คนทำงานสร้างสรรค์มักเจออาการหมดไฟหรือหมดไอเดียสร้างงาน จนบางทีอยากหนีเจ้านายไปอยู่ในสถานที่ใหม่ ๆ เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจ คอลัมน์ Share Location ขอเติมไฟฝันให้คุณ ด้วยการพาไปติดเกาะ ทดลองใช้ชีวิตเป็นศิลปินในบ้านคุณปู่สีสดใส ท่ามกลางบรรยากาศเกาะสมุยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
จุดหมายของเราอยู่ห่างจากตัวเมืองสมุยราว 30 นาทีเท่านั้น ที่นั่นคือถนนบางเก่า
บ้านคุณปู่ หรือ Grandfather’s House ไม่ใช่บ้านคุณปู่จริง ๆ ของ แอ้-มทินา สุขะหุต น้องสาวคนสุดท้องผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Sretsis แต่เป็นเรือนไม้โบราณที่อายุรุ่นราวคราวปู่ แอ้เป็นผู้ชุบชีวิตและแต่งแต้มสีสันให้บ้านหลังนี้ กลายเป็น Artist in Residence บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำหน้าที่เป็นห้องรับแขกและสถานที่พำนักสำหรับนักสร้างสรรค์จากทั่วโลกที่อยากมาพักผ่อน หาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ โดยไม่ใช้เงินเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ขอเพียงผู้มาพำนักมอบผลงานและจิตวิญญาณทิ้งไว้ในบ้านหลังนี้
แอ้เป็น Creative Director ของแบรนด์ Sretsis Parlour และ Little Sister เธอเติบโตและทำงานในเมืองต่าง ๆ จากหลากหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ลอนดอน และนิวยอร์ก
แต่ ‘เกาะสมุย’ กลับเป็นสถานที่ที่อยู่ในความทรงจำของเธอมาโดยตลอด
“เราจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ไปสมุยกับครอบครัว เป็นครั้งแรกที่มีเพื่อนเป็นฝรั่ง เราเจอเขาในรีสอร์ต หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปสมุยอีกเลย จนอายุ 20 นิด ๆ พาเพื่อนไปเที่ยว เราเปรยกับเพื่อนว่า
“อยากย้ายมาอยู่ที่นี่จังเลย” แอ้เล่าด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ
ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เธอกลับมาที่นี่อีกครั้ง จากตั้งใจมาท่องเที่ยวแค่ 3 วัน กลายเป็นอยู่ยาว 3 สัปดาห์ และด้วยเสน่ห์ของเกาะแห่งนี้ (เราคิดว่าอย่างนั้น) เธอจึงกลับมาอยู่ต่ออีก 3 เดือน!
“ตอนอยู่ 3 เดือนนี่แหละ เราขับรถรอบเกาะเลย จนมาเจอบ้านโบราณหลังนี้” เธอเปรย
“ถ้าอยู่สมุยเราจะไม่ขับรถไปตรงพื้นที่ที่ดูเป็นเมือง เราไม่อยากขับรถไปเพื่อเจอรถ เราอยากขับรถผ่านทุ่งมะพร้าว เราชอบความรู้สึกของการเป็นคอมมูนิตี้ ชอบวิถีชนบท และเรารักทะเล”
ช่วงนั้นเธอกำลังหาที่อยู่อาศัยระยะยาว ระหว่างกำลังก่อสร้าง MULAMATI Rainbow Village หรือหมู่บ้านสายรุ้ง ซึ่งกลายเป็นสถานที่ Recreation Center สำหรับเด็ก ๆ จากทั่วโลก ระหว่างเริ่มก่อสร้าง MULAMATI Rainbow Village หรือ หมู่บ้านสายรุ้ง ซึ่งเป็น Recreation Center สำหรับเด็ก ๆ ผู้ใหญ่หัวใจเด็กบนเกาะสมุย และคนทั่วโลก
“เราไปถามตัวแทนที่กำลังหาบ้านให้ว่าเขารู้จักบ้านหลังนั้นไหม เขาบอกว่าเป็นเอเจนต์มา 30 ปี ไม่เคยมีใครอยากชุบชีวิตบ้านโบราณ เขาพาเราไปรู้จักกับเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นหลานของคุณปู่ที่มีชื่อติดอยู่หน้าบ้าน หลานเล่าว่า ในอดีตบ้านหลังนี้เป็นพื้นที่ที่คนทั้งซอยมานั่งเล่นกันตรงระเบียงบ้าน
“พอฟังเรื่องราวแล้ว เราก็สงสัยว่าทำไมบ้านถึงถูกทิ้งร้าง เราอยากชุบชีวิตเขาจังเลย”
‘ชุบชีวิต’ ในความหมายของแอ้ ไม่ใช่การทุบ รื้อ หรือเปลี่ยนโครงสร้างของบ้าน
เธอตั้งใจจะเก็บโครงสร้างเก่าและทาสีใหม่ เพื่อนำแสงสว่างเข้ามาให้กับถนนเส้นนี้
“เราเห็นภาพเลยว่าจะทาสีบ้านหลังนี้ด้วยสีเขียว สีชมพู สีเหลือง ซึ่งแต่ละสีมี 3 เฉด เช่น สีเหลือง มีสีเหลืองอ่อน สีเหลืองเข้ม และสีเหลืองสดใส” แอ้เราด้วยแววตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงบ้านคุณปู่
การพูดคุยระหว่างแอ้และเจ้าของบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยการบูรณะให้เป็นไปตามภาพที่เธอจินตนาการไว้ในตอนต้น
ในฐานะที่แอ้ไปกลับเกาะสมุยเป็นว่าเล่นเสมือนบ้านหลังที่ 2 เธอเล่าให้ฟังว่าคนนอกมักมองว่าเกาะแห่งนี้ดูเจริญ แต่เป็นความเจริญที่คนชาติอื่นมาสร้างสิ่งใหม่จนแทบไม่เหลือความเป็นไทย ถนนบางเก่าจึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่เธออยากทำให้คนแวะเวียนมาพักผ่อนในสภาพแวดล้อมแบบไทย ๆ
“ตอนมาดูบ้านหลังนี้ครั้งแรก ใช้เวลาเปิดประตูอยู่ครึ่งชั่วโมง พอเปิดประตูออกกว้าง ๆ มีแสงเข้ามา กลายเป็นอีกอารมณ์เลย ปกติบ้านไทยจะมืด แต่บ้านหลังนี้ ยิ่งเดินเข้าไปด้านในยิ่งว้าว ทั้งโครงสร้าง ทั้งลายฉลุไม้ เราอยากทำให้บ้านหลังนี้ใช้งานได้และเหมาะกับยุคสมัยโดยไม่เปลี่ยนโครงสร้าง
“เราอยากเห็นบ้านไทยกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และถ้าลองขับรถเข้ามาในซอยบางเก่า คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศเกาะสมุยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งจะเห็นหน้าตาท่าเรือริมทะเลในยุคก่อนด้วย”
โครงสร้างของบ้านคงเดิม ด้านในและด้านนอกทาสีใหม่ให้มีชีวิตชีวา รวมถึงเก็บเฟอนิเจอร์เก่าและงานศิลปะจากเจ้าของบ้านไว้ด้วย อย่างโต๊ะเครื่องแป้งของอาม่า (เจ้าของบ้าน) เธอก็นำมาทาสีชมพูสดใส ซึ่งแอ้คัดสรรเฟอร์นิเจอร์เก่า-ใหม่จากหลาย ๆ ที่มาตกแต่ง มองตรงไหนก็ดูน่ารักสดใสไปหมด
“เราได้ประตูบานหนึ่งมาจากเชียงใหม่ เป็นประตูจากอินเดีย เขาติดไว้บริเวณหลังบ้านเพื่อให้หมาเข้าออก ตอนเห็นประตูบานนี้ เรารู้สึกใช่เลย เป็นสีที่คิดไว้ มีสีชมพู สีเขียว และสีเหลือง ทั้ง 3 สีอยู่ในประตูบานนั้น เราเลยซื้อมาติดตั้ง และกลายเป็นว่ามันเป็นสิ่งที่เชื่อมทุกสีในบ้าน”
แอ้ว่าทีแรกบ้านหลังนี้จะชื่อ The Chinese House เพราะกระเบื้องหน้าบ้านและหลังคาบ่งบอกถึงสไตล์สถาปัตยกรรมชิโน-ยูโรเปียน แถมยุคก่อน เกาะสมุยก็เป็นหมุดหมายของคนจีนที่เดินทางโดยเรือ บ้างมาตั้งรกรากและเริ่มต้นปลูกมะพร้าว จนมะพร้าวกลายเป็นธุรกิจหลักของเกาะสมุยอยู่พักหนึ่ง
แม้บ้านคุณปู่ (หมายถึงบ้านมีอายุรุ่นราวคราวปู่) มาจากความบังเอิญ แต่แอ้ตั้งใจให้เป็น Artist in Residence บ้านพักบนเกาะที่ศิลปินมาพำนัก เพื่อสร้างงานศิลปะและหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง
“เราไม่มีความคิดว่าจะเปิดเป็นที่พัก แต่เป็นการชวนกันมาอยู่ เราอยากใช้ Currency of Love ไม่อยากใช้เงินมาเกี่ยวข้อง โดยเราขอสิ่งแลกเปลี่ยน นั่นคือให้เขาทิ้ง Sprit ของเขาไว้ในบ้านหลังนี้
“ศิลปินที่เข้ามาพักจะเป็นใครก็ได้ ถ้าเขาชอบทำกับข้าว ก็ลองมาทำ Chef’s Table ได้นะ เดี๋ยวเราจะช่วยประสานและติดต่อกับชาวประมงแถวนี้ให้ หรือถ้าเขาชอบชงชา ก็มาเสิร์ฟน้ำชา มาอยู่บ้านหลังนี้ เขาทำได้ทุกอย่างตามสบายเลย ขอแค่ไม่ลืมที่จะทิ้ง A Piece of The Artist ไว้ที่นี่” เจ้าบ้านยิ้ม
ก่อนบ้านหลังนี้จะเปิดรับแขกอย่างเป็นทางการ Nathalie Lété ศิลปินชาวฝรั่งเศส ซึ่งร่วมงานกับ Sretsis Parlour มีโอกาสแวะมาพำนักในบ้านคุณปู่หลังนี้ พร้อมทิ้งจิตวิญญาณของเธอไว้ที่นี่ด้วย
“เขาบอกเราเองว่าอยากไปบ้านเราที่เกาะสมุย เขาไปไม่พอ เขาเพนต์ประตูบ้านให้ด้วย นี่แหละ ใช่เลย นี่คือสิ่งที่เราต้องการ ที่เราบอกว่าอยากให้ศิลปินมาทิ้ง Sprit ของเขาไว้ที่นี่ ตรงไหนก็ได้”
แอ้กระซิบกับเราว่า ในอนาคตเธออยากจัดตลาดนัดเล็ก ๆ บรรยากาศย้อนยุคบริเวณหลังบ้าน เชิญศิลปินมาจัดเวิร์กช็อปให้เด็ก ๆ ทำให้เกาะสมุยเป็นเมืองที่มีงานคราฟต์จากฝีมือคนบนเกาะ
“เราทำบ้านให้ศิลปิน ให้เขาช่วยจัดเวิร์กช็อปที่หมู่บ้านสายรุ้ง ท้ายที่สุด 2 สถานที่นี้จะเชื่อมโยงกัน เป็นการชวนศิลปินมาช่วยพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมาท้องถิ่นทั้งทีก็ต้องนอนบ้านโบราณสิ จริงมั้ย”
บ้านคุณปู่บนเกาะสมุยพร้อมต้อนรับนักสร้างสรรค์ทุกท่านหากสนใจเข้าพำนัก ติดต่อพูดคุยกับแอ้ได้ที่
[email protected] หรือ Instagram : @grandfather_house_samui
