ลองนึกภาพเรากำลังนั่งจิบเบียร์ (ไร้แอลกอฮอล์) บนตึกสูง มองพระอาทิตย์ตกที่คุ้งน้ำเจ้าพระยา ฟ้าเป็นสีส้มอมชมพู พอเริ่มค่ำ แสงไฟจากตึกทั่วกรุงเทพฯ เริ่มสว่างไสว เราสั่งกับแกล้มพวกผักย่างและไก่ย่างไฟมากินแกล้ม พูดคุยกับเพื่อน ๆ หรือนั่งชิลล์ดูเมืองคนเดียวเงียบ ๆ ริมหน้าต่าง น่าจะเป็นค่ำคืนที่ดีสำหรับตัวเองมาก ๆ

อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น เรานั่งกินอาหารได้ทุกเวลา ตั้งแต่เช้าจนดึก กิน Brunch ในช่วงเช้า มีขนมและเครื่องดื่มให้บริการทั้งวัน พอถึงมื้อเย็นก็เปลี่ยนเป็นเมนูย่างไฟของร้าน 

เราทำแบบที่ว่ามาทั้งหมดได้ที่ ‘手 qraft.’ ร้านอาหารมื้อสายและอิซากายะบนชั้น 55 ของตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาทร

手 qraft. คือร้านอาหารน้องใหม่จากทีมเดียวกันกับ Peace 和 oriental teahouse ร้านชาตะวันออกของ ธี-ธีรชัย ลิมป์ไพฑูรย์ ที่เปิดแบรนด์เพิ่มเพื่อขายขนมและอาหาร ร้านสาขาแรกที่ซอยอารีย์ ขายครัวซองต์ ขนม และเครื่องดื่ม ผมมักใช้คำว่าพวกเขาออกแบบอาหารแต่ละเมนูได้อย่างละเอียด พิถีพิถัน และมีความเป็นงานฝีมือสมชื่อร้าน ใส่ความสร้างสรรค์และผสมความเป็นตะวันตก-ตะวันออกลงไปในแต่ละเมนูได้แบบคิดมาแล้ว 

แต่สาขาใหม่บนชั้น 55 ตึก Empire Tower ถนนสาทร qraft. จะกลายเป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบ และเปิดตั้งแต่เช้าจนถึงดึก มีเมนูต่างกันในแต่ละช่วงเวลา แบ่งเป็นช่วงเช้าขายเมนูบรันช์ ตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงดึกขายเมนูกับแกล้มนั่งดื่มแบบร้านอิซากายะ 

ผมว่าความน่าสนใจของสาขานี้มีอยู่ 2 สิ่งหลัก คืออาหารที่ออกแบบและขัดเกลามาอย่างประณีต และบรรยากาศ ซึ่งไม่น่ามีมากนักที่จะให้เรานั่งคุยกับเพื่อนหรือใช้เวลากับตัวเองคนเดียวท่ามกลางความสงบและวิวกรุงเทพฯ มุมสูง

เบื้องหลังของขนมและอาหารอร่อย ๆ ที่พัฒนามาอย่างเข้มข้นโดยทีมหลังบ้านของ qraft. และ Peace ที่ใช้เวลาพัฒนาอาหารในแต่ละจานมากกว่า 1 ปีเสมอ ใช้ปรัชญาในการทำงานเหมือนกัน คือการลงลึกถึงวัตถุดิบต้นทางทั้งข้าว เนื้อสัตว์ และใช้เครื่องปรุงหรือส่วนผสมบางอย่างจากการหมักดองใช้ในร้านเอง

ส่วนบรรยากาศของร้านที่ออกแบบภายในให้เรียบ เคร่งขรึม สงบ ตกแต่งร้านด้วยสีดำ และใช้วัสดุเป็นไม้ธรรมชาติตามปรัชญาตะวันออกของร้าน ทั้งหมดออกแบบให้ตัวร้านไม่เรียกความสนใจอะไรมากกว่าตัวลูกค้าที่เข้ามาจะได้รู้สึกอยู่กับตัวเองหรือผู้ร่วมโต๊ะ และอาหารกับเครื่องดื่มบนโต๊ะ รวมถึงวิวเมืองจากมุมสูงที่เห็นในแต่ละช่วงเวลา 

ถ้ามาในช่วงเช้า qraft. จะให้บริการอาหารรูปแบบ All Day Dining เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่อร่อยแบบมีลูกเล่นอยู่มาก เสิร์ฟตั้งแต่สลัด แซนด์วิชหน้าต่าง ๆ ครัวซองต์ โจ๊ก และอาหารจานเดียว

แนวคิดหลัก ๆ ของร้าน คืออาหารที่มีความเป็นตะวันออก ถึงจะมีเมนูที่ดูเหมือนแบบตะวันตกอย่างสลัดหรือแซนด์วิช แต่เมื่อได้ชิมจะรู้สึกได้ถึงรสชาติแบบตะวันออกมาก ๆ จากสิ่งที่เขานำมาใช้ปรุงอาหาร 

จานหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ คือ ‘Tokyo Ham Mantou Sando’ เป็นแซนด์วิชหน้าเปิดที่แป้งทำจากแป้งหมั่นโถว ย่างถ่าน หน้าจะใส่แฮมรมควัน ชีส สตรอว์เบอร์รี ส้มโอ และลิ้นจี่ย่างที่เป็นชิ้นไฮไลต์ของจาน รสหวานและเปรี้ยวฉ่ำของลิ้นจี่กับกลิ่นหอมเฉพาะตัวของลิ้นจี่นำไปย่างสร้างความพิเศษให้แซนด์วิชหมั่นโถว ไม่ค่อยเจอที่ไหนพรีเซนต์ย่างถ่านกับผลไม้นะครับ หน้าแซนด์วิชของ qraft. ทั้งเยอะและซับซ้อน การกินหนึ่งคำจึงอร่อยแบบมีรสที่เยอะแยะไปหมด

จานที่เรียบง่ายแต่อร่อยก็มีเช่นกันครับ เป็นจาน ‘A5 Wagyu Kurosando’ แค่เนื้อวากิวย่างถ่านกับครัวซองต์สูตรของร้าน ปรุงแค่ชิโสะกับเพิ่มวาซาบินิด แต่อร่อยมากครับ โดยเฉพาะกลิ่นและรสเนื้อที่ผ่านการย่างถ่านมาแล้ว

ยังมี ‘qraft Omu Fried Rice’ ข้าวผัดกับเคตชัป หอมเนยฟุ้ง โปะหน้าด้วยไข่ข้นนุ่ม ๆ สาหร่ายเกาหลี และชีส โปะด้วยไส้กรอกอะราบิกิกรอบ ๆ

‘Snowfish Congee’ หรือโจ๊กชามใหญ่ ตุ๋นจากข้าวญี่ปุ่นจนข้น ได้รสของหอยเต็ม ๆ แบบโจ๊กสไตล์ฮ่องกง โจ๊กมีท็อปปิ้งหลายแบบ ทั้งเนื้อวากิว กุ้ง ไก่ หมู หรือปลาหิมะย่างที่ผมอยากแนะนำ มีก้านวาซาบิดองและสาหร่ายปรุงรสเป็นท็อปปิ้ง ได้รสหอยในข้าวต้มเนื้อเนียนและกลิ่นปลาย่างหนังกรอบเนื้อฉ่ำ จะเพิ่มท็อปปิ้งเป็น Youtiao หรือปลาท่องโก๋ทอด ไข่ออนเซน ไข่เค็ม หรือไข่เยี่ยวม้า ก็ได้ตามใจชอบ 

กลิ่นหลักของอาหารหลายจานที่น่าจะสังเกตได้คือกลิ่นย่างถ่าน จะอยู่อย่างละนิดอย่างละหน่อยในเกือบทุกจาน เป็นกลิ่นที่เราคุ้นเคยและเป็นวิธีการปรุงแบบพื้นฐานที่สุดด้วย 

และกลิ่นย่างเป็นกลิ่นสำคัญในอาหารของช่วงของอิซากะยะมื้อเย็นด้วย

ช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก อาหารจะเปลี่ยนจากเมนูบรันช์เป็นเมนูอิซากะยะทันที เราเริ่มจากสั่งเบียร์ไร้แอลกอฮอล์มาจิบดูพระอาทิตย์ตกก่อนได้ เบียร์ของร้านนี้เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมพิเศษเข้าไปด้วย มีทั้งไซรัปบ๊วย น้ำผึ้งป่า หรือแบบที่ผสมมัทฉะ สร้างความสดชื่นและผ่อนคลายได้ดีมาก

ส่วนเมนูในช่วงเย็นเป็นของย่างต่าง ๆ ด้วยถ่านบินโจตัน ทั้งผักอย่างกระเจี๊ยบหรือเห็ดพอร์ตตาเบลโลย่างโรยด้วยชีส และเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ย่าง หนังไก่ย่าง เครื่องในไก่ย่าง และมีกับแกล้มอย่างรากบัวทอดแผ่นบาง ไก่คาราเกะ หรือจะกินข้าวหน้ามันกุ้งกับกุ้งรวนถ่านหอม ๆ และอีกหลายเมนู 

ในระหว่างวันตั้งแต่เช้าจนดึก qraft. มีขนมและเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟตลอด ทั้งพาร์เฟต์ผลไม้ Doramochi หรือโดรายากิที่มีชั้นของโมจิและไส้ต่าง ๆ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม Tosuto หรือขนมปังโทสต์หน้าต่าง ๆ รวมถึงขนมที่อยู่ในร้าน qraft. สาขาแรกอยู่แล้ว เมนูที่เราอยากแนะนำคือ ‘Forest Honey Mantoast’ เป็นโทสต์แป้งหมั่นโถวย่างกับผลไม้หลายชนิด และไอศกรีมเสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งป่า 3 ชนิด คือน้ำผึ้งหลวง น้ำผึ้งป่า น้ำและผึ้งชันโรงจากหมู่บ้านหินลาดใน แนะนำให้กินขนมกับเครื่องดื่มโดยเฉพาะชาจีน 

แต่ละเมนูจะแนะนำให้จับคู่กับตัวเลือกชาจีนที่คัดมาแนะนำว่าเข้ากันกับแต่ละเมนูแล้ว เปิดใจลองดื่มชาร้อนกับอาหาร เพราะอย่างแรกมันดีกับระบบทางเดินอาหารของเรา ดื่มชาร้อนแล้วสบายท้อง และรสของชาบางรสหาไม่ได้ในชาเย็น มีเฉพาะในชาร้อนเท่านั้น 

และอย่างที่ทราบ qraft. คือทีมเดียวกับ Peace ที่เชี่ยวชาญเรื่องชามาก อาหารแต่ละจานถูกทดลองจับคู่กับชาแบบต่าง ๆ มาให้แล้ว รสของชามีผลกับอาหารที่กินเข้าไป เช่น ชาบางชนิดมีรสคาราเมล เมื่อเจอกับผลไม้จะเกิดรสอีกแบบหนึ่ง หรือชาจะช่วยล้างลิ้นให้รับรสใหม่ในคำถัดไปให้อร่อยยิ่งขึ้น หลักการคล้ายการดื่มไวน์คู่กับอาหาร 

ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เปิดใจลองชิมชาร้อนที่แนะนำมาให้จับคู่กับอาหารแต่ละจานเลยครับ