หากใครตามซื้อตามหานานาของใช้ออร์แกนิกอย่างในบทความ ขออย่ายอมแพ้ กันมาแล้ว คราวนี้ขอขยับมาว่าด้วยเรื่องใกล้ตัว ใกล้ปาก และใกล้กระเพาะอย่างเรื่องของกินกันดูบ้าง
ช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา หลายท่านคงได้ฝึกปรือฝีมือการทำอาหารคาวหวานกันอยู่ไม่ขาด หนุ่มสาวชาวออฟฟิศพากันผันตัวมาเป็นเชฟมือใหม่ เสาะหาแหล่งวัตถุดิบชั้นดีและวิธีปรุงอาหารฉบับเข้าใจง่าย มารังสรรค์เมนูให้ได้อวดโฉมกันอยู่ไม่เว้นวัน และเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อได้เข้าใกล้ก้นครัวมากขึ้น เราจึงได้เข้าถึงความพิถีพิถันในการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพอย่างลึกซึ้งตามไปด้วย สารพันของสด ของแห้ง เครื่องปรุง ข้าวหุง และผักปลอดสารพิษอีกนับไม่ถ้วน ที่เราหยิบยืมมาจากร้านนั้นบ้าง ร้านนี้บ้าง ต่างชูรสชาติและคุณค่าในจานอาหารได้อย่างกลมกล่อมลงตัว เราจึงไม่รอช้า เตรียมลิสต์รายชื่อร้านค้าที่จัดจำหน่ายอาหารอินทรีย์ ทั้งแบบของสด ของแห้ง และของสุก มาให้เหล่าพ่อบ้านแม่บ้านได้เลือกช้อปกันอย่างอร่อยปาก แถมยังไม่ลำบากสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
พร้อมแล้วก็เตรียมคิดเมนู จดรายการสินค้า คว้าตะกร้า แล้วไปแวะเวียนอุดหนุนสารพันสินค้าจากร้านค้าอินทรีย์ที่ทั้งดีต่อเราและดีต่อโลกกันได้เลย!
01
บ้านสุขภาพพุทธิญา
ที่ตั้ง : ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (แผนที่)
Facebook : บ้านสุขภาพพุทธิญา : ดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด
โทรศัพท์ : 06 3195 9782
จุดเริ่มต้นของบ้านสุขภาพพุทธิญา เกิดจากความรักและศรัทธาในพุทธศาสนาของ จิ๊บ-สุกัญญา บุญเลิศรพ สู่ความมุ่งหวังที่อยากทำสัมมาชีพอันเป็นประโยชน์ เกิดโทษต่อผู้อื่นน้อยที่สุด เมื่อมีพื้นความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาหารและธรรมชาติบำบัดอีกหลายแขนง ประจวบเหมาะเมื่อน้องชายอย่าง เชฟฮ้ง-พุฒิพงศ์ เตชมานะชัย ผู้ศึกษาทางด้านอาหารและสนใจในธรรมชาติบำบัดเช่นกันแบบพอดิบพอดี จึงสัมฤทธิ์ผลกลายเป็นร้านอาหารอินทรีย์สไตล์ Chef’s Table คัดสรรวัตถุดิบก้นหม้อจากเครือข่ายพันธมิตรเกษตรกรที่ไม่ใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต พ่วงมาด้วยการจำหน่ายทั้งอาหารสุกและสด เครื่องดื่ม ขนม เค้กสุขภาพ สมุนไพร ผัก ผลไม้ และของใช้เพื่อสุขภาพอีกนานาชนิด
ใครจะเชื่อว่าอาหารสามารถทำหน้าที่แทนหมอและยารักษาได้ชะงัด เชฟฮ้งและจิ๊บเลือกทำอาหารและขายสินค้าจากวัตถุดิบอินทรีย์ เพื่อส่งต่อพลังบริสุทธิ์จากธรรมชาติให้แก่ร่างกายอย่างละเมียดละไม ความพิถีพิถันของที่นี่ คือการคัดสรรวัตถุดิบอินทรีย์ตามฤดูกาล ปรุงอาหารโดยปราศจากเครื่องปรุงอุตสาหกรรม และเสริมให้ร่างกายได้รับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ กินที่กายแต่ได้ตื่นรู้ที่ใจ ไม่ต้องชิมก็รู้ว่าคุณภาพคับราคาขนาดไหน
สายบุญยังถูกใจ เพราะบ้านสุขภาพุทธิญาปันรายได้จากทุกออเดอร์ เก็บเล็กผสมน้อยรวบรวมไว้ในกองทุนปันบุญพุทธิญา นำไปจัดกิจกรรมการกุศลและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ เพื่อมอบพลังกายพลังใจคืนสู่กลุ่มลูกค้าและบรรดาชุมชนที่คอยสนับสนุน ชี้ชวนให้เรามองเห็นคุณค่าของผู้อื่นและสร้างสังคมแห่งการตื่นรู้ ที่เปลี่ยนแปลงทั้งทางกายและใจอย่างเป็นรูปธรรม
บรรดาของกินของใช้จากบ้านพุทธิญา นอกจากทำหน้าที่เป็นยาชูกำลัง (ใจ) ให้แก่เหล่าลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย พุทธิญายังตั้งตนเป็นบ้านหลังน้อยๆ ที่คอยแบ่งปันเคล็ดลับการดูแลสุขภาพในวิถีอินทรีย์อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง เชฟฮ้งและจิ๊บทิ้งท้ายไว้ว่า ความสุขประการสำคัญหลังชายคาเรือน คือความอิ่มเอมใจที่ได้ขอบคุณตอบแทนธรรมชาติ ด้วยการนำคุณค่าของธรรมชาติส่งต่อให้ผู้คน ผ่านอาหารทุกจานให้ทานอย่างรู้คุณค่าและรู้ที่มาอย่างเข้าใจ ที่สำคัญ ยังสุขใจที่ได้ช่วยสนับสนุนเหล่าเกษตรกรอินทรีย์ ให้มีพลังใจในการสร้างอาหารปลอดภัยต่อไปอีกนานๆ
ใครสนใจอุดหนุนนานาอาหารสินค้า ช่วยเพิ่มกำลังวังชาให้ทั้งพลังกายและพลังใจ จะสั่งแบบเดลิเวอรี่หรือมาทานที่ร้านก็ได้ทั้งสิ้น พุทธิญายินดีเปิดบ้านต้อนรับและปรุงรสให้แบบจานต่อจาน แอบกระซิบบอกว่า ต้องจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนเท่านั้น เพราะทั้งเชฟฮ้งและจิ๊บอยากทำความรู้จักลูกค้าทุกท่านที่จะแวะเวียนมาใช้บริการเสียก่อน เพื่อจะได้จัดเมนูขึ้นโต๊ะได้อย่างตรงกายและตรงใจลูกค้าทุกคนมากยิ่งขึ้น
02
The Living Gift
Facebook : The Living GIFT ส่งต่อพลังชีวิต ของขวัญจากธรรมชาติ
ด้วยวิถีชีวิตและการทำงานที่คุ้นเคยคลุกคลีอยู่ในวิถีออร์แกนิกมาเป็นเวลานาน จิ๊ก-สุณัฐลินี สินพรม จึงผันตัวจากผู้บริโภคสู่ผู้ผลิต และล่าสุดในการเป็นผู้จัดจำหน่ายอาหารและสินค้าอินทรีย์ ผ่านแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ขนาดย่อมทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ The Living Gift มาตั้งแต่ พ.ศ. 2562
จากสถานการณ์โรคระบาดในระลอกแรก ตลาดและห้างสรรพสินค้าขอโบกมือลาปิดทำการชั่วคราว การเสาะหาของสดของแห้งมาเข้าครัวแต่ละทีกลายเป็นเรื่องลำบากเอาการ จิ๊กจึงมีไอเดียก่อตั้งเพจเพื่อเป็นพื้นที่ส่งมอบผลผลิตทางการเกษตรอินทรีย์ สินค้าไบโอไดนามิก รวมถึงของใช้ที่ไม่ทำลายสุขภาพมาให้เหล่าแฟนเพจได้อุดหนุน เอื้ออำนวยให้ผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งอาหารที่ดีและดูแลสุขภาพได้ แม้ในสถานการณ์ที่ขยับเขยื้อนกายไปไหนมาไหนไม่ได้มากนัก
หมวดหมู่สินค้ามีตั้งแต่ผักสด ผลไม้ เครื่องปรุง เครื่องดื่ม และอาหารแปรรูปต่างๆ เน้นหนักไปทางวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ปลูกง่ายขึ้นง่ายในบ้านเรา อย่างผักสวนครัวจำพวกพริกขี้หนูสวน พริกไทยอ่อน บวบ แตงกวา ไปจนถึงพริกแกงออร์แกนิก น้ำพริกข่า และห่อหมกฉบับโฮมเมดน่าลอง
เรื่องแปลกแต่น่ารักมากของ The Living Gift คือการวัดค่าพลังชีวิตตามศาสตร์สุขภาพทางเลือก หรือ Life Energy Test ที่ซ่อนอยู่ในสินค้าทุกชิ้นก่อนนำมาวางขาย พูดแล้วจะหาว่าคุย แม้จะน่าทึ่งจนไม่น่าเชื่อ แต่ผัก ผลไม้ ของที่นี่ สด อร่อย เก็บได้นาน และนำไปปลูกต่อได้ เพราะมีพลังชีวิตล้นเหลือจริงๆ แม้รายการสินค้าจะค่อนข้างจำกัด เนื่องจากต้องผ่านการคัดเฟ้นอย่างพิถีพิถัน แต่ผลประโยชน์ที่ตกสู่เหล่าลูกค้าภายในเพจ คือสัมผัสและรสชาติเนื้อแท้จากธรรมชาติที่ดีต่อพลังชีวิตของผู้บริโภคอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้บริโภค และสร้างที่ทางในวิถีอินทรีย์สายนี้อย่างยั่งยืนเสมอมา
เป้าหมายปลายทางของ The Living Gift คือการปันรายได้จากการซื้อขายภายในเพจ สมทบทุนมอบให้ผู้เปราะบางทางสังคม และจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่อไปในอนาคต ลูกค้าอย่างเราๆ สั่งสินค้าแบบพรีออเดอร์ได้ที่หน้าเพจ และเดินทางไปรับสินค้าได้ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรในเมือง บ้านเจ้าชายผัก (แผนที่) ในทุกๆ วันอังคาร หรือจะเรียกใช้บริการเดลิเวอรี่ก็ตามสะดวก ตลาดออนไลน์แห่งนี้เขาเปิดรับออเดอร์กันทุกวัน แถมวันละหลายรอบ ไม่ต้องกลัวพลาด แต่ถ้าช้าหมด ก็อดแล้วอดเลยเหมือนกัน
03
Poonsuk Planet
เว็บไซต์ : ตลาดพูนสุข
Facebook : Poonsuk Planet
Poonsuk Planet ถือกำเนิดขึ้นโดยการนำทีมของ กบ-อนันตา อินทรอักษร และกลุ่มอาสาสมัครชุมชนพูนสุข จับมือร่วมกับโครงการ JaiTalad Farm & Folk Market พร้อมได้แรงหนุนจากสวน g Garden พระราม 9 และมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ ชักชวนบรรดาชุมชนผู้ปลูก ผู้ผลิต และเหล่าผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในช่วง พ.ศ. 2563 ให้นำผลผลิตมาร่วมกันจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้หมุนเวียนกันในกลุ่ม
นอกจากจะได้สินค้าคุณภาพคับกล่อง จากผู้ผลิตที่ตั้งใจปลูกและตั้งใจทำในทุกกระบวนการ ชุมชนพูนสุขยังจัดหาร้านค้าออร์แกนิกมาอย่างครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ตอบโจทย์ผู้ซื้อในทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ปลอดสารพิษสารพันเครื่องดื่มและอาหารปรุงสุกพร้อมทาน ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่และขนมเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงตลาดต้นไม้ สกินแคร์ปรนนิบัติผิวพรรณ และอโรมาเทอราปีสบายอารมณ์
ทั้งหมดนี้ซื้อง่ายขายคล่องผ่านทางหน้าเพจ Poonsuk Planet จากนั้นจึงขยับขยายกลายเป็นกิจกรรม Farm Sharing Pick up จัดหารายการสินค้าจากกลุ่มเกษตรกรและผู้ผลิตต้นตอตัวจริง เพื่อให้เหล่าลูกค้าได้เลือกหยิบสินค้าลงตะกร้ากันก่อนล่วงหน้า จากนั้นร้านค้าจะแพ็กใส่กล่องให้เสร็จสรรพ ติดป้ายชื่อน่ารัก และให้ลูกค้าเข้ามารับกล่องสินค้าได้ด้วยตัวเองที่ Bluedoor Creative Space (ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์) หรือใครจะใช้บริการไรเดอร์ให้เข้ามารับสินค้าแทนก็ตามสะดวก กระซิบบอกไว้ก่อนว่า ที่นี่เขาเปิดประตูบ้านตามวันเวลาที่นัดหมาย ฉะนั้นอย่ารอช้า เช็กปฏิทินและระยะเวลาจัดงานที่ Poonsuk Planet กันเลย
กบและทีมงานหลังบ้านตอบได้อย่างไม่ลังเลว่า กำไรของชุมชนพูนสุขคือการได้ส่งมอบอาหารที่ดีสู่มือผู้บริโภค ซึ่งนอกจากช่วยให้ลูกค้าได้เข้าถึงแหล่งอาหารปลอดภัยและรสชาติอร่อยแล้ว ยังทำให้ทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้ปลูก ผู้ปรุง และผู้ประกอบการตัวเล็กๆ มีรายได้หมุนเวียน เกิดการดูแลสิ่งแวดล้อมที่เกื้อกูลกันในชุมชน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทุกคนอิ่มใจและอิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า
อีกหนึ่งความประทับใจในชุมชนพูนสุขที่เราฟังแล้วก็ยิ้มตามจนแก้มปริ คือบางเจ้าซื้อขายสินค้าแบบข้าวแลกปลา แลกเปลี่ยนทรัพยากรที่ดีและที่มีจากแต่ละชายคาอย่างแสนสนุก แม้จะเป็นเพียงก้าวย่างเล็กๆ แต่ก็ช่วยเสกสร้างรอยยิ้มและกำลังใจ ให้ปรากฏภายใต้หน้ากากในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างอบอุ่น
04
Farm To You ส่ง ฟาร์ม สด
ที่ตั้ง : 59/70 บ้านกลางเมือง ซอยนาคนิวาส 4 กรุงเทพฯ (แผนที่)
Facebook : Farm To You ส่ง ฟาร์ม สด
โทรศัพท์ : 08 1626 6010
Line Official Account : @farmtoyou
พ่อกุ๊ก-ชุมพล และ แม่เป้-วรรณี พิพัฒน์เมฆินทร์ สองสามีภรรยาผู้ปะติดปะต่อไอเดียเล็กๆ อย่าง Farm To School จากจุดเริ่มต้นที่อยากเห็นเด็กๆ ได้ทานอาหารที่ดีมีคุณภาพในโรงเรียน สู่การป้อนนานาพืชผักและผลผลิตออร์แกนิกสู่ครัวโรงเรียนในกรุงเทพฯ และเคลื่อนย้ายขยายร่างมาเป็นธุรกิจเพื่อสังคมอย่างร้าน Farm To You ส่ง ฟาร์ม สด ส่งตรงวัตถุดิบอินทรีย์ปลอดสารพิษ สู่ครอบครัวชุมชนเมืองที่ใส่ใจสุขภาพ
หมวดหมู่สินค้าที่มีไว้ให้เลือกจับจ่ายในร้าน Farm To You ครบเครื่องเกินคาด และเหมาะกับพ่อบ้านแม่บ้านหัดเข้าครัวเป็นอย่างยิ่ง ไล่ไปตั้งแต่หมู เห็ด เป็ด ไก่ ไข่ อาหารทะเล ผัก ผลไม้ อาหารแห้ง และเหล่าเครื่องปรุงรสที่มาจากแหล่งผลิตไว้ใจได้ แถมผลผลิตทั้งหมดที่พ่อกุ๊กและแม่เป้รับเข้ามาวางขายในร้าน ล้วนอุดหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตตามวิถีเกษตรอินทรีย์ปลอดภัยภายในประเทศไทยทั้งสิ้น โดยพ่อกุ๊กและแม่เป้จะพากันไป Farm Visit ในพื้นที่ที่เกษตรกรลงมือทำงานกันจริงๆ ส่งมอบผลผลิตกันถึงในไร่ พร้อมรับฟังเรื่องราวและส่งต่อความตั้งใจเหล่านั้นจากผู้ปลูกสู่ผู้บริโภคอย่างเข้าถึง
การสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับกลุ่มลูกค้า ในการให้ความสำคัญแก่ที่มาที่ไปและคุณค่าของผลผลิต มากกว่าตัวเลขที่แสดงราคาต่อกิโลกรัมเพียงอย่างเดียว เป็นอุปสรรคบานใหญ่ของสองสามีภรรยา แต่นั่นก็ไม่เกินกำลังที่จะพังทลายลงได้ หลังจากลงมือลงแรงดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 5 ปี ความตั้งใจแรกเริ่มของฟาร์มทูยูก็จับต้องได้และบรรลุผล ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรค่อยๆ เติบโตทีละเล็กละน้อย เหล่าผู้บริโภคก็ได้รับผลผลิตคุณภาพที่ทั้งดีต่อโลกและดีต่อสุขภาพไปด้วยในเวลาเดียวกัน
อีกหนึ่งปลายทางสำคัญที่ได้ริเริ่มขึ้นแล้วของ Farm To You คือการจับมือร่วมกับเครือข่ายสวนผักคนเมือง มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน จัดตั้งเครือข่ายภายใต้ชื่อ City Farm Market สหกรณ์อินทรีย์ยั่งยืนระหว่างกลุ่มผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกทุกภาคส่วนได้เติบโตไปพร้อมกันอย่างเข้าอกเข้าใจ
ร้านค้าขนาดกะทัดรัด อัดแน่นไปด้วยผลผลิตคุณภาพจากฟาร์มออร์แกนิกแห่งนี้ เปิดรับพรีออร์เดอร์สินค้าผ่านทางหน้าเพจ พร้อมมีบริการส่งตรงถึงหน้าบ้าน หรือจะมารับเองที่ร้านก็ได้ทั้งนั้น
05
ตลาดนัดธรรมชาติและรถพุ่มพวงธรรมธุรกิจ
ตลาดนัดธรรมชาติ
วัน-เวลาทำการ : เสาร์-อาทิตย์ 10.00 – 16.00 น.
ที่ตั้ง : ฐานธรรมฯ พระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ (แผนที่)
เว็บไซต์ : www.thamturakit.com/
Facebook : ธรรมธุรกิจ
โทรศัพท์ : 092 489 4159
Line Official Account : @Thamturakit
รถพุ่มพวงธรรมธุรกิจ
Line Official Account : รถธรรมธุรกิจ
หากใครเคยได้ยินชื่อหรือเป็นลูกศิย์ของ อาจารย์ยักษ์-วิวัฒน์ ศัลยกำธร และ อาจารย์โจน จันใด ต้องรู้จักตลาดสินค้าอินทรีย์แห่งนี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย เริ่มจากการจัดอบรมผ่านเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติหรือสวนพันพรรณ จากนั้นจึงเกิดการรวบรวมผลิตทางการเกษตรจากลูกศิษย์ยักษ์กะโจนทั่วประเทศ เพื่อวางขายในราคาสบายกระเป๋า ณ ตลาดนัดธรรมชาติ ทุกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปเดินจ่ายตลาด ก็สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านทางหน้าเพจของธรรมธุรกิจได้สะดวกทันใจ
รายการสินค้ามีมาอัปเดตให้คอยติดตามกันผ่านหน้าเพจอยู่ทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลข้าวหุง ผักผลไม้ปลอดสารตามฤดูกาล อาหารและขนมปรุงสดกันถึงหน้าร้าน ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติแปรรูปนานาชนิด ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างสเปรย์แก้ปวดเมื่อย น้ำยาล้างจาน ยาสีฟัน แชมพู หรือสบู่ถูตัวสูตรออร์แกนิก
ความเก๋ เท่ และไม่ซ้ำของเครือข่ายธรรมธุกิจ คือการอำนวยความสะดวกให้เหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน ได้จับจ่ายเลือกซื้อผักสดอาหารสดกันถึงหน้าบ้าน เพราะเขาเจ้ามีบริการรถพุ่มพวง ยกขบวนสินค้าสดใหม่อย่างข้าว ผัก เนื้อสัตว์ และของแปรรูปคุณภาพชั้นดีจากเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ไปเปิดท้ายขายของถึงหน้าบ้าน ช่วยคลายความคิดถึงการหยิบจับผักสดในตลาดให้เหล่าพ่อบ้านแม่บ้านกันได้บ้าง
ความน่ารักมากของรถพุ่มพวงคือ บริการการขายที่ตามใจผู้ซื้อเอามากๆ จะขอซื้อกำเล็กกำน้อย หรือรับแค่ก้านสองก้าน ที่นี่ก็ขายให้ได้ไม่มีปัญหา หนาว-พิเชษฐ โตนิติวงศ์ เจ้าของไอเดียเสริมว่า แนวคิดเรื่องรถพุ่มพวงผุดปิ๊งขึ้นเมื่อเกิดโรคระบาดใน พ.ศ.2563 เมื่อข้าวของขาดตลาดและผู้คนเข้าถึงแหล่งอาหารได้ยากเกินกว่าจะนิ่งเฉย การปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มการขายกลายเป็นรถพุ่มพวง ตลาดสดเคลื่อนที่ขนาดจิ๋วตามความคุ้นเคยของคนไทย จึงเป็นตัวเลือกที่สดใหม่และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบได้อย่างตรงประเด็น
ที่สำคัญ ทางธรรมธุรกิจยังปันรายได้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์จากโครงการ เพื่อส่งเสริมการศึกษาทางเลือก อย่างศูนย์เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ในการสร้างประโยชน์แก่สังคมและสาธารณชนต่อไป
ผัดสด อาหารสด ที่ขายไม่หมดจากรถพุ่มพวง จะถูกส่งตรงเข้าห้องครัวของร้านอาหารในเครือข่ายที่คนอุ่นหนาฝาคั่งตลอดวันอย่าง ยักษ์กะโจน เมนูของที่นี่เปลี่ยนไปไม่ซ้ำตามฤดูกาล อย่างปลาใบปอราดซอสตามคุย (เลือกได้ว่าจะเป็นซอสกระเทียม ราดพริก หรืออื่นๆ) ซี่โครงหมูอบสมุนไพร ใบเหลียงผัดไข่ ไปจนถึงขนมหวานตระกูลเบเกอรี่ ใครสนใจแวะไปชิมได้ ทั้งที่สาขาสัมมากร ชุมพรคาบาน่า และสาขาบรรทัดทอง (กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้)
06
ร้านปลาออร์แกนิก (เครือข่ายรักษ์ปลา-รักษ์ทะเล)
ที่ตั้ง : 8/27 ซอยวิภาวดี 22 กรุงเทพฯ (แผนที่)
Facebook : เครือข่ายรักษ์ปลา-รักษ์ทะเล
โทรศัพท์ : 09 0004 2401
Line Official Account : @plaorganic
หากมื้อนี้เกิดเปรี้ยวปาก อยากทานอาหารทะเลสดๆ ที่ปลอดภัยและได้คุณภาพเต็มปากเต็มคำ ไม่ต้องไปทะเลที่ไหน เพราะร้านปลาออร์แกนิก เขายกทัพจัดขบวนอาหารทะเลเต็มรูปแบบ แผ่กระบะวางขายกันละลานตาถึงใจกลางกรุง
ร้านปลาออร์แกนิก เกิดจากความร่วมมือของโครงการประมงพื้นบ้าน-สัตว์น้ำอินทรีย์ ดำเนินการโดยมูลนิธิสายใยแผ่นดิน (Earth Net Foundation) เพื่อส่งเสริมให้เกิดตลาดทางเลือกสินค้าอาหารทะเลออร์แกนิก (Organic Fisheries Product) และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งอาหารทะเลสดใหม่ ปลอดภัยจากสารพิษได้ในราคายุติธรรม ส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านต้นทาง ไปสู่ปลายทางผู้บริโภคทั่วประเทศได้อย่างยั่งยืน
และร้านปลาออร์แกนิกยังถือเป็นร้านค้ารายแรกของไทยที่ผลิตอาหารทะเลอินทรีย์ (Organic Seafood) ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) อีกด้วย
ร้านปลาออร์แกนิกจะรับอาหารทะเลอินทรีย์มาจากกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านในเครือข่ายรักษ์ปลา-รักษ์ทะเล ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย รวมไปถึงชายฝั่งทะเลสาบสงขลา ที่นี่เขามีอาหารทะเลจำหน่ายหลายชนิดให้เลือกสรร (ตามฤดูกาล) อาทิ กุ้งแชบ๊วย ปูม้า ปลากะพง ปลาช่อนทะเล ปลาเก๋า ปลาจาระเม็ดดำ ปลาอินทรี ฯลฯ จะขอซื้อแบบทั้งตัว แบบแล่ แบบขูดเกล็ด หรือหั่นแว่น ทางร้านก็แสนใจดี บรรจงทำความสะอาดและจัดแจงให้ได้ตามสั่ง พร้อมจัดจำหน่ายให้ลูกค้าในทุกๆ วันพฤหัสและศุกร์
ท่านใดสนใจอุดหนุน สั่งจองสินค้าล่วงหน้าได้ในแต่ละรอบจำหน่าย จะไปรับเองที่ร้านหรือเรียกใช้บริการเดลิเวอรี่ก็ตามสะดวก (หากพ้นวันศุกร์ไปแล้ว ทางร้านจะแช่แข็งอาหารทะเลเพื่อขายในหน้าร้านต่อไป)
หากลองไปกดติดตามหน้าเพจของร้านปลาออร์แกนิก จะพบว่าที่นี่เขาใช้ช่องทางออนไลน์ในการสื่อสารและให้ความรู้แก่กลุ่มลูกค้าเกี่ยวกับวิถีประมงพื้นบ้าน ระบบนิเวศชายฝั่ง และอาหารทะเลปลอดภัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ ทางร้านยังรับสินค้าอินทรีย์นานาชนิดจากกลุ่มผู้ผลิตในเครือข่ายทั่วประเทศ ทั้งเหนือ กลาง อีสาน ใต้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้งจำพวกกะปิ กุ้งแห้ง หรือผักผลไม้สดๆ จากในไร่ ที่นี่เขาก็มีบริการแบบซื้อครบจบในที่เดียว