21 เมษายน 2018
20 K

“ถ้าฉันเปิดร้านน้ำหอม จะทำน้ำหอมตามชื่อเมือง อัมสเตอร์ดัมเป็นกลิ่นกัญชา ส่วนปารีสต้องมีกลิ่นฉี่ มันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง”

เพื่อนผู้อยู่ปารีสมาหลายปีบอกฉันอย่างจริงจัง จะเถียงก็เถียงไม่ออก เพราะกลิ่นยูรีนฉุนกึกตามมุมตึกจะชัดเจนจนปฏิเสธไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฉันก็ขอนั่งยันนอนยันว่าเมืองหลวงของฝรั่งเศสมีมุมหอมยวนใจเหมือนกันนะ ประเทศนี้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำหอมมาหลายร้อยปี นักสร้างสรรค์น้ำหอมมากมายเปิดแบรนด์ที่ปารีส และการตะลอนไปทั่วเมืองน้ำหอมเพื่อตามหากลิ่นดีๆ ในร้านเล็กๆ ก็เพลินจมูกเป็นอย่างยิ่ง

จากบรรดาร้านน้ำหอม Niche สารพัดทั่วกรุง ฉันกำตั๋ว Metro ในมือ จับรถไฟไปตามร้านแสนสวย แล้วใช้เวลานับชั่วโมงซึมซับกลิ่นอยู่ในนั้น

เกณฑ์การเลือกร้านน้ำหอมของฉันคือแบรนด์ที่ออกแบบน้ำหอมเอง มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศส ที่สำคัญคือราคาเอื้อมถึงได้ อย่างน้อยก็ต้องได้ขวดเล็กขวดน้อยติดมือกลับไปลองใช้ หรือเป็นของฝากกลับบ้านสุดพิเศษที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า Made in France จริงๆ

 

 

01

เยี่ยมพิพิธภัณฑ์น้ำหอมของแบรนด์เก่าแก่อย่าง Fragonard

หอมตั้งแต่ปี 1926

Fragonard Fragonard Fragonard Fragonard

เริ่มทำความรู้จักบทเรียนกลิ่น 101 ที่พิพิธภัณฑ์น้ำหอมเล็กๆ ใจกลางปารีส Fragonard เป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส กำเนิดจาก Grasse เมืองหลวงแห่งน้ำหอมที่อยู่ทางใต้ของประเทศ โดย Eugène Fuchs ตั้งชื่อแบรนด์โดยเอานามสกุลของจิตรกรชื่อดังสมัยศตวรรษที่18 เป็นที่ตั้ง

ปัจจุบันแบรนด์น้ำหอมนี้ยังเป็นธุรกิจครอบครัวเดิม แม้จะมีร้านสาขามากมาย แต่ฉันอยากชวนให้มา Musée du Parfum Fragonard มากที่สุด เพราะที่นี่มีไกด์พาผู้ชมไปทำความรู้จักโลกแห่งกลิ่นและการสกัดน้ำหอม ตบท้ายด้วยห้องแห่งการช้อปที่เราจะได้ลองดมกลิ่นและทายดอกไม้ที่เป็นส่วนผสม ที่สำคัญพิพิธภัณฑ์นี้เข้าฟรี ภายใน 1 ชั่วโมง เราได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินกับจมูกไปเต็มๆ

Fragonard

น้ำหอมที่นี่มีหลากหลายมาก กระทั่งเครื่องประทินผิว เทียนหอม และน้ำหอมสำหรับบ้านก็มีครบครัน แถมถ้ามากันหลายคน จะมีส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อหลายขวดด้วยแหละ (อ่านรายละเอียดพิพิธภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่)

ที่อยู่ 3-5 Square de l’Opéra-Louis Jouvet, 75009 Paris (Metro สถานี Opéra)
เวลาทำการ 09.00 – 18.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

musee-parfum-paris.fragonard.com/en

 

02

ชื่นใจกับกลิ่นสนุกจากธรรมชาติและศิลปะของ L’Artisan Parfumeur

หอมตั้งแต่ปี 1976

L’Artisan Parfumeur L’Artisan Parfumeur L’Artisan Parfumeur L’Artisan Parfumeur L’Artisan Parfumeur

น้ำหอมกลิ่นแรกของร้านนี้คือกลิ่นกล้วย

เพื่อนของ Jean Laporte จะใส่คอสตูมชุดกล้วยไปงานเลี้ยง เลยขอร้องให้นักเคมีหนุ่มออกแบบกลิ่นให้ หลังจากนั้นก็ออกแบบกลิ่นเกรปฟรุ๊ตและกลิ่นวานิลลา และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไปมากกว่า 40 ปี ปัจจุบัน L’Artisan Parfumeur มีกลิ่นหลายสิบกลิ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติและศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น Un Air de Bretagne ที่ได้แรงบันดาลใจจากอากาศริมทะเลของบริตตานี กลิ่นบนหญ้า Sur L’herbe ที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดมื้อกลางวันบนสนามหญ้าของ Edouard Manet ไปจนถึงกลิ่น Méchant Loup กลิ่นหมาป่าใจร้ายที่ผสมกลิ่นชะเอมเทศ เฮเซลนัท และน้ำผึ้ง หอมกลิ่นไม้สะอกสะใจ

ร้านนี้มีหลายสาขาทั่วปารีสและในต่างประเทศ รับรองว่าหลงเข้าไปแล้วอยู่เพลินแน่นอน เพราะกลิ่นเขาเยอะและดีงามจนเลือกไม่ถูก

ที่อยู่ 167 Boulevard Saint-Germain 75006 Paris (Metro สถานี Saint-Germain-des-Prés)
เวลาทำการ 10.30 – 19.30 น.
global.artisanparfumeur.com

 

03

หลงรักกลิ่นแบบเจ้าหญิงงามสง่าของ Annick Goutal

หอมตั้งแต่ปี 1980

Annick Goutal Annick Goutal Annick Goutal Annick Goutal Annick Goutal

Annick Goutal เป็นอดีตนักเปียโนและนางแบบที่ผันตัวมาเปิดร้านน้ำหอมที่ปารีส เธอค้นพบว่าโน้ตดนตรีกับโน้ตกลิ่นเป็นภาษาที่เรียนรู้ได้เหมือนกัน น้ำหอมของ Goutal อ่อนหวานและมีความเป็นผู้หญิงมาก โดยกลิ่นที่ดังที่สุดของแบรนด์คือ Eau d’Hadrien กลิ่นสดชื่นของพืชตระกูลส้มที่ได้แรงบันดาลใจจากวิวที่อิตาลี และ Petite Chérie ที่มีกลิ่นหวานๆ ของลูกแพร์ พีช วานิลลา และหญ้าตัดใหม่

ปัจจุบัน Camille Goutal เป็นผู้สืบทอดแบรนด์แสนหวานแทนแม่ที่เสียชีวิตไป น้ำหอมของที่นี่ราคาค่อนข้างสูง เดินเข้าร้านแล้วรู้สึกถึงรัศมีหลุยส์หรูหรา แต่ยังมี Eau de Toilette, Cologne, เทียนหอม และเครื่องประทินผิวกลิ่นเดียวกันที่ราคาย่อมลงมาหน่อย ใครอยากได้กลิ่นแบบเจ้าหญิง ต้องมาเยือนที่นี่และบรรจงพรมกลิ่นรื่นรมย์ดูสักที

ที่อยู่ 16 Rue de Bellechasse 75007 Paris (Metro สถานี Solférino)
เวลาทำการ 10.00 – 19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
www.goutalparis.com

 

04

ปรึกษาหากลิ่นวัยรุ่นของครอบครัวช่างทำน้ำหอม Parle Moi de Parfum

หอมตั้งแต่ปี 2016

Parle Moi de Parfum Parle Moi de Parfum Parle Moi de Parfum Parle Moi de Parfum Parle Moi de Parfum

แล็บน้ำหอมสีขาวดำที่มาแรงสุดๆ นี้เป็น ของ Benjamin Almairac ลูกชายวัยรุ่นของ Michel Almairac ช่างทำน้ำหอมมือฉมังจากเมือง Grasse ที่ออกแบบน้ำหอมให้แบรนด์ดังๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ Gucci, Burberry, Zadig & Voltaire ไปจนถึง Shiseido

หลังจากทำงานตามโจทย์มาตลอดชีวิต ลูกชายคนที่สองของบ้านก็เปิดร้านเล็กๆ ในย่าน Marais ให้พ่อได้ออกแบบน้ำหอมแบบที่ฝันอยากทำมาตลอด มิเชลออกแบบน้ำหอม 8 กลิ่นที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน ตั้งแต่ Totally White อ่อนหวานเหมือนซุกหน้าดมช่อดอกไม้อย่างฮอว์ธอร์น ไลแลค และวิสทีเรีย กลิ่นซุกซนแบบ Tomboy Neroli ที่ผสมดอกส้มกับยางไม้ ไปจนถึง Woody Perfecto ที่ผสมกลิ่นกาแฟ หนังสัตว์ และหญ้าแฝก เร้าอกเร้าใจเป็นที่สุด

ตัวร้านเป็นแล็บทำน้ำหอมในตัว และพนักงานก็เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวที่เชี่ยวชาญเรื่องกลิ่น คอยช่วยให้คำแนะนำอย่างจริงจังให้เราได้กลิ่นที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง ราคาเอื้อมถึงได้ แต่ถ้าตึงมือไปหน่อย เขามี Discovery Kit ให้เลือก 3 กลิ่นที่ชอบมาลองใช้ในขวดจิ๋ว 3 ขวด ราคา 15 ยูโรเท่านั้นเอง

ที่อยู่ 10 Rue de Sévigné 75004 Paris (Metro สถานี Saint-Paul)
เวลาทำการ 11.00 – 19.30 น. (ปิดวันจันทร์)
parlemoideparfum.com

 

05

ผสมน้ำหอมสูตรเฉพาะของตัวเองกับ Candora

หอมตั้งแต่ปี 2017

Candora Candora Candora Candora Candora

ปิดท้ายด้วยการค้นพบโดยบังเอิญเมื่อเดินดุ่มอยู่ในย่าน Marais เลี้ยวเข้าไปแล้วสนุกเพลิดเพลิน เพราะร้าน Candora เขามีน้ำหอม Eau de Toilette 17 กลิ่น ให้เราเลือกผสมเองได้! เชิญเล่นเกมจับคู่กลิ่นให้พออกพอใจ เลือกกลิ่นดอกไม้เครื่องเทศได้ตามประสงค์ ทางร้านจะช่วยแนะนำ แล้วจะผสมน้ำหอมใส่ขวดให้สดๆ ตรงหน้า เรียกได้ว่า Made in France ของแท้ กระทั่งขวดกับปลอกหนังแกะหุ้มขวดยังสั่งจากในประเทศเลย

ร้านนี้เป็นของสองพี่น้อง Emmanuel Frossard และ Béatrice Delorme ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Candora นักร้องโอเปร่าเสียงสวยยุค 30 ที่เป็นเพื่อนกับครอบครัวนี้ แล้วชื่อนี้ยังซ่อนความหมายว่า Can Do ทำได้ทุกสิ่ง เพราะที่นี่จัดเวิร์กช็อปสอนทำน้ำหอมให้คนทั่วไปมาเรียนทำน้ำหอมของตัวเองทุกๆ เดือน แถมในร้านยังมีช็อกโกแลตกลิ่นน้ำหอมสนุกๆ วางขายด้วย

เรื่องน่าตื่นเต้นคือคุณเอ็ม-เจ้าของร้านเป็นคนดูแลร้านเอง สมัยหนุ่มๆ ยี่สิบกว่าปีก่อน เคยมาทำงานที่กรุงเทพฯ เลยพูดไทยได้นิดหน่อย คุยสนุกเชียว แถมข้อดีอีกอย่างที่ทุกคนน่าจะชอบ คือร้านนี้ราคาย่อมเยาที่สุดในทุกร้านที่กล่าวมา

ที่อยู่ 1 Rue du Pont Louis-Philippe 75004 Paris (Metro สถานี Pont Marie)
เวลาทำการ 14.00 – 19.30 น. (ปิดวันอาทิตย์)
candora.fr

Writer & Photographer

ภัทรียา พัวพงศกร

ภัทรียา พัวพงศกร

บรรณาธิการ นักเขียน ที่สนใจตึกเก่า เสื้อผ้า งานคราฟต์ กลิ่น และละครเวที พอๆ กับการเดินทาง