จะเปลี่ยนบางสิ่งให้ดีขึ้น ควรเริ่มจากการฟังที่ดี
อยากเปลี่ยนธุรกิจ ต้องเริ่มจากฟังลูกค้า อยากเปลี่ยนเมือง ต้องตั้งใจฟังผู้คน
เขาคิดเห็นอย่างไร ปัญหาอยู่ตรงไหน เริ่มจากตรงนี้ คือการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ดี
เซ็นทรัลพัฒนากับบทบาท Place Maker ที่พัฒนา ‘พื้นที่’ ศูนย์การค้าและอสังหาฯ หลายรูปแบบ ครองใจลูกค้ามาได้ยาวนาน 42 ปี และต่อยอดเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ ‘การใช้ชีวิตที่ดี’ ของผู้คน
ปีนี้เซ็นทรัลพัฒนายกระดับกลยุทธ์ในการรับฟังเสียงของลูกค้าไปอีกขั้น ด้วยการจับมือกับ TEDxBangkok 2023 ที่ปีนี้มีธีมหลักคือ ‘รับฟังเสียง’ นำเสียงและไอเดียของคนทุกเจเนอเรชันมาต่อยอดด้วยการช่วยเหลือของ AI
กลยุทธ์ของเซ็นทรัลพัฒนาในยกระดับการรับฟังและการเข้าใจลูกค้าในครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกและค้นหาคำตอบนี้กัน
Listen!
ตลอด 42 กว่าปีที่ผ่านมา เหตุผลที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็นศูนย์การค้าอันดับต้น ๆ ของประเทศที่ผู้คนจะนึกถึงมาโดยตลอด คือการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเสมอ
บทบาทของเซ็นทรัลพัฒนา คือผู้สร้างสรรค์พื้นที่ที่ทุกคนจะได้มาพบปะ ใช้ชีวิต และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ซึ่งต้องการเสียงและความต้องการของผู้คนเพื่อพัฒนาพื้นที่ที่ตอบโจทย์
การเลือกพาร์ตเนอร์ที่มีจุดประสงค์เดียวกัน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อที่จะรับฟังและเข้าใจเสียงของผู้คนได้อย่างแท้จริง
ในปีนี้ Central Pattana จึงตัดสินใจจับมือกับ TEDxBangkok 2023 ด้วยบทบาทที่ลงตัวพอดี
เซ็นทรัลพัฒนาต้องการเป็น ‘พื้นที่’ ที่สะท้อนความต้องการในการใช้ชีวิตของผู้คน เพื่อนำเสียงเหล่านั้นไปพัฒนาและสร้างสรรค์ ‘พื้นที่’ ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตได้
ในทางกลับกัน งานอีเวนต์อย่าง TEDxBangkok 2023 ปีนี้ ก็ต้องการเป็นเวทีแห่งการรับฟัง เพื่อเผยแพร่ไอเดียและความคิดดีๆ
ด้วยสาเหตุนี้ Central Pattana ในฐานะผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล จึงตัดสินใจจับมือกับ TEDxBangkok 2023 เพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการผลักดันสังคม คือรับฟัง เข้าใจ และวาดภาพกรุงเทพฯ ที่ดีกว่าเดิม เพื่อพัฒนาไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุก ๆ คน
Imagining Better Futures
Central Pattana ทำกิจกรรมชื่อว่า Imagining Better Bangkok ที่เซ็นทรัลเวิลด์เพื่อรับฟังไอเดียสร้างสรรค์ภายใต้ธีม ‘SPACE FOR BETTER BANGKOK’ ฟังผู้คนโดยตั้งต้นจากคำถามสำคัญ “คุณอยากเห็นพื้นที่แบบไหนในศูนย์การค้า…เพื่อกรุงเทพฯ ที่น่าอยู่ขึ้น”
คำถามนี้จะถูกตอบผ่าน Idea Box ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการบันทึก ‘เสียง’ และความต้องการจริง ๆ ของลูกค้า เพื่อทำให้เสียงเหล่านั้นเป็นมากกว่า ‘เสียง’
สิ่งนี้ทำให้ได้เห็นว่าลูกค้าอยากให้ Central Pattana ซึ่งเป็น Place Maker สร้างสรรค์พื้นที่แบบไหน โดยไม่ใช่จำกัดเพียงแต่ในพื้นที่ศูนย์การค้า แต่รวมไปถึงว่าบริษัทแห่งนี้จะมีบทบาทในการช่วยสร้างสรรค์กรุงเทพฯ หรือเมืองที่อยู่ร่วมกันได้อย่างไร
จากนั้นเสียงของผู้คนใน Idea Box ที่บันทึกไว้ จะถูกแบ่งตามแต่ละเจเนอเรชัน เพื่อนำมาสร้างเป็นภาพ AI-generated ทำให้ Idea Box แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ความคิดของทุกคนจะมีความหมาย
From Voice to Space
ภาพ AI-generated เหล่านี้ คือภาพฉายอนาคตที่ดีกว่าที่ทุกคนในแต่ละเจเนอเรชันใฝ่ฝัน ซึ่งสร้างขึ้นผ่านมุมมองความเห็นดี ๆ ของทุกคนที่พูดออกมาอย่างตั้งใจ
โดยภาพเหล่านี้จะนำไปส่งมอบให้กับทุกหน่วยงานภายในองค์กร เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจและมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าและชุมชนทุกคนอย่างตั้งใจจริง
สิ่งที่เซ็นทรัลพัฒนาได้ค้นพบจากกิจกรรมนี้ คือแม้ว่าไอเดียจากแต่ละเจเนอเรชันจะแตกต่างไปตามคาแรกเตอร์ของแต่ละช่วงอายุ แต่ทุกเจเนอเรชันก็มีสิ่งที่คล้ายคลึงกัน เช่น
Gen X บอกว่าต้องการพื้นที่ให้ใช้ชีวิตกับครอบครัว
Gen Y บอกว่าต้องการพื้นที่ในการแสดงออกและแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อพัฒนาตนเอง
หรือ Gen Alpha ที่มีเด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่า “ฉันแค่อยากที่จะสนุก (I just wanna have fun)”
แต่สิ่งที่คนทุกเจเนอเรชันอยากได้มากที่สุด คือพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ ธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์
นอกจากความต้องการ Idea Box ก็ยังได้รับไอเดียที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Charity Space ให้ผู้คนมาแบ่งปันของใช้ หรือห้องสมุดดี ๆ
ดังนั้นโจทย์ต่อไปของเซ็นทรัลพัฒนา คือจะนำเอาไอเดียที่น่าสนใจเหล่านี้ไปตีโจทย์ต่อเพื่อต่อยอดเป็นไอเดียสร้างสรรค์ของลูกค้าทุกคนให้มีอนาคตที่ดี หรือ Better Futures ร่วมกันได้อย่างไร
โดย Better Futures เหล่านี้ ยังสอดคล้องกับสิ่งที่โครงการต่าง ๆ ของเซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญมาก่อน เช่น Well Being for all gen, More Green Space, Community & Art Centre
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เซ็นทรัลพัฒนากลายเป็น Top of Mind มาโดยตลอด เพราะทุกอย่างสร้างขึ้นผ่านการรับฟังและความมุ่งมั่นที่จะนำความคิดของผู้คนไปต่อยอด เพื่ออนาคตที่ดีและยั่งยืนสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง
Imagining Better Futures for All
หากถามว่า ‘อนาคตที่ดี’ ในนิยามของเซ็นทรัลพัฒนาคืออะไร
คำตอบก็คือ ‘ความยั่งยืนของชีวิตที่ดีของผู้คน’ ซึ่งมองได้หลายแง่มุม เช่น
1. การสร้างอิมแพกต์ผ่านการขยายธุรกิจ
การลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ ของเซ็นทรัลพัฒนา เปรียบเสมือนการกระจายความเจริญและลดความเหลื่อมล้ำ โดยนำ ‘เสียง’ ของผู้คนมาสร้างสรรค์พื้นที่ที่ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่
เซ็นทรัลพัฒนาต้องการเป็น ‘เพื่อนบ้านที่ดีในทุกย่าน’ ด้วยการส่งสิ่งเหล่านั้นต่อไปยังชุมชน ซึ่งท้ายที่สุดก็จะทำให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาประเทศนี้
2. เป็น ‘คนดี’ หรือองค์กรที่ดีของสังคม
การรับฟังเสียงของเซ็นทรัลพัฒนาไม่ได้รับฟังแต่เสียงของลูกค้าเพื่อสร้างกำไร แต่รวมไปถึง Stakeholders อื่น ๆ อีกด้วย
หากใครเคยเรียนธุรกิจ Stakeholders หลักของธุรกิจมี 3 อย่าง คือลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงาน
แต่เซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญเพิ่มอีก 2 Stakeholders คือผู้เช่า (Tenants) และชุมชน (Communities)
โดยผู้เช่าจะต้องทำธุรกิจได้ เติบโตไปด้วยกันในระยะยาว และชุมชน-คนในย่านท้องถิ่นจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี
3. การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน : Net Zero 2050
ในฐานะ Place Maker ศูนย์การค้าเซ็นทรัลต้องทำหน้าที่ทั้ง Enable, Educate, และ Engage เพื่อให้การใช้ชีวิตของผู้คนเป็นมิตรกับโลกใบนี้มากขึ้น
โดยเสียงของผู้คนที่เก็บได้มาจาก Idea Box นั้น สอดคล้องกับความตั้งใจของเซ็นทรัลพัฒนาที่จะสอดแทรก Green Behaviour เข้าไปยังใน Touchpoint ต่าง ๆ ภายในศูนย์การค้า ไปจนถึงการเปิดตัว Low Carbon Mall แห่งแรกที่ Central Westville
การกระจายอิมแพกต์ไปสู่ผู้คน ชุมชน และประเทศ โดยตั้งต้นจากเสียงและความต้องการของผู้คน ทำให้การทำธุรกิจของเซ็นทรัลพัฒนาเชื่อมโยงกลับมายังความตั้งใจที่จะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุก ๆ คน
โดยการที่จะสร้าง Better Futures ได้ ก็คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน
ดังนั้น การเป็น ‘พื้นที่’ ที่เปิดกว้าง และรับฟังเสียงความต้องการของผู้คน นำไปสู่การต่อยอดจริง ร่วมกับ TEDxBangkok 2023 ในครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนกับการแสดง Commitment ที่เซ็นทรัลพัฒนามีให้ผู้คนมาโดยตลอด
ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาครองใจลูกค้าทุกคนมาตลอด 42 กว่าปีที่ผ่านมาได้