื่องที่เป็นทายาทรุ่นสองออกไป เรารู้สึกผูกพันกับแบรนด์เหมือนใครหลายๆ คนที่เคยมีคาร์สันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ผูกพันในฐานะที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ เป็นหุ่นต้นแบบ เป็นกลุ่มทดลองใช้สินค้าคาร์สันทุกรุ่นก่อนวางสู่ตลาด”

ทายาทรุ่นที่สองของถุงเท้านักเรียนคาร์สันเล่าย้อนความทรงจำที่มีต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายยาจุดกันยุงตราห่านฟ้า ผลิตภัณฑ์สกินแคร์รอยัลบิวตี้ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

คาร์สันเกิดขึ้นมาจากวิสัยทัศน์ของคุณพ่อ สุพจน์ ศรีโรจนันท์ ที่มองไกลกว่าคนรุ่นเดียวกัน โดยเริ่มทำโรงงานผลิตสิ่งทอขึ้นมาจากศูนย์

ครอบครัวศรีโรจนันท์

“ย้อนไปเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน ยุคนั้นอุตสาหกรรมสิ่งทอเฟื่องฟูมากๆ คุณพ่อจึงร่วมลงทุนกับบริษัทสิ่งทอจากญี่ปุ่นสร้างโรงงานรับผลิต จนได้องค์ความรู้และเทคโนโลยีในการผลิตสินค้าคุณภาพสูงส่งออกไปยังญี่ปุ่นจนประสบความสำเร็จ คุณพ่อก็เริ่มมองเห็นว่ายังไม่มีถุงเท้าคุณภาพดีในบ้านเรา จึงตัดสินใจทำแบรนด์ถุงเท้านักเรียนคาร์สันขึ้นมา” เราตื่นเต้นตามที่ได้รู้ว่าธุรกิจที่เราผูกพันเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ อย่างการมองเห็นโอกาสในตลาดชุดเครื่องแบบนักเรียน

แม้จะเป็นเพียงถุงเท้าสีขาวหรือถุงเท้าสีพื้นที่หน้าตาธรรมดา ไม่เปลี่ยนไปจากที่เราจำความได้สักเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วถุงเท้าคาร์สันมีการปรับปรุงเปลี่ยนวัตถุดิบอยู่ตลอดเวลา พัฒนาความคงทนของเส้นด้ายและการยืดหยุ่นที่ดีขึ้น เพื่อรักษาคุณภาพอันเป็นหัวใจของแบรนด์อยู่ตลอด

คิดถุงวิทยา

หลังจากเรียนจบจากคณะบริหารธุรกิจ คุณหนุ่มเริ่มต้นเส้นทางสายการตลาดและแบรนดิ้งในบริษัทโฆษณาชื่อดังของยุคอย่าง Lintas (ประเทศไทย) หรือปัจจุบันคือ Lowe Lintas เขาเล่าว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ได้เรียนรู้จากที่นี่คือ การคิดนอกกรอบ คิดอย่างสร้างสรรค์ ผ่านงานที่ได้รับมอบหมายทุกชิ้นในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะจึงตัดสินใจไปเรียนปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา จากนั้นไปเรียนภาษา ดูงานเรื่องการตลาดและฐานการผลิตที่ประเทศจีน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

“หลังกลับมาจากจีน เพื่อนที่เคยทำงานโฆษณามาด้วยกันก็ชวนให้มาทำงานเกี่ยวกับการตลาดของ CITI Bank ซึ่งเป็นบริษัทในสายการเงินที่ทำงานด้านการตลาดสนุกที่สุดเจ้าหนึ่งในยุคนั้น เป็นช่วงเวลา 3 ปีที่ได้เรียนรู้อะไรมากมายก่อนกลับเข้ามารับช่วงต่องานที่บ้าน”

เมื่อทายาทรุ่นที่สองทั้งสามคนของคาร์สันที่แยกย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนพร้อม ก็ถึงเวลาเข้ามารับช่วงต่อ

“พี่น้องทั้งสามคนจริงๆ ช่วยกันคิดนะ แต่จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบแตกต่างกันไป พี่ชายคนโตดูแลตลาดต่างประเทศและภาพรวมธุรกิจทั้งหมด ส่วนผมดูแลส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดเลย การปล่อยสินค้าใหม่ๆ และการหาสินค้าใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงการตลาดที่จะครอบคลุมแคมเปญทั้งหมดที่เกิดขึ้น ส่วนน้องชายจะดูแลฝั่งการขาย แต่จริงๆ ช่วยกันทั้งหมด” คุณหนุ่มเป็นตัวแทนเล่าถึงพี่น้องอีก 2 คนที่วันนี้ติดภารกิจ

คาร์สันในวันที่คุณหนุ่มเข้ามารับช่วงต่อนั้นมีแค่ถุงเท้านักเรียนสีขาว แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ถุงเท้าสีขาวที่มีอาจจะไม่เพียงพอ

ถุงเท้าคาร์สัน

“ย้อนกลับไปช่วง 10 ปีก่อน เด็กๆ จะชอบถอดรองเท้าวิ่งเล่นห้องเรียน คาร์สันจึงเป็นแบรนด์ถุงเท้าเจ้าแรกๆ ที่ผลิตถุงเท้าพื้นเทากันเปื้อนเพื่อตอบโจทย์คุณแม่ ก่อนจะตามมาด้วยถุงเท้าที่พัฒนาเส้นใยแอนตี้แบคทีเรีย ลดกลิ่นอับชื้น” หนุ่มเล่า พร้อมยอมรับว่าผลตอบรับที่ดียิ่งทำให้เขาสนุกกับการต่อคิดยอดสินค้าไปเรื่อยๆ

ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน

และจากนั้นไม่นาน คาร์สันก็ออกถุงเท้าลายกันลื่นรูปตัวการ์ตูนเป็นเจ้าแรกในตลาด เริ่มจากการ์ตูนที่โด่งดังในหมู่นักเรียนอนุบาลสุดๆ อย่าง Ben 10 ซึ่งคาร์สันติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ตรงจาก Cartoon Network เป็นสีสันที่ทำให้การไปโรงเรียนของเด็กๆ สนุกสนานมากขึ้น จนได้รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมจาก Cartoon Network เพราะเป็นสินค้าแบรนด์เจ้าแรกๆ ที่นำตัวการ์ตูนเข้าไปในโรงเรียนได้สำเร็จ ก่อนจะตามมาด้วยคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Disney Princess, Pony Marvel เป็นต้น

ความคิดสร้าง (คาร์) สัน

จากจุดแข็งของแบรนด์ที่ทำให้คนมองว่าคาร์สันเป็นถุงเท้านักเรียนเท่านั้น จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เป็นโจทย์ใหญ่ของคุณหนุ่ม ที่ทำให้คิดต่อว่าแล้วแบรนด์คาร์สันในยุคของเขาและพี่น้องควรจะเป็นอะไร

“สิ่งที่เราพยายามทำตั้งแต่วันที่เราเริ่มเข้ามาคือการปรับเปลี่ยนมุมมองว่าคาร์สันไม่ใช่แค่ถุงเท้านะ คาร์สันคือความนุ่มสบายสำหรับทุกคนในครอบครัว เราพยายามขยายขอบเขตการเข้าถึงเพื่อสร้างความผูกพัน” คุณหนุ่มเล่าความตั้งใจ

ชุดชั้นในคาร์สัน

และเมื่อสิ่งที่ผู้บริโภคนึกถึงคาร์สันคือ ความนุ่มสบาย คุณภาพ ความยืดหยุ่น แบรนด์ Carson Collection แบรนด์ชุดชั้นในชายของคาร์สันจึงเกิดขึ้น แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในกลุ่มชุดชั้นในชายที่ขายในห้างสรรพสินค้า แต่เพราะชื่อเสียงและความผูกพันที่คนไทยมีให้กับคาร์สัน ก็ทำให้คนเปิดใจและลองใช้จนแบรนด์เติบโตได้ดี สร้างความมั่นใจให้ทีมงานพัฒนาสินค้าต่อ และเกิดเป็น Carson Kids แบรนด์ชุดชั้นในเด็ก และกำลังเป็นแบรนด์ที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับคาร์สัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่องว่างการตลาดที่ไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนลงเล่นในสนามสินค้าสำหรับเด็กอายุ 3 – 13 ปี และที่สำคัญ ผู้ปกครองไว้ใจในคาร์สันอยู่แล้ว

ถุงเท้าคาร์สัน

จากสินค้าสำหรับนักเรียน วันนี้คาร์สันเป็น Complete Solution ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และครอบคลุมทุกความต้องการของทุกคนในบ้าน มีสินค้าสำหรับคุณพ่อ ทั้งถุงเท้าทำงาน ชุดนอน ชุดชั้นในที่มีคุณภาพ มีสินค้าสำหรับเด็กเล็กๆ

การคัดสรรของถุงเท้าคาร์สัน

แม้จะพ้นเลยวัยเรียนมานานมากแล้ว คุณก็อาจจะใส่ถุงเท้าของคาร์สันโดยไม่รู้ตัว

ในโลกของถุงเท้าแฟชั่นราคาประหยัดอย่างร้านแบกะดินและตลาดนัดออฟฟิศซึ่งเป็นแหล่งขายถุงเท้าในราคา 3 คู่ 4 คู่ 5 คู่ 100 บาท มีถุงเท้าจากการคัดสรรของคาร์สันรวมอยู่ด้วย โดยไม่ได้มีการทำแบรนด์หรือแจ้งให้ทราบภายใต้ชื่อคาร์สัน เพราะต้องการให้ลูกค้าทั่วไปได้ใช้ถุงเท้ามีคุณภาพในงบประมาณจำกัด

ถุงเท้าคาร์สัน

“จะเห็นว่าในคาร์สันไม่ได้จับตลาดถุงเท้าแฟชั่นของผู้หญิงมากนัก เพราะเข้าใจการใช้ชีวิตของผู้หญิงที่เมื่อผ่านวัยเรียนแล้วจะไม่ค่อยใช้ถุงเท้าเท่าผู้ชาย ที่จะมีถุงเท้าหลากหลาย ทั้งทางการและลำลอง” หนุ่มเล่าว่าสิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างคาร์สันและแบรนด์ถุงเท้าผู้ชายทั่วไป ได้แก่ วิธีการทอ วิธีเย็บตะเข็บที่จะไม่มีตรงหัวแม่เท้า รายละเอียดเส้นด้ายที่ให้สัมผัสความสบายที่แตกต่างกันซึ่งแฟนพันธุ์แท้ของคาร์สันจะรู้

สี (คาร์) สันสดใส

น้อยคนจะรู้คาร์สันมีถุงเท้าทำงานและลำลองจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว ก่อนที่จะหันมาทำถุงเท้าแฟชั่น มีสีสัน ทั้งน่ารักและเท่อย่างที่เห็นใน Carson Collection ซึ่งคุณหนุ่มเล่าว่าเป็นความตั้งใจที่จะทำเพื่อตอบสนองคนเฉพาะกลุ่ม (Niche) และสร้างสีสันให้กับแบรนด์

เพื่อเข้าใจภาพรวมของการทำดิจิทัลมาร์เกตติ้งของคาร์สัน อดีตนักโฆษณาหนุ่มจำเป็นต้องบรรยายประวัติศาสตร์การตลาดและสื่อ 101 ให้เราฟังว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการทำการตลาดจะขึ้นกับสื่อโทรทัศน์และ Out of Home Media (OHM) เพียงอย่างเดียว ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มสูงมาก จนมีแต่แบรนด์เจ้าใหญ่เท่านั้นที่จะสามารถทำการสื่อสารกับผู้บริโภคได้ เป็นอุปสรรคให้แบรนด์เจ้ารองลงมาหรือแบรนด์เกิดใหม่สามารถมีตัวตนในตลาดได้เลย จนกระทั้งการเข้ามาของดิจิทัลออนไลน์ กลายเป็นช่องทางให้แบรนด์สร้างตัวตน สื่อสารจุดยืนกับผู้บริโภค มีโอกาสทำการตลาดได้ดีขึ้น

Carson Collection

ถุงเท้าคาร์สัน

และด้วยในปัจจุบันตลาดถูกแบ่งย่อยออกไปอีกมากมาย เช่น กลุ่มแม่และเด็ก กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีวิธีการเสพย์สื่อที่แตกต่างกัน จึงเป็นความท้าทายของแบรนด์ในการเลือกวิธีสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม แผนการตลาดแบบเดิมๆ ที่คิดมาเพื่อใช้กับทุกกลุ่มอย่างในอดีตนั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป

“สิ่งที่คาร์สันต้องทำคือ ให้สินค้าเราเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยวิธีผู้บริโภคพูดกับผู้บริโภค หรือการสร้างคอนเทนต์ที่พูดกับวัยรุ่น ซึ่งเราเริ่มทำมาได้สักพักแล้ว เราทำงานร่วมกับ GDH เป็นสปอนเซอร์ชุดเครื่องแบบทั้งหมดให้กับซีรีส์ Hormones วัยว้าวุ่น ให้วัยรุ่นรู้สึกว่านี่คือแบรนด์ของเขา” คุณหนุ่มเล่าแผนการสื่อสารที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นจดจำคาร์สันได้ผ่านโปรเจกต์พิเศษ ชุดนักเรียน Hormones The Series Limited Edition เป็นชุดนักเรียนที่มาจากคาแรกเตอร์ของตัวละครในเรื่อง มีความกบฏ แอบผิดระเบียบเล็กๆ เช่น แอบมีแถบสีซ่อนในปกคอเสื้อ กระดุมเม็ดสุดท้ายที่มีสีแดงซ่อนเมื่อใส่เสื้อในกางเกง กระเป๋ากางเกงเป็นผ้าลาย Stripe สวยๆ เป็นต้น ใส่ได้จริง เพราะเมื่อเก็บซ่อนรายละเอียดนี้ไว้ข้างใน ทุกอย่างก็ถูกระเบียบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพราะไม่ได้ตั้งใจบุกตลาดชุดนักเรียนเต็มตัว แต่ทำขึ้นพิเศษเพื่อรีเฟรชแบรนด์คาร์สัน

“ต้นทุนที่ใช้สูงเกินกว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ขายจริงตามท้องตลาดมาก แต่หลังจากกระแสตอบรับที่ดี อนาคตเราอาจจะทำชุดนักเรียนขึ้นมาจริงๆ ก็ได้ แต่เป็นชุดนักเรียนปกติไม่แฟชั่นขนาดนั้นแล้ว และเน้นคุณภาพเป็นสำคัญ” หนุ่มบอกว่าโชคดีที่ร้านค้าและผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าจากคาร์สันซึ่งไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทใดก็พร้อมสนับสนุน

ฟอร์มดีไม่มีย้วย

ไม่ต่างจากบริษัทแบรนด์ไทยที่อยู่มานาน แม้คาร์สันจะเป็นองค์กรที่มีทีมงานยุคเก่าค่อนข้างเยอะ แต่คุณหนุ่มก็ไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาหรืออุปสรรค กลับมองว่าเป็นความผูกพันที่พนักงานให้ใจกันเต็มที่ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนหลังคุณหนุ่มเข้ามารับช่วงต่อคือ ความคิดนอกกรอบ การคิดหาวิธีการใหม่ๆ การคิดหาสิ่งที่ตอบสนองความต้องการคนในยุคปัจจุบัน หนุ่มบอกว่าโชคดีที่ทุกคนเปิดรับและสนุกไปกับการทำงาน

“ผมมองว่านี่เป็นเรื่องเดียวกับที่คุณพ่อทำในช่วงเปิดบริษัท ยุคนั้นคุณพ่อถือว่าเป็นคนหนุ่มที่ไฟแรงมาก ทำโปรเจกต์เยอะแยะมากมายไปหมด ทุกคนสนุกกับการทำงานและต่างเติบโตมาด้วยกัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่สินค้าที่มีเริ่มลอยตัวทำให้ความมีชีวิตชีวาแบบในสมัยแรกๆ ลดน้อยถอยลงไป ช่วงที่ผมกลับมาช่วยผมก็พยายามเปิดโอกาสให้ทุกคนลองทำสิ่งใหม่ๆ เหมือนในวันแรก แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ในทันที แต่เขาก็พยายามทำให้เห็น”

และแม้ใครจะกังวลหรือมองว่าวัฒนธรรมการทำงานที่แตกต่างกันระหว่างรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เป็นปัญหาของการรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว คุณหนุ่มกลับมองว่าแก่นของการรับช่วงต่ออย่างการทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงและมี Brand Loyalty ผ่านวิธีการสื่อสารรูปแบบต่างๆ ที่สร้างสรรค์เป็นเรื่องที่ท้าทายทายาทรุ่นสองมากกว่า

“แบรนด์เรามีบทบาทอะไรในชีวิตเขาเหรอ ทำไมเขาต้องใช้คาร์สัน ต้องตอบให้ได้ ไม่ใช่แค่พูดเหมือนเมื่อก่อน แบรนด์เราดีอย่างนั้น แบรนด์เราใส่สบายแบบนี้ เราต้องหาวิธีสื่อสารให้แบรนด์เราเข้าไปอยู่ในชีวิตเขา ให้รู้สึกว่านี่คือแบรนด์ที่ตอบโจทย์ชีวิตเขา คาร์สันอาจจะไม่ใช่แบรนด์ที่ใส่แล้วเท่มาก คูลมาก แต่เป็นแบรนด์ที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ นี่คือสิ่งที่เราพยายามจะทำ” คุณหนุ่มทิ้งท้ายด้วยตาเป็นประกาย

ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน

Instagram: carsonstudent
Instagram: carsoncollectionthailand

บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด (พ.ศ. ๒๕๑๖) : ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน

จากความตั้งใจแรกของคุณพ่อผู้ก่อตั้งบริษัทที่อยากนำเสนอสิ่งที่ดี สะท้อนความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัวผ่านสินค้ามีคุณภาพ จนผู้บริโภคได้รับสารนั้นและรู้สึกดีไปด้วยกัน เป็นความผูกพันต่อกันที่ไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงใด แต่เป็นการค่อยๆ เติบโตไปด้วยกัน

“จากวันนั้นที่เป็นเด็กนักเรียนใส่ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน พอโตขึ้นผมก็อยากซื้อถุงเท้านักเรียนคาร์สันให้ลูก และในวันนี้ผมไม่ซื้อแค่ถุงเท้าคาร์สัน ผมซื้อชุดชั้นในให้ตัวเอง ให้ลูกด้วย” ทายาทรุ่นที่สองเป็นตัวแทนเล่าบรรยากาศของคาร์สันในวันนี้ ก่อนจะทิ้งท้ายคำแนะนำสำหรับกิจการที่อยากรักษาธุรกิจที่สร้างมากับมือนี้ให้งอกงามต่อไปในมือทายาทรุ่นที่สอง

“ผมคิดว่าเป็นหลักการเดียวกันกับการทำแบรนด์เราในปัจจุบันนะ การคิดถึงการเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค เช่นเดียวกับการสร้างความผูกพันระหว่างสิ่งที่ทำกับลูกของเรา แต่ผมจะไม่บังคับนะ ผมคิดว่านี่ไม่ใช่ยุคของการคิดสร้างธุรกิจและหวังให้ยั่งยืนไปอีกร้อยปี เดี๋ยวนี้เป็นไปได้ยากมาก ต้องยอมรับว่าแบรนด์ใหม่ๆ อาจจะมีอายุสั้นๆ ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับรูปแบบและคาดหวัง” คุณหนุ่มกล่าว

Writer

Avatar

นภษร ศรีวิลาศ

อดีตนักเรียนเศรษฐศาสตร์ผู้วิ่งเล่นในแวดวงตลาดทุน หน่วยงานสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม และงานสายแบรนดิ้งเพื่อความยั่งยืน หลงรักการลองเสื้อคอลเลกชันใหม่ของ COS MUJI Marimekko BEAMS และมีเพจชื่อ น้องนอนในห้องลองเสื้อ

Photographer

Avatar

ธีรพันธ์ ลีลาวรรณสุข

ช่างภาพ นักออกแบบกราฟิก นัก(หัด)เขียน โปรดิวเซอร์และผู้ดำเนินรายการพอดแคสต์ และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ว่าไปเจออะไรน่าทำ IG : cteerapan