แร่หมื่นล้าน บ้านกลางน้ำ ถ้ำงามตา ภูผาแปลก แมกไม้จำปูน บริบูรณ์ด้วยทรัพยากร

นั่นเป็นคำขวัญจังหวัดพังงาที่ครั้งหนึ่งเราเคยท่องทุกเช้าก่อนเข้าเรียน เราเคยไปเรียน-ใช้ชีวิตวัยเด็กที่ตำบลนบปริง อำเภอเมืองพังงา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณตา กว่าเราจะเข้าใจและรู้ความหมายของคำขวัญที่กลายเป็นเสน่ห์ของเมืองพังงานี้ก็ปามาครึ่งชีวิต โดยเฉพาะ ‘บริบูรณ์ด้วยทรัพยากร’

ยิ่งได้สนทนากับ เจน-ณัฐธิดา และ โชค-โชคชัย มุขแก้ว สองคู่รักผู้เป็นเจ้าของ ‘Phang Nga Origin Hotel’ ก็ทำให้เราคิดถึงเมืองเล็ก ๆ ในหุบเขามากขึ้นไปอีก จนอยากกลับไปเยือนอีกครั้ง

Simple Living

เจนเป็นสาวนครศรีธรรมราชที่ตกหลุมรักหนุ่มพังงา ความรักพาให้เขาและเธอมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองในหุบเขาแห่งนี้ เจนและโชคเป็นอาจารย์พิเศษในวิทยาลัยชุมชนพังงา หนุ่มสาวคู่นี้เติบโตมาในครอบครัวข้าราชการ แต่ ณ ช่วงวัยหนึ่ง เขาทั้งคู่ตัดสินใจเดินออกจากคอมฟอร์ตโซนมาเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม

“เมื่อ 8 ปีก่อน หลังจากสร้างบ้านเสร็จ มีความคิดอยากทำธุรกิจที่พักในเมืองพังงา ซึ่งตอนแรกจะทำที่พักในพื้นที่สวน เน้นนำเสนอธรรมชาติของเมืองพังงา แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนความคิด” เจนเปรย  เจนและโชคไม่มีประสบการณ์ในการทำโรงแรมมาก่อน จึงเติมเต็มข้อมูลความรู้ในส่วนที่พวกเขายังขาด ด้วยการลงเรียนคอร์สเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูทีกโฮเต็ลของ อาจารย์วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์

ประจวบเหมาะกับคุณตาคุณยายมอบเรือนแถวเก่าอายุกว่า 60 ปีในตัวเมืองพังงาให้โชค ซึ่งบ้านหลังนี้ปล่อยเช่ามาตลอด และเคยเป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนสอนขับรถแห่งแรกของพังงา ร้านเสริมสวย ร้านอาหาร ร้านซักรีด และ (ว่าที่) โรงแรมบูทีกขนาดกะทัดรัด ทั้งยังมีที่ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนและตลาดสด

‘พังงา ออริจิ้น’ ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด Passive Design ที่ออกแบบให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ เจนว่าเป็นการพึ่งพาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติรอบตัว ซึ่งเธอตามหาสตูดิโอที่มีแนวคิดในทิศทางเดียวกัน จนเจอกับ Eco Architect สตูดิโอสถาปนิกจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกแบบที่อยู่อาศัยด้วยคอนเซปต์ ‘บ้านที่หายใจร่วมกับธรรมชาติ’ และโรงแรมบูทีกแห่งนี้ก็สร้างขึ้นโดยช่างท้องถิ่น

บูทีกขนาด 6 ห้องในอาคารร่วมสมัยแห่งนี้นำเสนอกลิ่นอายของวันวาน รวมถึงอดีตอันมีคุณค่าและมีความหมายผ่านสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น อย่างฉิ่มแจ้ หงอคาขี่ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการอิงอาศัยร่วมกับธรรมชาติ รับรองว่าอยู่สบาย ระบายอากาศได้ดี มีช่องรับสายลม-แสงแดด แถมประหยัดพลังงาน

“อย่างแสงเงา นอกจากสร้างสุนทรียภาพแล้ว ยังเป็นสิ่งตกแต่งอาคารที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล คล้ายบทสนทนาระหว่างเรากับธรรมชาติ ในแต่ละช่วงวันแสงเงาจะเปลี่ยน แล้วก็ทอดตัวสร้างความงามผ่านวัตถุที่แสงสะท้อนเข้ามา เราให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบอิงอาศัยกัน กลางวันไม่ต้องเปิดไฟ และแขกเปิดรับลมในวันที่อากาศดีได้ ซึ่งแขกชอบมาก อยู่แล้วเย็นสบาย” เจ้าบ้านเล่า

Relaxing Moment

ห้องพักทั้ง 6 ห้อง อยู่บนเรือนแถวชั้น 1 และชั้น 2 ของบ้าน รองรับแขกได้ราว 14 คน 

มีห้องขนาดมาตรฐาน 4 ห้อง คือ Simple Living, Classical Mind, Cultural Charm และ Relaxing Moment มีห้องขนาดใหญ่ 2 ห้อง คือ Green Breathing (อยู่ชั้น 1 มองเห็นวิวสวนส่วนตัวสีเขียวขจี) และ Local Romance (อยู่ชั้น 2 มองวิวภูเขาของเมืองพังงาและวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน)

ภายในห้องพักตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ฝีมือคนพังงา เช่น โคมไฟสาน ตะกร้าสาน ผ้าพิมพ์อีโค่ใบไม้มงคล จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนนาตายาบาติก และแผนกต้อนรับก็ตกแต่งด้วยภาพติดผนังซึ่งสานด้วยก้านดอกชก เรียบง่ายแต่สวยงาม ได้แรงบันดาลใจจากแสงสาดส่องของดวงอาทิตย์

เพราะเจนและโชคเป็นอาจารย์พิเศษ จึงทำให้รู้จักชุมชนต่าง ๆ ในเมืองนี้เป็นอย่างดี 

“เรารู้จักชุมชนจากทั้งนักศึกษาและการลงพื้นที่ นั่นทำให้เราเห็นว่าพังงามีสิ่งที่เป็นคุณค่าและรอการนำเสนออยู่เยอะมาก โรงแรมเราจึงเป็นตัวกลางในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้คนเข้าไปค้นพบ”

Sense of Local Experience

พังงา ออริจิ้น ให้ความสำคัญกับชุมชน การเกื้อกูลแบ่งปัน และสิ่งแวดล้อม

“เราตั้งใจตั้งแต่แรกว่าจะนำอัตลักษณ์ท้องถิ่น อัตลักษณ์ของพังงา และอัตลักษณ์ของโรงแรม มาผสมผสานร่วมกัน เราเคารพทุก ๆ บริบทของเมือง งานฝีมือ งานภูมิปัญญาท้องถิ่น ลูกหลานคนพังงาก็คือพนักงานในโรงแรมของเรา และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือการช่วยเหลือหรือเกื้อกูลกันทางธุรกิจ

“เรามีความเชื่อว่าเราแบ่งปันได้โดยไม่ต้องรอความพร้อม เล็กน้อยแค่ไหนเราทำทันที อย่างขนมในโรงแรมก็อุดหนุนจากแม่ค้าในตลาด เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เรายังแบ่งปันสู่การท่องเที่ยว ด้วยการแนะนำแขกให้ไปท่องเที่ยวชุมชนกับไกด์ท้องถิ่น ซึ่งมีการบริหารจัดการโดยคนในชุมชนจริง ๆ” เจนเล่า

“ผมว่าการท่องเที่ยวโดยคนในชุมชนมีเสน่ห์มาก เพราะเขาใช้ความจริงใจมานำเสนอในรูปแบบการท่องเที่ยว มีแขกเล่าว่าเขาอยากดูนก เลยไปล่องเรือกับทัวร์ชุมชน คนขับเรือจอดเรือในป่าชายเลนแล้วผิวปากเรียกนกให้เขา เขาประทับใจมาก ไม่เคยเจอที่ไหนในโลกที่ต้อนรับเขาดีอย่างนี้”

เจนบอกว่าพังงาเป็นเมืองเดินได้ แถมยังถูกใจสายปั่นจักรยานด้วย เธอมักแนะนำนักปั่นและนักวิ่งไปปั่นและวิ่งเลียบคลองพังงา ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางในการขนส่งแร่ดีบุกในยุครุ่งเรืองของเมือง

พร้อมสรรพด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างอ่าวพังงา เกาะปันหยี เขาพิงกัน น้ำตกโตนปริวรรต (สองแพรก) วนอุทยานสระนางมโนราห์ น้ำตกเต่าทอง จนถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อย่างวัดราษฎร์อุปถัมภ์ (วัดบางเหรียง) วัดถ้ำตาปาน วัดถ้ำสุวรรณคูหา จนถึงศาลเจ้าแม่ม่าจ้อโป๋ (ใกล้โรงแรม)

เมืองเล็ก ๆ นี้มีกิจกรรมให้ทำตั้งแต่สายแอดเวนเจอร์ไปจนถึงนั่งสมาธิ-วิปัสสนา 

Cultural Charm

เจ้าบ้านเปรยว่ากลุ่มเป้าหมายของที่นี่ คือคนที่ยังไม่เคยมาสัมผัสเสน่ห์ของเมืองพังงา 

เมืองเล็ก ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ พร้อมด้วยเสน่ห์และคุณค่า

“พังงามีความเป็น Morning Life มากกว่า Nightlife มีวิถีชีวิตพื้นถิ่นอยู่เยอะ ผู้คนมีน้ำใจและมิตรไมตรี เราว่าสิ่งนี้สะท้อนความสงบสุข และเป็นเหมือน Hospitality ที่เข้มแข็งของเมือง แขกจะบอกเราเสมอว่าคนพังงาน่ารัก” เจนยิ้ม “โรงแรมเรายังอยู่ใกล้กับตลาดสด ร้านอาหารท้องถิ่น แขกจะได้เห็นวิถีของคนในเมือง เสมือนได้เป็นคนที่นี่จริง ๆ ตื่นเช้าท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศสุขสงบ”

เราถามโชคในฐานะคนพังงาว่าเสน่ห์ในบ้านเกิดของเขาคืออะไร

“ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง ผมก็ยังชอบหมอกยามเช้าบนภูเขา เพราะเรามีธรรมชาติที่สวยงามและบริสุทธิ์ มันเป็นเสน่ห์ที่ผมอยากให้คนมาสัมผัสและบอกต่อ เชิญชวน ให้คนมาเที่ยวพังงาเยอะ ๆ”

เราถามเจนเช่นกันว่าอะไรที่ทำให้สาวนครฯ มาตกหลุมรักเมืองพังงา

“เริ่มจากพี่โชคค่ะ ถ้าเราไม่รักเขา ก็คงไม่ได้อยู่ตรงนี้” เธอหัวเราะน้อย ๆ “สำหรับเราที่อยู่พังงามา 10 กว่าปี เสน่ห์ที่ทำให้ตกหลุมรัก คือวิถีชีวิตของผู้คน น้ำใจไมตรี และการได้คอนเนกต์กับธรรมชาติ”

Phang Nga Origin Hotel

หลังจากเปิดบริการได้เพียงปีนิด ๆ พังงา ออริจิ้น ก็สร้างการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ให้ชุมชน เจนเห็นชัดว่าเมืองมีความเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น มีร้านรวง กิจการ และกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย

“แขกไม่ได้ชอบแค่โรงแรมเรา แต่เขาชอบเมืองและมีความสุขที่จะกลับมาพังงาอีกครั้ง ผมและเจนสุขใจที่ว่า นั่นคือความตั้งใจที่เราอยากให้เป็น แขกสัมผัสและรับรู้สิ่งที่เราอยากสื่อสารได้” 

“เราชอบบรรยากาศการทำธุรกิจที่เกื้อกูลกันค่ะ ถ้าธุรกิจเราดีได้ทั้งตัวเราเอง และดีได้ทั้งกับชุมชน ก็นับเป็นความร่วมมือที่ทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้น ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของชุมชนที่อยากให้เสน่ห์ของพังงาได้รับการรับรู้มากขึ้น ผ่านการลงมือทำ ด้วยความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของเรา 2 คน”

การเกิดขึ้นของ พังงา ออริจิ้น มีคุณค่าและมีความหมายกับเจนและโชค 

มากกว่านั้น สถานที่แห่งนี้ยังเติมเต็มคุณค่าและความหมายให้เมืองพังงาด้วยเช่นกัน