เราไม่ค่อยได้ทานอาหารอิตาเลียนมากนัก ยกเว้นพิซซ่าเจ้ายักษ์ที่มักได้สั่งตามโอกาสพิเศษ เพราะฉะนั้น การมาเยือนร้านอาหารที่เจ้าของบอกว่า สูตรของเขาคิดค้นมาเพื่อให้ถูกใจคนไทย ผ่านมาตรฐานความอร่อยของชาวอิตาเลียนแท้ ย่อมเป็นโอกาสดีให้เราได้จับเข่าคุยและจับพิซซ่านาโปลีเข้าปากเพื่อเป็นการพิสูจน์

ก้อง-คริษฐ ยุวบูรณ์ เจ้าของร้าน Black King Bar นั่งสนทนากับเราในร้านที่ประดับด้วยกลิ่นหอมชวนเรียกน้ำย่อย แสงไฟสีส้มสลัวชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ขณะที่งานศิลปะบนผนังสร้างความเพลิดเพลินให้เราได้แบ่งเวลาโลดแล่นก่อนเมนูเด็ดยกมาเสิร์ฟ

'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน
'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน

จากธุรกิจโรงแรมสวนสามพรานของครอบครัวที่จังหวัดนครปฐม การย้ายมาอยู่บ้านคุณย่าในกรุงเทพฯ คือจุดเริ่มต้นการวิ่งเข้าครัวของก้อง เมนูที่เขาคุ้นเคยคืออาหารไทย โดยเรียนรู้ตั้งแต่เครื่องเทศ วัตถุดิบ จนถึงเทคนิคการปรุง ซึ่งเป็นพื้นฐานให้นำมาประยุกต์ใช้กับศาสตร์อาหารตะวันตกที่เขาได้คลุกคลีเมื่อครั้งไปเรียนเมืองนอก

“ชีวิตจริงของผมเริ่มตอนอายุ 34 ปี ได้เป็นแฟรนไชส์ของ Peppina พิซซ่านาโปลี เรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูใหม่สไตล์อิตาเลียนแล้วกัน” หลังจากนั้นเจ้าตัวก็คิดค้นการทำพิซซ่าแป้งสดทุกวัน เพื่อทดแทนการใช้แป้งแช่แข็งหรือวัตถุดิบค้างคืน โดยเป้าหมายของเขาคือการเป็น Artisan Pizza ผู้ตั้งใจหมักบ่มแป้งให้คนไทยได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของเนื้อแป้งมาตรฐานโลกจากอิตาลี

'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน

แต่ทำอย่างไรให้ Black King Bar ชื่อร้านที่มีที่มาจากไอเทมในเกม Dota แตกต่างจากกิจการอื่นในตลาด

ก้องรู้ว่ารสชาติอิตาเลียนอย่างเดียวอาจยังไม่พอสำหรับการทำธุรกิจระยะยาว เขาจึงเริ่มจากโลเคชันร้าน โดยเลือกเมืองเก่า ณ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ใกล้ซอยนานา นำสถาปัตยกรรมเก่ามาตกแต่งให้ร่วมสมัย แต่เปิดร้านก่อนโควิด-19 ระบาดเพียง 2 เดือน ก็ต้องปรับกลยุทธ์ไปเป็นออนไลน์แทน

ร้านของก้องใช้ ‘หมึกดำ’ เป็นส่วนผสมสำหรับเมนูซิกเนเจอร์ โดยไม่ให้หลุดจากธีมอาหารอิตาเลียน และที่สำคัญคือต้องไม่ทำให้รสชาติเสีย เขาเปรียบเทียบกับการนำถ่านมาใส่เพิ่มสี แม้จะได้ความดำ แต่รสชาติแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน

‘Black King Pizza’ คือพิซซ่าที่ก้องภูมิใจนำเสนอ และเราก็ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ความฟูฟ่องของขอบพิซซ่าที่ออกมาจากเตาไฟฟ้าอุณหภูมิ 400 องศาเซลเซียส ความรู้สึกแรกตอนยกพิซซ่าขึ้นมาจากถาดคือความตกใจ หน้าพิซซ่ากำลังจะไหลลงมา! แต่เราไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น รีบเอาปากไปรองรับความหอม เยิ้ม ละมุน และความกรอบนอกนุ่มในทันที เมื่อกัดแล้วก็ก้มดูจึงเห็นด้านในมีรูอากาศขนาดใหญ่อยู่

ความเยิ้มที่คนไทยอาจไม่เข้าใจคือจุดเด่นของพิซซ่านาโปลีของแท้ แต่เพื่อไม่ต้องนั่งอธิบายให้คนไทยทุกคนเข้าใจว่าทำไมหน้าจึงไหล ก้องเลยใช้วิธีพบกันครึ่งทาง ปรับสูตรเป็นพิซซ่านาโปลีลูกครึ่งนิวยอร์กที่อยู่ตัวพอให้จับเข้าปากได้ทัน

'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน
'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน

“ผมดึงหลายศาสตร์ที่ได้เรียนรู้มาประยุกต์ให้เข้ากับอาหารอิตาเลียน รับรองว่ากินแล้วรสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย แต่ความท้าทายของผม คือทำอย่างไรให้คนอิตาเลียนทานแล้วว่าผมไม่ได้ว่านี่คือฟิวชัน กินเสร็จเขาต้องบอกว่านี่รสชาติเหมือนบ้านเขา อร่อยเท่ากันหรืออร่อยมากกว่าเท่านั้น” เจ้าของร้านเอ่ย ระหว่างนั้นมีสองหนุ่มชาวต่างชาติเดินเข้ามาในร้านพอดี คาดว่าเป็นชาวอิตาเลียนจากสำเนียงที่เขาพูด

“เดี๋ยวรอดูว่าเขาจะกินหมดไหม” ก้องหันมากระซิบ 

เราคุยกันต่อเรื่องความชอบใส่ซอสลงในอาหารของคนไทย ความท้าทายต่อมาของก้อง คือทำอย่างไรไม่ให้คนไทยปรุงจนลืมรสของเดิมที่เชฟตั้งใจสรรสร้าง วิธีการของเขาคือดันรสชาติขึ้นให้สุด ลูกค้าเลือกได้แค่ว่าเอาความเผ็ดระดับไหน หรือไม่ก็บอกมาเลยว่าอยากได้อะไรบ้าง เดี๋ยวทางร้าน DIY ให้ ประกอบกับการเปิดร้านช่วงโควิด-19 อาหารอิตาเลียนรสชาติอิตาเลียนแท้คงขายได้ยาก แต่อาหารอิตาเลียนรสเข้มข้นเหมาะสมกับลิ้นคนไทย คือผลลัพธ์ที่ทำให้ร้านขายดี

“มีลูกค้าเคยสั่งพาสต้าทรัฟเฟิล ไม่เอาครีม เผ็ดสุด ๆ เราทำให้ได้ตามนั้น ผมขอทำรสชาติพื้นฐานให้ทุกคนโอเค เส้นของเราเพอร์เฟกต์ แป้งของเราดีแล้ว มีแป้งขาว-ดำ ให้เลือก นอกนั้นอยากเปลี่ยนโปรตีนก็บอกมา จะใส่ท็อปปิ้งเพิ่มก็ได้ 

'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน
'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน

“แต่ไม่ใช่เราไม่มีซอสให้นะ เจอกันครึ่งทาง เราไม่ให้ซอสมะเขือเทศ แต่เรามีเป็นเพสโตสีแดง สีเขียว และซอสอาลิโอลี เป็นของเราคิดเอง ทำเอง อร่อยหมด อันนี้คิดขึ้นเพื่อไม่ให้คนทิ้งขอบ เอามาจิ้มซอสกินได้ด้วย” ก้องเล่า เพราะไม่อยากให้ลูกค้าทิ้งอาหารที่เขาตั้งใจสร้างและเชฟตั้งใจปรุง

“ผมอยากเอาสิ่งดี ๆ ในเอเชียมาใส่ในการทำอาหาร เช่น ปรัชญาการทำอาหารและความมินิมอลของญี่ปุ่น วัตถุดิบของไทยในประเทศ เราใช้จาก Patom Organic Living เป็นเกษตรอินทรีย์ เอาความซับซ้อนของไทยมาเสริมความเรียบง่ายของอาหารอิตาเลียนด้วย”

นั่งคุยกันไปสักพัก เรารับรู้ได้ว่าเขาคือนักสร้างสรรค์ที่มาพร้อมความใส่ใจและความกระตือรือร้นเพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ก้องปรับสูตรวัตถุดิบเพื่อให้เข้ากับภูมิอากาศ ยกตัวอย่าง เมนูคาโบนาร่า ที่อิตาลีใช้หมูกวนชาเล่ ไข่แดง และพาเมซานชีส ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูง แต่เมนูนี้สำหรับทุกวันที่ร้อนอบอ้าวคงจะหนักไป เขาจึงใช้นมผสมครีมและไข่ให้เบาขึ้น แต่เลี่ยนน้อยลง

เช่นเดียวกับแป้ง Black King Pizza ที่กินแล้วให้ความรู้สึกเบาจากการบ่มนาน 3 วัน ยีสต์ถูกย่อยสลายจนหมด ทานแล้วอิ่ม แต่ไม่อืดเหมือนแป้งแช่แข็ง ทั้งยังเป็นแป้งที่มีรสชาติในตัว เพราะเขาไม่ได้ใช้เพียงเกลือ แต่ยังใส่น้ำสต็อกรสอูมามิสูตรพิเศษลงไปเพื่อไม่ให้มีแค่ความเค็ม

เมนูต่อมาที่ยกมาเสิร์ฟคือ ‘Black King Surfer’ สปาเกตตีหมึกดำ หอมกลิ่นหมึก กระเทียม เบคอนกรอบ และหอย รสชาติครบถ้วนเข้มข้นเผ็ดร้อน เส้นสัมผัสนุ่มกรุบพอดี สมแล้วที่ต้มเส้นวันต่อวัน ทั้งยังใช้เวลาเพียงแค่ 90 วินาทีก็เสิร์ฟได้ เพราะเจ้าของร้านวางแผนการจัดการในครัวไว้เรียบร้อย

'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน
'Black King Bar' พิซซ่านาโปลีหมึกดำของเชฟที่ชอบเดาใจ รสถูกปากคนไทย ถูกใจคนอิตาเลียน

ก้องลองผิดลองถูกมาตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านเมื่อปลาย พ.ศ. 2562 เขาบอกว่าตัวเองคงเป็นเชฟเพียงไม่กี่คนที่พยายามเดาใจลูกค้าว่าต้องการแบบไหน หลังปรับสูตรมาเรื่อย ๆ เขาก็ค้นพบจุดแข็งของร้าน คือพิซซ่าและพาสต้าที่ยอดเยี่ยมถูกใจคนไทยไม่แพ้กัน

“ผมไม่เคยไปอิตาลีด้วยซ้ำ ทุกอย่างเกิดจากการถามคนอิตาเลียนในไทย ดังนั้นการสร้างเมนูของผมจึงเกิดขึ้นจากการปรับสูตรเพื่อฐานลูกค้าคนไทย นี่คือมุมมองของผมล้วน ๆ ว่าอาหารอิตาเลียนในบ้านเราควรรสชาติยังไง”

อีกหนึ่งเมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากความทรงจำสมัยวิ่งเข้าครัวไปหาแม่ครัวประจำบ้านคือ ‘Pumpkin Soup’ ซุปที่คุณปู่และคุณย่าของก้องชอบทาน

“เรากินแล้วก็ตั้งคำถามว่าหัวใจของมันคืออะไร จนค้นพบว่าแทนที่จะเอาฟักทองไปต้มนาน ๆ ผมต้มนิดเดียว แล้วเอามาผัดต่อ ใช้น้ำมันเบคอนไม่ก็น้ำมันมะกอกสำหรับวีแกน ผัดกับกระเทียม หอมแดง รากผักชี จากนั้นจึงเบลนด์ใส่ครีมนม ปรุงด้วยน้ำสต็อกที่เราทำเอง”

Black King Bar พิซซ่าจากหมึกดำ คิดค้นโดยเจ้าของผู้ไม่เคยไปอิตาลี แต่รสชาติเข้มข้นถูกใจคนไทย ผ่านมาตรฐานคนอิตาเลียน

กลิ่นแรกที่มาคือหอมฟักทอง รสสัมผัสแรกคือความนัว ละมุนลิ้น และเข้มข้น จะตักเข้าปากหรือหยิบขนมปังมาจิ้มกินก็กลมกล่อม จบในชามแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มและไม่เลี่ยนจนต้องโบกมือลา นี่คือผลลัพธ์จากฟักทองเกษตรอินทรีย์

นอกจากอาหารเกลี้ยงจานจะทำให้ก้องภูมิใจ เขายังดีใจที่แทบไม่สร้างขยะเลย ของเหลือก็นำไปทำเป็นปุ๋ยตามแนวทางของ Patom กำเนิดเป็นคอนเซปต์ Farm to Table (Black King Bar x Patom) แม้จะเจออุปสรรคเรื่องราคาสำหรับการนำผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์มาใช้ แต่เขาก็มองว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ต้องลอง โดยจับมือสร้างเครือข่ายให้ไปถึงฝั่งฝันเพื่อโลกและเพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย

หากใครกำลังมองหาอาหารอิตาเลียนที่ชาวอิตาเลียนยอมรับ แต่ได้รสสัมผัสจัดจ้านแบบที่ทำให้คนไทยไม่ปรุงได้ ลองมาที่ Black King Bar เผื่อคุณจะค้นพบคำตอบที่กำลังตามหา

Black King Bar พิซซ่าจากหมึกดำ คิดค้นโดยเจ้าของผู้ไม่เคยไปอิตาลี แต่รสชาติเข้มข้นถูกใจคนไทย ผ่านมาตรฐานคนอิตาเลียน

สองหนุ่มชาวอิตาเลียนสั่งพาสต้าและพิซซ่าซิกเนเจอร์ของร้าน พวกเขาจ้องมองหน้าตาที่คงคล้าย แต่ไม่อาจปักใจเชื่อได้แต่เริ่มว่าจะเหมือนฝีมือแม่ที่บ้านเกิด หลังลงมือจิ้มส้อมลงพาสต้าและหยิบพิซซ่าเข้าปาก พวกเขาพยักหน้าแล้วก็ไม่คุยกันอีกเลย 

เราบอกลา Black King Bar หลังดื่มด่ำกับอาหารบนโต๊ะจนเกลี้ยง ขณะที่กำลังจะเดินออกประตู สองตาก็แอบสำรวจจานของพวกเขาเล็กน้อย

จานของเราเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ผัก เช่นเดียวกับจานของนักท่องเที่ยว 2 คนนั้นที่เป็นบทพิสูจน์คำพูดของเจ้าของร้าน

Black King Bar พิซซ่าจากหมึกดำ คิดค้นโดยเจ้าของผู้ไม่เคยไปอิตาลี แต่รสชาติเข้มข้นถูกใจคนไทย ผ่านมาตรฐานคนอิตาเลียน
Black King Bar
  • 701 ถนนไมตรีจิตต์ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร (แผนที่)
  • เปิดทุกวัน เวลา 17.00 – 24.00 น.
  • 09 6841 6619
  • Black king bar

Writer

วโรดม เตชศรีสุธี

วโรดม เตชศรีสุธี

นักจิบชามะนาวจากเมืองสรอง งานประจำเป็นนักฟัง งานพาร์ทไทม์เป็นนักเขียน งานอดิเรกเป็นนักเล่า

Photographer

Avatar

ผลาณุสนธิ์ ผดุงทศ

ช่างภาพที่โตมาจากเมืองทอง รักแมว ชอบฤดูฝน และฝันอยากไปดูบอลที่แมนเชสเตอร์