วันที่ 30 มีนาคมที่กำลังจะมาถึง ปฐมบทของ ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ กำลังเริ่มต้น

ศูนย์การค้าแห่งใหม่ประจำจังหวัดนครปฐม ถือเป็นแลนด์มาร์กใหม่ประจำเมือง ด้วยพื้นที่กว่า 133,000 ตารางเมตร มี Urban Park ถึง 4 ไร่ พื้นที่กิจกรรมรองรับสำหรับทุกเพศทุกวัย แถมยังมีพื้นที่ Pet-friendly สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ในแง่ของการออกแบบพื้นที่ เซ็นทรัล นครปฐม พร้อมแล้วที่จะเป็นหมุดหมายใหม่สำหรับคนท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียง

ไม่ว่าทำโครงการไหน เซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ท้องถิ่นเสมอ อยากถ่ายทอดวัฒนธรรมของย่านที่ศูนย์การค้าไปเปิด นำเสนอด้วยรูปแบบที่น่าสนใจ 

นั่นเป็นที่มาของการร่วมมือกับศิลปินไทยเพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมผ่านงานศิลปะร่วมสมัย สำหรับนครปฐม ศิลปินที่เซ็นทรัลพัฒนาเลือกคือ นักรบ มูลมานัส ศิลปินคอลลาจชื่อดังแห่งยุค

ถ้าไล่เรียงดูการสื่อสารของเซ็นทรัล นครปฐม ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เราจะเห็นผลงานการผสมผสานระหว่างร่องรอยแห่งอดีตกับความร่วมสมัยบนผืนภาพ เกิดเป็นภาพคอลลาจที่เล่าความเป็นนครปฐมได้อย่างกลมกลืน อุดมไปด้วยเรื่องราว เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา บ่งบอกถึงสิ่งที่ศูนย์การค้าแห่งนี้อยากสื่อสารได้เป็นอย่างดี

นี่คือเหตุผลที่พาเรามาสนทนากับนักรบ ว่าด้วยเรื่องราวเบื้องหลังงานออกแบบชิ้นล่าสุดนี้ รวมถึงมุมมองส่วนตัวของศิลปินเองว่ามีความทรงจำผูกพันอย่างไรกับจังหวัดนครปฐมบ้าง และดินแดนแห่งศิลปวัฒนธรรมแห่งนี้ส่งผลต่องานออกแบบของนักรบอย่างไร

นี่คือปฐมบทแห่งภาพของ เซ็นทรัล นครปฐม อันมี นักรบ มูลมานัส เป็นผู้นำอดีตมาแต่งแต้มปัจจุบันและเติมแต่งอนาคต

นครปฐมไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับนักรบ มูลมานัส เพราะเมื่อครั้งยังเด็ก ครอบครัวเขาเลือกนครปฐมเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดเป็นประจำ 

เพราะอยู่ใกล้บ้านเกิดของนักรบอย่างกรุงเทพฯ ก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกเหตุผลคือศิลปวัฒนธรรมอันหลากหลายของนครปฐมนั่นเองที่ทำให้จังหวัดนี้มักถูกเลือกเป็นที่หมาย การมาเยือนนครปฐมของนักรบได้มีอิทธิพลต่อตัวตนทางศิลปะของเขาไม่น้อย

“สมัยเด็กเรามานครปฐมกับที่บ้านบ่อยมาก โดยเฉพาะพระปฐมเจดีย์และพระราชวังสนามจันทร์ที่ต้องแวะทุกครั้ง พอมาย้อนคิดดู การที่ตัวเองได้ใกล้ชิดโบราณสถานและสัมผัสความรุ่มรวยทางด้านศิลปวัฒนธรรมตั้งแต่เด็ก ส่วนหนึ่งคงกลายเป็นรากฐานให้เราเติบโตมาแล้วชอบศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับโบราณสถานหรือโบราณคดี และความชอบตรงนี้ก็เป็นส่วนสำคัญในแนวทางการผลิตผลงานของเรา” นักรบเล่า

เมื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกับเซ็นทรัล นครปฐม นักรบจึงมองประสบการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องพิเศษ แต่ในขณะเดียวกัน ประสบการณ์ส่วนตัวอย่างเดียวคงไม่พอ เขาจึงเริ่มผลิตงานชิ้นนี้ด้วยการศึกษาเพิ่มเติมว่าอะไรคือความเป็นนครปฐม และอะไรคือความเหมาะสมที่งานชิ้นนี้ควรไปถึง

“เรามองเป็นโจทย์ที่ท้าทายครับ ในการหาจุดลงตัวให้กับชิ้นงานที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะด้วยความที่งานศิลปะที่เราถนัดคือการบอกเล่าเรื่องประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่อีกมุมหนึ่ง เซ็นทรัล นครปฐม ก็เป็นศูนย์การค้าที่อุดมไปด้วยไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย การหาสมดุลระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตในสมการนี้เลยเป็นคำถามที่เราต้องหาคำตอบให้ได้

“จุดนี้ต้องขอบคุณทีมเซ็นทรัลพัฒนาและ be>our>friend มาก ที่ได้ร่วมกันค้นคว้าข้อมูลจนเจอว่านครปฐมมีองค์ประกอบดีงามมากมายที่น่าสนใจสำหรับการมาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบ จนเกิดเป็นการต่อยอดปรับใช้ได้ออกมาเป็น Key Visual และงานภาพของเซ็นทรัล นครปฐม อย่างที่เห็นกัน”

ถ้าลองดูจากผลงานที่แล้วเสร็จ นอกจากความสวยงาม ภาพของนักรบยังเต็มไปด้วยความหมาย

ไม่ว่าจะเป็นผลงานคอลลาจ Key Visual ทั้ง 2 ชิ้นที่เมื่อแรกเห็นก็ทำเอาสะดุดตา กับการผสมผสานระหว่างความเป็นนครปฐมและความเป็นไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

ภาพนำเสนอปฐมบทด้านต่าง ๆ ของเซ็นทรัล นครปฐม ไล่เรียงตั้งแต่ Park & Leisure, Dining, Fashion และ Education ทั้ง 4 ภาพล้วนแสดงถึงเอกลักษณ์ และนำเสนอความเป็น ‘อดีต ปัจจุบัน และอนาคต’ ที่สอดประสานกัน เห็นแล้วรู้สึกมีชีวิตชีวา พร้อมกับรับรู้ได้ว่าสถานที่แห่งนี้ต้องเต็มไปด้วยเรื่องราวและรอยทางที่น่าสนใจเป็นแน่

ถ้าเพ่งมององค์ประกอบเล็ก ๆ ในแต่ละภาพ นักรบเล่าให้ฟังว่าทุกอย่างล้วนมีความหมาย และผ่านการศึกษามาแล้วว่าเล่าความเป็นนครปฐมออกมาได้ 

“คำขวัญประจำจังหวัดนครปฐมคือ ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวงาม ข้าวหลามหวานมัน สนามจันทร์งามล้น พุทธมณฑลคู่ธานี พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า สวยงามตาแม่น้ำท่าจีน โดยถ้าลองสังเกตรายละเอียดของภาพ จะเห็นว่าเราใส่องค์ประกอบในแต่ละภาพด้วยแทบทั้งหมดของคำขวัญนี้เลย

“อย่างเช่นส้มโอที่อยู่ในทุกชิ้นงาน ข้าวสารที่เราใช้ภาพรวงข้าว ภาพข้าวหลามที่เป็นของดีประจำจังหวัด ไปจนถึงแลนด์มาร์กที่ขาดไม่ได้อย่างพระปฐมเจดีย์ที่เคียงคู่กับพระราชวังสนามจันทร์ เหล่านี้ล้วนสื่อสารถึงภาพจำที่ผู้คนมีต่อจังหวัดนครปฐมมาอย่างยาวนาน

“หรือลงลึกไปกว่านั้น ถ้าลองได้ศึกษาข้อมูลทางศิลปวัฒนธรรมประจำจังหวัด จะค้นพบว่าจังหวัดนครปฐมสัมพันธ์กับอาณาจักรเก่าแก่อย่างอาณาจักรทวารวดีอย่างมาก หลักฐานที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองในช่วงเวลานั้นมีในหลายพื้นที่ ดังนั้นเรา ทีมเซ็นทรัล และ be>our>friend จึงเห็นตรงกันว่าน่าใส่ส่วนนี้ลงไปในงานด้วย

“แต่นั่นก็ตามมาด้วยความยาก เพราะศิลปะของทวารวดีส่วนใหญ่ที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันมักเป็นสถานที่และวัตถุ เราเลยต้องพยายามศึกษาและตีความเพิ่มเติมออกมาให้ได้ เพื่อให้เจอวัตถุดิบที่นำมาประกอบชิ้นงานได้ จนสุดท้ายก็พบว่าสถาปัตยกรรมของทวารวดีมักมีลายต้นทางมาจาก ‘ดอกบัว’ ทั้งนั้น นั่นเองจึงเป็นเหตุผลให้ผลงานของเราที่ออกมามีดอกบัวเป็นส่วนประกอบของภาพด้วย”

นักรบยังเล่าลงลึกไปในอีกหลายละเอียดปลีกย่อย เช่น การที่ดอกไม้ในภาพใช้ดอกแก้ว ดอกไม้ประจำจังหวัด และดอกกล้วยไม้ ดอกไม้ในพื้นที่ซึ่งมีปลูกอยู่จำนวนมาก หรือการที่จังหวัดนครปฐมอุดมไปด้วยมหาวิทยาลัย เลยเป็นความตั้งใจของนักรบเช่นกันที่อยากใส่จิตวิญญาณของคนรุ่นใหม่ให้ผสมอยู่ในภาพ เพื่อให้กลิ่นอายที่ออกมานั้นสัมพันธ์กับส่วนหนึ่งของจังหวัดนครปฐมด้วย

“ถึงจะเริ่มต้นด้วยประสบการณ์ส่วนตัว แต่สุดท้ายการทำงานศิลปะเพื่อสื่อสาร เราว่ามันต้องย้อนกลับไปมองประสบการณ์ส่วนรวมอยู่ดี” นักรบเล่า

“นั่นเป็นเหตุผลให้การเลือกภาพจำของผู้คนที่มีต่อนครปฐมคือเรื่องสำคัญ เพราะนี่คือความทรงจำส่วนรวมที่ทุกคนสัมผัสร่วมกันได้ รู้สึกร่วมกันได้ ว่าความเป็นนครปฐมนั้นอุดมไปด้วยเรื่องราวมากแค่ไหน และเรื่องราวที่ว่านี้ก็มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในเซ็นทรัล นครปฐม นั่นเอง”

โดยนอกจากผลงานของนักรบที่ผ่านการขบคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว เซ็นทรัล นครปฐม ยังมีการทำงานอีกหลายด้านที่เน้นย้ำถึงสิ่งเดียวกันกับที่นักรบเล่าให้เราฟังด้วย

ตัวอย่างเช่น ในเชิงสถาปัตยกรรม อิฐที่นำมาตกแต่งศูนย์การค้าก็นำมาจากแหล่งเดียวกันกับที่ใช้สร้างโบราณสถานอย่างพระปฐมเจดีย์ หรืออย่างการเลือกใช้โทนสีหลักประจำศูนย์การค้า ผู้ออกแบบก็เลือกเป็นโทนสีเดียวกับสีประจำจังหวัด เพื่อให้องค์รวมสื่อถึงความเป็นนครปฐมให้ได้มากที่สุด

ปีที่แล้วทีมเซ็นทรัลจัดกิจกรรมให้นักเรียนและนักศึกษาผู้สนใจในงานศิลปะร่วมออกแบบภาพจิตรกรรมร่วมสมัย เพื่อนำไปจัดแสดงที่เซ็นทรัล นครปฐม ภายใต้คอนเซปต์ Art Story ว่าด้วยการเชิดชูประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ของเมืองนครปฐม ผ่านการนำเสนอในรูปแบบร่วมสมัย คอยบอกเล่าให้กับผู้พบเห็นว่านครปฐมในสายตาของคนในพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร

“ในมุมมองเรา ยุคปัจจุบันคือยุคที่มนุษย์กำลังอาศัยอยู่ในโลกร่วมสมัย ไม่ใช่โลกเก่าหรือโลกใหม่แค่เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว” เมื่อถามถึงความเห็นในภาพรวมของงานภาพเซ็นทรัล นครปฐม นักรบเริ่มต้นเล่าให้เราฟัง

“ลองมองไปรอบตัว เราจะเห็นการผสมผสานกันระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตจนแทบจะเป็นเนื้อเดียว กล่าวคือสิ่งที่เราเห็นล้วนแล้วแต่มีรากเหง้าที่ยึดโยงอยู่กับรอยทางในอดีต แต่ในขณะเดียวกันมันก็คงอยู่ในปัจจุบัน และกำลังดำเนินไปสู่อนาคต 

“ดังนั้นแล้วในแง่ภาพของเซ็นทรัล นครปฐม เราจึงมองว่าการ ‘ทับซ้อน’ ของยุคสมัยเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ การนำสิ่งที่อยู่ในบริบทเก่ามาทำให้ร่วมสมัยให้อยู่ในบริบทใหม่เป็นเรื่องที่ท้าทาย ยิ่งผสมเข้ากับการมีส่วนร่วมกับคนในพื้นที่ด้วยแล้ว ทั้งหมดนี้ยิ่งเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อทุกอย่างประกอบกัน เราจะได้พบว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่ขัดเขินเลย”

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่เซ็นทรัล นครปฐม กำลังจะเปิดตัว เชื่อว่าทุกคนที่ได้ไปน่าจะได้สัมผัสถึงหลักฐานทั้งหมดที่นักรบเล่าให้เราฟังในวันนี้เป็นแน่

แต่นั่นเองทำพาให้เราสงสัยในประเด็นสุดท้ายว่าในฐานะศิลปินที่ทำงานศิลปะร่วมสมัย นักรบเองคิดเห็นอย่างไรกับการที่สถานที่เกิดใหม่สถานที่หนึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องราวในอดีตของแต่ละพื้นที่ และอะไรคือประโยชน์ในระยะยาวของความพยายามทั้งหมด

นักรบครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตอบด้วยแววตาเชื่อมั่น

“น่าจะเป็นคำว่า ‘ยังอยู่’ ครับ และเราว่าไม่ใช่แค่การเกิดขึ้นของสถานที่ใหม่หรอก แต่ไม่ว่าจะทำอะไรใหม่ในพื้นที่ การนำเรื่องราวที่มีคุณค่าของสถานที่นั้น ๆ มาผสมผสาน นั่นจะทำให้รอยทางในอดีต ‘ยังคงอยู่’ และไม่ถูกหลงลืม

“อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่นี้ยังกลมกลืนเข้ากับชุมชนและสังคมในบริเวณโดยรอบได้ เนื่องจากไม่ทอดทิ้งรากเหง้าแม้ตัวมันจะมีความเป็นปัจจุบันหรืออนาคตแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นในมุมมองของเรา สุดท้ายแนวคิดนี้อาจเป็น ‘ทางออก’ ให้กับคำถามที่ใหญ่กว่าก็ได้นะ

“ว่าท่ามกลางโลกปัจจุบันที่สิ่งใหม่เกิดขึ้นทุกวัน เราจะทำอย่างไรให้คุณค่าของท้องถิ่นเดิมยังคงได้รับการรักษาไว้ 

“การนำมาต่อยอดอาจเป็นคำตอบ”

Writer

ฆฤณ ถนอมกิตติ

ฆฤณ ถนอมกิตติ

ชื่อฆฤณ อ่านว่า ‘คลิน’ พยางค์เดียว