นมัสเต! 

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ‘ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท ธุลีเขล’, เนปาล 

ทันทีที่รถตู้ขนาดกะทัดรัดไต่ความชันขึ้นมาถึงหน้ารีสอร์ต ก็เผยรอยยิ้มของพนักงานต้อนรับ พร้อมยกมือสวัสดีและเสียงนมัสเตไล่หลังเป็นระยะ เห็นถึงความอบอุ่นฉบับไทยและเสน่ห์ฉบับเนปาล 

ก่อนหน้านั้นราว 1 ชั่วโมง

เราออกเดินทางจากกาฐมาณฑุมายังเมืองธุลีเขล สองข้างทางมีร้านรวงขนาดจิ๋ว เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขายผลไม้ ร้านขายยา ร้านชำ มีรถยนต์ รถบัส และรถจักรยานยนต์ สวนทางกันขวักไขว่ อาคารบ้านเรือนก่อสร้างจากอิฐก้อนสีน้ำตาล บางหลังฉาบด้วยสีสันสดใสราวกับลูกกวาดในขวดโหล ช่วงท้ายของการเดินทาง เดาว่าเข้าใกล้ธุลีเขลแล้ว เริ่มเห็นนาข้าวเขียวขจีอยู่เป็นระยะ ถนนหนทางซับซ้อนและหมุนวนหักศอกเรียกความตื่นเต้นอยู่พอสมควร แต่โชเฟอร์ชำนาญทางจนพาเรามาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย 

สิ้นเสียง ‘นมัสเต’ เราและคณะเดินทางจากประเทศไทยเดินไปสั่นระฆังใต้ต้นไม้ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนพนักงานของ ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท จะมอบผ้าคล้องคอผืนสีแดงเป็นการต้อนรับ

รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและเป็นกันเองตั้งแต่ยังไม่ตบเท้าเข้าประตูห้องพัก ที่นี่เป็นรีสอร์ตบนเชิงเขาหิมาลัย พื้นที่ล้อมรอบด้วยป่าและนาข้าวที่จัดการโดยชุมชน แถมเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์นกหายากกว่า 80 ชนิด เรียกว่าใกล้ชิดธรรมชาติแบบขีดสุด มองเห็นวิวภูเขาทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา หนึ่งในพนักงานคนไทยของที่นี่บอกเราว่า ถ้าวันไหนโชคดี ท้องฟ้าแจ่มใส จะมองเห็นไกลถึงเทือกเขาหิมาลัย

ทำเลของรีสอร์ตอยู่ห่างจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางจิตวิญญาณอย่างวัดนะโมพุทธะ (Namo Buddha) เพียง 10 นาทีเท่านั้น เป็นสถานที่สำคัญให้แขกเรียนรู้ความเป็นมาของพุทธศาสนา

การก่อสร้างที่นี่ใช้เวลานานหลายปี ตั้งแต่มาเห็นทำเลที่ตั้งยันสร้างถนนในชุมชน ตลอดจนการ Soft Opening เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผู้ออกแบบรีสอร์ตแห่งนี้คือสถาปนิกชาวไทยร่วมกับดีไซเนอร์ชาวไทย 7 คน ร่วมกันรังสรรค์ห้องพักแบบ Luxury 54 ห้อง และวิลล่าหรู 18 หลัง พร้อมด้วย เทวารัณย์ เวลเนส พื้นที่ดูแลสุขภาพด้วยการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจแบบไทย เรามีโอกาสลองร่วมกิจกรรม บำบัดด้วยเสียง หรือ Sound Bathing กระซิบเลยว่าสบายกาย-ใจ จนเผลอหลับ

หนึ่งสิ่งที่เรายกให้เป็นไฮไลต์ของที่นี่ คือสระว่ายน้ำกลางแจ้งแบบอินฟินิตี้ฟูลและจากุชชี่ ขนาบกับวิวซ้อนทับของสารพัดเทือกเขา สุดจะบรรยาย เพราะมันสวยงาม สงบ และอากาศบริสุทธิ์มาก โดยเฉพาะตอนเช้า มีไอหมอกลอยมาปกคลุม เหมือนตัวเรากำลังถูกรายล้อมด้วยหมู่มวลเมฆสีขาว 

อาหารการกินของที่นี่บอกเลยว่าสนุก! เพราะมีการเชื่อมโยงกับชุมชนใกล้เคียง คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นปลอดภัยมาปรุงอาหาร อย่างชา ก็มาจากไร่ชาในชุมชน ชีส ก็มาจากฟาร์มนมวัวในชุมชน จนมีชีสรสชาติแปลก ๆ ที่มีให้กินเฉพาะ ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท เท่านั้น เช่น ชีสผสมเครื่องเทศ สารภาพว่าชิมไปหลายชนิดมาก ความอร่อยยกป้ายเต็ม 10 คะแนน และ ‘ห้องอาหารทาน (Thaan)’ ก็เสิร์ฟอาหารจากหลากหลายวัฒนธรรม ได้แก่ อาหารไทย อาหารเนปาล อาหารอินเดีย และอาหารเอเชีย

ส่วนฝั่งตรงกันข้าม ลักษณะคล้ายบ้าน แท้จริงเป็นเป็นบาร์ริมสระว่ายน้ำชื่อ ‘เบล่า (Bela)’ บริการอาหารจานเล็ก ขนาดอิ่มกำลังพอดี พร้อมชาและค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่ต้องกาดอกจันอยากให้ลิ้มลอง คือ Masala Chai หรือ ชาเครื่องเทศ ปราศจากความหวาน และหอมเครื่องเทศมาก 

หลังทัวร์รีสอร์ตพอหอมปากหอมคอ เราสนทนาอย่างเป็นกันเองกับ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เธอสวมชุดส่าหรีร่วมสมัยโทนสีแดง นั่งลงบนโซฟาสีนวลตา พร้อมกาน้ำชาและถ้วยจิบน้ำชา ใบหน้าเธอยิ้มแย้มสดใส และพร้อมตอบสารพัดคำถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แม้บทสนทนาจะเริ่มต้นราว 3 ทุ่มในวันสุดท้ายของการเดินทางก็ตาม 

การเกิดขึ้นของ ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท สำคัญกับประเทศเนปาลอย่างไร

“สำคัญมากค่ะ เพราะเนปาลมีความท้าทายหลายจุดด้วยกัน อย่างการเรียกความไว้วางใจกลับมาหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งหน้าที่ของเราคือประชาสัมพันธ์และแสดงศักยภาพให้เห็นว่าประเทศนี้ฟื้นตัวขนาดไหนจากสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการนำองค์ความรู้ ความชำนาญ และมาตรฐานของดุสิตเข้าสร้างความมั่นใจให้กับนักเดินทางจากทั่วโลก และเราเชื่อว่าการเข้ามาของดุสิตธานีจะทำให้เนปาลมีความพร้อมมากยิ่งขึ้น และเราจะทำให้ธุลีเขลเป็นที่รู้จักมากขึ้นค่ะ”

เราถามเธอต่อว่า ทำไมดุสิตธานีจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์เมืองและประเทศให้เป็นที่รู้จัก

“เพราะเราต้องการให้พื้นที่เติบโตไปด้วยกันค่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่เราทำให้โลเคชันนั้นเป็นที่น่าสนใจได้ ก็จะทำให้พื้นที่ กิจการเล็ก ๆ ผู้คน และชุมชน ดีขึ้นตามไปด้วย เรามองว่านั่นคือพลังที่สร้างร่วมกัน มันยิ่งใหญ่กว่าการเดินไปคนเดียว และแขกก็คงอยากสำรวจและมีประสบการณ์ร่วมกับโลเคชันนั้น ๆ ด้วย”

คุณสุภจีบอกว่า เสน่ห์ของเนปาลคือความหลากหลายของวัฒนธรรมและความเชื่อ ขณะเดียวกันธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อากาศสะอาดบริสุทธิ์ การบริการและผู้คนที่นี่ก็น่ารัก ยิ้มแย้ม

ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริงอย่างเธอว่า เราลองทำกิจกรรมร่วมกับไกด์ท้องถิ่น เดินชมวัด-โบราณสถาน ชิมอาหาร-ขนมจากร้านชำ ลัดเลาะซอกซอย และพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่นเพื่อทำความรู้จักเนปาลมากขึ้น

“เราอยากให้แขกได้รับความประทับใจจากธุลีเขลและเนปาล อยากให้เขามาสัมผัสเนปาลด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก จนต้องอุทานว่า เนปาลก็มีแบบนี้ด้วย” ผู้บริหารหญิงจบบทสนทนาด้วยรอยยิ้ม เรามั่นใจว่าเสน่ห์ของ ธุลีเขล ประเทศเนปาล มัดใจเธออยู่หมัด

อย่าลืมตื่นเช้า ๆ มา นมัสเต หิมาลัย! นะ 

ภาพ : Dusit Thani Himalayan Resort Dhulikhel, Nepal