ดุสิตธานี และ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น มีความเหมือนกันหลายอย่าง

ทั้งเสน่ห์ที่เรียบง่าย ความสง่างามแบบถ่อมตัว และการออกแบบอย่างพิถีพิถัน 

ไม่แปลกใจเลยที่ ‘ดุสิตธานี’ เลือกเปิดสาขาแรกในญี่ปุ่นที่เมืองเกียวโต แทนที่จะเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจอย่างโตเกียวหรือโอซาก้า

ดุสิตธานีจัดทริปพิเศษ พาสื่อมวลชนไทยไปทำความรู้จักกับโรงแรมใหม่ของพวกเขาเมื่อไม่นานมานี้ เราเดินทางพร้อม คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชันแนล ที่เดินทางด้วยกระเป๋าใบย่อม ๆ ร่วมนั่งในชั้นประหยัดกับสื่อและทีมงานทุกคน แถมยังเป็นหัวหน้าแก๊งชวนสาว ๆ แต่งชุดกิโมโน ทำผม แต่งหน้าสวย ออกไปเที่ยววัด และเลี้ยงไอติมทุกคนด้วย 

เมื่อได้นั่งสนทนากันสั้น ๆ เราเลยได้รู้เหตุผลที่แท้จริงของการเปิดสาขาในเกียวโตของดุสิตธานี พี่แต๋ม เล่าให้ฟังว่าดุสิตธานีในต่างประเทศมักเลือกเปิดในเมืองรอง เพื่อจะได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนั้นจริง ๆ ทั้งการร่วมสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น และสร้างสัมพันธ์กับธุรกิจและผู้อาศัยโดยรอบ 

เรื่องที่เราชอบที่สุดของดุสิตธานี เกียวโต คือการผูกมิตรกับคนขับรถแท็กซี่ในเมือง 

พี่แต๋มเล่าว่าก่อนเปิดให้บริการ ก่อนจะเชิญสื่อมวลชนมาทำข่าว ก่อนจะเชิญแขกคนสำคัญมาเยือน พี่ ๆ คนขับรถแท็กซี่คือแขกกลุ่มแรก ๆ ที่ดุสิตธานีชวนมารับประทานอาหาร เพื่อจะได้ทำความรู้จักกันไว้ เพราะลำพังชื่อดุสิตธานี พวกเขาอาจไม่คุ้น แถมตัวตึกก็กลืนไปกับชุมชน และป้ายชื่อโรงแรมก็เล็กมาก เมื่อได้รู้จักกันแล้ว พวกเขาจะได้ช่วยดูแลและพาแขกของโรงแรมมาส่งโดยสวัสดิภาพ

อีกเรื่องสนุกและน่ารักของพนักงานทั้งคนไทยและญี่ปุ่น คือที่โรงแรมไปเช่าพื้นที่ปลูกผักเอาไว้ที่ OHARA FARMY เมืองโอฮาระ ใกล้ ๆ เกียวโต ซึ่งขึ้นชื่อว่าดินดี ปลูกผักอร่อย พนักงานจึงมีหน้าที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปดูแลแปลงผักนี้เพื่อนำผลผลิตมาใช้ในโรงแรม เท่าที่ถามจากพนักงาน ทุกคนดูสนุกกับกิจกรรมนี้มาก

การเดินทางครั้งนี้เราจึงไม่ได้รู้จักแค่โรงแรม แต่ยังได้เห็นความ Very Dusit จากทุกองค์ประกอบ และนี่คือเหตุผลดี ๆ 4 ข้อที่จะทำให้ทุกคน Have a Nice Stay ที่ดุสิตธานี เกียวโต

“เราอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของดุสิตในโรงแรมดุสิตธานี ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลก” พี่แต๋มเล่าความตั้งใจให้เราฟังตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง

ที่ดุสิตธานี เกียวโต จึงมีการต้อนรับและดูแลแบบที่คนไทยคุ้นเคย และคนต่างชาติล้วนประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการ์ดต้อนรับที่มาพร้อม Welcome Drink แบบระบุชื่อผู้เข้าพัก การเตรียมห้องพักแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับแขกแต่ละคน โดยเฉพาะแขกที่เคยมาพักแล้ว พนักงานจะจัดเตรียมให้แบบรู้ใจประหนึ่งคนในครอบครัว และที่สำคัญ มีพนักงานชาวไทยที่ช่วยพูดคุยเรื่องความต้องการกันได้ชัดเจน

เตียงนอน ผ้าปู หมอน ผ้าห่ม ก็ไม่ทิ้งความ ‘ดุสิต’ ที่สบายและแตกต่างจนมีการนำไปอ้างถึงอยู่บ่อย ๆ ทำให้หลับสบายและตื่นมาเที่ยวได้แบบไม่งัวเงีย 

ห้องพักที่นี่ก็ทั้งกว้างใหญ่และสวยงาม มีการใช้บานเลื่อนโชจิแทนม่านกันแสงปกติ จึงได้กลิ่นอายบ้านแบบญี่ปุ่น และยังมีเซตชงชาพร้อมชาหอม ๆ ให้ชงดื่มก่อนนอนด้วย

ดุสิตธานี เกียวโต ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นโรงเรียนประถมของชุมชน เมื่อประชากรเกิดใหม่ลดลง โรงเรียนจึงปิดกิจการไป ดุสิตธานีมองตัวเองเป็นสมาชิกใหม่ จึงทำธุรกิจอย่างถ่อมตัวและเคารพเพื่อนบ้าน ด้วยการเคาะประตูทุกบ้านก่อนเริ่มลงมือก่อสร้าง ซึ่งอาจทำให้มีเสียงดัง ออกแบบให้กลมกลืนกับชุมชน ป้ายชื่อโรงแรมที่หลบเข้ามาด้านในและมีขนาดเล็ก ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีคนเดินผ่านโดยไม่รู้ว่ามีโรงแรมหรูแฝงตัวอยู่ด้านหลังระแนงไม้นี้อยู่บ่อย ๆ แน่

แล้วชุมชนแถวนี้ก็น่ารัก มีทั้งร้านขายของวินเทจ ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรีที่ชื่อไม่ดังแต่ตั้งใจ และมีวัดที่คนในชุมชนยังไปนั่งสมาธิและสวดมนต์กันเป็นกิจวัตรอยู่ใกล้ ๆ ด้วย

หน้าโรงแรมมีป้ายรถเมล์ที่รู้กันดีว่าเป็นวิธีการเดินทางสะดวกที่สุดในเกียวโตรองจากการเดิน ทำให้การจะไปไหนมาไหนไกลหน่อยทำได้แบบสะดวกสบาย 

หรือแม้แต่สำหรับคนที่ชอบเที่ยวหลายเมือง สถานีรถไฟเกียวโตก็อยู่ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตร ไปขึ้นรถไฟชินคันเซ็น วาร์ปไปเมืองใกล้เคียง แล้วกลับมานอนที่เกียวโตได้แบบสบาย ๆ

ญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมที่มีแนวคิดเรื่องความงามในธรรมชาติ ดุสิตธานี เกียวโต มีการจัดแสดงงานศิลปะที่สะท้อนแนวคิดต่าง ๆ ไว้เป็นการตกแต่งโรงแรมไปในตัว เช่น การจัดดอกไม้แบบ Ikebana เทคนิค Kintsugi การย้อมคราม และการจัดสวนขนาดใหญ่ไว้กลางโรงแรม เพื่อให้แขกได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากฤดูกาลต่าง ๆ

ไฮไลต์ของที่นี่คือการเข้าร่วมประสบการณ์การชงชาแบบญี่ปุ่นโดย Tea Master ที่ Tea Salon โซนที่ออกแบบในแนวคิด Wabi-Sabi หรือความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบ 

ชาเขียวที่ใช้ในพิธีชงชานี้มาจากไร่ชาเขียวในเขตใกล้ ๆ เกียวโตที่ทางดุสิตธานีเป็นผู้เช่าและดูแลเอง ใบชาที่ได้จากไร่นี้นำมาใช้ทั้งในพิธี วางในห้องพัก และใช้เสิร์ฟในโรงแรม มั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยและรสชาติที่ดูแลมาตั้งแต่ต้นทาง

เรารู้ว่าบางทีคุณก็แอบคิดถึงอาหารไทยและร้านนวดแบบไทย ๆ ในระหว่างเดินทางอยู่บ้าง โดยเฉพาะวันที่เดินเยอะ ๆ ช้อปปิ้งหนัก ๆ จนรู้สึกอยากทิ้งตัวและไม่ต้องต่อสู้กับอะไร นอกจากข้าวผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊วเส้นใหญ่ และโจ๊กหมูใส่ไข่ที่เป็นเมนูอาหารเช้าแล้ว ดุสิตธานี เกียวโต ยังมีร้านอาหารไทยแบบ Fine Dining ชื่อ Ayatana (อายตนะ) ที่ร่วมสร้างสรรค์เมนูโดย เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และ เชฟดีแลน โจนส์ เชฟอาหารไทยรางวัลมิชลิน ให้เลือกรับประทานยามคิดถึงอาหารไทย และแม้ว่าจะเป็นครัวไทยในต่างแดน แต่มั่นใจได้ว่ารสชาติแต่ละจานนั้นถึงเครื่องและครบทุกองค์ประกอบ วัตถุดิบอย่างผักชีฝรั่ง ใบมะกรูด หรือน้ำกะทิ เชฟของที่นี่ก็คัดสรรอย่างละเอียดลออ และบางส่วนมาจากสวนที่ปลูกไว้ใช้ในครัวเองด้วย

ก่อนกลับก็อย่าลืมไปใช้บริการที่ เทวารัณย์ เวลเนส มีบริการทั้งนวดแผนไทย นวดสไตล์ญี่ปุ่น และทรีตเมนต์ต่าง ๆ ที่ออกแบบเป็นรายบุคคลได้ เพื่อทำให้การเดินทางของคุณครั้งนี้ครบถ้วนทั้งประสบการณ์ใหม่ ๆ และความผ่อนคลายสมกับเป็นวันพักร้อน

ขอให้เที่ยวเกียวโตให้สนุก และ Have a Nice Stay!