“สวัสดีค่า”

คือเสียงที่เราได้ยินทันทีที่ก้าวขาเข้าประตูบานใหญ่ของโรงแรม ก่อนจะตามมาด้วยคำกล่าวต้อนรับฉบับคนญี่ปุ่นว่า “อิรัชชัยมาเสะ” แม้จะเป็นโรงแรมใจกลางย่านชิโจ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นก็ตาม

ใช่แล้ว! เรากำลังอยู่ที่ ‘ASAI Kyoto Shijo โรงแรมนอกประเทศแห่งแรกของแบรนด์ ASAI Hotels ที่ทุกสาขามีเป้าหมายร่วมกันว่า จะพานักเดินทางไปสัมผัสกับสิ่งที่น่าสนใจในย่านนั้น ๆ หรือศัพท์ชาวอาศัย (ที่เปรียบได้กับสมาชิกใหม่ของย่าน) มักเรียกกันว่า ละแวกบ้าน อย่าง ASAI Bangkok Sathorn ก็ชวนทุกคนไปเดินเล่นย่านสาทร หรือ ASAI Bangkok Chinatown ก็ทำให้การเดินย่านเยาวราชสนุกกว่าที่เคย

ASAI Kyoto Shijo รร.ญี่ปุ่นลูกครึ่งไทยที่ชวนทุกคนสำรวจเมืองเก่าย่านชิโจแบบเพื่อนบ้าน
ASAI Kyoto Shijo รร.ญี่ปุ่นลูกครึ่งไทยที่ชวนทุกคนสำรวจเมืองเก่าย่านชิโจแบบเพื่อนบ้าน

ถึงตามาเล่นสนุกย่านชิโจ เพราะโรงแรมแทรกตัวอยู่ในซอกซอยขนาดเล็กแต่เดินเที่ยวได้ทั่วถึง ละลานตาไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ งานฝีมือ วัด รวมไปถึงบาร์กลางคืนมากมาย ซึ่งแตกต่างจากภาพจำของเมืองเกียวโตที่เปรียบได้กับย่านเมืองเก่า บอกเลยว่าตามเก็บตั้งแต่เช้ายันค่ำก็ยังไม่หมด การันตีด้วยเราที่เดินเตร็ดเตร่ไปวันละเกือบ 20,000 ก้าว

ขณะที่ อาศัย กรุงเทพฯ ตกแต่งด้วยสีจัดจ้านสดใส อาศัย เกียวโต กลับมีโทนสีอ่อนโยน ดูไปทางน่ารักอบอุ่นซะมากกว่า ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเพื่อนบ้านใหม่คนนี้ไม่ได้ต้องการเป็นโรงแรมที่ดึงความสนใจของย่านไป แต่เลือกปรับตัวเป็นหนึ่งเดียวกับสถาปัตยกรรมรอบ ๆ ย่าน 

เริ่มตั้งแต่ม่านโนเร็นกราฟิกที่ทางเข้า โทนสีส้มตัดกับสีดำและสีเทาได้รับแรงบันดาลใจจากเจดีย์ Yasaka กระเบื้องหินที่พื้นและเคาน์เตอร์บาร์ก็ยังล้อไปกับวัสดุปูพื้นถนน Sannenzaka ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือโครงสร้างไม้เหนือบาร์กลางโรงแรมที่คนรักญี่ปุ่นคงร้องอ๋อ! ได้แรงบันดาลใจมาจากโครงสร้างสถาปัตยกรรมของวัด Kiyomizu-dera หรือวัดน้ำใสนี่เอง

ASAI Kyoto Shijo รร.ญี่ปุ่นลูกครึ่งไทยที่ชวนทุกคนสำรวจเมืองเก่าย่านชิโจแบบเพื่อนบ้าน
ASAI Kyoto Shijo รร.ญี่ปุ่นลูกครึ่งไทยที่ชวนทุกคนสำรวจเมืองเก่าย่านชิโจแบบเพื่อนบ้าน

อาศัยไม่ได้อยากเป็นแค่โรงแรม แต่อยากทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างนักเดินทางรุ่นใหม่กับตัวแทนกลุ่มศิลปินในเกียวโตและผู้ประกอบการธุรกิจในย่านชิโจให้ได้อย่างดีที่สุด ผ่านการร่วมงานกับศิลปินหรือคนในพื้นที่ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน 

อย่างนักออกแบบภายในเองก็ได้ร่วมมือกับช่างฝีมือท้องถิ่น จะเห็นได้ว่ามีผลงานศิลปะหลากหลายแขนงสอดแทรกอยู่ในทุกพื้นที่ เช่น งานชิ้นเอกบริเวณโต๊ะทำงาน เป็นผลงานสื่อผสมของศิลปินท้องถิ่น โทโมะอากิ ทารุทานิ (Tomoaki Tarutani) และของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็คัดสรรมาอย่างดีจากร้านสะสมของเก่าอันเป็นเสน่ห์ของเมือง

ASAI Kyoto Shijo รร.ญี่ปุ่นลูกครึ่งไทยที่ชวนทุกคนสำรวจเมืองเก่าย่านชิโจแบบเพื่อนบ้าน

จากการพูดคุยกับพนักงาน ช่วงแรก ๆ คนญี่ปุ่นก็ไม่รู้จักแบรนด์อาศัยหรอก คำว่า ASAI ดูจะเป็นภาษาญี่ปุ่นเสียด้วยซ้ำ ก่อนโรงแรมเปิดจึงมีกิจกรรม The Local Day เหมือนกับอาศัยที่กรุงเทพฯ เพียงแต่พนักงานทุกคนใส่เสื้อที่ข้างหน้าเขียนว่า ‘สวัสดี’ ส่วนข้างหลังเขียนว่า ‘คอนนิจิวะ’ เพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน

ที่เราชอบมากที่สุดคือที่นี่ไม่เรียกพนักงานว่า สตาฟ แต่เรียกว่า ‘ASAI Ambassador’ จะให้คำแนะนำกิจกรรมน่าสนใจ ร้านราเมงของท้องถิ่น หรือร้านกาแฟอร่อยใกล้โรงแรม ก็ตอบได้ประหนึ่งไกด์นำเที่ยวเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากต้อนรับเราด้วยภาษาไทยแล้ว ที่นี่ยังมีพนักงานคนไทยคอยให้ความรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้นอีกด้วย

หากใครเคยพักโรงแรมเครืออาศัยมาก่อน ห้องขนาดกะทัดรัดแต่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานยังเป็นเอกลักษณ์อยู่เหมือนเดิม ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 114 ห้อง เปิดเข้ามาก็อยากจะกระโดดลงเตียงที่มีลักษณะเป็นเสื่อทาทามิยกระดับ ไม่ลืมใส่ความเป็นท้องถิ่นเข้ามาด้วยหมอนอิงทรงกลมที่เรียกว่า ‘Ojami’ และการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยผู้เข้าพักเลือกพักแบบเตียงเดี่ยวขนาดคิงไซซ์หรือเตียงคู่ได้ตามต้องการ 

สิ่งที่เราใช้แล้วชอบมาก คือบรรดาอุปกรณ์อาบน้ำต่าง ๆ อย่างแชมพู ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนอยากหอบกลับบ้าน

ด้วยความตั้งใจที่อยากสนับสนุนให้ทุกคนได้ใช้พื้นที่ส่วนกลาง ทั้งร้านอาหาร บาร์ และห้องนั่งเล่น อย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้จึงเป็นสิ่งที่เราอยากนำเสนอ

บริเวณล็อบบี้เปรียบได้กับพื้นที่อเนกประสงค์ มีที่นั่งพร้อมปลั๊กไฟให้ทำคอนเทนต์กันยาว ๆ หากคุยงานจนคอเริ่มแห้ง ก็ขอให้บอกพนักงานที่กลางวันเป็นบาริสต้า กลางคืนเป็นบาร์เทนเดอร์ เครื่องดื่มที่เราอยากให้ทุกคนลองคือ ‘ค็อกเทลกะเพรา’ กับ ‘โมฮิโตผักชี’ ที่คนญี่ปุ่นคลั่งไคล้ แม้จะดื่มไปแล้วตัวสั่นด้วยรสสัมผัสแปลกแต่ก็ห้ามพลาดเป็นอันขาด

ไฮไลต์คือร้านอาหารซอยแกง หรือ Soi Gaeng รสชาติจัดจ้านประหนึ่งร้านอาหารไทยต้นตำรับประจำย่านชิโจ โดย เชฟเลย์ กิติชัย เชฟในเครือดุสิตธานี ร้านนี้เสิร์ฟเมนูแบบอาหารจานเดียว เราได้ชิมทั้งแกงเขียวหวาน พะแนง ลาบหมู หมูกรอบคั่วพริกเกลือ ทอดมัน เสือร้องไห้ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ การันตีว่าอร่อยพอให้หายคิดถึงบ้าน และเสิร์ฟเป็นเซตอาหารกลางวัน ทั้งแบบญี่ปุ่น อเมริกัน หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำแบบไทย ๆ นอกจากนี้ยังมีของหวานไทยอย่างบัวลอยฟักทอง ทับทิมกรอบทำเอง และน้ำแข็งไสที่ถูกปากคนไทย ถูกใจคนต่างชาติ

โดยโรงแรมยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง มีตู้เติมน้ำดื่มในพื้นที่ส่วนกลาง และมีขวดน้ำให้ยืมไปใช้ได้ด้วย โดยเฉพาะหน้าร้อนของญี่ปุ่นที่ร้อนจัดอย่าบอกใคร ถ้าเราไม่ได้ขวดน้ำนี้ช่วยชีวิตไว้คงแย่แน่

บอกก่อนว่านี่เป็นครั้งแรกของเรากับเกียวโต การได้เดินสำรวจรอบ ๆ ย่านแบบนักหลงทางและกลับมานอนสลบเหมือดที่อาศัย เป็นความประทับใจที่เราอยากกลับไปสัมผัสอีกครั้ง เพราะย่านชิโจมีทุกอย่างที่เราชื่นชอบ ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งมีอะไรให้ทำไม่รู้จบ ตรงตามความต้องการของอาศัยที่ไม่ได้ต้องการให้พักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้โรงแรมเป็นเหมือนจุดมุ่งหมายของการทำกิจกรรมที่แค่เดินเลี้ยวผิดซอยก็เจอแล้ว

ว่ากันง่าย ๆ ตรงข้ามโรงแรมคือร้านเช่าจักรยาน เลี้ยวขวาไปเป็นร้านขายงานฝีมือ เลี้ยวซ้ายไปจะเจอร้านขายของมือสอง เดินไปอีกหน่อยก็เป็นวัดกับร้านหนังสือ เดินไกลอีกนิดเป็นแหล่งช้อปปิ้งกับตลาดปลา มองไปข้างหน้าก็จะเห็นแกลเลอรีแสดงงานศิลปะ โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยคาเฟ่กับร้านอาหารที่ตัดสินใจลำบากว่าจะเข้าร้านไหนดี 

ถ้าคิดว่ามาแล้วจะได้นอนเปื่อย ๆ รับรองว่ามีอะไรให้ทำเพียบ ตามคอนเซปต์ Live Local ในวิถี Local Life ที่เป็นเหมือนจุดแข็งของโรงแรมเครืออาศัยโดยแท้

อ้อ รอบนี้เราเดินทางมากับสายการบิน Thai Vietjet Air ในช่วงเย็น ทุกคนดูแลเราอย่างดีจนเกรงใจ พร้อมบริการอาหารสุดอร่อยจนกระดุมปริตั้งแต่ยังไม่ถึงเชียงใหม่ ก่อนจะต่อเครื่องไปยังโอซาก้าตอนกลางคืน บิดขี้เกียจให้พอหายเมื่อยในช่วงเช้า และโดยสารรถรับ-ส่งจาก White Glove Service ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการ Luxury ด้านขนส่งทางบก ด้วยที่นั่งกว้างขวาง พี่คนขับก็สุภาพน่ารัก นั่ง ๆ นอน ๆ ไปอีกไม่กี่อึดใจก็ถึงเกียวโตแบบพลังยังล้นเหลือ 

หากใครมีแพลนจะไปญี่ปุ่นเร็ว ๆ นี้ เราว่า อาศัย เกียวโต ชิโจ เป็นที่พักที่ไม่เพียงมีทำเลดี แต่มีแนวคิดน่าสนใจ และให้ความรู้สึกเหมือนกลับบ้านในวันที่เดินสัมผัสย่านจนจุใจ

また会いましょう (แล้วพบกันใหม่)

ภาพ : ASAI Kyoto Shijo

3 Things you should do

at ASAI Kyoto Shijo

01

ไปเดินตลาดปลา Nishiki Market พบกับถนนยาว 400 เมตรที่เต็มไปด้วยของอร่อยขึ้นชื่อทั้งคาวหวาน สารพัดเทคนิค แต่บอกไว้ก่อนว่าที่นี่ห้ามเดินกินนะ

02

ไปทำกระดาษสาญี่ปุ่น Karakami ที่ร้าน Karamaru ด้วยเทคนิคพิมพ์ลายด้วยบล็อกไม้ที่มีมานานกว่า 100 ปี หรือจะซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือก็ได้

03

ไป COCON KARASUMA ห้างที่เป็นเหมือนแหล่งงานฝีมือของเกียวโต ชั้น 3 มีแกลเลอรีไว้แสดงงานศิลปะ กับโรงหนัง Kyoto Cinema ซุกซ่อนอยู่ (เราชอบมาก!)

ASAI Kyoto Shijo

Writer

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

นักอยากเขียน บ้านอยู่ชานเมือง ไม่ชอบชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้ มีคติประจำใจว่าอย่าเชื่ออะไรจนกว่าหมอบีจะทัก รักการดูหนังและเล่นกับแมว