ไม่ว่าวันเด็กหรือวันไหน ๆ เราก็อยากชวนผู้ปกครองปิดหน้าจอ แล้วชวนลูกหลานออกไปใช้เวลาทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน ถ้านึกไม่ออกว่าจะไปไหน เราคัดสรรสถานที่มาให้เลือกหลายแนว มีทั้งสถานที่เดินทางง่าย สถานที่ใช้เวลาไม่มาก สถานที่ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งทุกที่ปลอดภัยและช่วยให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา ทักษะเฉพาะด้าน และดื่มด่ำกับธรรมชาติในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
นี่คือ 18 สถานที่ที่เราอยากแนะนำให้พาลูกหลานไปก่อนที่พวกเขาจะผ่านพ้นวัยเด็กหรืออายุเกิน 18 ปี อย่ารอช้า เพราะว่าวัยเด็กอยู่ไม่นาน
#01
สวมบทบาทอาชีพในฝันที่ Rainbow Town
พิพิธภัณฑ์เด็กแห่งกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร)

ถ้านึกถึงสถานที่ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะในกรุงเทพฯ ต้องนึกถึงพิพิธภัณฑ์เด็ก เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และยังแบ่งตามช่วงอายุเพื่อส่งเสริม-พัฒนาทักษะให้ตรงกับความต้องการของเด็ก
กิจกรรมที่เราอยากแนะนำคือห้อง Rainbow Town ชั้น 2 ของอาคารสายรุ้ง เป็นเมืองจำลองที่สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมจินตนาการ กิจกรรมหลักในห้องนี้คือการเล่นบทบาทสมมติ ให้เด็ก ๆ รู้จักอาชีพ ลองทำอาชีพในฝัน เช่น นักบิน นักดับเพลิง กิจกรรมนี้เหมาะกับเด็กอายุ 3 – 6 ปี


นอกจากห้องนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีอีกหลายอย่างที่เหมาะกับเด็กในช่วงวัย 1 – 6 ปี หากคุณพ่อ คุณแม่สนใจก็จับมือเด็ก ๆ มาเรียนรู้นอกบ้านกัน
#02
เรียนรู้ผ่านการเลอะ
Playville

Playville คือสนามเด็กเล่นในร่มใจกลางสุขุมวิทที่คำนึงถึงความต้องการและความเหมาะสมของเด็ก มีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ
ในสนามเด็กเล่นนี้ ทุก ๆ โซนมีทางเชื่อมถึงกันเพื่อให้เด็ก ๆ เดินไปได้ตามใจอยาก มีกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ทั้งบ่อบอล บ่อทราย พื้นหญ้าเทียม แทรมโพลีน แต่ที่แตกต่างจากสนามเด็กเล่นอื่นคือกิจกรรม Messy Play หรือให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเลอะ

สิ่งที่นำมาให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสมีลักษณะและกลิ่นเฉพาะ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก ๆ แน่นอน ผู้ปกครองจะเข้าไปดูแลเด็ก ๆ เอง หรือปล่อยให้พี่เลี้ยงดูแลก็ได้ รับรองว่าปลอดภัยหายห่วง
#03
เรียนเทควันโดกับโค้ชเช
EMJOY


Choi’s Taekwondo Academy เป็นคอร์สเทควอนโดที่ควบคุมมาตรฐานโดย โค้ชเช-ชเว ยองซอก โค้ชเทควันโดทีมชาติไทยผู้พาเด็กไทยไปคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเมื่อ พ.ศ. 2563 เรียนกันที่ศูนย์เรียนรู้ EMJOY ในห้างสรรพสินค้า The EmQuartier
คอร์สนี้เด็ก ๆ จะได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้องและปลอดภัย วอร์มร่างกายอย่างถูกวิธี หนำซ้ำยังเรียนเพื่อไปแข่งขันได้อีกด้วย นอกจากเพื่อร่างกายที่แข็งแรงผ่านการ เตะ ต่อยไม้กระดานและนวมแล้ว คอร์สนี้ยังสอนให้เด็ก ๆ มีความอดทน มีน้ำใจนักกีฬา พัฒนาทักษะการเข้าสังคม และเรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัวอีกด้วย น้องเด็กอายุตั้งแต่ 4 – 18 ปี ไปสมัครเรียนกันได้เลย
#04
เปิดประสบการณ์ดูดาวกลางเมืองแบบ 4K
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ)


ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ เป็นแหล่งให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การพาเด็ก ๆ มาที่นี่ก็เพื่อส่งเสริมทักษะหรือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ฝึกให้ตั้งคำถาม สังเกตสิ่งรอบตัว และเมื่อได้คำตอบก็จะเกิดเป็นแรงบันดาลใจต่อไปในอนาคต
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ มีนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากมาย แต่กิจกรรมสำคัญที่พลาดไม่ได้ คือการดูดาวผ่านเครื่องฉายดาวที่ทันสมัย เพราะยากเหลือเกินที่เด็ก ๆ จะมองเห็นดวงดาวบนฟ้าด้วยตาเปล่าในเมืองกรุงยามค่ำคืน แต่ถ้ามาที่นี่ พวกเขาจะได้เห็นทั้งดวงดาว อวกาศ และเรื่องดาราศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับพวกเขาอีกต่อไป
#05
ดูเขาสัตว์หายากของนักธรรมชาติวิทยา
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา


แม้เด็ก ๆ จะค้นคว้าต้นกำเนิดของโลกและสิ่งมีชีวิตได้จากห้องเรียนวิทยาศาสตร์ แต่ถ้าผู้ปกครองอยากให้ลูกได้สัมผัสความสมจริง ต้องพามาที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาย่านปทุมธานี
จุดดึงดูดสายตาแรกหน้าพิพิธภัณฑ์นี้คือ ไดโนเสาร์จำลอง ส่วนด้านในมีการจำลองยุคไดโนเสาร์ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต พันธุ์ไม้หายาก โมเดลสัตว์ขนาดเท่าตัวจริง และสิ่งที่ต้องไปชมให้ได้สักครั้ง คือห้องแสดงเขาสัตว์หายากทั้งในและต่างประเทศ มีทั้งละมั่ง กวางป่า วัวแดง ซึ่งได้รับมาจาก นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล นักธรรมชาติวิทยา
โดยรอบพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยายังมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อีก 4 แห่งที่น่าสนใจให้เด็ก ๆ ได้ไปเรียนรู้กันอีกเพียบ
#06
เล่นน้ำพุกลางแจ้งที่คาเฟ่กลางกรุง
Wonder Wood Kids Cafe


Wonder Wood Kids Cafe เป็นคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยเครื่องเล่นมากมายที่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดีว่าเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายและปัญญาให้กับเด็ก ๆ ซึ่งมีให้เลือกสรรทั้งกิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง
สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจของทางร้านคือโซนเล่นน้ำที่เหมาะกับเด็กสายลุย สายเลอะ พร้อมด้วยเครื่องเล่นทั้งสไลเดอร์ ม้าโยก รถลาก บ่อทราย ให้เด็ก ๆ ได้ปล่อยพลังอย่างเต็มที่ เล่นเสร็จแล้วก็อาบน้ำล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วต่อด้วยกิจกรรมในร่ม ซึ่งครบถ้วนทั้งการต่อบล็อกหรรษา สระบอล ในระหว่างรอทางร้านก็มีพื้นที่ให้ผู้ปกครองได้เอนหลังจิบชากินข้าวด้วยนะ
#07
ให้อาหารไก่ เก็บไข่ในเล้า
LandLab


เยือน LandLab ห้องแล็บการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กลางทุ่งย่านนนทบุรี ให้เด็ก ๆ เรียนรู้พร้อมทำกิจกรรมมากมายเพื่อรู้จักวิทยาศาสตร์ผ่านธรรมชาติและสิ่งใกล้ตัว เช่น การให้อาหารสัตว์ การทำสบู่จากดอกไม้ ไปจนถึงการเข้าครัวจากวัตถุดิบภายในไร่ การให้อาหารไก่จากมือเปล่าและการเก็บไข่สด ๆ จากในเล้า รวมถึงเรียนรู้กระบวนการของการเกิดไข่จากไก่ตัวเป็น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กเมืองกรุงหลายคนไม่เคยสัมผัส
ยกตัวอย่างกิจกรรมเข้าครัวทำอาหารจากไข่ไก่และมันม่วง เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การลองผิดลองถูก ต้องจับไข่ยังไงถึงจะไม่แตก ทำยังไงให้มันม่วงกลายเป็นข้าวเกรียบ ไปจนถึงการคุมไฟเมื่อต้องทอดไข่และเผามันม่วง กิจกรรมเหล่านี้จะมอบทั้งความรู้และความสนุก เหมาะที่สุดสำหรับจดเข้าลิสต์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
#08
English Camp สุดท้าทายที่จะช่วยปลดล็อกความกลัว
Bangyai English Village


Bangyai English Village เป็นพื้นที่การเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียนผ่านการผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ กิจกรรมจะแบ่งตามช่วงอายุ เหมาะกับเด็ก ๆ อายุ 1.3 – 17 ปี
เมื่อมาที่นี่ เด็ก ๆ จะได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษแบบเต็มที่ผ่านการฟังและโต้ตอบกับเพื่อน ๆ และคุณครูชาวต่างชาติ โดยกิจกรรมเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กอย่างจริงจังมี 2 โปรแกรมให้เลือก คือ 2 ชั่วโมง 15 กิจกรรม และ 4 ชั่วโมง 30 กิจกรรม
รับรองว่าน้อง ๆ จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษ ปลดล็อกความกลัว สร้างความกล้าหาญ และได้รับความสนุกอย่างเต็มอิ่มแน่นอน
#09
วาดหน้าเค้กด้วยพู่กันวาดภาพ
FUN Cafe Bangkok


FUN Cafe เป็นคาเฟ่ที่จัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้น้อง ๆ ได้ลองรับบทบาทเป็นเชฟขนมหวาน แสดงฝีมือผ่านการเพนต์หน้าเค้ก
เด็กที่ชื่นชอบด้านศิลปะและฝันอยากเป็นเชฟขนมหวานหลายคนอาจมีเครื่องครัวไม่ครบครัน FUN Cafe จึงขอสานฝันให้ทุกคนได้ลองสรรสร้างรูปวาดและละเลงสีลงบนหน้าเค้ก หรือแม้กระทั่งบนรูปปั้นช็อกโกแลตผ่านพู่กันระบายสี ท้ายสุดก็ยังได้กินเค้กอร่อยหน้าตาดีฝีมือตัวเองอีกด้วย บรรยากาศภายในร้านก็แสนอบอุ่น พนักงานทุกคนพร้อมให้บริการอำนวยความสะดวกเต็มที่
#10
เรียนขี่ม้าในร้านอาหาร
The Hay – Equestrian Center & Eatery


The Hay – Equestrian Center & Eatery คือร้านอาหารที่เปิดสอนการเรียนขี่ม้า ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่หาโอกาสเข้าร่วมได้ไม่ง่ายนัก เหมาะกับครอบครัวสายลุยที่พร้อมเปิดประสบการณ์และเพิ่มทักษะใหม่ไปในเวลาเดียวกัน
ทางร้านมีการสอนเป็นรายครั้งและรายคอร์ส และจัดคอร์สตามความเหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก เด็กโต และผู้ใหญ่ สอนตั้งแต่การนั่งบนหลังม้า การทรงตัวบนหลังม้า ไปจนถึงการให้ลองบังคับม้าเองเลย การเรียนขี่ม้าช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกการทรงตัว สอนให้ใจเย็น ใช้เวลาเรียนรู้ไปทีละขั้นตอน และยังนำไปต่อยอดเป็นกีฬาแข่งขันได้อีกด้วย หากผู้ปกครองกังวลเรื่องความปลอดภัย หายห่วงได้เลยเพราะคุณครูของที่นี่จะคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และกำชับให้ใส่อุปกรณ์การขี่ม้าก่อนเสมอ
#11
เดินศึกษาพันธุ์ไม้บนสกายวอล์ก
ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท.


ป่าในกรุง ปตท. เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในบริเวณที่ดินของ ปตท. และยังเป็นศูนย์เพื่อการเรียนรู้ด้วย เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและนิทรรศการเกี่ยวกับคุณค่าของป่าไม้
ภายในอาคารนิทรรศการจะแบ่งโซนให้ความรู้หลายเรื่อง เช่น เมล็ดพันธุ์ไม้ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประโยชน์ของต้นไม้ 1 ต้น เมื่อได้เรียนรู้ในเรื่องราวของป่าไม้จนเข้าใจแล้ว ส่วนไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือการเดินชมธรรมชาติบนสกายวอล์กระยะทางกว่า 200 เมตร มีระดับความสูงถึง 5 ระดับตลอดทางเดินจะได้เห็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์ พันธุ์ไม้หลากหลายชนิด พร้อมได้สูดบรรยากาศดี ๆ กันอีกด้วย แนะนำว่าถ้ามาในช่วงเช้าบรรยากาศจะเย็นสบายและสดชื่นมาก
#12
เดินตามผีเสื้อและแมลงกว่า 500 ตัว
อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพ


เมื่อพูดถึงสวนรถไฟ เรามักจะนึกถึงการปั่นจักรยาน ปิกนิก หรือนอนเล่นรับลม แต่ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญซ่อนอยู่ นั่นคือการเข้าไปชมอุทยานผีเสื้อและแมลงที่ตั้งอยู่ภายในสวนรถไฟที่มีทั้งหมด 4 ส่วน แต่ส่วนที่ไม่อยากให้พลาดคือส่วนที่ 4 อาคารโดมจัดแสดงผีเสื้อมากกว่า 500 ตัว เด็ก ๆ จะได้ใกล้ชิด
กับผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก ได้เห็นทั้งความสวยงามและเรียนรู้วงจรชีวิตของผีเสื้อ-แมลงไปในตัว ถือเป็นกิจกรรมนอกห้องเรียนที่น้อง ๆ ต้องห้ามพลาด
#13
ชมการรีดพิษและจับงูอย่างปลอดภัย
สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย


สวนงู สถานเสาวภา สถานที่เที่ยวเชิงวิชาการที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับงูอย่างลึกซึ้งและปลอดภัย เหมาะกับการเรียนรู้ของคนทุกวัย เพราะมีทั้งการแสดงจากเจ้าหน้าที่และห้องจัดแสดงงูนานาชนิด
น้อง ๆ จะได้พบกับงูหลายสายพันธุ์ที่อาจไม่เคยรู้จัก เช่น งูโมลัคแคนไพธัน งูแส้หางม้า และงูเขียวหางแฮ่มใต้ นอกจากนี้ยังมีเกมเล็ก ๆ ให้เด็ก ๆ ได้ตามหางูปลอมอีกด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีนิทรรศการแสดงพัฒนาการของตัวอ่อนในไข่ ภาพกระดูกงู ข้อมูลต่าง ๆ ของงูเช่น ฟันและเกล็ดงู
และห้ามพลาดชมสาธิตการรีดงูและการจับงู เพราะการแสดงนี้จะทำให้เราได้เรียนรู้วิธีรับมือกับสัตว์เลื้อยคลานโดยไม่เป็นอันตรายต่อกันทั้งมนุษย์และสัตว์
#14
ผจญภัยและปีนป่ายเครื่องเล่นกลางไร่ผลไม้
Get Growing Community Farm


Get Growing Community Farm สนามเด็กเล่นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติในพื้นที่ขนาด 6 ไร่ ที่นี่มีความสนุกให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้หลายกิจกรรม เช่น การให้อาหารสัตว์ เก็บไข่ เวิร์กชอปการทำเก้าอี้ D.I.Y
แต่ที่ดึงดูดสายตาได้มากกว่ากิจกรรมอื่นคือสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ที่มีทั้งโซนเปียกและโซนแห้งจะได้ทั้งวิ่ง ปีน กระโดด ดึง จับ เป็นการพัฒนาทางด้านร่างกาย ความคิดและจิตใจ ส่งเสริมความกล้าการตัดสินใจเลือกเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นสัมผัสโคลน อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เนื่องจากสนามเด็กเล่นจะเน้นไปทางล้ม ลุก คลุกคลีไปกับธรรมชาติอยากให้คุณพ่อ คุณแม่เตรียมชุดมาเผื่อให้น้อง ๆ ด้วยนะ
#15
เดินชมหิ่งห้อย
บางกะเจ้า


คุ้งบางกะเจ้า พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใกล้กรุงที่จะทำให้น้อง ๆ ได้ดื่มด่ำไปกับการชมหิ่งห้อย รับความรู้ระหว่างทางปั่นจักรยาน สัมผัสบรรยากาศชุมชนริมน้ำ อีกทั้งใช้เวลาว่างอย่างมีคุณภาพกับครอบครัว
เริ่มจากการเดินชมตลาดน้ำบางน้ำผึ้งที่มีร้านค้ามากมาย มีขายทั้งเสื้อผ้า อาหาร ขนมโบราณ หรือใครอยากไปเช่าจักรยานปั่นชมรอบคุ้งก็ย่อมได้ ไม่ไกลกันมีพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย บ้านธูปหอมสมุนไพร สวนป่า 200 ไร่ และสวนสาธารณะที่มีหอชมวิวสูงกว่า 7 เมตรอีกด้วย
และสิ่งที่ต้องลองให้ได้สักครั้ง คือกิจกรรมชมหิ่งห้อย โดยในอดีตบางกะเจ้ามีจุดชมหิ่งห้อยถึง 11 จุด เพื่ออรรถรสเต็มเปี่ยม แนะนำให้ไปถึงก่อนมืด และไปที่หมู่บ้านหิ่งห้อย บางกระสอบ เพราะเป็นทั้งแหล่งอนุรักษ์และอนุบาลหนอนหิ่งห้อย มีทั้งตัวน้อยและใหญ่ให้ได้ชมแสงวิบวับ
#16
ถีบเรือเป็ด
สวนลุมพินี


สวนลุมพินีคือสวนอเนกประสงค์ที่กำลังจะมีอายุครบ 100 ปี ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมายตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตั้งแต่วิ่ง ไทเก๊ก แอโรบิก ไปจนถึงปั่นจักรยาน (ในบางเวลา) แต่ที่เราอยากแนะนำเป็นกิจกรรมสุดคลาสสิก นั่นก็คือ การถีบเรือเป็ด กิจกรรมง่าย ๆ แต่น้อง ๆ หนู ๆ และผู้ปกครองจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในสวนเต็ม ๆ
#17
เล่นสไลเดอร์โคลนริมแม่น้ำ
Woodnote Natural


Woodnote Natural เป็น Co-Playing Space ย่านนนทบุรีที่ทั้งครอบครัวจะได้ทำกิจกรรมพร้อมกัน ระหว่างที่ผู้ปกครองเพลิดเพลินไปกับการตั้งแคมป์ริมแม่น้ำ เด็ก ๆ ก็ยังได้ฝึกพัฒนาการผ่านการเล่นดิน ปั้นโคลน และอีกหลากหลายเวิร์กชอปที่จัดขึ้นเป็นพิเศษอีกด้วย
สิ่งแรกที่เราอยากแนะนำให้ลองทำคือการเปิดประสบการณ์เล่นเลอะเปรอะโคลน ทั้งเล่นดิน คลุกทราย ลุยโคลน ลงน้ำ ให้เด็ก ๆ สนุกสนานเต็มที่และพัฒนากล้ามเนื้อไปพร้อมกับจินตนาการผ่านการปั้นในสนามทรายและสไลเดอร์โคลน นอกจากนี้ยังมีสนาม Pump Track ให้ได้ท้าทายและเวิร์กชอปอีกมากมาย เช่น การฟังนิทาน 2 ภาษา ชมแสงพลุ และการเต้นสวิงที่เคยไปเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา
#18
สวมบทแอนดี้ Toy Story ในห้องนอนของเขา
Tooney Toy Museum


พิพิธภัณฑ์ของเล่นย่านนนทบุรีแห่งนี้รวบรวม-ของเล่นของสะสมไว้มากกว่า 50,000 ชิ้น มีทั้งตัวการ์ตูนในอดีตและคาแรกเตอร์ฮอตฮิตในปัจจุบัน เด็ก ๆ จะได้เพลิดเพลินไปกับการ์ตูนตัวโปรด ส่วนผู้ปกครองก็จะได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ในพิพิธภัณฑ์มีหลากหลายโซนให้เลือกเดินชม ที่พลาดไม่ได้คือห้องของแอนดี้จากเรื่อง Toy Story พอเข้ามาแล้วคุณจะถ่ายภาพเก็บบรรยากาศจนหนำใจ หรือสวมบทบาทเป็นแอนดี้ก็ได้เช่นกัน
ถ้าอยากเดินให้ครบทุกโซนแนะนำให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ปักหมุดวันว่าง แล้วพาเด็ก ๆ มาพบปะคาแรกเตอร์ที่ชอบอย่างใกล้ชิดได้เลย