‘หาดใหญ่’ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค ปกติเรามุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองนี้ หากปลายทางไม่ใช่สนามบิน ก็มักเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หรือย่านการค้ากระจายตัวในบริเวณใจกลางเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและร้านรวงมากมาย ทว่าการเดินทางในครั้งนี้แตกต่างออกไป Google Maps พาเราออกจากความจอแจของรถราบนถนนสายหลัก เข้าสู่ซอยเล็ก ๆ ในชื่อไม่คุ้นหูว่า ‘รัตนวิบูลย์ ซอย 2’ โดยสิ้นสุดเส้นทาง ณ ที่พักแห่งใหม่ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในมุมสงบท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองใหญ่ นั่นคือ ‘Hanuman Boutique Stay & Eatery

อาคารสีขาว 2 ชั้น ตกแต่งด้วยไม้และสีเอิร์ทโทนเป็นหลัก โดดเด่นและแตกต่างจากอาคารบ้านเรือนในซอยเดียวกัน เมื่อผลักบานประตูไม้เข้าสู่ด้านใน เราพบบาร์คาเฟ่และร้านอาหารที่ยังคงใช้โทนสีเดียวกัน ผนวกกับแสงขาวนวลจากโคมไฟ ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นทันทีที่ก้าวย่างเข้ามา

เก้าอี้ประดับประดาด้วยหมอนอิงสีต่าง ๆ ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดสวยงาม ภายในห้องนี้เองเราได้พบกับ เจี๊ยบ-ศิริพร ปรีชาติวงศ์ และ เดี่ยว-โสธร ถาวรเจริญ คู่สามี-ภรรยา และเป็นสองผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมบูทีกแห่งนี้ ซึ่งให้การต้อนรับเราอย่างอบอุ่นเสมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน

หนุมานกลับบ้าน

หนุมานมาจากอะไร – เราเริ่มบทสนทนาภายหลังการแนะนำตัวจบลง 

“มาจากตัวเรา จากบุคลิกของเราทั้ง 2 คนที่ชอบหากิจกรรมหรือสิ่งใหม่ ๆ ทำอยู่เสมอ” 

เจี๊ยบคลายความสงสัยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมเท้าความถึงที่มาที่ไปว่าพื้นเพดั้งเดิมของตนเองอยู่หาดใหญ่ แต่ไปใช้ชีวิตอยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นเวลากว่า 25 ปี ดำเนินกิจการร้านอาหารไทย ประสบความสำเร็จอย่างงดงามภายใต้ชื่อ ‘หนุมาน’ ซึ่งคำเรียกดังกล่าวไม่เพียงบ่งบอกตัวตนของทั้งคู่ แต่ยังให้ความรู้สึกสง่างาม เป็นคำที่อมตะ และแสดงถึงความเป็นไทย

เมื่อตัดสินใจกลับมาสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ในบ้านเกิด จึงเลือกใช้ชื่อเดิมเพื่อคงความเป็นตัวเอง และให้เกิดความเชื่อมโยงกับร้านอาหารในต่างแดน จากร้านอาหารเดินทางมาสู่บูทีกโฮเต็ลแห่งใหม่ในเมืองหาดใหญ่ได้อย่างไรนั้น เจี๊ยบให้ฟังว่าก้าวแรกมาจากการวางแผนสร้างบ้านพักบนแผ่นดินเกิด

“เรามีแผนสร้างที่พักไว้อาศัยในวัยเกษียณอยู่แล้ว ผนวกกับช่วงหลังมีโอกาสเดินทางกลับมาหาดใหญ่ค่อนข้างบ่อยเลยเกิดความรู้สึกคิดถึง นำมาสู่ความคิดว่าถ้าเรามีบ้านไว้สำหรับอยู่อาศัย ให้เป็นทั้งที่พักผ่อนสำหรับตัวเองและครอบครัวเมื่อต้องเดินทางกลับมาจากต่างประเทศน่าจะดี” 

แรกเริ่มทั้งคู่ยังไม่มีความคิดเปิดบ้านให้เป็นที่พัก แต่เนื่องจากไม่ได้กลับมาอยู่บ่อย ๆ ประกอบกับต้องการมีธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ ในหาดใหญ่ จึงจุดประกายความคิดในการสร้างที่พักขนาดเล็กขึ้น

“ลักษณะการเปิดบ้านให้เข้าพักได้ในช่วงที่เราไม่อยู่เป็นกระแสมาแรงในต่างประเทศ เรามีบ้านและมีรายได้จากบ้าน เราจึงเล็งเห็นโอกาสความเป็นไปได้จากตรงนี้” เดี่ยวกล่าวสมทบถึงความเป็นมา อันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของหนุมานสู่บ้านเกิดที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 

หนุมานบูทีกสเตย์

เมื่อปักหมุดลงในแผนผังความคิด ทั้งสองจึงเดินหน้าศึกษาหาข้อมูล ประจวบเหมาะกับเจอประกาศขายตึกเก่าซึ่งตรงกับความต้องการ ภารกิจสร้างที่พักจึงค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

ทำไมถึงมาลงตัวที่โรงแรมสไตล์บูทีก – เราตั้งคำถาม 

“อยากให้การกลับมาของเราสร้างอิมแพกต์ให้กับเมือง ด้วยการมีบูทีกโฮเต็ลในหาดใหญ่” เจี๊ยบให้คำตอบ โดยระหว่างศึกษาทิศทางความเป็นไปได้ในธุรกิจโรงแรม ทั้งคู่พบข้อมูลและเห็นตัวอย่างการปรับเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูทีกโฮเต็ลจากช่องทางโซเชียลมีเดียมากมาย จึงมีโอกาสติดตามผลงานการออกแบบ และแลกเปลี่ยนแนวคิดกับสถาปนิกผู้ได้ชื่อว่าเป็นกูรูบูทีกโฮเต็ลอย่าง วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ประกอบกับสำรวจที่พักในหาดใหญ่ พบว่ามีโรงแรมสไตล์นี้ค่อนข้างน้อย รวมถึงลักษณะนิสัยส่วนตัวของทั้ง 2 คนชอบความแตกต่าง และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ท้ายที่สุดทั้งคู่จึงมีคำตอบชัดเจนให้กับตัวเอง 

“คำตอบออกมาว่าเป็นบูทีกโฮเต็ล” เดี่ยวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น 

ปัจจุบันหนุมานบูทีกสเตย์จัดสรรพื้นที่ให้บริการเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ Stay หมายถึงที่พัก มีบริการจำนวน 3 ห้อง และ Eatery ส่วนของร้านอาหาร มีลักษณะเฉพาะตัวด้วย Southern California Foods และเสิร์ฟเป็น Brunch หรืออาหารเช้าควบกลางวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 – 17.00 น. โดยทั้งสองบริการแบ่งแยกสัดส่วนชัดเจนด้วยการกำหนดประตูทางเข้า 2 ทาง บานหนึ่งสำหรับผู้ใช้บริการห้องพัก อีกบานหนึ่งสำหรับผู้ใช้บริการร้านอาหาร แต่ทั้ง 2 ส่วนมีประตูบานเล็กเชื่อมต่อถึงกันได้

หนุมานเล่าเรื่องพื้นถิ่นภาคใต้

“ความร่วมสมัยผสานกลิ่นอายของความเป็นใต้” เดี่ยวเน้นย้ำคำนี้ เมื่อเราถามถึงแนวคิดในการออกแบบตกแต่งหนุมานบูทีกสเตย์ พร้อมขยายความต่อว่า ทุกอย่างที่ทำและออกแบบต้องเป็น Timeless หมายถึงการทำครั้งเดียว ดู-อยู่ได้ตลอดไป โดยมุ่งเน้นความเป็นไทยร่วมสมัย ซึ่งความน่าหลงใหลแห่งโลกอดีตมาบรรจบกับความหรูหราแบบสมัยใหม่ นอกจากนี้ทั้ง 2 คนให้ความสำคัญกับเสน่ห์ความเป็น ‘ท้องถิ่นภาคใต้’ ด้วยมองว่าเสน่ห์ของแดนด้ามขวานเติมเต็มตัวตนของหนุมานให้ชัดเจนและโดดเด่น 

เล่ามาถึงตรงนี้ เจี๊ยบเริ่มชี้ชวนให้เราสังเกตการประดับตกแต่งส่วนต่าง ๆ วัตถุแต่ละชิ้นกำลังเล่าเรื่องพื้นถิ่นภาคใต้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายเก่าเมืองหาดใหญ่ หนังตะลุง อัตลักษณ์ของชาวใต้จัดวางไว้อย่างสวยงามในกรอบรูปและแจกัน ผ้าทอเกาะยอ มรดกภูมิปัญญาของชาวสงขลา นำมาตัดเย็บเป็นผ้าม่าน หมอนอิง ช่วยสร้างบรรยากาศให้แก่ห้องหับ ที่นั่ง และเตียงนอน กระจกลายพิกุลนำมาตกแต่งให้มีสีสัน โคมไฟเพดานและตั้งพื้นซึ่งดัดแปลงมาจากฝาครอบหม้อนึ่งติ่มซำ โคมไฟกรงนกสะท้อนวิถีชีวิตชาวใต้ ตลอดจนสิ่งของประดับประดาอื่น ๆ ที่เน้นผลงานจากศิลปินในท้องถิ่น 

“ภาพจำของเรา เราโตมาในเมืองหาดใหญ่ เมืองพหุวัฒนธรรม มีความเป็นไทย มลายู และจีนปน ๆ กันไป พอไปอยู่ต่างประเทศนาน เราคิดถึงความเป็นไทย ความเป็นภาคใต้ ในส่วนการตกแต่งจึงต้องการให้มีความเป็นตัวของตัวเองเกิดขึ้นในงาน เพราะอยากอยู่ในบ้านที่มีบรรยากาศความทรงจำและเป็นบ้านของเราจริง ๆ ขณะเดียวกันก็อยากให้แขกได้รับรู้ถึงตัวตนเราด้วย ให้เขาสัมผัสได้ว่าเวลาไปเยี่ยมบ้านชาวใต้จะได้พบเจอกับสีสันสดใส เราจึงพยายามใส่รายละเอียดเหล่านี้เข้ามาแบบไม่มากจนเกินไป ให้มีความรู้สึกถึงความเป็นถิ่นใต้ร่วมสมัย และไปกันได้กับสไตล์งานเรียบง่ายของสถาปนิก” 

โรงแรมสไตล์บูทีกจึงต้องเชื่อมโยงกับความเป็นท้องถิ่นใช่หรือไม่ – เราถาม

“ใช่” เจี๊ยบตอบอย่างไม่ลังเล

“ในมุมมองของเรา สิ่งสำคัญคือต้องมีทั้งเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ คำนี้ผูกโยงกับความเป็นท้องถิ่น เราต้องเข้าใจพื้นที่ การตกแต่ง และการออกแบบอารมณ์ความรู้สึกให้เข้าถึงตัวตนของท้องถิ่น” 

แสงแห่งความอบอุ่นสาดส่องถึงเสมอ

หนุมานบูทีกสเตย์เปิดบริการห้องพักจำนวน 3 ห้อง 3 รูปแบบ 3 สไตล์ การออกแบบทุกห้องล้วนอยู่บนแนวคิดเดียวกัน นั่นคือให้ความรู้สึกอบอุ่น เน้นตกแต่งด้วยสีเอิร์ทโทน งานไม้ และมีช่องแสงธรรมชาติสาดส่อง เดี่ยวเป็นคนให้ข้อมูลในส่วนนี้ว่าทุกห้องมีชื่อเรียกเหมือนกัน คือ ‘ดาวเดือน’ อันเชื่อมโยงกับวรรณกรรม รามเกียรติ์ ตอนที่หนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน โดยห้องหมายเลข 1 เป็นห้อง Suite มีเตียงขนาดใหญ่ ส่วนหมายเลข 2 เป็นห้อง Double Bed แต่ใช้เป็นเตียง 2 ชั้นแทนเตียงคู่ และสุดท้ายห้อง Family Room ห้องขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว มีทั้งเตียงใหญ่และเตียง 2 ชั้น เข้าพักได้ถึง 4 คน 

“แม้มีแค่ 3 ห้อง แต่เราตั้งใจทำให้โดดเด่น เน้นการออกแบบที่ให้ความอบอุ่น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าครอบครัว ซึ่งห้องพัก 3 ห้อง รองรับผู้เข้าพักได้ถึง 8 คน มีประตูเข้าออกส่วนที่พักโดยเฉพาะ จึงเป็นส่วนตัวและให้ความรู้สึกเหมือนครอบครัวมาพักผ่อนในบ้านพักตากอากาศจริง ๆ”

การสร้างบรรยากาศอบอุ่นไม่เพียงสะท้อนผ่านการตกแต่งเท่านั้น เจี๊ยบอธิบายต่อว่ายังหมายรวมถึงการต้อนรับอย่างเป็นมิตรในฐานะเจ้าบ้าน เน้นการพูดคุยปฏิสัมพันธ์และให้บริการแบบเป็นกันเอง

เวลาร่วม 2 เดือนที่เปิดทำการ กลุ่มลูกค้าของหนุมานบูทีกสเตย์กว่า 95% เป็นชาวต่างชาติ มาจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ส่วนหนึ่งมาจากทำเลที่อยู่ในตัวเมือง แต่ไม่อย่างไร สิ่งที่เจี๊ยบและเดี่ยวสัมผัสได้จากลูกค้าทุกกลุ่มก็คือ ‘ความตั้งใจ’

“ส่วนใหญ่ลูกค้ามาเป็นครอบครัว และรับรู้ได้ว่าตั้งใจมาจริง ๆ ก่อนกลับก็จะขอบคุณเราสำหรับการดูแลต้อนรับเหมือนอยู่บ้านตัวเอง สำคัญคือทุกคนพูดเหมือนกันว่าไม่เคยเจอที่พักลักษณะนี้ในหาดใหญ่ ผลตอบรับตรงกับความต้องการของเรา เป้าหมายของเราไม่ได้เป็นการทำกำไรสูงสุด แต่อยากให้คนได้มาใช้เวลาที่มีคุณภาพที่นี่ไปพร้อม ๆ กับซึมซับกับบรรยากาศที่เราต้องการนำเสนอ” 

ความสงบที่ซ่อนตัวในเมืองใหญ่ 

‘ความสงบ’ ดูจะเป็นขั้วตรงข้ามกับคำว่า ‘เมืองใหญ่’

นี่เป็น 2 คำที่เจี๊ยบและเดี่ยวนำมาใช้กำหนดเป้าหมายของหนุมานบูทีกสเตย์ ซึ่งต้องการมอบประสบการณ์พักผ่อนแสนสงบแก่นักเดินทางในเมืองแห่งความวุ่นวาย โดยหนึ่งในเหตุผลทำให้ทั้ง 2 คนตัดสินใจรีโนเวตบ้านเก่าหลังนี้ เนื่องมาจากมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ นั่นคือ ‘ความเงียบ’ 

“บ้านหลังนี้ค่อนข้างเตะตาเรามาก ตำแหน่งอยู่หลังริมสุด ใกล้คลอง เป็นบ้านเลขที่ 1 ตั้งอยู่ในซอยลับ ๆ ดูลึกลับดี มีความรู้สึกว่า ถ้ามาอยู่ตรงนี้ก็เงียบ ๆ น่าจะทำอะไรได้อีกมาก ขณะเดียวกันก็สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของบูทีกโฮเต็ล ต้องเล็ก ๆ ลึกลับ มีความน่าค้นหา น่าติดตาม” เจี๊ยบอธิบาย

หลักใหญ่ใจความที่ทำให้ทั้งคู่ให้ความสำคัญกับความสงบ เพราะหาดใหญ่เต็มไปด้วยสีสัน วุ่นวาย คลาคล่ำด้วยผู้คนหลากหลายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีรูปแบบการท่องเที่ยวในเมืองเน้นไปที่แหล่งรวมร้านอาหาร ย่านคาเฟ่ชื่อดัง โปรแกรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวจึงอัดแน่นตลอดทั้งวัน ที่นี่จึงวางตำแหน่งแห่งที่ของตัวเองให้เป็นที่พักสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ให้ผู้เข้าพักรู้สึกคลายความเหนื่อยล้า ได้ใช้เวลากับตนเองและครอบครัว ท่ามกลางความสงบซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเมืองใหญ่

บูทีกโฮเต็ลแห่งเมืองหาดใหญ่

สำหรับหนุมานบูทีกสเตย์ การมีทำเลที่ตั้งในซอยลับห่างออกจากศูนย์กลางเมือง ไม่ใช่ข้อจำกัดแต่เป็นโอกาส ในทัศนะผู้ประกอบการ มองว่านี่คือช่องว่างทางการตลาดให้บูทีกโฮเต็ลได้เข้ามาเติมเต็ม เนื่องจากหาดใหญ่เรียงรายด้วยตึกรามบ้านช่อง ไม่มีบรรยากาศของธรรมชาติ การหามุมสงบสร้างที่พักขนาดกะทัดรัด แต่อำนวยความสะดวกได้อย่างครบครัน จึงเป็นทางเลือกของนักเดินทาง

“เราไม่ได้กังวลเรื่องจำนวนผู้เข้าพัก เพราะโจทย์ของเราคือทำยังไงให้เกิดความประทับใจ คุ้มค่า ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่รวมถึงอารมณ์ ความรู้สึก ประสบการณ์ ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไป เราไม่ต้องทำธุรกิจที่เน้นปริมาณสูงสุด แต่ควรหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพ และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพร้อมจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์ดี ๆ ดังนั้น หากเชียงใหม่ทำได้ดี ทำไมหาดใหญ่จะทำไม่ได้” เดี่ยวให้ความเห็น 

โดยเสน่ห์ของหาดใหญ่ในสายตาผู้หลงรักเมืองนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเยือนอย่างเดี่ยว มองว่าหาดใหญ่เป็นเมืองน่าค้นหา ทั้งอาหาร วัฒนธรรม ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และไม่ไกลจากตัวเมืองสงขลา ส่วนมุมองของคนที่เกิดและเติบโตในเมืองนี้อย่างเจี๊ยบ คือภาพวิถีชีวิตชุมชนที่ถูกซ่อนอยู่ในความเจริญ แม้เมืองมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ผู้คนยังใช้ชีวิตตามแบบวิถีชุมชน

“โอกาสของหาดใหญ่คือการที่พื้นที่นี้เป็นเมืองชายแดน รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก และจากการที่เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทีมงานเว็บไซต์จองที่พักอย่าง Agoda ทำให้เราทราบว่า กว่า 70% ของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้าประเทศไทย มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่หาดใหญ่ เอาแค่เฉพาะตัวเลขตัวตรงนี้ก็แสดงให้เห็นว่าบูทีกโฮเต็ลไปต่อได้อีกไกล” 

พูดคุยกันมาถึงตอนนี้ เราเข้าใจความหมายในคำพูดที่เจี๊ยบกล่าวไว้ช่วงต้นว่า อยากให้การกลับมาในครั้งนี้สร้างอิมแพกต์ให้เมืองด้วยการทำที่พักสไตล์บูทีกนั้นเป็นอย่างไร เจตจำนงที่แน่วแน่ของเจี๊ยบคือการพัฒนาบ้านเกิด เป็นส่วนเล็ก ๆ ในการเผยแพร่ความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรรม ให้ชาวต่างชาติได้รู้จักเสน่ห์ของบ้านเมือง ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจของบูทีกโฮเต็ลในหาดใหญ่ 

ท้ายที่สุด ทั้งเจี๊ยบและเดี่ยวหวังว่าการเกิดขึ้นและมีอยู่ของ Hanuman Boutique Stay & Eatery จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้นักเดินทาง ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในรูปแบบใหม่ ในขณะเดียวกันก็คาดหวังให้ย่านนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยทั้งสองมองว่าการหลบหนีความวุ่นวายมาซ่อนตัวในซอยลับแห่งนี้จะพาความสว่างและสร้างชีวิตชีวาให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนได้ 

3 Things

you should do

at Hanuman Boutique Stay & Eatery

01

ลองพักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วลิ้มรสอาหาร Southern Californian แห่งเดียวในหาดใหญ่

02

ลองตระเวนชิมร้านอาหารท้องถิ่นเจ้าเด็ด ร้านกาแฟเจ้าดังในย่าน City Center

03

ลองใช้เวลาช้า ๆ สัมผัสเสน่ห์สงขลา-เกาะยอใน 1 วัน

Hanuman Boutique Stay & Eatery
  • เลขที่ 1 ถนนรัตนวิบูลย์ ซอย 2 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (แผนที่)
  • เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 23.00 น. 
  • 09 2992 2995
  • www.hanumanstay.com
  • Hanumanstayandeats.

Writer

ธีรนาฎ มีนุ่น

ธีรนาฎ มีนุ่น

ภัณฑารักษ์ทาสแมว ผู้รักการถ่ายภาพ การท่องเที่ยว การเขียน และการสื่อสารประวัติศาสตร์