ชีวิตของ Nathalie Lété ดูสวยงามชวนฝันเหมือนเทพนิยาย
ไม่ใช่แค่เพราะศิลปินฝรั่งเศสคนนี้มีผลงานมหาศาลที่คนทั่วโลกกรี๊ดกร๊าด ตั้งแต่งานศิลปะ หนังสือนิทาน ตุ๊กตา ของเล่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ จานชาม วอลเปเปอร์ ฯลฯ เรียกได้ว่าแบรนด์ดังไหน ๆ ก็อยากคว้าตัวเธอมาเพนต์ให้
นาตาลี เลเต้ เป็นนักเดินทาง ทุกวันนี้เธอบินไปทำงานทั่วโลก และเก็บเอาแรงบันดาลใจจากแต่ละเมืองมาผลิตงานชิ้นถัด ๆ ไปในบ้านชานเมืองปารีส Maison Atelier Suzanne ที่เธอเพนต์เองทั้งหลัง
ในวัย 59 ปี นาตาลีมาเมืองไทยครั้งแรก หลังจากร่วมมือกับแบรนด์ Sretsis ออกแบบคอลเลกชันแสนสวยมาหลายฤดูกาล ปีนี้แบรนด์ไทยสุดเก๋พาศิลปินคนดังมาเมืองไทย เพื่อเปิดตัวคอลเลกชัน Nathalie Lété x Sretsis Table & Little Sister ‘Seashell Dreams’ ซึ่งมีทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ ของตกแต่งบ้านน่ารัก ๆ ที่มีลวดลายสื่อถึงความประทับใจต่อท้องทะเล
เหมือนผุดขึ้นมาจากมหาสมุทร นาตาลีถักเปียยาว สวมกระโปรงลวดลายที่เธอเพนต์เอง มานั่งคุยกันใน Sretsis Parlour
ได้โอกาสคุยกันในร้านงดงาม มีสปาร์กลิงไวน์ฟองฟู่ในมือ บทสนทนาของเรามีแต่เสียงหัวเราะครื้นเครง
แจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนเลื่อนสายตาลงไปอ่าน เราไม่คุยกันเรื่องสูตรสำเร็จประเภทถอดเคล็ดลับชีวิต บทเรียนอันเข้มข้น สิ่งที่ได้เรียนรู้ในชีวิตศิลปินที่โด่งดังมหาศาล
เราคุยกันเรื่องความหมายของบ้าน การเดินทาง ธรรมชาติ ความรัก การเป็นตัวของตัวเอง การเก็บความเป็นเด็กและความคิดสร้างสรรค์ติดตัวไว้เสมอ
ยินดีที่คุณจะได้รู้จักผู้หญิงคนนี้
บ้านคุณสวยแบบ Pinterest ระเบิด ดูก็รู้ว่าเจ้าของรักบ้านมาก ทำไมคุณถึงชอบบ้านขนาดนี้
ฉันไปหาหมอดูตัวเลขมา เขาบอกว่าที่เธอผูกพันและชอบบ้านมาก ๆ เพราะว่าชาติก่อนเธอเป็นสถาปนิก ฉันคิดว่าบ้านสำคัญเพราะเป็นเหมือนรังของเรา ฉันชอบของที่ห้อมล้อมเรา พื้นที่รอบ ๆ เราสำคัญค่ะ
อะไรทำให้บ้านเป็นบ้านคะ
แสง แสงธรรมชาติจากหน้าต่าง และวัสดุ ฉันชอบไม้ แต่ก็ชอบวัสดุพื้นอื่น ๆ ด้วย ชอบวัสดุที่พิเศษ และเนื้อผ้าก็สำคัญ ไปไหนถ้าเอาผ้าไปด้วยจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม่สำคัญเท่านะ ถ้าให้เลือกระหว่างอยู่บ้านที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ กับมีเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ชอบ ขออยู่แบบไม่มีดีกว่า แค่มีฟูก เก้าอี้ง่าย ๆ โต๊ะง่าย ๆ ให้กินข้าวก็พอ เดี๋ยวฉันเติมผ้าและข้าวของอื่น ๆ กระจก ภาพเขียน อะไรแบบนี้เอง
ทำไมคุณถึงตั้งชื่อบ้านของคุณว่าซูซาน
เพราะเจ้าของบ้านคนเดิมชื่อ ซูซาน และเธอเสียชีวิตตอนอายุ 105 ปี ตอนเธอซื้อบ้าน เธออายุ 53 ปีและฉันก็อายุ 53 ปีตอนที่ฉันซื้อบ้านหลังนั้น ตอนได้รับเอกสารบ้าน ถึงเห็นว่าเจ้าของเดิมซื้อบ้านตอนมิถุนายน ปี 1964 หมายความว่าเธอซื้อบ้านหลังนั้นในเดือนที่ฉันเกิดพอดี น่าอัศจรรย์มาก ฉันก็เลยตั้งชื่อบ้านตามเธอ เผื่อจะอายุยืน 105 ปีเหมือนซูซานบ้าง (หัวเราะ)
มันเป็นบ้านที่ทำให้ฉันมีความสุขมาก ตอนนั้นฉันกำลังจะหย่ากับสามี นั่นไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีสำหรับเราทั้งคู่เลย ฉันตัดสินใจซื้อบ้านและทำโปรเจกต์ของตัวเองที่นั่น พอทำงานเสร็จเขาก็มาเยี่ยม แล้วเราก็ตกหลุมรักกันอีกครั้ง ยังกับเป็นวัยรุ่นเลยล่ะ ฉันคิดว่ามันเป็นบ้านแห่งความรักและความสุข เขาผลักดันให้ฉันทำสิ่งที่อยากทำ เป็นสถานที่ที่ดีค่ะ
ตอนนี้ที่ไหนคือบ้านของคุณ บ้านซูซานที่ Fontainebleau หรือปารีส
ฉันคิดว่าที่ที่เราอยู่ด้วยกันตอนนี้คือบ้าน ฉันเลยสร้างสตูดิโอใหญ่ข้าง ๆ บ้านซูซาน ขนาด 500 ตร.ม. ใหญ่สำหรับเรา 2 คน เขาเลยมี 2 สตูดิโอ ฉันก็มี 2 สตูดิโอ ชั้นบนก็มีห้องนอน สวยมาก ฉันว่าเราเจอที่ที่เราอยากอยู่แล้วค่ะ มันใกล้แม่น้ำ เห็นวิวแม่น้ำ ซึ่งฉันคิดว่าสำคัญมากที่จะต้องเห็นน้ำ ชีวิตเราต้องการเห็นต้นไม้ เห็นสายน้ำเคลื่อนไหว แค่นั่งลงและมองน้ำก็มีความสุข ตอนนี้มาถึงช่วงชีวิตแห่งการใคร่ครวญค่ะ
ถ้าเดินทางไปประเทศใหม่ครั้งแรก คุณจะเลือกไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เก่าหรือไปชมธรรมชาติ
โอ้ ต้องไปทั้งคู่ค่ะ เพราะว่าฉันวาดดอกไม้ ต้องไปเห็นดอกไม้จริงที่ประเทศนั้น ๆ แต่ว่าฉันชอบไปดูวัดด้วย ฉันชอบศาสนสถาน ชอบดูการตกแต่ง รูปปั้น ข้าวของในสถานที่ที่คนเคารพบูชา ไปประเทศไหนก็ได้แรงบันดาลใจจากศาสนสถานเสมอ
ที่เมืองไทยนี่เราได้ไปวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดอรุณฯ วัดถ้ำเขาย้อยที่หัวหิน มีลิงเยอะแยะเลย และฉันก็ไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มาด้วย มีจิตรกรรมฝาผนังและเพดานสวย ๆ ฉันชอบของตกแต่งบ้าน เวลาไปศาสนสถานจะชอบไปดูสีสันและการใช้วัสดุ
เป็นเพราะคนเรามักนำสิ่งที่ดีที่สุด สวยที่สุด มาใส่ในศาสนสถานรึเปล่า
ใช่เลย และฉันพบว่าประเทศต่าง ๆ มีความคล้ายคลึงกัน ครั้งหนึ่งฉันไปภูเขาที่โปแลนด์ หน้าต่างบ้านจะมีดอกไม้กระดาษแขวนตกแต่งทุกบาน คล้าย ๆ กับที่อินเดียกับเม็กซิโก สนุกดี เรามักคิดว่าเราแตกต่างกัน แต่จริง ๆ แล้วเราเหมือนกัน และความงามของแต่ละประเทศก็คล้ายกัน เพราะเรารักสิ่งเดียวกัน ใช่มั้ยล่ะคะ
คุณจับความงามของแต่ละสิ่งมาใส่ในงานของคุณได้ยังไง โดยเฉพาะของตกแต่งบ้าน
ฉันวาดรูปเยอะ เวลากลับบ้านจะทำงานศิลปะจากสิ่งที่เห็น ไม่รู้สิคะ ฉันเห็นรายละเอียดของสิ่งเล็ก ๆ ที่ชอบ ฉันชอบงานแพตช์เวิร์ก ไปไหนก็มองการตัดต่อแปะเข้ากัน อย่างที่เมืองไทย ฉันชอบการใช้เศษกระเบื้องมาต่อกันเป็นลวดลายประดับวัด ชอบที่ทำเป็นลวดลายดอกไม้ มีงานไม้สีดำและสีทอง (ลงรักปิดทอง – ผู้เขียน) แล้วก็มีเพดานสีแดง พื้นก็มี 2 สี มีการใช้สีทองมากมายควบคู่กับเศษกระเบื้อง มีแพตเทิร์นเยอะแยะมากที่ดึงดูดใจ ฉันเห็นเครื่องประดับสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เก่ามาก ๆ แต่ว่าดูโมเดิร์นมาก ไม่น่าเชื่อเลย แล้วชฎาก็รูปทรงเหมือนหอไอเฟล
เวลาเห็นของแบบนี้ฉันจะเก็บมาใส่ในงาน แต่ไม่ได้เอาความเป็นไทยมาใส่ทั้งหมด แต่จับมาผสมกับสิ่งต่าง ๆ หลากหลายและความเป็นตัวเอง กลับบ้านไปแล้วน่าจะวาดภาพที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองไทย อย่างลิงที่วัดเนี่ย ชอบมากค่ะ ทั้งฉันและสามีชอบลิง เราชอบดู Instagram Story เกี่ยวกับลิง เพราะรู้สึกว่ามันคล้ายพวกเรา อาจจะวาดลิงกับนก แล้วก็กระรอก ฉันชอบกระต่ายแล้วก็ช้างด้วย
เวลาออกเดินทาง ของฝากอะไรที่คุณชอบซื้อกลับบ้าน
ของที่เลือกเอาไปทำงานต่อได้ ฉันชอบไปร้านเครื่องประดับ โบ ลูกปัด เพราะที่ฝรั่งเศสแพงมากค่ะ ต้องใช้แบบประหยัด มีร้านหนึ่งชื่อ La Droguerie ที่ปารีส ขายลูกปัดทีละช้อน ตอนอายุน้อย ๆ ฉันต้องเก็บเงินซื้อทีละช้อน เงินจะหมดแล้วยังแทบไม่ได้อะไรเลย แต่เวลาเดินทาง ซื้อลูกปัดทีได้เป็นถุง ฉันตื่นเต้นเหมือนเป็นเด็กที่จะได้สนุกกับวัสดุ
5 มิวเซียมโปรดในชีวิตของคุณคือที่ไหน
- Sir John Soane’s Museum เป็นมิวเซียมเล็ก ๆ ที่ลอนดอน ฉันชอบบ้าน ชอบมิวเซียมเล็ก ๆ มากกว่าพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ๆ ที่นี่เหมือน Louvre จิ๋วที่อยู่ในบ้าน เป็นบ้านสะสมของแอนทีก เขาสะสมศิลปะแอนทีก มีโลงศพฟาโรห์กลางบ้าน ถ้าไปตอนกลางคืนเขาจะจุดเทียนรอบ ๆ ลึกลับน่าทึ่งมาก ๆ
- Charleston Farmhouse ที่ East Sussex เคยเป็นบ้านตากอากาศของ Bloomsbury Group กลุ่มนักคิด นักเขียน ศิลปินอังกฤษ ที่นี่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันเพนต์บ้านตัวเอง เพราะที่นี่สมาชิกทาสีตกแต่งกันเอง ผนัง โต๊ะ เฟอร์นิเจอร์ เซรามิก น่ารักมากค่ะ
- Museo de Arte Popular ที่เม็กซิโกซิตี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและงานทำมือ เม็กซิโกถนัดด้านนี้และมีสีสันมาก ฉันชอบดอกไม้กระดาษ หน้ากาก ที่นี่มีคอลเลกชันหน้ากากครบ
- Ballenberg เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่สวิตเซอร์แลนด์ มีบ้านและฟาร์มโบราณจำลองเป็นร้อย ๆ หลังอยู่บนภูเขา ฉันชอบบ้านมาก ๆ ค่ะ ไปเที่ยวที่นี่กับแม่ ต้องใช้เวลา 2 – 3 วันถึงเที่ยวดูครบทุกหลัง ทุกหลังตั้งอยู่ห่างกัน มีสวน มีรั้วสวยงามแตกต่างกัน ในบ้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่ทั้งหมด
ฉันชอบอดีตมากกว่าปัจจุบัน รู้สึกเหมือนอยู่ในหนังย้อนเวลาที่มีแต่สิ่งสวยงามจากอดีต โรงแรมที่อยู่ก็สวยงาม อยู่ข้างทะเลสาบและน้ำตก ควรไปมากนะ แนะนำ - Maisons Victor Hugo ที่ปารีส วิกตอร์ อูโก เป็นนักเขียนดังมาก บ้านฉันอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้มากนัก ที่นี่สวยมาก อูโกไม่ใช่แค่นักเขียนดัง แต่ว่าเป็นช่างฝีมือ เขาทำห้องนั่งเล่นเป็นเป็นห้องสไตล์จีน วาดภาพลงบนไม้ และตกแต่งกระเบื้องที่ผนัง สวยมาก ๆ เขาเลือกสรรสร้างโลกของเขาขึ้นมา (Curate his own world.) และฉันก็ประทับใจผู้ชายที่ทำสิ่งเหล่านี้มาก เพราะฉันคิดว่าผู้หญิงมีนิสัยแบบนี้อยู่แล้วโดยธรรมชาติ แต่ผู้ชายที่ทำให้บ้านตัวเองสวย น่าประทับใจ
Curating your own world ก็เป็นสิ่งที่คุณทำเหมือนกัน เราจะเริ่มต้นเลือกสรรสร้างโลกของเราอย่างไร
สิ่งแรกที่ต้องทำคือเจาะลึกเข้าไปในวัยเด็กของคุณ คุณชอบอะไรตอนเป็นเด็ก รู้สึกอย่างไรตอนเป็นเด็ก นี่เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะค้นพบต้นกำเนิดความสุขของคุณ จำให้ได้ว่าทำไมคุณถึงมีความสุขในช่วงเวลาเหล่านั้น ดึงความทรงจำออกมา และสร้างมันขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนดึงด้ายออกมา คนส่วนใหญ่หลงลืมช่วงเวลาวัยเยาว์ แต่ฉันไม่เคยลืมความเป็นเด็กเลย ไม่มีวัน
บางคนลืมเพราะอยากเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนจริงจัง หรือถูกบังคับให้เป็นผู้ใหญ่ แต่ฉันว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่หรอก (หัวเราะ) แค่ใช้ชีวิตมาเรื่อย ๆ
คุณยังอ่านเทพนิยายอยู่มั้ยคะ
ตอนนี้ไม่ได้อ่านแล้ว แต่อ่านเยอะตอนเด็ก ช่วงเวลานั้นสำคัญมากค่ะ แม่เล่านิทานให้ฉันฟังเยอะด้วย ฉันเติบโตมากับนิทานของหลายประเทศ ซึ่งก็เหมือนของตกแต่งในศาสนา เทพนิยายของแต่ละประเทศคล้ายคลึงกันมาก มีเด็กสาวที่ไม่มีอะไรเลยซึ่งกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด เด็กยากจนที่กลายเป็นร่ำรวยและมีความสุข เด็ก ๆ ที่ช่วยงานพ่อแม่ แม้จะยังเล็กแต่ก็ฉลาด มีธีมคล้ายกันเสมอ ฉันคิดว่านิทานเป็นเรื่องเล่าสำหรับคนตัวเล็ก เด็ก คนหลงทาง คนยากจน ว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนพิเศษขึ้นมาได้ มันช่วยเด็ก ๆ ได้มาก
ฉันชอบ หนูน้อยหมวกแดง เพราะตอนเด็กแม่ชอบให้ใส่หมวกสีแดง แล้วฉันก็มีสุนัขสีดำ ใคร ๆ ก็บอกว่าเหมือนหนูน้อยหมวกแดง ฉันเขียน หนูน้อยหมวกแดง เวอร์ชันของตัวเองด้วย เป็นเรื่องของเด็กหญิงที่อยากเป็นผู้ใหญ่ สีแดงคือสีเลือด เธอกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัวหลังจากฆ่าหมาป่าซึ่งก็คือผู้ชาย งานนั้นเป็นเหมือนการบำบัดตัวเอง ฉันทำงานกับเรื่องนี้เยอะตอนอายุ 35 และตอนนี้ก็ไม่ทำแล้ว ก้าวผ่านเรื่องนี้มาแล้ว
คุณเคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 3 ปีก่อนว่า ชีวิตช่วงนี้อยากทำงานที่ทำให้คนมีความสุข ไม่ทำงานดาร์ก ๆ อีกแล้ว ทำไมถึงคิดแบบนั้น
อืม ฉันคิดว่ามนุษย์ทุกคนคล้ายกัน ทุกคนมีความรู้สึกแบบเดียวกันคืออยากมีความสุข ฉันชอบที่คนบอกว่ามีความสุขกับงานศิลปะของฉัน รู้สึกว่าได้ช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วเริ่มจากการทำให้ตัวเองมีความสุขก่อน แล้วพอเห็นผลตอบรับของผู้คน ฉันคิดว่าการได้ทำสิ่งที่ทำให้คนมีความสุขเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ถึงฉันไม่ใช่นักบำบัด
ทำอย่างไรความคิดสร้างสรรค์จึงไม่เหือดแห้ง
มันเป็นธรรมชาตินะ ฉันพยายามจะไม่ทำสิ่งที่ถูกบังคับให้ต้องทำค่ะ คิดเยอะตลอดว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถ้ารู้สึกว่าไม่ชอบ ต่อให้คนรอบ ๆ ตัวบอกว่า ทำเถอะ ๆ ฉันก็จะไม่ทำ ต้องยอมรับความรู้สึกของตัวเองว่าต้องการอะไร ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเสมอไป บางครั้งก็ต้องอยู่คนเดียวบ่อย ๆ เพราะไม่ได้คิดทำอะไรให้เหมือนชาวบ้านเขา
แล้วรับมือกับความเดียวดายอย่างไร ในเมื่อคุณไม่เหมือนคนอื่น ๆ
ธรรมชาติช่วยได้มากเมื่ออยู่อย่างสันโดษ อยู่กับต้นไม้ อยู่กับสัตว์ ฉันมีความสุขมากเวลาอยู่คนเดียวในธรรมชาติกับสุนัขของฉัน สัตว์ช่วยได้มากค่ะ เหมือน บริจิตต์ บาร์โดต์ เธอเคยเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส แล้วคนก็เกลียดเธอเพราะเธอปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียวกับหมาแมว ฉันก็สงสัยว่าทำไมต้องไม่ชอบเธอ เธอก็แค่ทำสิ่งที่อยากทำเท่านั้นเอง
ของวินเทจกับธรรมชาติ อะไรให้แรงบันดาลใจคุณมากกว่ากัน
ไม่เลือกได้มั้ย ฉันชอบผสมของเข้าด้วยกัน เช้าวันอาทิตย์ฉันทั้งชอบไปตลาดมือสองและเข้าป่า พยายามทำทั้งคู่เลย ไปเดินป่าก่อนตอนเช้าแล้วไปตลาดต่อ ชีวิตคือการหาสมดุล ถ้าสัปดาห์นี้กินเยอะ อาทิตย์หน้าก็กินแต่ผัก ไม่ทำอะไรวุ่นวาย และไม่ทำอะไรสุดโต่งไปในทุก ๆ วัน
ฟังดูฝรั่งเศสมาก และขณะเดียวกัน การหาทางสายกลางก็ฟังดูพุทธด้วย
เหรอคะ ฉันเคยอยากเป็นแม่ชีนะ แต่ฉันว่าคงเป็นแม่ชีที่ไม่ดีนักหรอก แต่ฉันชอบชีวิตของแม่ชี ชอบชุด ชอบวิถีชีวิต แต่ฉันชอบเต้นด้วย ถ้าเป็นแม่ชีคงเป็นแม่ชีบ๊อง (หัวเราะ)
คุณทำงานหลากหลายในรูปแบบใหม่ ๆ ตลอดเวลา ไม่กลัวว่าจะออกมาไม่ดีหรือคนไม่ชอบเหรอ
ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผลตอบรับจะเป็นยังไง คนจะชอบหรือไม่ชอบ ฉันแค่ทำ บางครั้งก็พลาดบ้าง แต่ก็เป็นความผิดพลาดทางการตลาด ไม่ใช่ฉันพลาด เพราะฉันรู้ตัวว่าอยากทำแต่แรก ผู้ชายคนนี้ (ชี้ไปที่สามี Thomas Fougeirol) ทำสิ่งที่เขาอยากทำตลอดเวลา
ฉันทำหลายสิ่งที่อยากทำกับผู้คนหลากหลาย บางครั้งก็มีผิดพลาด แต่ระหว่างทางก็มีหลายสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นก็มีสมดุล คนที่ทำงานน้อยอย่าง ทำผิดพลาดทีก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะคิดว่าไปผิดทาง แต่ฉันทำงานเยอะ อะไรไม่ดีบ้างก็แล้วไป ไม่เป็นไร
เป็นคนทำงานหนักไหมคะ
ค่อนข้าง แต่ไม่ทำงานเป็นเครื่องจักรนะคะ 6 โมง-ทุ่มหนึ่งต้องหยุดแล้ว จะได้ใช้เวลาค่ำกับสามี ไม่ทำงานหนักเป็นคนบ้า จะได้มีสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว
ขอปิดท้ายด้วยคำแนะนำสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ค่ะ
จงหาเรื่องราวของคุณจากความทรงจำวัยเด็ก ไม่ต้องทำสิ่งที่ทันสมัย ถ้าของที่ฮิตไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับคุณ อย่าไปวาดมันเลย หาให้เจอว่าทำไมคุณถึงชอบสิ่งต่าง ๆ เรื่องราวไหนที่ทำให้คุณฝันถึง อะไรทำให้คุณหลบหนีไปอยู่ในโลกของคุณ คุณทำสิ่งที่แตกต่างจากตัวเองมาก ๆ ไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่ได้จริงใจกับตัวเอง