“นอนอยู่บ้าน” เขาและเธอตอบ “การพักผ่อนที่แท้จริงไม่ใช่การออกไปเที่ยว แต่คือการนอนอยู่บ้านเฉย ๆ”

Vacay จริง ๆ ของแต่ละคนเป็นยังไง คือคำถามที่เราเพิ่งถามทั้งคู่

ที่ต้องถามเรื่องนี้ เพราะ VACAY คือชื่อของซิงเกิลล่าสุดที่ ‘เขา’ และ ‘เธอ’ จับมือฟีตเจอริ่งกัน เขาที่ว่าคือ F.HERO หรือ กอล์ฟ-ณัฐวุฒิ ศรีหมอก เจ้าพ่อวงการแรปเปอร์พ่วงตำแหน่งผู้ก่อตั้งค่ายเพลง High Cloud Entertainment 

ส่วนเธอคือ เนเน่-พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ อดีตนักล่าฝันจาก True Academy Fantasia ซีซัน 11 ที่ไปโด่งดังไกลถึงเมืองจีน ในฐานะหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการ CHUANG 2020 และได้เดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปจีนสมใจ ภายใต้วงชื่อ BonBon Girls 303

ซิงเกิลจังหวะสนุก ฟังสบาย ว่าด้วยนิยามความรักที่เปรียบเสมือนการพักผ่อนนี้ยังได้ วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร มาร่วมร้องด้วย เพิ่มความอบอุ่น แถมยังเป็นฝีมือการแต่งของ แอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ นักแต่งเพลงเบอร์ต้น ๆ ของบ้านเรา

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรวมดาวหลายดวงมาไว้ในเพลงหนึ่งเพลงได้ขนาดนี้ ในบ่ายวันที่ทั้งสองว่างเว้นจากการทำเพลง เราจึงขอดอดเข้าไปรบกวนเวลาพัก ชวนทั้งกอล์ฟและเนเน่คุยเรื่องเบื้องหลังซิงเกิล สิ่งที่การทำงานสอนพวกเขา ไปจนถึงเรื่องแผนการผลักดันเพลงไทยให้ไปไกลระดับสากล

A MAN WITH VISION

High Cloud Entertainment ของคุณกำลังก้าวสู่ปีที่ 3 แล้ว ถ้าให้คะแนนตัวเองในฐานะค่ายเพลง คุณให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่

กอล์ฟ : ตอนนี้ยังติดลบอยู่เลย ยังสอบตก เพราะยังทำให้ทุกคนมีความสุขมากไม่ได้ หมายถึงจริง ๆ แล้วในช่วงของการทดลองควรจบไปตั้งแต่ 2 ปีแรก ปีที่ 3 ระบบควรลงตัวแล้ว ซึ่งตอนนี้ระบบในค่ายอาจจะลงตัวมากขึ้น แต่ยังไม่ได้สำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ยังมีช่องโหว่ในบางเรื่องที่ผมว่ายังทำไม่ได้ ถ้าให้คะแนนตัวเองเป็นเกรด ผมว่ายังติดเอฟอยู่

จริง ๆ สิ่งที่คุณต้องคิดและทำมีอะไรบ้าง

กอล์ฟ : งานของผมคือ Co-founder, Music Director และ Executive Director ดังนั้น ผมไม่รู้เรื่องการเงินหรือการบริหาร แต่ผมเน้นทำเพลงให้น้อง ๆ ในค่ายมากกว่า ซึ่งนี่คือสิ่งที่แตกต่างจากการเป็นศิลปินเดี่ยว เพราะผมจะไม่ได้โฟกัสแต่ตัวเอง แต่จำเป็นต้องดูภาพรวมของค่ายและภาพรวมของศิลปินด้วยเช่นกัน

ทิศทางของ High Cloud Entertainment กำลังเดินไปทางไหน

กอล์ฟ : เราทำงานกับต่างประเทศค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะฝั่งญี่ปุ่น น่าจะมีการทำงานระหว่างไทยกับฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น รวมทั้งกับทางจีนเอง เราได้ทำงานกับเนเน่ และในอนาคต ทีมเราก็อยากทำอะไรรวมกันอีก สิ่งที่เราอยากเห็นคือการรวมพลังคนเอเชียให้ทำงานด้วยกัน

อะไรทำให้คุณอยากทำเพลงไทยให้ดังไกลในระดับสากล

กอล์ฟ : แรงบันดาลใจมาจากเกาหลีใต้ เราต้องยอมรับเลยว่าวันที่ BTS, BLACKPINK หรือ Stray Kids หลายวงพาภาษาเกาหลีใต้ไปถึงบิลบอร์ดได้ และได้รับการยอมรับทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก แสดงให้เราเห็นว่าภาษาไม่ใช่กำแพงในการทำเพลงสู่ระดับสากล เพราะเกาหลีพิสูจน์แล้วว่าเขาพาภาษาเกาหลีไปอยู่ตรงนั้นได้

สมัยก่อน เวลาจะทำเพลงให้ดังทั่วโลกเราต้องทำภาษาอังกฤษ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เกาหลีแสดงให้เห็นแล้วว่าถ้าเรามี Identity (ความเฉพาะตัว) และ Quality (คุณภาพ) มากพอ เราก็ทำให้ทั้งโลกหันกลับมามองที่ประเทศเรา ภาษาเราได้เช่นเดียวกัน

ทำให้เรามีแรงบันดาลใจตรงนี้และรู้สึกว่าอยากทำให้ Identity ของ T-POP ทำให้ทั้งโลกหันกลับมามองได้ ซึ่งอันที่จริงเราก็ไม่ได้มองแต่ประเทศเราอย่างเดียว ปีก่อนเราได้ทำงานกับจีน ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนามด้วย ปีนี้เราก็พยายามทำงานกับสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เราพยายามทำตลาดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แข็งแกร่ง เพราะเราเชื่อว่านี่คือตลาดที่น่าสนใจในอนาคต

ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่าสนใจอย่างไร

กอล์ฟ : ผมคิดว่าเมื่อฟังเพลงดี ๆ เรามีรากเดียวกันทั้งหมด เชื่อมโยงกันได้ง่ายกว่า อย่างเราเองก็ไปฟังเพลงลาวป๊อป หรือแคมโบเดียป๊อป หรือเพลงฮิปฮอปของเมียนมาดี ๆ เราก็ฟัง เรามีอะไรบางอย่างที่รู้สึกว่าเป็นรากเดียวกัน ทำให้ผมรู้สึกว่าถ้าได้ทำอะไรร่วมกัน จริง ๆ มันเชื่อมโยงกันได้ไม่ยาก 

และขณะนี้ ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่เวียดนามมีอัตราการเกิดสูง อินโดนีเซียก็เช่นกัน ผมว่าตลาดตรงนี้น่าสนใจ ถ้าเราเปิดประตูเข้าหากัน ตลาดนี้จะมี 700 ล้านคน ซึ่งใหญ่มาก ๆ 

แต่เป้าหมายของเราไม่ได้มีแค่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเราก็อยากทำงานกับทางเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เช่นเดียวกัน เราจึงคิดว่านี่น่าจะเป็นก้าวแรกที่ดี

ความท้าทายของการทำเพลงในยุคนี้คืออะไร

กอล์ฟ : เราคาดเดาไม่ได้ว่าจะทำตารางยังไง เช่น เมื่อก่อนเวลาปล่อยเพลงในยูทูบ เราคาดหวังได้ว่า 1 วันจะได้ล้านวิว แต่ขณะนี้ บางเพลงปล่อยวันแรกได้หมื่นวิว แต่ไปดังใน TikTok แล้ววันหนึ่งมันกลับมา การทำการตลาดเปลี่ยนไปหมดแล้ว 

เมื่อก่อนการทำพีอาร์คือเขียนข่าวส่งให้สื่อลง แต่เดี๋ยวนี้พีอาร์ต้องมีคอนเทนต์อะไรที่มากกว่านั้น ทำอีเวนต์ไหม สิ่งนั้นสิ่งนี้ไหม ซึ่งเราก็จะดู Gene Lab เป็นตัวอย่าง เพราะเขาเป็นค่ายที่ทำคอนเทนต์พีอาร์เอง หรือ What the Duck ก็เก่งมาก

เราว่าในยุคนี้มันคิดแบบตรง ๆ ซื่อ ๆ ไม่ได้ ต้องคิดว่าทำยังไงแฮชแท็กนี้ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ แล้วจะต่อยอดคอนเทนต์ยังไง 

คิดละเอียดขึ้นเหรอ

กอล์ฟ : โห เยอะมาก ตอนแต่งเพลงแต่งอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องคิดว่าท่อนไหน เราจะทำอะไรกับ TikTok ให้เป็นไวรัลในนั้น เพราะแพลตฟอร์มนี้มีอิทธิพลสูงมากในการทำพีอาร์ในยุคนี้ เมื่อกี้เนเน่เองยังต้องไปเต้น TikTok อยู่เลย (หันไปถามเนเน่) ที่จีนเป็นยังไง

เนเน่ : เหมือนกันค่ะ TikTok เป็นแพลตฟอร์มใหญ่ที่สุดเลย จริง ๆ ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ของทั้งโลก 

กอล์ฟ : เพราะฉะนั้น วิธีคิดก็ต้องปรับตาม

ทำเพลงยุคนี้เหนื่อยกว่าเมื่อก่อนไหม 

กอล์ฟ : ผมว่าทุกยุคก็มีสิ่งที่เหนื่อยของมัน ขึ้นอยู่กับวิธีการและการปรับตัวให้ทันได้ยังไง ซึ่งต้องปรับกันเร็วมาก

เดี๋ยวนี้คือเราต้องดูเทรนด์ทวิตเตอร์กันว่าไปถึงไหน แล้วทวิตเตอร์อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็น X แล้ว (หัวเราะ) อะไรวะ หรือตอนนี้ Instagram Reels กำลังมานะ เราไปหวังจาก YouTube อย่างเดียวยอดมันน้อยลงนะ คนไปสตรีมมากขึ้นเราก็ต้องตามให้ทัน

ถึงตอนนี้ การทำค่ายเพลงสอนอะไรคุณบ้าง

กอล์ฟ : คิดถึงทีมให้มากกว่าตัวเอง ตอนเราเป็นศิลปินเดี่ยว เราคิดถึงแต่ตัวเอง แต่ตอนนี้พอต้องดูแลคนเยอะ ๆ ก็ต้องคิดถึงการทำงานเป็นทีม พอมานั่งดูทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเองจะเห็นว่าระบบทั้งหมดเป็นยังไง กว่าที่ภาพข้างหน้าจะได้อย่างนี้ ทีมงานข้างหลังต้องทำงานยังไง เราเองจึงต้องบาลานซ์ระหว่างทีมข้างหน้าที่เป็นศิลปิน กับทีมข้างหลังที่เขาเองก็ทำงานเต็มที่ให้เราบาลานซ์ยังไงให้ทุกคนโอเคที่สุด

A WOMAN WITH DREAMS

เนเน่ได้ไปทำเพลงที่จีนอยู่หลายปี ธรรมชาติของวงการเพลงที่จีนเหมือนหรือต่างจากไทยหรือเปล่า

เนเน่ : เพลงที่จีนคล้ายเพลงป๊อปบ้านเรา เป็นเพลงแนวที่ใช้กีตาร์ วงดนตรี ความป๊อปคล้าย ๆ เรา ที่ต่างกันน่าจะเป็นแฟนคลับ วงการบันเทิงบ้านเขาค่อนข้างซีเรียสกว่า ทั้งด้านแฟนคลับและด้านผลงานต่าง ๆ มีการสกรีนกันอย่างเคร่งครัดว่าคอนเทนต์ที่ออกไปจะเป็นประมาณไหน 

หรือการติดตามของแฟนคลับ บ้านเขาจะมี Weibo ดาราทุกคนมีแฟนคลับของตัวเองและเว็บบล็อกของตัวเองให้แฟนคลับติดตาม มีการโหวต การแข่งขันสูง

ความยากที่สุดของการทำงานเป็นศิลปินที่จีนคือเรื่องอะไร

เนเน่ : น่าจะเรื่องการหาโอกาส เพราะคนจีนเยอะมาก การที่เราจะหาโอกาสให้ตัวเราไปอยู่ในแสงยากมาก มีการแข่งขันสูง 

เน่มีตัวแปรอย่างอื่นคือกำแพงภาษา มันก็ยิ่งยากกว่า เช่น เวลาเราไปแคสต์ซีรีส์เรื่องหนึ่ง หนึ่งสิ่งที่เขาจะคอมเมนต์มา คือภาษายังไม่ได้นะ พูดยังไม่ชัด เหมือนตอนที่เราดูหนังแล้วมีฝรั่งมาพูดไทย จะมีอะไรแบบนี้อยู่

เพราะคนจีนแข่งกันเองก็ว่ายากแล้ว แต่เราเป็นคนต่างชาติเข้าไปก็ยิ่งยากกว่า แต่ข้อดีคือประเทศเขาค่อนข้างต้อนรับคนต่างชาติมาก ๆ ให้มาทำงานหรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมก็เป็นเรื่องดี 

การไปเป็นศิลปินเปลี่ยนแปลงตัวตนของคุณในแง่ไหนบ้างไหม

เนเน่ : รู้สึกว่าไม่ได้เปลี่ยนมาก ความคิดก็ยังเป็นตัวเองอยู่ค่อนข้างมากเลย แต่ที่ได้เรียนรู้มากขึ้นคือวงการบันเทิงของบ้านเขา แต่จริง ๆ การทำงานก็คล้าย ๆ กับที่ไทย แต่จะมีความกดดันที่มากกว่า

กดดันกับเรื่องอะไรมากที่สุด

เนเน่ : คำว่าไอดอลของเขาค่อนข้างเหมือนที่เกาหลี คือต้องมีภาพลักษณ์ มีแฟนคลับไอดอลที่คาดหวังกับตัวเราสูง แต่ถ้าเป็นดาราก็เป็นอีกแบบ

คุณคาดหวังอะไรในการกลับมาทำงานที่ไทยครั้งนี้ 

เนเน่ : ไม่ค่อยคาดหวังอะไร เพราะเน่เป็นคนไม่ค่อยคาดหวังด้วย (หัวเราะ) อย่างแรกอาจเป็นการได้มาทำโปรเจกต์กับพี่กอล์ฟสักที เพราะเรารอมาตั้งนานแล้ว อย่างที่ 2 คือได้กลับมาพักผ่อนกับครอบครัว ก่อนหน้านี้เน่พำนักอยู่ที่จีน พอประเทศเปิดปุ๊บก็มาอยู่ไทย ขอย้ายกลับประเทศไทยเลย พอมีงานที่จีนก็บินไปแล้วบินกลับ 

BUT ENOUGH WITH WORK, LET’S VACAY!

ทั้ง 2 คนมาจับมือร่วมงานกันได้อย่างไร

เนเน่ : ปีสองปีก่อน เน่ได้รับการทาบทามจากพี่กอล์ฟ แต่ตอนนั้นเน่ยังทำวง BonBon Girls 303 ที่จีนอยู่ เลยคิดว่าอยากทำวงให้เต็มที่ก่อน ยังไม่อยากเป็นนักร้องเดี่ยว เน่เลยบอกพี่กอล์ฟว่า รอหนูได้มาออกโซโล่ก่อนค่อยมาร่วมงานกัน จริง ๆ อยากร่วมงานกับพี่กอล์ฟตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว พอออกจากวงปุ๊บเลยได้มาทำเพลงนี้

กอล์ฟ : ตอนที่เน่ยังทำ BonBon Girls 303 ผมมีโอกาสได้ฟังเสียงน้องผ่านรายการ ตอนแรกเรารู้จักเนเน่ในเพลงสนุก ๆ มาก่อน เป็นเพลงเต้น ๆ แต่พอไปฟังเขาร้องเพลงเพราะ ๆ เราก็คิดว่า โห ร้องเพลงโคตรเก่ง อยากทำงานกับเขาเลยทัก Instagram ไป น้องบอกว่ารอสัญญาคลี่คลายกว่านี้นิดหนึ่ง จนช่วงปีก่อน เราจึงไปคุยกับ คุณแอ้ม อัจฉริยา นักแต่งเพลง ว่าเราจะทำกับเนเน่ ธีมอะไรดี พี่แอ้มเสนอว่า เป็นช่วงที่เนเน่ได้กลับมา Vacay (พักผ่อน) ที่ประเทศไทย งั้นทำธีมนี้ดีกว่า

ครูแอ้มเขียนออกมาได้ดีมาก นัยแรกคือเพลงสื่อถึงการพักผ่อนแบบ Vacay จริง ๆ แต่อีกนัย

เพลงนี้พูดถึงความรัก-ความสัมพันธ์ที่เป็นเซฟโซนให้กัน ฟังทีแรกอาจฟังดูเหมือนเป็นกิ๊กกัน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ (เนเน่หัวเราะ) เพลงนี้สื่อว่าความรักไม่ใช่งานประจำ และบางทีเราไม่จำเป็นต้องโทรจิกกัน รายงานกัน (เนเน่ : ไม่ต้องเครียดน่ะ) งานเราก็เยอะอยู่แล้ว ถ้าเธออยากพัก เธอก็มาหาฉัน ถ้ารักกัน เราก็ควรเป็นวันหยุดให้แก่กัน ซึ่งผมว่าสมัยนี้เราเป็นกันเยอะ บางคนเป็นอินโทรเวิร์ตแล้วมารักกัน แต่ต่างคนต่างอยู่มันก็มี 

พอได้คอนเซปต์นี้แล้ว เราเลยต้องการผู้ชายอบอุ่นสักคนมาเติมเต็มเพลง เพราะตัวผมเองไม่ใช่คนอบอุ่นขนาดนั้น เราเลยคิดถึง น้องวิน เมธวิน และชวนเขาเข้ามาอยู่ในเพลงนี้ พอเติมเข้ามา ทุกอย่างมันก็เพอร์เฟกต์ จริง ๆ ทีแรกเราก็เกร็ง เพราะทาง GMMTV เขามีมาตรฐานของเขาอยู่ แต่พอเจอวินจริง ๆ เขาเป็นคนสบาย ๆ มาก ให้เขาทำอะไร ถ่ายอะไรก็ถ่าย น่ารักครับ ตอนจบเขาก็เอาทุเรียนมาฝากด้วย (หัวเราะ) อร่อยมาก

ที่คุณบอกว่าความรักเป็นเซฟโซน ทำไมถึงอยากสื่อสารเมสเซจนี้กับคนฟัง

กอล์ฟ : ผมว่าเจเนอเรชันนี้เป็นกันเยอะ มันคือการที่ไม่อยากโดนอะไรรัดให้อึดอัด ผมว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของวัยรุ่นยุคนี้เปิดขึ้นเยอะ และสังคมเปลี่ยนไปในทางที่ดี ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องมาแต่งก่อนอยู่เหมือนในสมัยก่อน ผมว่าเป็นยุคที่เปิดรับกันดีนะ มีความเข้าใจกันมากขึ้น 

ผมเชื่อว่าความรักคือวิญญาณ 2 ดวง ไม่เกี่ยวกับวัย จารีต เพศ หรืออะไรก็ตาม ผมว่าความรักก็คือความรัก และการให้รักเป็น Vacay ผมว่าเป็นความหมายที่ดีและเข้ากับยุคสมัยนี้

ถ้าให้นิยามความรักที่ดี ทั้ง 2 คนจะนิยามว่า

เนเน่ : ความรักที่ดีของเน่เหมือนเพลง VACAY เลย คือเราต้องเป็นเซฟโซฟให้แก่กัน เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เครียด เชื่อใจ และต้องรักตัวเองก่อน เพราะถ้าเรารักตัวเอง มั่นใจในตัวเอง เดี๋ยวก็จะมีคนที่รักเราเข้ามาเอง เขาจะหายไป 10 วันเดี๋ยวเขาก็กลับมา เราแค่ทำชีวิตของเราให้ดีและอย่าผูกชีวิตไว้กับคนอื่น

กอล์ฟ : ด้วยผมอาจจะผ่านความรักคนละแบบกับเน่มา หมายถึงว่าผมมีภรรยา มีลูกแล้ว ผมว่าความรักที่ดีที่สุดคือการให้อภัย มันเป็นกฎของการครองเรือนง่าย ๆ เลย เพราะเราคบกัน ต่างคนต่างไม่ใช่คนที่เพอร์เฟกต์แน่ ๆ เพราะไม่มีใครบนโลกนี้เพอร์เฟกต์ ดังนั้นการอยู่ด้วยกันจะมีการกระทบกระทั่งแน่นอน ผมอาจเป็นผู้ชายแย่ ๆ คนหนึ่งแต่โชคดีที่ภรรยาผมให้อภัยเก่ง (ทุกคนหัวเราะ) ผมเลยรู้สึกว่านอกจากความเข้าใจแล้ว ความรักคือการให้อภัยกันให้เยอะ ถึงจะอยู่กันรอด

อะไรคือความสนุกและความท้าทายของการทำซิงเกิลนี้

กอล์ฟ : ความท้าทายคือคิวของทั้งเนเน่และวิน ผมเป็นคนตรงกลาง เวลาส่งอะไรให้เช็กต้องส่ง 2 ฝั่ง ทั้งจีนและไทย ซึ่งกว่าจะเจอคิวที่ตรงกัน อัดเสียง รอถ่าย คนหนึ่งอยู่จีนคนหนึ่งอยู่ญี่ปุ่น กว่าจะได้คิวทองของแต่ละคนมา เลือดตาแทบกระเด็น 

เนเน่ : เน่ว่าที่สนุกคือได้ร่วมงานกับคนที่มีประสบการณ์ ทั้งพี่กอล์ฟที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมือทอง มือหนึ่งของประเทศไทย เน่ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีและทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอด อย่างตอนอัดเพลง เน่ได้ร่วมงานกับคุณแอ้มและ คุณโฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ เป็นโอกาสยากที่จะได้ร่วมงานกันแบบนี้

สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้จากการร่วมงานกันครั้งนี้คืออะไร

กอล์ฟ : ผมมักจะมองเนเน่กับวินว่าเขาเป็นไอดอล แตะต้องยาก แต่สิ่งสำคัญคือจริง ๆ แล้วน้องทั้ง 2 คนเป็นคนง่าย ๆ ไม่ใช่ง่ายแบบอะไรก็ได้นะ แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ถือตัว และผมว่าสิ่งนี้เป็นเสน่ห์

น้องทั้ง 2 คนเป็นกันเองกับทีมงาน ตั้งใจทำงาน อย่างเนเน่เอง ผมให้ทำอะไรเขาก็ทำหมด ให้เต้น TikTok เขาก็ไม่เคยว่าอะไรเลย และผมว่านี่เป็นเคล็ดลับของความสำเร็จของเขา ซึ่งผมจะเก็บเรื่องนี้มาสอนศิลปินในค่ายต่อได้

คุณคาดหวังอะไรจากการทำซิงเกิล VACAY

กอล์ฟ : เราได้ทำเพลงที่ดี นี่น่าจะตอบความคาดหวังของเราได้ ขณะเดียวกัน เราเองก็ยังอยากให้เพลงที่ดีเพลงนี้ไปสู่ผู้ฟังจำนวนมาก เพราะเราเชื่อมั่นในคุณภาพของมัน อยากให้ทุกคนมาฟังกันเยอะ ๆ ครับ

เนเน่ : หวังว่าทุกคนได้ฟังเพลงนี้แล้วนำไปปรับใช้กับชีวิต เน่ว่าเราอยู่ในยุคที่เครียดมาก น้อง ๆ วัยรุ่นต้องเจอเรื่องมากมายในชีวิต เน่รู้สึกว่าแง่มุมความรักในเพลงนี้เป็นสิ่งที่คนยังพูดถึงไม่มากพอ จริง ๆ ความรักมันไม่ต้องเครียดขนาดนั้นหรือเปล่า เราปล่อยให้ชิลล์ได้ หวังว่าเมสเซจนี้จะเดินทางไปถึงคนฟัง

เป้าหมายวันนี้ของ F.HERO และ เนเน่ พรนับพัน มีหน้าตาแบบไหน

เนเน่ : เน่เป็นคนไม่ค่อยมองอนาคตเท่าไหร่ บอกตรง ๆ ว่าเป็นคนอยู่กับปัจจุบัน เพราะเราว่าอนาคตมีขึ้นมีลง เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เน่แค่คิดว่าเน่อยากทำผลงานทุกอย่างให้แสดงความเป็นตัวเองในงานชิ้นนั้น ๆ ได้ และช่วยคนได้ในบางเรื่อง เช่น เพลง VACAY เน่ได้ถ่ายทอดเมสเซจให้คนไม่เครียดกับความรัก ไม่โทรจิกคนรัก (หัวเราะ) นี่คือเป้าหมายในชีวิตที่เน่อยากทำต่อไป

กอล์ฟ : อนาคตอันใกล้ ผมอยากเห็นศิลปินไทยไปทำงานกับต่างประเทศเยอะ ๆ ส่วนอนาคตอันไกล อยากอยู่เฉย ๆ แล้วเงินเข้าบัญชี (เนเน่ : มี Passive Income) ดูต้นไม้ไปวัน ๆ (ยิ้ม)

คุณมองว่าตอนนี้ศิลปินไทยมีศักยภาพมากแค่ไหนที่จะโลดแล่นในระดับสากล

กอล์ฟ : เรามีศักยภาพ แต่เรายังอยู่ในช่วงของการหาตัวตนที่ชัดเจน เวลาโดนถามว่าเราต่างจากคนอื่นยังไง เรายังตอบไม่ค่อยได้ เรายังมีต้นแบบกันอยู่

แต่ผมว่าขณะนี้ศิลปินไทยมีทิศทางที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ เราเริ่มรู้ว่า T-POP จริง ๆ แล้วมันคือ Kamikaze ป๊อปที่อื่นจะไม่เหมือนกามิกาเซ่ เมื่อก่อนเราเข้าใจว่าเราเหมือนเกาหลี แต่ตอนนี้พอเราฟัง PiXXiE ฟัง 4EVE จะเห็นได้ว่าเรามีทางของเราอยู่ ซึ่งผมคิดว่ากำลังอยู่ในช่วงการต่อยอด และในอนาคตจะเห็นอะไรสนุก ๆ อีกแน่นอน

Writer

พัฒนา ค้าขาย

พัฒนา ค้าขาย

นักเขียนชาวเชียงใหม่ผู้รักทะเลและหนังสุขซึ้ง สนใจประเด็น gender ความสัมพันธ์ และเรื่องป๊อปทุกแขนง

Photographer

Avatar

ผลาณุสนธิ์ ผดุงทศ

ช่างภาพที่โตมาจากเมืองทอง รักแมว ชอบฤดูฝน และฝันอยากไปดูบอลที่แมนเชสเตอร์