I counted days 

ปลายปี 2022

เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ประกาศว่าเธอจะจัดคอนเสิร์ตระดับเวิลด์ทัวร์ ในนาม ‘The Eras Tour’ รวบรวมเพลงจากทุกยุค ทุกสมัย ทั้ง 10 อัลบัมไว้ในคอนเสิร์ตเดียว 

ในเวลานั้นฉันผู้โตมากับเพลง You Belong With Me มีโอกาสได้ฟังเพลงและรับรู้ถึงความเก่งกาจของผู้หญิงคนนี้มาตั้งแต่เด็ก ก็มีอาการ Heart Rate เต้นเร็วกว่าปกติอยู่ไม่น้อย เพราะคาดหวังว่าประเทศเล็ก ๆ แต่มีพลังดังแม่เหล็กดึงดูดคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกมากมายอย่างไทยแลนด์จะมีโอกาสได้ต้อนรับเทย์เลอร์ สวิฟต์ อีกครั้ง และฉันก็คงได้มีโอกาสไปดูการแสดงของเธอกับตาตัวเองเสียที

แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางโชคชะตา ผลพวงการเมือง หรือเรื่องทุนนิยม ประเทศไทยก็ไม่ได้รับโอกาสนั้น….

นับตั้งแต่วันที่รู้ว่าศิลปินที่รักไม่ได้มาจัดคอนเสิร์ตในประเทศบ้านเกิดเมืองนอน ฉันก็เกือบจะตัดใจไม่ไปดูคอนเสิร์ตของเธอแล้ว เพราะการไปดูคอนเสิร์ตต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะค่าใช้จ่ายอีกมหาศาล จนกระทั่งฉันได้กลับไปรับชม MISS AMERICANA ทาง Netflix สารคดีว่าด้วยเรื่องราวชีวิตและการเดินบนเส้นทางดนตรีของเทย์เลอร์ สวิฟต์

มันเป็นเรื่องราวของผู้หญิงที่ไม่เคยหยุดพยายามเพื่องานที่เธอรัก แม้ชีวิตจะมอบอุปสรรคหรือขวากหนามอะไรมาให้เธอก็ตาม 

ผู้หญิงที่รักและให้เกียรติทุกผลงานของตัวเอง เธอทำงานหนักเพื่อพัฒนาผลงานเพลงให้ดีขึ้น พร้อมทั้งหาที่ทางและหาตัวตนใหม่ ๆ เพื่อให้มีโอกาสได้ทำงานที่เธอรักต่อไป 

ผู้หญิงที่มีพลังและใช้พลังนั้นผลักดันประเด็นทางสังคมและการเมือง แม้จะมีความกลัวอยู่ในใจ และมีจุดจบของศิลปินรุ่นก่อนหน้าที่ออกมาพูดเรื่องการเมืองให้เห็น แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้ความกลัวนั้นมาหยุดยั้งในการไม่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง 

ผู้หญิงที่เจ๋งจนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งโลกถึงพากันชื่นชมและยอมรับ

แน่นอนว่าฉันคือหนึ่งในนั้น ความ ‘คลั่งไคล้’ ในเทย์เลอร์ สวิฟต์ ของฉันถูกปลุกขึ้นมาแล้ว และฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองพลาดคอนเสิร์ตแห่งศตวรรษนี้เด็ดขาด! ฉันต้องไปเป็นส่วนหนึ่งใน The Eras Tour ครั้งนี้ให้ได้!

ทางเลือกในการไปดูคอนเสิร์ตในต่างประเทศที่มนุษย์เงินเดือนตัวน้อยอย่างฉันพอจะเอื้อมไหว ก็เห็นจะมีแค่สิงคโปร์กับญี่ปุ่น 2 ประเทศฝั่งเอเชีย

ฉันใช้ความรักผสมความตั้งใจ และไม่ลืมยกมือไหว้ภาวนาให้บุญกุศลที่ทำมาช่วยอำนวยอวยชัย ในการกดบัตร The Eras Tour ซึ่งจะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ ประเทศที่ใกล้ไทยที่สุด 

และขอเฉลยเลยแล้วกันว่า Mission Failed! เพราะทันทีที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตปล่อยตัวนักกดบัตรคอนเสิร์ตมือสมัครเล่นอย่างฉันเข้าเว็บไซต์ที่ใช้จองบัตร มันก็ปรากฏคิวนับล้านให้ห่อเหี่ยวใจ และไม่กี่นาทีหลังเวลากดบัตรเริ่มขึ้น ฉันยังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหนด้วยซ้ำ ก็มีประกาศออกมาว่าบัตร Sold Out เป็นที่เรียบร้อย จบข่าว!

ห้วงเวลาในการกดบัตรคอนเสิร์ตไม่เคยง่าย แต่เมื่อชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป สิงคโปร์ไม่ได้ก็ยังมีญี่ปุ่นให้ Swifty อย่างฉันพยายามอีกสักครั้ง

แต่ปัญหาของการกดบัตรที่ญี่ปุ่นคือแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ว่องไวก็ยังไม่เพียงพอ คุณยังจำเป็นต้องอาศัยแต้มบุญที่สั่งสมมาตั้งแต่ชาติปางก่อนช่วยด้วย เพราะการจองบัตรที่นี่ใช้ระบบสุ่มเหมือนลุ้นหวย! ดวงดีได้ ดวงร้ายก็อดไป 

ถึงรู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลองกันสักตั้ง! 

หลังจากหาข้อมูลการกดบัตรคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นเรียบร้อย ฉันก็กดสมัครสมาชิกในเว็บไซต์ Lawson Ticket เว็บไซต์จองบัตรคอนเสิร์ตของญี่ปุ่น กรอกข้อมูล กดเลือกบัตร เลือกโซนที่นั่งและราคาที่ต้องการ เลือกจำนวนคนที่จะไปด้วย พร้อมกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ด้วยคลื่นหัวใจที่ทำงานปกติ ไม่คาดหวังอะไร เพราะชีวิตนี้ไม่มีดวงกับการเสี่ยงโชคใด ๆ แค่ซื้อหวยยังถูกกิน นับประสาอะไรกับการเสี่ยงดวงเพื่อได้ไปคอนเสิร์ตศิลปินที่ชอบ 

หลังจากจบขั้นตอนนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโชคชะตาว่าจะบันดาลชักพาให้เราได้บัตรมาครอบครองหรือไม่ 

ฉันใช้เวลาลุ้น สลับกับไล่ฟังเพลงของเทย์เลอร์ตั้งแต่อัลบัม Taylor Swift, Fearless, Speak Now, Red, 1989, reputation, Lover , folklore, evermore, Midnights

วันแล้ววันเล่า

วันแล้ววันเล่า

วันแล้ววันเล่า

จนกระทั่งเช้าวันที่ 15 กรกฎาคม ปี 2023 ฉันได้รับอีเมลจาก Lowson Ticket เนื้อหาในนั้นระบุว่า 

Thank you for entering the lottery.

After a strict and fair lottery, We are happy to inform you that your entry has been selected!

ได้ไปคอนเสิร์ต The Eras Tour แล้วเว้ยยย! นับจากนี้อีก 7 เดือน เจอกันที่ Tokyo Dome นะเทย์เลอร์! 

I counted miles 

4,600 กิโลเมตร หรือเกือบ ๆ 3,000 ไมล์ คือระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปญี่ปุ่น และนั่นคือระยะทางที่จะพาเราไปเจอกับเทย์เลอร์ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี 2024

7 เดือนที่ฟังเพลงวนไป จนผลลัพธ์ของ Spotify Wrap ปี 2023 กลายเป็นเพลงของเธอเกือบทั้งหมด 

7 เดือนที่เฝ้ารอและไปอุ่นเครื่องตัวเองด้วยการดูบันทึกการแสดงสดคอนเสิร์ต The Eras Tour ในโรงภาพยนตร์มาถึง 2 รอบ 

ในที่สุด วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ก็ถึงเวลาที่เราจะออกเดินทางไปญี่ปุ่นกันแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะได้ไปดูคอนเสิร์ตในต่างประเทศ ตื่นเต้นสุด ๆ

To see you there 

9 กุมภาพันธ์ ปี 2024 วันนี้ที่รอคอยมาถึงแล้ว 

จาก 7 เดือนที่เฝ้ารอ จาก 3,000 กว่าไมล์ที่ออกเดินทาง ในที่สุดวันนี้ฉันก็ได้มายืน (ขาสั่นด้วยความหนาว) อยู่หน้าโตเกียวโดม

เวลาราว ๆ 16.00 น. บริเวณหน้าโตเกียวโดมแน่นขนัดไปด้วยเหล่า Swifties จากต่างที่ต่างถิ่น แต่ทุกคนล้วนมีหัวใจที่อินกับเพลงของเทย์เลอร์เหมือนกัน 

ก่อนเข้าคอนเสิร์ต ก็ขอเดินชมแฟชั่นของ Swifties ที่พากันแต่งตัวตาม ‘Eras’ ของแม่เทย์ที่ตัวเองชอบกันแบบจัดเต็ม ไม่หวั่นแม้อากาศหนาวเย็นเพียง 2 – 3 องศาเซลเซียส และฉันไม่ลืมที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมแลก Friendship Bracelets หรือกำไลลูกปัดที่ Swifties ตั้งใจร้อยมาแลกกันด้วย

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า Friendship Bracelets คืออะไร ฉันจะเล่าให้ฟังว่า Swifties เขามีธรรมเนียมน่ารัก ๆ อย่างการแลกกำไลแห่งมิตรภาพที่ตั้งใจร้อยด้วยลูกปัดหลากสี บ้างก็ใช้ลูกปัดตัวอักษรเรียงร้อยเป็นชื่อเพลง เป็นชื่ออัลบัม แล้วนำมามาแลกกันในวันคอนเสิร์ต ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากเพลง You’re on Your Own, Kid ในอัลบัม Midnights มีท่อนหนึ่งที่ร้องว่า So, make the friendship bracelets, take the moment and taste it. 

เอาล่ะ ได้เวลาอันสมควรแล้ว เสียงพร้อม ร่างพร้อม ใจพร้อม เข้าไปในคอนเสิร์ตกันเลย

It’s been a long time coming, But! It’s Taylor and us! 

17.30 น. โดยประมาณ ฉันเข้ามาในโตเกียวโดม สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ จุผู้คนได้ราว 55,000 คน มันกว้างใหญ่มาก มองไล่ไปเจอผู้คนมากมาย แล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจกับทุกคนที่ได้มาร่วมดูคอนเสิร์ตด้วยกันในวันนี้ และเป็นอีกครั้งที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจัง 

ที่นั่งของฉันอยู่บริเวณชั้น 1 ริมซ้ายของเวที ไม่สูงเกินไปและไม่ไกลจากตัวเวทีมากนัก เรียกได้ว่าแต้มบุญที่เราเคยทำมาก็ไม่น้อยเลยนะเนี่ย เพราะที่นั่งที่ได้มานี้ก็เกิดจากการสุ่มเช่นกัน แม้มีเสาบังสักหน่อย แต่ไม่เป็นไร ถือว่าให้อภัยกันได้ 

18.00 น. ไฟในฮอลล์มืดลง นาฬิกาจับเวลาถอยหลังปรากฏขึ้น เสียงดนตรีอินโทรเริ่มดังขึ้น ในเวลาเดียวกับที่แดนเซอร์เดินออกมาหน้าเวที คอนเสิร์ต Taylor Swift: The Eras Tour ในญี่ปุ่นเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับน้ำตาของฉัน 

และไม่นานเกินรอ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ก็ปรากฏตัวพร้อมกับเพลง Miss America จากอัลบัม Lover นาทีนี้เข้าใจเลยว่าการแหกปากร้องเพลงเคล้าน้ำตาเป็นเช่นไร มันตื่นตันจนบอกไม่ถูก ทั้งสนุก ชื่นชม อิ่มเอมใจ ผู้หญิงที่ยืนอยู่บนอยู่บนเวทีตรงหน้ามีพลังจนเกินจะบรรยายได้ 

3 ชั่วโมงในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เทย์เลอร์พาเราท่องไปในแต่ละ Eras ของเธอ 

ได้อกหักทิพย์ พร้อมตะโกนร้องท่อนบริดจ์สุดฮิตในเพลง Cruel Summer 

ได้ย้อนวัยไปดื่มด่ำกับเพลงโปรดสมัยมัธยมต้นอย่าง You Belong With Me

ได้เข้าป่าไปฟังเทย์เลอร์เล่นเปียโนเพลง champagne problems ที่เพราะจนฟินสุด ๆ

ได้แหกปากสุดเสียงกับเพลงที่ยกให้ขึ้นหิ้งตลอดกาลอย่าง Long Live 

ได้ฟังเรื่องราวรักสามเส้าผ่านบทเพลงในอัลบัม folklore

ได้เต้นสุดแรง แหกปากสุดเสียงไปกับเพลง Shake it Off 

ได้มันสุดเหวี่ยงไปกับเพลงในอัลบัม reputation 

ได้ชื่นชมในความเก่งสุดหัวใจไปกับเพลง All Too Well ความยาว 10 นาที!

ได้มีเพลงโปรดเพลงใหม่เก็บเข้าเพลย์ลิสต์ อย่าง Superman และ The Outside ซึ่งเป็น Surprise Song ในวันที่ฉันไป 

3 ชั่วโมงที่ฉันได้ปล่อยวิญญาณ เต้น และตะโกนร้องเพลงจนหอบและเสียงเกือบหาย แต่พลังเสียงของศิลปินหญิงระดับโลกคนนี้ไม่มีตก แรงไม่หายเลยสักนิด อยากจะขนคำว่าเก่งจากทั้งโลกมามอบให้เธอจริง ๆ 

ทุกความใส่ใจสะท้อนออกมาเป็นคอนเสิร์ตที่แสง สี เสียง อลังการสมการรอคอย

ทุกความตั้งใจสะท้อนออกมาผ่านร่างกายที่แข็งแรงและการแสดงอันไร้ที่ติของเทย์เลอร์ 

พูดเรื่องจริง แต่อาจจะดู Bias เล็กน้อย แต่นี่คือคอนเสิร์ตที่เพอร์เฟกต์ที่สุด (สำหรับฉัน) และประทับใจจนไม่อยากให้มีสักโมเมนต์หล่นหายไปจากความทรงจำ 

และนอกเหนือจากความสนุกที่เทย์เลอร์มอบให้ อีกอย่างที่ฉันได้มาเต็ม ๆ คือแรงบันดาลใจ ท่ามกลางคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ เธอส่งแรงบันดาลใจให้มนุษย์ตัวเล็ก ๆ อย่างฉันอยากกลับไปตั้งใจใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีแบบที่เธอทำกับชีวิตมาโดยตลอด

ตลอด 3 ชั่วโมงในคอนเสิร์ต ในหัวของฉันคิดประโยคเดิมซ้ำ ๆ ว่า 

ฉันโชคดีที่ได้มานั่งอยู่ที่นี้ ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ โชคดีที่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ และโชคดีที่สุดที่มีเพลงของเธออยู่เป็นเพื่อน อยู่ปลอบใจ และอยู่เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตจนถึงวันนี้

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

ภาวิตา แจ่มคล้าย

ภาวิตา แจ่มคล้าย

อดีตนักเรียนโฆษณา โดยอาชีพปัจจุบันเป็นครีเอทีฟ มีชีวิตอยู่ได้เพราะโฆษณา หนังสือ วาดรูป เที่ยว และวิ่ง เป็นคนอยู่นิ่งไม่ได้ ชอบหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ชีวิต