ก่อนจะพาทุกคนไปรู้จัก ‘จังหวัดอุบลราชธานี’ ให้มากขึ้น ต้องขอสปอยล์ก่อนเลยว่า

‘กวยจั๊บที่นี่อร่อยทุกร้าน!’ 

นี่คือสิ่งที่เราอยากรู้ว่าทำไมต้องกวยจั๊บอุบลฯ และอร่อยกว่าจังหวัดอื่นแค่ไหนกัน เราขอแนะนำให้คุณลองเมนูนี้เป็นอย่างแรกเมื่อมาถึง เพราะอร่อยมาก

กิจกรรมและสถานที่น่าลองทำและน่าลองไปเยือนของอุบลราชธานีมีมากมาย นอกจากสามพันโบก แห่เทียน แม่น้ำสองสี หรือทุ่งศรีเมือง ยังมีพื้นที่ในตัวเมืองที่คนรุ่นใหม่กลับมาพัฒนาบ้านเกิดให้ร่วมสมัยกับวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างกลมกลืน ใครจะ Staycation หรือ Work from Anywhere ณ เมืองอุบลฯ ก็เหมาะมาก ๆ แม้ไกลกรุงเทพฯ สักนิด แต่เรามั่นใจว่าคุณจะประทับใจและได้แรงบันดาลใจดี ๆ กลับไป

#01
ลองตื่นเช้ามากินกระเพาะปลาที่ร้านเจียวกี่ สูตรจากเชฟสมัย ร.5

ร้านอาหารเช้า ‘เจียวกี่’ เปิดมากว่า 100 ปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เข้ามาสร้างเมืองอุบลฯ ใหม่ ๆ 

ทำเลที่ตั้งของเจียวกี่เป็นเรือนไม้เก่า 2 ชั้น เฟอร์นิเจอร์ของที่นี่ตกแต่งด้วยไม้สีเข้มสะอาดตา ภายในมีบริการทั้งห้องแอร์และพัดลม พอเข้ามานั่งในร้าน พนักงานจะเสิร์ฟชาร้อนให้จิบยามเช้า 

เมนูกระเพาะปลาที่เราสั่งมีกุ้งตัวโต ๆ มาให้ด้วย แค่ถ้วยเดียวก็อิ่มจนกินอย่างอื่นต่อไม่ไหว

เมนูเด็ด ๆ ของที่ร้านมีทั้งบักกุดเต๋ ซุปเนื้อตุ๋น โจ๊กนวลเนียน นอกจากความอร่อยคือความสด สะอาด พิถีพิถัน จึงทำให้อาหารมีคุณภาพสมชื่อ ‘กุ๊กจมูกแดง’ ฉายาของต้นตระกูลเจ้าของร้าน

#02
ลองดื่มกาแฟจากเมล็ดดี ๆ และอัปเดตข่าวสารที่ร้านส่งสาร

‘ส่งสาร’ ร้านกาแฟที่ปลุกชีวิตย่านเมืองเก่าของอุบลฯ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เจ้าของร้านท่าทางเป็นกันเองเล่าให้เราฟังว่า ตอนเขาเช่าตึกนี้ครั้งแรก พื้นที่ตรงนี้เงียบมาก ร้านรวงก็ทยอยปิดกิจการ แต่ภาพที่เราเห็นในวันนี้ คือผู้คนรุ่นใหม่ต่างแวะเวียนมาเติมคาเฟอีนกันไม่ขาดสาย ทำให้เมืองเก่ายังมีชีวิตและอยู่ร่วมกับคนได้ทุกยุค ผ่านข่าวสาร ผ่านกาแฟ แม้กระทั่งผ่านงานศิลปะที่มักเวียนมาจัดแสดงในร้าน 

หากใครมานั่งทำงานคนเดียว จะหามุมเงียบ ๆ ก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกเหงา ลองมานั่งที่บาร์เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารได้นะ เพราะคนที่นี่ใจดี ชวนคุยได้ทุกเรื่อง บรรยากาศเหมือนมากินกาแฟบ้านเพื่อนนั่นแหละ หากชวนคุยไม่เก่ง หยิบหนังสือหมวดการเมืองภายในร้านมานั่งอ่านได้ เพราะแรงบันดาลใจของร้านนี้ คือร้านกาแฟที่พาคนที่สนใจเรื่องเดียวกันมารวมกัน จนเกิด ‘การปฏิวัติฝรั่งเศส’

#03
ลองดูหนังใหม่ในราคาเพียง 50 บาท ที่เดชอุดมมินิเธียเตอร์

ออกจากเมืองมาที่อำเภอเดชอุดม โรงหนังสแตนด์อโลนแห่งสุดท้ายของอุบลฯ ที่ยังเปิดทำการอยู่ ตั๋วราคาเริ่มต้นเพียงใบละ 50 บาทเท่านั้น ทั้งถูกและดี มีทั้งหมด 250 ที่นั่ง และยังคงโฆษณาด้วยรถแห่

ต้องเล่าก่อนว่าที่นี่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2502 (เปิดมา 65 ปีแล้ว) เริ่มแรกตั๋วราคา 50 สตางค์ จนปัจจุบันที่ต้องแข่งขันทั้งกับโรงหนังเครือใหญ่ ทั้งเมนสตรีม แต่เจ้าของกิจการก็ยืนยันที่จะเปิดต่อ เพราะเป็นความทรงจำของคนอำเภอเดชอุดม และอุดมการณ์ที่รักวัฒนธรรมการดูหนังโรง

ด้วยราคาที่เป็นมิตร ภายในโรงหนังสะอาดน่าดู และเป็นโรงหนังที่อยู่คู่กับเมืองเดชอุดม จึงทำให้ยังคงมีลูกค้าในพื้นที่แวะเวียนมาชม และคนที่รักโรงหนังสแตนด์อโลนก็แวะมาบ่อย ๆ เช่นเดียวกันสำหรับใครที่จะเข้าชมภาพยนตร์ เช็กรอบฉายได้ใน Facebook : เดชอุดมเธียเตอร์a,b เลยนะ

#04
ลองไปขลุกตัวและพบปะเพื่อนใหม่ ที่ Impression Sunrise

ตึกร้างที่คนอุบลฯ รุ่นใหม่เปลี่ยนเป็นมัลติสเปซ ทำให้เป็นแหล่งตุ้มโฮมคนรักกาแฟ อาหาร ดนตรี ศิลปะสมัยใหม่ มีหุ้นส่วน 3 คน คือ อ้วนแลนด์ โจ๊ะ และ มิ้น ที่อยากทำอาชีพที่รักและไม่โดดเดี่ยว

ชั้น 1 เป็นร้านกาแฟและร้านอาหาร เมนูที่ห้ามพลาดคือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ความเหนียวนุ่ม แต่เส้นมีเท็กซ์เจอร์กรอบ ๆ พอกินคู่กับไข่ดาวยางมะตูม ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่ชิมคั่วไก่มาประทับใจร้านนี้ที่สุด 

ถ้าเกิดเบื่อบรรยากาศคาเฟ่ ลองขึ้นไปเวิร์กช็อปที่ชั้น 2 ได้ ไม่ต้องห่วงว่ามาคนเดียวแล้วจะเหงา เพราะมีกิจกรรมที่เชื่อมโยงกัน ผู้คนที่ชอบอะไรคล้ายกันก็จะได้พบปะคุยกันเองโดยธรรมชาติ

ถ้าเป็นนักดื่มและชอบฟังดนตรี ช่วงค่ำ ๆ บริเวณลานด้านหน้า ชั้น 3 และดาดฟ้ามีทุกอย่างตอบโจทย์ โดยเฉพาะบาร์ กู๋หว่าไจ๋ 古惑仔 1991′ ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของตึก ตกแต่งสไตล์จีนยุค 90 ถ้ามาอุบลฯ แล้วคิดไม่ออกว่าจะไปไหนดี ลองมาที่นี่ก่อนเลย แล้วคุณจะเที่ยวต่อได้อย่างมีความสุขแน่นอน

#05
ลองแวะปั้นเซรามิกกับนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่ TEMP.STUDIO

ที่นี่คือร้านย่านเมืองเก่าที่ให้เราปั้น อบ เซรามิก และรอรับได้ในวันถัดไป กิจกรรมนี้ชวนกันทำได้ทั้งครอบครัว แก๊งเพื่อน หรือมาคนเดียวก็ทำได้ คุณจะได้ใช้เวลาไปกับการสัมผัสดินเหนียว มีสมาธิ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แถมร้านยังตกแต่งได้สวยงามมาก ๆ ที่นี่ถือเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของชาวอุบลฯ ที่เปิดโดยนักออกแบบรุ่นใหม่ เพื่อให้เป็นพื้นที่เวิร์กช็อปด้านศิลปะ ตั้งแต่เซรามิกจนถึงวาดภาพ 

TEMP.STUDIO ยังมีผลงานเซรามิกที่ออกแบบแล้วให้เลือกซื้อกลับบ้านด้วยนะ ส่วนคอร์สปั้นราคาเริ่มต้นเพียง 100 – 3,000 บาท เช่น คอร์สเพนต์สีใต้เคลือบเซรามิก คอร์สปั้นดินด้วยมือ คอร์สปั้นดินด้วยแป้นหมุน และคอร์สเพนต์สีอะคริลิกบนผ้าใบ เรียนจบคอร์สก็ต่อยอดสร้างอาชีพได้เลยนะเนี่ย

#06
ลองร้อยลูกปัดแล้วคุยกับคนกลับบ้านมาพัฒนาบ้านเกิด ที่อ้วนแลนด์ Studio

ไหน ๆ ก็ได้ปั้นถ้วยชามแล้ว มาทำสร้อยและกำไลเส้นเดียวในโลกกัน

ที่นี่คือ ‘อ้วนแลนด์ Studio’ มีลูกปัดให้เลือกเป็นร้อยแบบ รับรองว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน ที่สำคัญสตูดิโอนี้มีแมวส้มด้วยล่ะ สำหรับทาสแมวคงจะฟินไม่น้อยที่ได้เห็นเจ้ามังคุดนอนหลับขณะเราร้อยกำไล

จริง ๆ ลูกปัดร้อยเป็นเครื่องประดับได้หลายแบบ เช่น สร้อยข้อมือ สร้อยคอ สายคล้องเเว่น สายคล้องแมสก์​ หรือปลอกคอเจ้าเหมียว ฯลฯ ดีไซน์ได้หลากหลายตามแต่จินตนาการของคุณจะรังสรรค์ 

เจ้าของร้านชื่อพี่อ้วนแลนด์ หรือ พี่อ้วน เธอใจดี เป็นกันเอง

เขาว่ากันว่า ถ้ามาอุบลฯ ต้องมารู้จักพี่อ้วนแลนด์สักครั้ง เธอเป็นคนรุ่นใหม่ที่กลับมาพัฒนาบ้านเกิดจนมีชุมชนศิลปะเกิดขึ้นมากมาย ทำให้เห็นว่าศิลปะเป็นเรื่องใกล้ตัว เข้าถึงง่าย ลุยเลยทุกคน!

ป.ล. เธอเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน Impression Sunrise ด้วยนะ

#07
ลองชิมส้มตำปลาร้าที่ร้าน Zao ต้นตำรับร้าน Zaozen

“เอาตำลาว 1 ไก่อย่าง 1 ข้าวเหนียว 2 จ้า” เราสั่งอาหารที่ร้านส้มตำร้านหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งร้านนี้จะมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ จนขนาดไปขึ้นห้าง EMSPHERE ที่กรุงเทพฯ 

สำหรับเรา ส้มตำที่อร่อยที่สุดในชีวิตอยู่ที่ร้าน ‘Zao อุบล’ ปลาร้าของที่นี่ไม่เหมือนใคร คือไม่มีความคาวเลย มีแต่ความหอมปลาร้า เป็นสูตรที่ คุณยายจุย หมักเองกับมือ คนอีสานเรียกว่าปลาร้าต่วง ส่วนบรรยากาศในร้านนั้นตกแต่งเป็นสไตล์อีสานพื้นถิ่น ร่วมสมัยด้วยวัสดุและการออกแบบมาอย่างดี 

วัตถุดิบทุกอย่างมาจากในท้องถิ่น ยกตัวอย่าง เส้นขนมจีนทำเองจากข้าวเจ้า ส่วนผักเคียงใช้จากในชุมชนทั้งหมด เพื่อส่งเสริมรายได้ของเกษตรกร ต้องลองมาชิมร้านต้นตำรับเพื่อพิสูจน์ว่าปลาร้าที่นี่หอมจริง ๆ เราเพิ่งทราบมาว่าอีกเมนูที่เด็ดไม่แพ้กัน คือแตงโมปลาร้าหอม อย่าลืมไปลองกันนะ

#08
ลองนอนพักในอ้อมกอดหนังสือที่ร้านฟิลาเดลเฟีย

สิ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือที่นี่มีห้องพักเล็ก ๆ ให้แขก เพื่อน พี่ น้อง นักเขียน นักข่าวที่รู้จักมักจี่กับเจ้าของร้านไปพักได้ ยิ่งเป็นคนที่สนใจหนังสือแล้ว พี่เจี๊ยบ-พี่ท็อฟฟี่ เจ้าของร้านยินดีต้อนรับอย่างยิ่ง

เจ้าตัวออกแบบให้ร้านและบ้านอยู่ติดกัน แต่แยกออกจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ร้านและห้องนอนแขกนั้นมีหนังสืบโอบกอดเราไว้อย่างเต็มที่ เรียกได้เป็นวิวหนังสือแบบพาโรนามา พร้อมกลิ่นดอกปีบอบอวล อากาศสะอาด เพราะอยู่ข้างทุ่งนา เรียกง่าย ๆ ว่าคือสวรรค์ของเหล่ากองดอง ที่ร้านมีชา-กาแฟบริการ แต่ไม่ใช่คาเฟ่ที่มีหนังสือประดับ ไม่ใช่แบบนั้น ที่นี่มีหนังสือเป็นพระเอก ใครรักสิ่งพิมพ์ มาที่นี่กระเป๋าแบนทุกราย อย่างเราเองที่ต้องผ่อนจ่ายค่าหนังสือกับพี่เจี๊ยบ เพราะหยิบเพลินยิ่งกว่างานหนังสือซะอีก เราหวังว่าจะมีโอกาสได้กลับไปนอนอ่านหนังสืออย่างเงียบสงบอีกครั้ง ที่ ‘ฟิลาเดลเฟีย’ ร้านหนังสือในสวนดอกไม้ สถานที่สุดพิเศษและโรแมนติกสำหรับนักเขียนและนักอ่าน

#09
ลองเดินเล่นในเมืองเก่า แวะชมแม่น้ำมูลและอำเภอวารินชำรา

ช่วงเวลาที่เราชอบคือตอนเย็น ๆ พระอาทิตย์ใกล้ตก

เมืองเก่าอุบลฯ มีผังเมืองเป็นตารางหมากรุก มีทางเท้า และมีตึกโมเดิร์นให้เราชมไปตลอดทาง เราขอแนะนำให้เดินเส้นที่ใกล้ ๆ กับแม่น้ำมูล เพราะจะได้แวะไปชมริมน้ำมูลตอนพระอาทิตย์ตกได้ เช่น เริ่มเดินจากอุบลโฮเต็ล ผ่านร้านส่งสาร แล้วแวะไปไหว้พระวัดหลวง จากนั้นนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ท่าจวน

จริง ๆ สิ่งที่เราเพิ่งรู้ คืออำเภอวารินชำราบห่างกับอำเภอเมืองแค่สะพานข้ามแม่น้ำมูล สะพานมีชื่อเรียกด้วยนะ ชื่อสะพานว่า ‘เสรีประชาธิปไตย’ สะพานนี้มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2497 แล้ว 

มูน เป็นภาษาถิ่น หมายถึง สิ่งที่มีค่า น่าหวงแหน แม่น้ำมูลจึงถือเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตชาวอีสานตอนล่าง เพราะเป็นแหล่งน้ำ อาหาร และหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนริมน้ำมูลมามากมาย

#10
ลองกินลาบและอาหารอีสานจ้วด ๆ ตอน 3 ทุ่ม ที่ร้านเจ้บล

มาอุบลฯ ทั้งที จะไม่กินลาบได้อย่างไร

วันนี้เราภูมิใจนำเสนอร้านลาบที่จ้วดที่สุด ด้วยน้ำพักน้ำแรงฝีมือของ เจ้บล หรือที่คนแถวนั้นเรียกว่า ยายบล อายุเข้า 70 กว่า แต่ยังทำเองทุกอย่างในร้าน ทั้งเป็นแม่ครัว เสิร์ฟ ยันล้างจานเลยล่ะ

ใครมากินขอให้มีลาภตลอดไป แกว่าอย่างนั้น แต่ไม่ใช่ใครอยากกินก็จะได้กิน เพราะคุณต้องเป็นคนนอนดึกประมาณหนึ่ง เพราะร้านนี้เปิด 21.00 – 07.00 น. ลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งนักท่องราตรีและคนทำงานกะดึก ร้านแกเป็นที่ฝากท้องของคนยามวิกาล 

ว่ากันถึงรสชาติ อร่อยทุกเมนูที่เราสั่งมา จานที่ประทับใจที่สุด คืออ่อมหมู กลมกล่อมอย่างหาที่ไหนไม่ได้ บางทีกระเพาะเราอาจต้องมนต์กับจังหวัดนี้เสียแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ถูกปากไปหมด ไม่ใช่เพราะอวย แต่เพราะร้านนี้เขาของจริง ตัวจริงเรื่องอาหารอีสาน หากใครอยากมาลอง ที่นี่เป็นสตรีตฟู้ดนะ ต้องใจเย็น ๆ ก่อนทาน เพราะยายบลทำคนเดียว ไม่มีผู้ช่วย

Photographers

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล