The Cloud เคยสนทนากับ แชมป์-ศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ถึงจุดเริ่มต้นของ ‘ASAI’ แบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครือดุสิตธานี พร้อมกับการเปิดตัวสาขาแรกที่ ASAI Bangkok Chinatown บนอาคาร I’m Chinatown ย่านเยาวราช

เรายินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ‘อาศัย’ เปิดสาขาที่ 2 เรียบร้อยแล้ว! ที่ ‘ASAI Bangkok Sathorn’ ในซอยสาทร 12 ห่างจากบีทีเอสสถานีเซนต์หลุยส์ระยะเดินถึง รายล้อมด้วยเพื่อนบ้านมากหน้าหลายตา ตั้งแต่สตรีตฟู้ดริมทาง ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ คาเฟ่ บาร์ แกลเลอรี ยันห้องสมุดและสนามเด็กเล่นขนาดกะทัดรัด – และใช่! ASAI Bangkok Sathorn กำลังเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนี้ด้วย

โรงแรมอาศัย ตั้งใจเป็นโรงแรมไลฟ์สไตล์ราคาสบายกระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมนักเดินทางรุ่นใหม่กลุ่ม Millennial ที่ชื่นชอบความแตกต่าง อยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ และสนใจวิถีชุมชน-ท้องถิ่น แถมยังพยายามตีความการใช้ชีวิตของคนเมืองแบบใหม่ไปสู่การพักผ่อนที่น่าสนใจ

นอกจากศิรเดชให้ความสำคัญกับชุมชนท้องถิ่น (Local) และประสบการณ์ที่มีความหมาย (Meaningful Experiences) เขายังมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน (Sustainability) ด้วยเป้าหมายที่จะทำให้โรงแรมเครืออาศัยเป็นโรงแรมสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งร้านอาหารและเครื่องดื่มของเครือดุสิตธานีก็ใช้ผลผลิตตามฤดูกาลที่ทำงานร่วมกับเกษตรกรที่มีแนวคิดรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

วกกลับมาที่อาศัยในสาทร โรงแรมใหม่เอี่ยมอ่องในย่านแห่งนี้มีห้องพักเปิดบริการทั้งหมด 106 ห้อง แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ หนึ่ง Cosy King สอง Cosy Twin สาม Cosy King City และสี่ Biggy Bunk (มีเพียง 3 ห้องเท่านั้น) เป็นเตียง 2 ชั้นที่นอนพักผ่อนได้ 4 คน ในพื้นที่ขนาด 31 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน รับรองว่าหมดปัญหาเที่ยวกะแก๊งแล้วต้องจองห้องพัก 2 ห้องติดกัน

การตกแต่งห้องพักของ ASAI Bangkok Sathorn ค่อนข้างเรียบง่าย เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น วัสดุตกแต่งภายในห้องเป็นไม้และผ้า ทำให้โทนสีสบายตา เปิดประตูปุ๊บ รู้สึกถึงความอบอุ่นปั๊บ

เราเคยไปพักอาศัยเยาวราช พอเห็นห้องพักของอาศัยสาทรก็สัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงและกลิ่นอายฉบับ ‘โรงแรมอาศัย’ โดยเฉพาะหมอนอิงทรงสามเหลี่ยมแบบไทย ๆ ที่ผลิตโดยช่างฝีมือท้องถิ่น

อ้อ ด้วยทำเลใจกลางเมือง ห้องที่นี่เลยมีขนาดกะทัดรัดสักนิด แต่มั่นใจได้ว่าอยู่สบายแน่นอน

อีกอย่างที่เราชอบ คือ Self Check-in Kiosk เครื่องเช็กอินด้วยตนเอง ทำให้แขกไม่ต้องยืนต่อแถวให้ร้อนใจ สะดวกสบาย ประหยัดเวลา และมีแผนกต้อนรับคอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน

เมื่อมาพักที่อาศัย ต้องไม่พลาด Eat, Work and Play เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับคอมมูนิตี้

เริ่มกันที่ชั้นล่างของโรงแรมติดถนน มีล็อบบี้ เลาจน์ และบาร์ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ จะนั่งหย่อนใจ เปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กมาทำงานทางไกล หรือชิตแชตกับเพื่อนใหม่ก็ย่อมได้ กระซิบว่ายามค่ำคืน พื้นที่ด้านล่างจะกลายเป็นบาร์เอาใจสายดึกดื่ม ส่วนชั้น 2 มีห้องอาหาร ERR Urban Rustic Thai ที่ศิรเดชชวน เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และ เชฟดีแลน โจนส์ จากโบ.ลาน มาทำงานร่วมกัน เสิร์ฟอาหารไทยตลอดทั้งวัน ซึ่งสองเชฟได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารท้องถิ่นไทย สตรีตฟู้ดริมทาง และตลาดน้ำ

ภายในโรงแรมก็ตกแต่งด้วยผลงานภาพถ่ายและผลงานศิลปะจากศิลปินหลายท่าน เพราะศิรเดชเชื่อในพลังของ Collaboration ที่ทั้งสนุกและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจโรงแรมไม่รู้จบ 

ส่วนสายฟิตปั๋งต้องชอบใจ เพราะที่นี่มีฟิตเนสคลับบริการ 24 ชั่วโมง พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ให้แขกวิ่งลู่ไปด้วย มองวิวเมืองย่านสาทรไปด้วย ช่างเป็นการเรียกเหงื่อที่แสนรื่นรมย์จริง ๆ

นอกจาก Eat, Work and Play ในโรงแรมแล้ว ศิรเดชก็อยากชวนแขก Eat, Work and Play นอกโรงแรม ด้วยการเดินสำรวจย่านและทำความรู้จักเพื่อนบ้านหรือมิตรสหายรอบ ๆ เพราะทำเลของอาศัยสาทรเดินได้! สายผจญภัยต้องชอบเป็นแน่ แต่บอกก่อนว่าไม่ได้โลดโผนนะ (ฮา) แค่ออกกำลังขาก็พบปะร้านรวงมากมาย ทั้งร้านอาหารคอนเซปต์เก๋ไก๋ คาเฟ่แนวสโลว์ไลฟ์ บ้านแปลนคาเฟ่ (ห้องสมุดชุมชน) ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านอาหารท้องถิ่นประจำย่าน ถ้าได้ทะลุตรอกซอยอีกนิดก็ไปทะลุย่านสีลม สัมผัสวัฒนธรรมอีกหนึ่งรูปแบบ ทั้งวัดแขกและบรรดาร้านอาหารสัญชาติอินเดียหลากหลายแนว 

สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างที่เรามีโอกาสสัมผัสจากโรงแรมอาศัย คือที่นี่มีกิจกรรม The Local Day พูดง่าย ๆ คล้ายกับการปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ ผู้บริหารจะมาพบปะพูดคุยและทำกิจกรรมกับพนักงาน โดยมีเกมให้พนักงานออกไปทำภารกิจรอบย่านสาทร เพื่อให้พนักงานทำความรู้จักกับผู้คนและย่าน นัยหนึ่งเป็นการฝากตัว ‘อาศัย’ กับย่านอย่างเป็นมิตรและน่ารักสุด ๆ แต่เรามองว่าสิ่งที่เหนือกว่าการที่พนักงานทำความรู้จักย่าน คือการเข้าใจย่านนั้นอย่างแท้จริง จนให้ข้อมูลและแนะนำแขกให้ไปสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนย่านสาทรได้ ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ที่ว่า ‘Live Local ในวิถี Local Life ที่แท้จริง’

และเป็นไอเดียที่ดีที่ให้แขกได้สนับสนุน Neighborhood นั่นทำให้ไม่เพียงแต่โรงแรมเติบโต แต่ชุมชนรอบข้างก็เติบโตไปพร้อม ๆ กัน ศิรเดชว่าสิ่งนี้ทำให้ธุรกิจและย่านอยู่ได้เพราะกันและกัน

แน่นอนว่าสถานที่ Hidden Gems สุดแรร์ หรือสตรีตฟู้ดคุณลุงคุณป้าแสนอร่อย ก็มีแต่พนักงานอาศัยเท่านั้นที่แนะนำคุณได้ การส่งต่อประสบการณ์ล้ำค่าแบบนี้คือจุดแข็งของโรงแรมเครืออาศัย

เราหวังว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เล่าสู่คุณฟังจะทำให้คุณสนุกกับการสำรวจย่านจนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่อาศัยในสาทร และปิดท้ายวันด้วยการกลับมานอนหลับพักผ่อนบนเตียงนุ่ม ๆ ของอาศัย

ภาพ : ASAI Bangkok Sathorn