หากมองเข้ามาจากหาดตลิ่งงาม เกาะสมุย เราจะสังเกตเห็นสายรุ้งขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากชายหาดทรายสีขาว และเมื่อเดินผ่านสายรุ้งเข้าไป จะพบกับหมู่บ้านสีสันสดใส ซึ่งรายล้อมไปด้วยบ้านหลังเล็ก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติแสนร่มรื่น และได้ยินเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ

ที่นี่คือ ‘หมู่บ้านสายรุ้งมูลามาติ’ ของ แอ้-มทินา สุขะหุต ผู้ใหญ่ใจเด็กที่ตกหลุมรักเกาะสมุย ก่อนหน้านี้เราเคยพูดคุยกับเธอถึงบ้าน Grandfather’s House แต่ความหลงใหลของเธอไม่ได้หยุดแค่นั้น เธอยังสร้างหมู่บ้านแห่งนี้เป็นศูนย์นันทนาการสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อให้ทุกคนเข้ามาใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ผ่านเวิร์กช็อปศิลปะ งานฝีมือ ดนตรี และการละคร กับนักสร้างสรรค์ทั่วสารทิศ 

หมู่บ้านแห่งนี้เริ่มต้นมาจากจินตนาการของแอ้ และพื้นที่ 2 ไร่นี้คือแคนวาสของเธอ 

“เรามองว่าทำไมเราถึงทำอะไรไม่เก่งสักอย่าง แต่สิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขที่สุด คือการจินตนาการ เราชอบจินตนาการ และชอบทำให้มันเกิดขึ้นจริง เราว่านั่นคืองานศิลปะของเรา”

ชื่อ MULAMATI มาจากคำว่า Muladhara หมายถึง รากของจักระ เปรียบเสมือนรากที่ช่วยให้ต้นไม้ไม่ล้ม ส่วนคำว่า Mati มาจากความหลงใหลภาษาสันสกฤตของเธอ จึงนำมารวมกัน หมายถึง หมู่บ้านแห่งจินตนาการที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานให้เด็ก ๆ เติบโต 

คนแถวนี้รู้จักกันดีในชื่อ ‘หมู่บ้านสายรุ้ง’ เพราะมองมาเห็น 7 สีของสายรุ้ง เช่นเดียวกับ 7 สีของจักระ “เราเอา Spiritual เข้ามาเชื่อมโยงด้วย แต่นำเสนอให้เด็ก ๆ ผ่านสีของสายรุ้ง” เธอเล่า

The Kids in All of Us

แอ้หลงใหลความเป็นเด็กตั้งแต่สมัยเรียนที่นิวยอร์ก ตอนทำธีสิสจบ เธอทำโปรดักต์ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้เด็กในเมือง เมื่อกลับมากรุงเทพฯ แอ้สวมหมวกเป็นช่างแต่งตัว ผ่าน Little Sister แบรนด์เสื้อผ้าเด็ก แนวคิดยั่งยืน ที่นำผ้าในคลังมาสร้างชีวิตใหม่ เธอตั้งใจออกแบบชุดที่เด็ก ๆ จะจดจำความสุขนั้นได้เมื่อมองย้อนกลับมายังวัยเด็ก

พอมาอยู่ที่เกาะสมุย เธอก็อยากสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับเด็ก ๆ เช่นกัน

“นี่เป็นโปรเจกต์ที่เราอยากทำมานานแล้ว อยู่ให้หัวมา 7 – 8 ปี แต่ยังไม่เจอสถานที่ที่เหมาะสม พอมาใช้ชีวิตบนเกาะสมุยแค่ 2 เดือนก็ชอบที่นี่มาก แต่ยังมีหลายสิ่งที่เกาะนี้ยังเติมเต็มเราไม่ได้ เพราะสมุยมีงานสร้างสรรค์หรืองานดีไซน์ไม่ค่อยเยอะ ไฮไลต์ของที่นี่คือทะเล ธรรมชาติ โรงแรม

“คงเป็นเรื่องดีถ้าเราได้มีส่วนร่วมในการสร้างความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์หรืองานศิลปะบนเกาะ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ตัวเราและคนอื่น ๆ ได้ด้วย เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการค้นพบตัวเองของเด็ก ๆ รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างมิตรภาพใหม่อย่างสนุกสนาน โดยเราสร้างบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่สนุกได้

“เราจะดีใจมากถ้าเด็ก ๆ บอกพ่อแม่ว่า เขาอยากจะมาที่นี่” เธอยิ้มสดใส

เกาะสมุยจึงเป็นจุดหมายที่เธอจะสร้างหมู่บ้านแห่งจินตการสำหรับเด็กให้เกิดขึ้นจริง

Limitless Creativity

ถ้าเปรียบหมู่บ้านสายรุ้งเป็นโรงเรียน คงเป็นโรงเรียนไร้กรอบ ไม่มีขีดจำกัดในการเรียนรู้ มีศิลปินนักสร้างสรรค์เป็นคุณครูสายรุ้ง พาเด็ก ๆ มาค้นพบศักยภาพของตัวเองผ่านการเล่นสนุกกับศิลปะ

“การใช้ชีวิตคือศิลปะ อะไรจะดีไปกว่าการเริ่มต้นปลูกฝังสิ่งนี้ให้กับเด็ก ๆ เราค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และอยากสนับสนุนศิลปะพื้นบ้านให้เด็ก ๆ ในท้องถิ่นภูมิใจในสิ่งที่เขามี แล้วนำมาผสมผสานกับศิลปะยุคใหม่ ๆ ซึ่ง MULAMATI ก็อยากเป็นสะพานเชื่อม 2 สิ่งนั้นไว้ด้วยกัน”

ศิลปินที่จัดเวิร์กช็อปให้เด็ก ๆ มีทั้งศิลปินที่แอ้ชื่นชอบแล้วชวนมา หรือบางคนสนใจเองก็มี

“ศิลปินทุกคนแบ่งปันความรู้ได้ การมาอยู่บน Paradise Island ไม่ใช่แค่เอนจอยกับธรรมชาติอย่างเดียว ขณะเดียวกันศิลปินก็ใช้เวลานั้นสร้างสรรค์ผลงานไปพร้อม ๆ กันได้ เราว่าลงตัวนะ”

Circle of Love

คอนเซปต์การออกแบบของบ้านทุกหลังใน MULAMATI Rainbow Village เป็นทรงกลมทั้งหมด นั่นเป็นความตั้งใจที่แอ้ไม่อยากให้เด็ก ๆ เข้ามาแล้วรู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมที่มีข้อจำกัด 

“เคยมีใครสักคนพูดว่า ตอนเราอยู่ในท้องแม่ เราได้อยู่ในพื้นที่ที่อบอุ่น ทำไมพอออกมาแล้วถึงต้องอยู่ในบ้านกล่องสี่เหลี่ยม ตอนแรกพื้นที่ตรงนี้มีบ้าน เราทุบหมดเลย แล้วเริ่มสร้างใหม่เป็นวงกลม

“เราว่าวงกลมเป็นพื้นที่ที่อบอุ่น เวลานั่งล้อมกันเป็นวงกลม มันเหมือน Circle of Trust, Circle of Love แม้ว่าตอนสร้างจริง ๆ จะเหนื่อยคูณ 10 ก็ตาม แต่เราก็อยากทำ” เจ้าบ้านหัวเราะน้อย ๆ

ในหมู่บ้านสายรุ้งประกอบไปด้วยบ้านทั้งหมด 8 หลัง 

หลังแรกชื่อว่า ‘Mula Mud House’ วางแผนจะเป็นศูนย์ดูแลเด็กเล็ก คอนเซปต์ Ocean and Forest Day Care ให้เด็ก ๆ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และพ่อแม่นำลูกมาฝากได้ทั้งวัน นำทีมโดย The Rainbow Club พร้อมของเล่นไม้จาก Blue Ribbon Toy

ศาลาสีรุ้งด้านหน้าชายหาดคือ ‘Rainbow Shala’ สำหรับกิจกรรมร้อง เต้น เล่นดนตรี หรือกิจกรรมที่ต้องการการเคลื่อนไหว จุดเด่นคือพื้นลายสายรุ้งที่ตั้งใจทำขึ้นมาให้เด็ก ๆ นั่งล้อมวงตามสีของสายรุ้ง 

บ้าน 2 ชั้นชื่อว่า ‘Coconut Tower’ ชั้นล่างเป็นร้านฮักสมุย ร้านอาหารใต้ในเกาะสมุยร้านโปรดของแอ้ซึ่งจะเปิดสาขา 2 ที่นี่ ด้วยคอนเซปต์ใหม่ คือ Hug Samui Hut ขายอาหารไทยที่เด็กกินได้ เป็นของว่างหลังเลิกเรียนที่มีประโยชน์ 

“เราว่าอาหารสำหรับเด็กถูกจำกัดมากเลย ทั้งพิซซ่า นักเก็ต เฟรนช์ฟรายส์ ขนาดเด็กฝรั่งบนเกาะยังไม่ค่อยรู้จักอาหารไทย เรากับร้านฮักสมุยเลยอยากทำของว่าง ห่อด้วยใบตองแบบไทย ๆ ในรูปแบบเฟรนด์ลีทั้งปริมาณและหน้าตา เด็ก ๆ เห็นแล้วต้องอยากทาน” เธอเล่าถึงความร่วมมือกับร้านอาหาร

พื้นที่ของร้านอาหารยังจัดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับอาหารที่ทุกคนมาแบ่งปันความรู้กันได้ ส่วนชั้น 2 ตั้งใจเปิดเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมที่ต้องการปลีกวิเวก เงียบสงบ หรือหากไม่มีกิจกรรม ก็จะทำเป็น Quiet Area สำหรับพ่อแม่ที่มารอลูก ๆ ระหว่างทำกิจกรรมด้านล่าง

บ้านไม้หลังเล็กนี้คือ ‘Island Books Club’ สร้างจากประตูเก่าที่นำมาประกอบร่างกัน บ้านนี้เป็นพื้นที่ให้เด็ก ๆ เข้ามาท่องโลกแห่งจินตนาการและการเรียนรู้ผ่านหนังสือหลากหลายประเภท และในอนาคตเธอวางแผนจะรับบริจาคหนังสือเพิ่มจากคนที่ออกจากเกาะแล้วไม่อยากขนของกลับบ้าน

ถัดมาเป็นโซนโรงเรียนศิลปะ ‘Art in Paradise’ โดยมี ครูอั้ม จากโรงเรียนศิลปะ ART ISSUE ที่กรุงเทพฯ มาจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ผ่านการวาดรูป ระบายสี ตัดกระดาษ และปั้นดิน โดยมีตารางกิจกรรมประจำสัปดาห์ที่จะโยกย้ายไปตามลมทะเลและแสงแดด

ยังมีสวนติดทะเลชื่อว่า ‘Garden by the Sea’ ให้เด็ก ๆ มาวิ่งเล่นเป็นเพื่อนกับธรรมชาติ มี ‘Seashells by the Seashores’ ห้องน้ำรูปเปลือกหอย มี ‘Mother Tree’ ต้นไทรขนาดใหญ่ที่คอยปกป้องดูแลหมู่บ้าน และด้านหน้าหาดยังมีไอติมกะทิมะพร้าวให้ทานคลายร้อนตลอดทั้งวัน 

Opening the First Door

ในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2023 หมู่บ้านสายรุ้ง MULAMATI ได้เปิดประตูให้เด็ก ๆ และครอบครัวที่อยู่บนเกาะสมุยเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันในงาน ‘Rainbow Crafts Market and Family Fun Day’ ตลาดนัดขายงานศิลปะของเด็ก ๆ แอ้เล่าว่าผลตอบรับนั้นดีเกิดกว่าที่เธอคาดไว้มาก

“ในงานค่อนข้างยุ่งทั้งวัน คนมาเกินความคาดหมาย เราไม่เคยรู้ว่าถ้าเปิดไปแล้วจะเป็นยังไง มีคนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ที่นั่น และมีนักท่องเที่ยวมาด้วย มีทั้งคนที่มีลูกและไม่มีลูก

“วันแรกที่เปิดแล้วเห็นเด็ก ๆ อยู่ในศาลาสายรุ้ง เรายืนร้องไห้เลย เมื่อมีเด็ก ๆ เข้ามา สถานที่แห่งนี้ก็เหมือนมีชีวิต เพราะการทำพื้นที่ตรงนี้ขึ้นมามันยาก มีจุดที่เราเคยคิดว่าทำไปทำไม

“ถ้าไม่ทำ ก็ต้องมีสักวันที่เราทำ แต่ต้องยอมรับว่าตอนที่ที่นี่เกิดขึ้น เราไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ไม่ได้คิดว่าจะมี Double The Work นะ เพราะเรามีงานประจำ ถ้าถามว่าดีใจมั้ยที่ได้ทำ เราดีใจและภูมิใจมาก

“ที่นี่เด็ก ๆ ไม่ได้ต้องเป็นคนเก่งที่สุด หรือดีที่สุด เราพร้อมเป็นพื้นที่ที่ให้เด็ก ๆ ได้เป็นตัวเอง และ เป็นพื้นที่ที่ผู้ใหญ่ได้ค้นพบตัวเองเช่นกัน”

หมู่บ้านสายรุ้ง MULAMATI กำลังจะเปิดประตูอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 – 16 เมษายน พ.ศ. 2567 กับ ‘จุดกำเนิดสายรุ้ง’ หรือ The Birth of A Rainbow Festival เทศกาลสำหรับเด็กและผู้ใหญ่หัวใจเด็ก เปิดบ้านให้ผู้คนมาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กับฉลองปีใหม่ไทย มีเดินพาเหรดเปิดงาน โชว์จากเด็กจิ๋ว นิทรรศการธรรมชาติ เวิร์กช็อปศิลปะ แข่งขันก่อเจดีย์ทราย รวมถึงมีตลาดนัดและอาหารท้องถิ่นให้กินด้วย

หากสนใจอยากเดินทางไปทำความรู้จักหมู่บ้านสายรุ้งด้วยตัวเอง จองตั๋วได้ที่นี่ 

ภาพ : MULAMATI Rainbow Village และ ขุุนเดช-เรืองเดช ลีหล้าน้อย

MULAMATI Rainbow Village

Writer

เกวลิน สรรพโรจน์พัฒนา

เกวลิน สรรพโรจน์พัฒนา

ติดกาแฟ ชอบแชร์เรื่องคน หลงรักเกาะเต่า ความฝันคือการเป็น Newyorker