“เธอสบายดีมั้ย ฉันสบายดี”
คอหนังญี่ปุ่นคงจำประโยคสำคัญจากหนังญี่ปุ่นสุดโรแมนติก หวานปนเศร้า ของผู้กำกับชุนจิ อิวาอิ (Shunji Iwai) เรื่องว่า Love Letter ได้เป็นอย่างดี หนังเรื่องนี้ใช้ความสวยงามของเมืองโอตารุ (Otaru) ในฤดูหนาวเป็นฉากหลัง ถ่ายทอดเรื่องราวความรักในอดีตที่โหยหา อบอุ่น ละมุนละไมได้อย่างลงตัว ทำให้หลายคนอยากมาสัมผัส ‘โอตารุ’ ด้วยตาตนเอง
หลังจากรอนแรมข้ามน้ำข้ามทะเล ในที่สุดฉันก็ได้มาเยือนเมืองที่อบอวลด้วยเกล็ดหิมะที่โปรยปรายตลอดช่วงฤดูหนาว โอตารุเป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลวงของฮอกไกโด (Hokkaido) เกาะที่อยู่ตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น เพียง 30 – 40 นาที หากเดินทางด้วยรถไฟ JR ที่ขึ้นชื่อเรื่องความตรงต่อเวลา
รถไฟพาฉันลัดเลาะริมแนวเขาติดทะเล มองไปเห็นบ้านเรือนและต้นไม้ปกคลุมด้วยหิมะขาวราวกับสีนมสดฮอกไกโดอันเลื่องชื่อ เมืองแห่งหิมะที่มีความโรแมนติกและความเหงาโดดเดี่ยว ปนเปซ้อนทับกันอยู่ อาจจะเป็นเพราะฉันเดินทางมาจากเมืองร้อน จึงหลงใหลฤดูหนาวเป็นพิเศษ
ที่มาของเมืองโอตารุ ซึ่งค้นได้อย่างรวดเร็วจากวิกิพีเดียบอกไว้ว่า โอตารุเป็นเมืองถิ่นฐานของชนเผ่าไอนุ ชนเผ่าพื้นเมืองของเกาะฮอกไกโด และยังมีความหมายว่าเมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านลงสู่ทะเล โอตารุจึงเป็นหนึ่งในเมืองท่าสำคัญของเกาะฮอกไกโดที่เปิดรับชาวต่างชาติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายทั้งบนที่ราบและไหล่เขาสวยงามราวกับภาพวาด สีสันก็กลมกลืนกันไป ดูคลาสสิกและหม่นเศร้าเมื่อยามหิมะตกในหน้าหนาว แต่ไม่รู้ทำไมฉันกลับชอบความรู้สึกแบบนั้น ความโดดเดี่ยว โหยหาอดีต เป็นสิ่งที่นักเดินทางอย่างฉันแสวงหา
ฉันมาถึงโอตารุในวันที่หิมะตกหนัก ถึงแม้จะไม่ได้ตามรอยหนัง Love Letter ทุกย่างก้าว แต่เสน่ห์ของโอตารุก็ทำให้นักเดินทางตัวเล็กๆ ตกหลุมรักเมืองนี้ได้ไม่ยาก ว่ากันตั้งแต่อาคารบ้านเรือน ตึกเก่าแก่ ที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ก่อร่างสร้างเมือง มีกลิ่นอายความคลาสสิค มีความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานกับความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัว
ฉันพยายามเดินฝ่าความหนาวตั้งแต่ลงรถไฟเรื่อยไปจนถึงคลองโอตารุ สัญลักษณ์สำคัญของเมืองที่ผู้มาเยือนต่างไม่พลาด อีกทั้งบางคนยังล่องเรือในคลองเที่ยวชมเมือง คลองสายนี้ยังแสดงถึงการเป็นสัญลักษณ์ของเมืองท่าที่สำคัญ มีการค้าขายกับชาติตะวันตก การคมนาคมที่พัฒนาทั้งการล่องเรือ และทางรถไฟที่เชื่อมต่อโอตารุกับซัปโปโรเป็นแห่งแรก ทำให้เศรษฐกิจของเมืองเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อาหารการกินของที่นี้ก็สดใหม่ตามสไตล์ญี่ปุ่น มีทั้งของคาวที่เป็นอาหารทะเลสด ขนมต่างๆ รวมถึงไอศครีมซอฟต์ครีมที่แทบจะละลายในปาก มีทั้งมุมของความเงียบให้ได้สัมผัส โดยเฉพาะเช้าวันจันทร์ที่สถานที่สำคัญยังไม่เปิดให้บริการ ฉันเหมือนนักเดินทางจากแดนไกลที่ร่อนเร่มาสัมผัสความหนาวเพียงลำพัง บางช่วงของถนนเหมือนฉันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่น ที่เดินทางมาเยือนดินแดนแห่งเทพนิยาย ขณะเดียวกันมุมของความคึกคักสนุกสนานสดใสที่ปรากฏในย่านการค้า มีถนนคนเดินที่ขายของน่ารักหลายอย่าง ถนนสายนี้มีชื่อเรียกว่า ซาคาอิมาจิโดริ ที่ขายของหลายอย่าง
สินค้าขึ้นชื่อของโอตารุคือเครื่องแก้วที่มีขายหลากหลายร้าน ทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ สดใสน่ารัก รวมถึงกล่องดนตรีที่หาได้จากพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Orgel Emporium) เมื่อซึมซับบทเพลงหลากหลายแนว ทุกย่างก้าวที่โอตารุเหมือนพาเราย้อนกลับไปอดีต ไม่แปลกหรอกที่คนหลงรักอดีต ตึกเก่าแก่ และเสียงดนตรีคลาสสิก อย่างฉันจะท่องไปในเมืองนี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ฉันฝ่าลมหนาวขึ้นรถบัส ตั้งใจจะไปพิพิธภัณฑ์ของเมืองโอตารุ แต่ปรากฏว่าหิมะตกหนัก ติดอยู่บนรถ หลงทาง สุดท้ายต้องนั่งรถย้อนกลับมาที่เดิม คนขับรถใจดี ไม่คิดค่ารถ วันนั้นทั้งวันได้แต่นั่งมองหิมะ เก็บภาพเกล็ดหิมะที่ตกโปรยปราย และเดินฝ่าสายลมหนาว ต่อรถไฟกลับโรงแรม แค่เพียงความหนาวที่ได้สัมผัสมันก็เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่คนเมืองร้อนหาไม่ได้จากบ้านเกิด
ยิ่งฤดูหนาว ความเย็นของหิมะ และเกล็ดหิมะที่โปรยปรายไปทั่วทำให้เมืองนี้มีมนตร์เสน่ห์อยู่เหนือกาลเวลา หวานปนเศร้าคงจะใช้ได้ดีกับการเดินทางในหน้าหนาว ยังมีอีกหลายจุดที่ฉันยังไม่ได้เดินทางไป และหวังว่าจะได้กลับมาเยือนที่นี้อีกครั้ง
ภาพของมิโฮ นากายาม่า (Miho Nakayama) นางเอกในหนังเรื่อง Love Letter ที่ตะโกนก้องถามคนรักที่จากไป รอบตัวเธอโอบล้อมไปหิมะที่ตกบนภูเขายังอยู่ในความทรงจำของฉัน จะว่าไปการออกเดินทางอาจจะเป็นอีกหนทางหนึ่งของการรักษาความเจ็บปวดบางอย่าง มันอาจจะช่วยเยียวยาบาดแผลทางร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน
ระหว่างการเดินทางที่ยาวนานในชีวิต เราอาจจะแค่ต้องการใครสักคน อาจจะเป็นครอบครัว คนรัก เพื่อน ถามเราด้วยคำถามง่ายๆ ว่า
“เธอสบายดีมั้ย”
ฉันคงตอบเหมือนกันว่า
“ฉันสบายดี และดีใจที่ (ครั้งหนึ่ง) เราพบกันนะ”
แนะนำสักเล็กน้อย
ก่อนเดินทางไปโอตารุ (Otaru) หาข้อมูลได้จากหลากหลายเว็บไซต์ ที่สถานีรถไฟ JR โอตารุมีแผ่นพับแนะนำข้อมูลอย่างง่าย สวยงามน่าอ่าน หนึ่งในนั้นมีภาษาไทยด้วย การเดินทางไปด้วยตนเองไม่ยากอย่างที่คิด ไม่ว่าจะไปที่ไหน ขอให้เดินทางด้วยความสบายใจ
ถ้าคุณมีประสบการณ์เดินทางแปลกใหม่จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญส่งเรื่องราวของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’
ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะมีสมุดบันทึกปกหนังเทียมเล่มสวยส่งให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ