ถ้าคุณมีที่ดิน 5 ไร่ ที่ซื้อเก็บไว้เฉย ๆ คุณจะปลูกอะไร

ไหน ๆ ก็ลงทุนซื้อที่ดินแล้ว เราขอชวนคุณมาปลูกป่าส่วนตัวที่ไม่ใช่แค่เพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เปรียบเสมือนมี ‘ทุนสำรองเลี้ยงชีพ’ หรือ ‘เงินเย็น’ ไว้ให้ใช้ยามเกษียณ

หากไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เราขอแนะนำผู้ที่มีใจรักการปลูกต้นไม้อย่าง ‘หว่านเมล็ด’ หรือ บริษัท หว่านเมล็ดปลูกต้นไม้ จำกัด ที่ปลูกต้นไม้ด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน รับปลูกต้นไม้ทั้งไม้ใหญ่-กลาง-พุ่ม ดูแลจนต้นไม้จาก ‘ต้นกล้า’ กลายเป็น ‘ต้นแกร่ง’ เลียนแบบระบบนิเวศให้มีความหลากหลาย รื่นรมย์ และเกื้อกูลระหว่างคนกับต้นไม้ ช่วยลดภาวะโลกร้อน และเป็นการลงทุนสร้างรายได้ในอนาคต เรียกว่ามีแต่ ‘ได้’ กับ ‘ได้’

หว่านเมล็ดปลูกต้นไม้ เริ่มต้นโดย คุณจือ-กอปรทิพย์ ตู้จินดา ผู้อยากยกระดับอุตสาหกรรมไม้ไทยให้ครบวงจรและทัดเทียมนานาประเทศ จากนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความรักในการกอดต้นไม้ใหญ่ ผันตัวกลายเป็นผู้ที่มีใจรักการปลูกต้นไม้มาตรฐานเข้มข้นที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการปลูก

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์

จุดเริ่มต้นของธุรกิจ หว่านเมล็ด ในวันนี้ ต้องย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่คุณจือเริ่มสำรวจชีวิตตัวเอง หลังจากเรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดเชียงราย ตอนนั้นเป็นปีแรก ๆ ที่เกิดปัญหาหมอกควันจากการเผาป่า ด้วยความที่เป็นคนสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอยู่แล้ว จึงคิดอยากเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ ด้วยการปลูกต้นไม้ให้มีป่าเยอะ ๆ แล้วก็คิดชื่อธุรกิจเสร็จสรรพว่า ‘ป่าส่วนตัว’

แต่แล้วชีวิตผกผัน โปรเจกต์ในฝันเป็นอันต้องพับลง หลังจากที่ได้สั่งสมประสบการณ์ในสายความยั่งยืนและสายงานเพื่อสังคมมาพอสมควร จึงตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทและเอกในสาขาด้านความยั่งยืนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากที่เรียนจบและได้ลองผิดลองถูกมาถึงจุดหนึ่ง คุณจือก็ได้กลับมาตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง ด้วยคำถามที่ว่า อยากลองทำอะไรสักอย่างก่อนตายให้ได้ ที่ทำแล้วจะเป็นจุดหมายในชีวิต และมีความสุขที่ได้ทำสิ่งนี้ไปเรื่อย ๆ

“จือลองไปค้นรูปเก่า ๆ ที่เป็นรูปถ่าย จือก็พบว่าจือชอบไปกอดต้นไม้ใหญ่ตลอดเลย สิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่ให้ความสุขกับเราและสอดคล้องคุณค่าภายในของเราจริง ๆ คิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่เราทำไปได้เรื่อย ๆ”

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

สำรวจเส้นทาง คัดแม่ไม้

เมื่อคิดได้อย่างชัดเจนว่าอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ ปลูกป่า ก็หยิบแผนธุรกิจที่เคยคิดไว้แต่แรกมาปัดฝุ่น เริ่มหาข้อมูล พยายามปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเอง เจอคนนั้น เจอคนนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนและเหลาคมไอเดียให้ชัดเจนมากขึ้น

“เราพยายามสื่อสารว่าอยากทำธุรกิจปลูกต้นไม้ไปเรื่อย ๆ ฮึบอยู่หลายที ไม่ยอมแพ้ จนมีคนแนะนำให้ได้พบ คุณคมวิทย์ บุญธำรงกิจ อุปนายกสมาคมธุรกิจไม้ และมีโอกาสได้เล่าแผนธุรกิจให้คุณคมวิทย์ฟัง เขาชอบไอเดียเรามาก จนยอมมาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจคนแรกและชวนเพื่อนอีกหลายคนมาเป็นหุ้นส่วนพร้อมเปิดบริษัทร่วมกัน ตรงนี้มันเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญมากที่ได้เป็นหุ้นส่วนกับคนในสมาคมธุรกิจไม้ เพราะเราไม่ได้เป็นแค่ธุรกิจปลูกต้นไม้ แต่เรายังมีข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจในการรับซื้อไม้สำหรับเอาไปแปรรูปต่ออีกด้วย”

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ
หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

ฝันใหญ่ของคนช่างปลูก

ด้วยความที่คุณจือจบเศรษฐศาสตร์ที่มีธรรมชาติในการมองภาพใหญ่ บวกกับการตั้งคำถามความว่า เอ๊ะทำไมในประเทศไทยไม่มีอุตสาหกรรมการใช้ไม้ที่ครบวงจรบ้างเลย เมื่อไม่มีก็ต้องสร้างขึ้นมา ไม่ใช่แค่สร้างธุรกิจการปลูกต้นไม้ แต่มีความมุ่งหมายจะสร้างทั้งห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ

“มันเป็นเรื่องน่าคิดที่ประเทศไทยเรามีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมไม้ในต่างประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งบ้านเรามีแสงแดดตลอดปีเพราะตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร ต้นไม้เจริญเติบโตได้เร็วกว่าหลายเท่า ใช้เวลาปลูก 20 – 30 ปีเท่านั้น ขณะที่เขาต้องใช้เวลาปลูกถึง 50 – 70 ปี แต่ไม้ของเขามีคุณภาพและราคาถูกกว่า เราเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ก็ฝันว่าจะสร้าง Supply Chain ของเราให้ได้

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

“ตอนนี้ยังมีช่องว่างและโอกาสทางธุรกิจอยู่มากตั้งแต่ต้นน้ำเลย เรียกว่ายังเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใส ไม่ว่าจะเป็นการเพาะต้นกล้า การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่ช่วยให้เนื้อไม้มีคุณภาพ ต้นตรงสวยงาม การปลูก การดูแล หมอรักษาต้นไม้ รุกขกรตัดแต่งต้นไม้ การตัดสางและการตัดฟันต้นไม้ ที่พูดมาทั้งหมด สายนี้มีมืออาชีพจริง ๆ อยู่น้อยมาก ที่สำคัญคือการพัฒนาชุดความรู้การปลูกต้นไม้อย่างครบวงจร ทำวิจัยและควบคุมคุณภาพได้อีกมาก และพอกฎหมายภาษีที่ดินเพื่อทำการเกษตรมีการยกเว้นในเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด และกฎหมายตัดไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ได้ปลดล็อก (พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2562) กลายเป็นว่ามีคนติดต่อมาอยากเป็นลูกค้ากับทางหว่านเมล็ดเยอะมาก ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่เหมือนคลื่นลูกใหญ่ให้เราได้เซิร์ฟคลื่นตรงนี้ไปกับมัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราฉวยและสร้างโอกาสให้ตัวเองได้มากแค่ไหน”

นอกจากความฝันที่จะยกระดับอุตสาหกรรมไม้ในไทยแล้ว คุณจือยังคิดอย่างครบวงจรไปถึงการยกระดับธุรกิจเครื่องมือ เครื่องจักรทุ่นแรงที่ช่วยเกื้อหนุนให้อุตสาหกรรมไม้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ต้นทุนการปลูกต่ำลงและแข่งขันได้จริง เช่น เครื่องตัดแต่งกิ่ง เครื่องดึงตอไม้ เครื่องตัดไม้และรูดใบไม้ออกอัตโนมัติ เพราะประเทศไทยยังมีช่างหรือวิศวกรเก่ง ๆ อีกมากที่ประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

นักปลูกต้นไม้ด้วยใจที่ไม่ได้มองใครเป็นคู่แข่ง แต่เป็นเพื่อนช่วยปลูก

แนวคิดการดำเนินธุรกิจของคุณจือเรียกว่า ‘โคตรอินดี้’ ก็ว่าได้ เพราะไม่ได้มองว่าคนอื่นที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกันเป็นคู่แข่ง แต่กลับเป็นเพื่อนช่วยปลูกต้นไม้ เพราะบอกกับเราว่าประเทศไทยมีพื้นที่เป็นล้าน ๆ ไร่ ใครจะไปปลูกคนเดียวไหว เอากับเขาซี้!

“ยิ่งมีคนทำเหมือนกันก็ยิ่งแข่งกัน ยิ่งช่วยกันปลูก ยิ่งสร้างพื้นที่สีเขียว สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อม เราไม่กลัวใครเลียนแบบนะ อยากให้คนมาปลูกต้นไม้เยอะ ๆ เรามองว่าธุรกิจนี้มันต้องไม่เป็นของเราคนเดียว และมีบางบริษัทที่กลายมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เราทำอย่างที่เราถนัดดีที่สุด”

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ
หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

ปลูก ‘กล้า’ ให้ ‘แกร่ง’

ถึงแม้จะคิดเดินทางไกล ฝันที่จะสร้างวงการไม้ให้ครบวงจรและทัดเทียมนานาประเทศ แต่คุณจือบอกกับเราว่าขอทำต้นกล้าให้แข็งแรง ด้วยการเริ่มเป็นที่ปรึกษาและรับจ้างปลูกต้นไม้ก่อน นี่คือโมเดลการหาเงินของหว่านเมล็ด เธอบอกว่ายังมีเจ้าของที่ดินอีกมากที่ซื้อที่ไว้แล้วทิ้งร้างไม่มีคนดูแล และต้องการลงทุนปลูกต้นไม้ในที่ของตัวเอง

“ถ้าคุณมีที่ดินกรรมสิทธิ์รูปแบบโฉนด พื้นที่ขนาด 5 ไร่ขึ้นไป แล้วไม่มีเวลาดูแล ให้หว่านเมล็ดช่วยปลูกต้นไม้และดูแลให้ เราออกแบบตามความต้องการของเจ้าของที่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปลูกเพื่อการลงทุน ปลูกไม้ยืนต้นเศรษฐกิจ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ แก้ปัญหาดินถล่ม ดินเค็ม ทำพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พอผ่านไป 10 – 20 ปี คุณยังได้เนื้อไม้ที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย”

นอกจากนี้ คุณจือและทีมหว่านเมล็ดยังไปเรียนการปลูกสวนป่ากับ อาจารย์นพพร นนทภา ที่โรงเรียนปลูกป่า จังหวัดขอนแก่น ที่ทำให้หว่านเมล็ดในวันนี้ ยึดมั่นมาตรฐานการปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่าที่เข้มข้น 7 ขั้นตอน เป็นการปลูกแบบประณีต ที่รับประกันว่าต้นไม้จะเติบโต สู้แรงลม รากต้นไม้แข็งแรง หาอาหารเองได้ดีแน่นอน แถมไม่หวงความรู้เรื่องการปลูก เข้าไปอ่านขั้นตอนการปลูกในเว็บไซต์หว่านเมล็ดได้เลย

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

ลงกล้าต้นแรก

เมื่อแผนธุรกิจพร้อม! หุ้นส่วนพร้อม! ก็ต้องมาลุ้นว่าใครจะให้โอกาสหว่านเมล็ดไปลงต้นกล้าต้นแรก แล้วฟ้าก็ประทาน เมื่อเพื่อนคุณจือแนะนำให้ไปคุยกับลูกค้ารายแรกที่มีที่ดินเยอะมาก แล้วก็ยังไม่มีไอเดียว่าจะเอาไปทำอะไรดี เพราะลูกค้าคนแรกถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้ทดลองลงมือทำของหว่านเมล็ด

“จือรู้สึกประทับใจที่แรกที่ให้โอกาสเราไปปลูกในพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ เขากล้าให้เราลองปลูกทั้ง ๆ ที่เรายังไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน ผ่านมา 3 – 4 ปี ตอนนี้ต้นไม้ก็โตท่วมหัวไปหมดแล้ว เราก็เข้าไปดูเป็นระยะ ๆ ว่าต้นไม้มันโตไปถึงไหนแล้ว ยิ่งต้นไม้โตได้ดี เราก็ยิ่งชื่นใจ มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจริง ๆ ไอเดียที่เราร่างขึ้นมา มันหน้าตาเป็นแบบนี้เองนะ”

จากกล้าต้นแรกที่ได้ที่ทำให้ได้เริ่มต้นธุรกิจ ‘หว่านเมล็ดปลูกต้นไม้’ คุณจือเล่าให้เราฟังถึงอุปสรรค ความเครียด และจุดวัดใจใน 2 – 3 ปีแรกของการเริ่มทำธุรกิจ และเน้นย้ำถึงการจัดการความคาดหวังที่มีต่อตัวเองนั้นสำคัญที่สุด ในเมื่อธุรกิจไม่ใช่ตัวเราทั้งหมด มีทั้งขาขึ้นและขาลง และบางครั้งอาจจะเหมือนว่ามันไปไม่รอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลว หัวใจสำคัญคือเอาตัวเองออกมาจากความเครียด ความกังวลให้ได้ และมาตั้งหลักกับตัวเองเพื่อเดินต่ออีกครั้ง

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

ผ่านจุดวัดใจ สู่แดนกำไร เพราะเจอลูกค้าที่แท้จริง

พอเราถามว่าธุรกิจผ่าน ‘จุดวัดใจ’ มาหรือยัง คุณจือบอกกับเราว่า พอผ่านการลองผิดลองถูกในช่วงแรกและเริ่มจับทางได้ผ่านการเรียนรู้กับลูกค้าด้วยความเข้าอกเข้าใจ จนสกัดข้อมูลเชิงลึก (Insight) ในแบบฉบับของหว่านเมล็ดและได้เจอลูกค้าที่แท้จริงที่ให้ความไว้วางใจจนเกิดการบอกต่อในที่สุด

และคำตอบก็คือ… ผ่านจุดวัดใจเส้นตัวแดงมาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อปีที่ผ่านมา เข้าสู่แดนกำไรแล้ว ปิ๊งป่อง ๆ

“หลังจากที่ขาดทุนมาเป็นเวลา 3 ปี จากช่วงแรกที่ลองผิดลองถูก จนจับทางเจอลูกค้าที่แท้จริงของหว่านเมล็ด เราได้เรียนรู้จากลูกค้าเยอะมาก พยายามทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า พบว่าสัดส่วนลูกค้ามีทั้งที่เป็นองค์กรธุรกิจ (B2B) พอ ๆ กับกลุ่มลูกค้ารายบุคคล (B2C) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีที่ดินเยอะมาก ๆ เป็นร้อยเป็นพันไร่ ลูกค้าหว่านเมล็ดส่วนใหญ่ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะเราดูแลการปลูกต้นไม้อย่างมืออาชีพ ดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ ส่วนงานหลังบ้านก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้เรามีเครือข่ายนักปลูกแต่ละพื้นที่ที่ทำตามมาตรฐานการปลูกแบบหว่านเมล็ด รวมถึงร่วมงานกับองค์กรที่มีเป้าหมายร่วมกัน เช่น โรงเรียนปลูกป่า จังหวัดขอนแก่น และมูลนิธิฟื้นฟูป่าพื้นถิ่น เพื่อสร้างพื้นที่การทำงานไปด้วยกัน”

“ส่วนเรื่องผลตอบแทน ก็ต้องบอกว่าตอนนี้ค่อนข้างดี ซึ่งควรจะทำให้บริษัทเดินต่อไปได้ในราคาที่ลูกค้าเข้าถึง หว่านเมล็ดตั้งใจจะปลูกต้นไม้ไปเรื่อย ๆ เพราะเรารักในสิ่งที่ทำ เป็นงานที่ให้ผลตอบแทนที่หล่อเลี้ยงเราและหว่านเมล็ดได้”

กอปรทิพย์ ตู้จินดา ผู้ก่อตั้ง ‘หว่านเมล็ด’ บริษัทรับปลูกต้นไม้ที่พร้อมเปลี่ยนที่ดินเปล่าให้เป็นป่าส่วนตัว
กอปรทิพย์ ตู้จินดา ผู้ก่อตั้ง ‘หว่านเมล็ด’ บริษัทรับปลูกต้นไม้ที่พร้อมเปลี่ยนที่ดินเปล่าให้เป็นป่าส่วนตัว

ปลูกต้นไม้เกื้อกูลโลกและผู้คน

ความตั้งใจของคุณจือตั้งแต่แรกที่เชื่อว่าการปลูกต้นไม้จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน ด้วยเป็นวิธีที่ง่าย ราคาถูก รวดเร็ว และไม่จำกัดพื้นที่ แถมต้นไม้ยังมีความสามารถในการดูดซึมคาร์บอนไดออกไซด์และมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาแน่นอน ถึงกระนั้น คุณจือก็ไม่กล้าเคลมว่า หว่านเมล็ด คือธุรกิจที่จะช่วยโลกได้จริง ๆ (ก็ช่วยได้จริง ๆ นะ) ส่วนเรื่องการคำนวณการดูดซับก๊าซเรือนกระจกในตอนนี้ยังมีต้นทุนที่สูง ถือเป็นอุปสรรคสำหรับลูกค้าที่อินเรื่องสิ่งแวดล้อมและลูกค้าองค์กรที่มีเป้าหมายเรื่องความยั่งยืน ซึ่งในอนาคต ทางหว่านเมล็ดเองก็อยากวัดผลกระทบเชิงบวกทางสังคมและสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

อีกเรื่องการปลูกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับเรา คือการปลูกป่าแบบฟื้นฟู ที่ปลูกไม้พื้นถิ่นให้หลากหลายกว่า 80 ชนิด และปลูกด้วยชั้นเรือนยอด (ระดับชั้นความสูงของต้นไม้) ด้วยกัน 4 ชั้น คือหนึ่ง เรือนยอดบน ที่ความสูง 30 เมตรขึ้นไป สอง เรือนยอดรอง ที่ความสูง 7 – 29 เมตร สาม เรือนยอดไม้พุ่ม ที่ความสูง 0 – 6 เมตร และสี่ ไม้พื้นล่าง ก็คือไม้ล้มลุกนั่นเอง ซึ่งคุณจือบอกว่าการปลูกแบบนี้เป็นการปลูกเลียนแบบป่าที่มีอยู่ตามธรรมชาติ การปลูกลดหลั่นลงมาทำให้ต้นไม้แต่ละต้นไม่แย่งแสงแดดกัน ปลูกได้เต็มพื้นที่ และกลายเป็นป่าสมบูรณ์ในที่สุด (กลายเป็น ‘ป่าส่วนตัว’ จริง ๆ) น่าเสียดายที่ยังไม่มีใครให้โอกาสหว่านเมล็ดไปปลูกในรูปแบบนี้ เพราะเป็นโครงการระยะยาวที่ใช้เวลา 5 – 10 ปี ซึ่งถ้าใครสนใจ หว่านเมล็ดเขาพร้อมลุยเลยนะ

กอปรทิพย์ ตู้จินดา ผู้ก่อตั้ง ‘หว่านเมล็ด’ บริษัทรับปลูกต้นไม้ที่พร้อมเปลี่ยนที่ดินเปล่าให้เป็นป่าส่วนตัว

นอกจากเกื้อกูลโลกแล้ว ธุรกิจปลูกต้นไม้ของหว่านเมล็ดยังเกื้อกูลผู้คน เริ่มจากเกื้อกูลคุณจือและทีมงานหว่านเมล็ดเอง และยังให้ประโยชน์โดยตรงกับลูกค้าที่คุณจือพยายามสื่อสาร สร้างความเข้าใจ ใส่มุมมองและองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่เกื้อกูลทั้งเจ้าของที่ดินและระบบนิเวศไปพร้อม ๆ กัน

“ช่วงปีที่ยังไม่ได้กำไร เราก็ฟินแล้วนะที่ได้ลงมือทำ คือรู้สึกมันฟินมากที่เห็นไอเดียของเราเป็นรูปเป็นร่าง ส่วนที่บอกว่าธุรกิจเป็นประโยชน์กับลูกค้าในแง่ที่ว่า ลูกค้าได้เรียนรู้การปลูกไม้ยืนต้นไปพร้อมกับเรา ในเรื่องระบบนิเวศ ไม้ยืนต้น และไม้พื้นถิ่น เราก็พยายามอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจจริง ๆ ตามหลักวิชาการ เสนอไอเดียและ Solution ที่ดีที่สุด ใช้เงินน้อยและคุ้มค่าที่สุด รวมถึงคงธรรมชาติของพื้นที่ให้ใกล้เคียงระบบนิเวศดั้งเดิมที่สุด

“มันมีเคสที่ลูกค้ามาขอให้เราช่วยเคลียร์ที่ดินให้เรียบเตียน เพราะเขาต้องการจะขายที่ดิน แต่พอเราได้ไปสำรวจพื้นที่และพบว่ามีต้นไม้พื้นถิ่นหลากหลายชนิดขึ้นกระจายอยู่ในพื้นที่ เราก็แนะนำลูกค้าว่ารักษาต้นไม้พื้นถิ่นไว้และเลือกเคลียร์พื้นที่บางจุดให้ดูเรียบร้อยสะอาดตา ลูกค้าก็ยอมทำตามที่เราแนะนำ ปรากฏว่าพอเราทำพื้นที่ตรงนี้เสร็จปุ๊บก็มีคนมาขอซื้อที่ดินต่อปั๊บ คือมันน่าตื่นเต้นมาก และทำให้เราได้เห็นโอกาสใหม่ ๆ เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับลูกค้าและทีมงานไปด้วย”

กอปรทิพย์ ตู้จินดา ผู้ก่อตั้ง ‘หว่านเมล็ด’ บริษัทรับปลูกต้นไม้ที่พร้อมเปลี่ยนที่ดินเปล่าให้เป็นป่าส่วนตัว

Fun Facts สำหรับคนอยากปลูกไม้ยืนต้น!

  • ต้นกระถินยักษ์ เป็นพืชต่างถิ่นรุกรานที่รุนแรงสูงสุดติดอันดับ 100 ชนิดแรกของโลก และ 51 ชนิดแรกของไทย ถึงจะเป็นพืชโตเร็ว ได้เนื้อไม้มาก แต่ถ้ากระถินยักษ์บุกไปที่ไหน พืชพื้นถิ่นไม่มีวันได้ผุดได้เกิด ฉะนั้นเวลาจะปลูกต้นไม้ชนิดใดควรศึกษาให้ดีก่อนว่าเป็นพืชต่างถิ่นที่ทำลายระบบนิเวศหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ลุยโลด!
  • ต้นสักทอง ปกติจะอยู่ตามป่าแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง เป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบน้ำเยอะ ถ้าไปปลูกที่ภาคใต้มันก็จะไม่เป็นสักทอง แก่นมันจะไม่ทอง วงปีจะห่าง ขายไม่ได้ราคา เพราะทางภาคใต้ฝนเยอะ
  • ตะเคียนทอง ไม่หลอนอย่างที่คิด จริง ๆ แล้วตะเคียนเป็นต้นไม้ออกกลิ่นที่มีฤทธิ์ทำให้เรามีอาการประสาทหลอนในบางครั้ง คนที่เข้าใกล้ต้นตะเคียนทองอาจมีอาการมึนหัว แต่ถ้าคุณอยู่ภาคใต้ การปลูกตะเคียนทองเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ขึ้นง่าย โตได้ดี และขายได้ราคาแพง
กอปรทิพย์ ตู้จินดา ผู้ก่อตั้ง ‘หว่านเมล็ด’ บริษัทรับปลูกต้นไม้ที่พร้อมเปลี่ยนที่ดินเปล่าให้เป็นป่าส่วนตัว

อนาคต

หลังจากที่คุณจือเล่าการเดินทางของ บริษัท หว่านเมล็ดปลูกต้นไม้ จำกัด ที่อยากปลูกต้นไม้อย่างไม่จำกัด เพื่อหวังจะเพิ่มพื้นที่ป่าส่วนตัวของใครหลาย ๆ คนให้มีความร่มรื่น และมุ่งจะยกระดับอุตสาหกรรมไม้ให้ครบวงจร แข่งขันกับตลาดโลกได้ในระยะยาว ในอนาคตเราอาจเห็น หว่านเมล็ด ขยับขยายไปทำเรื่องอื่นนอกจากการปลูกต้นไม้และให้คำปรึกษา คุณจือบอกกับเราว่า

“ถ้าธุรกิจไปได้ดีถึงจุดหนึ่ง จือก็อยากทำเรื่องความหลากหลายของพันธุ์ไม้ยืนต้น เพราะจริง ๆ ต้นไม้มีความหลากหลายมากกว่า 1,000 – 10,000 สายพันธุ์ ซึ่งหลายสายพันธุ์เป็นพันธุ์ไม้ที่ดีมาก ๆ โตไว เนื้อไม้มีคุณภาพไม่ต่างจากไม้ยืนต้นยอดฮิตในตลาดตอนนี้ที่มีเพียง 20 – 30 ชนิดเท่านั้น จืออยากให้คนทั่วไปได้รู้จักไม้พื้นถิ่นชนิดอื่น ๆ ที่หากมีคนรู้จักมากขึ้น มีความต้องการของตลาด ก็จะขายได้ราคาดี”

ถ้าใครสนใจเรื่องการปลูกต้นไม้ ทางหว่านเมล็ดยินดีให้คำปรึกษาฟรี (ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) หรือยินดีช่วยออกแบบพื้นที่และปลูกต้นไม้ หรือถ้าสนใจอยากทำธุรกิจแบบหว่านเมล็ด คุณจือก็ยินดีแบ่งปันความรู้ โมเดลธุรกิจ เพราะอยากให้มาช่วยกันทำจริง ๆ

“ส่วนคนที่อยากเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง ขอให้หนักแน่น แน่วแน่ ชัดเจนกับตัวเอง อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ อย่ากลัวที่จะล้มเหลว และอย่าคาดหวังกับตัวเองมาก แค่คุณได้เริ่มทำ คุณก็คุ้มแล้ว”

หว่านเมล็ด บริษัทรับปลูกไม้ยืนต้นที่อยากให้ทุกคนมี ‘ป่าส่วนตัว’ ไว้ใช้ในยามเกษียณ

Lessons Learned

  • การมีหุ้นส่วนที่เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจเดียวกัน ถือเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สร้างความได้เปรียบในระยะยาว
  • ยิ่งมีคู่แข่งทางธุรกิจ ก็เป็นการช่วยขยายตลาดให้เติบโตไปด้วย
  • การเป็นผู้ประกอบการ การจัดการความคาดหวังที่มีต่อตัวเองนั้นสำคัญที่สุด

Writer

ชลธาร นราตรี

ชลธาร นราตรี

นักหัดฟัง ผู้ชอบทำอาหารในบางเวลา ชอบกินเต้าหู้ นั่งมองแสงแดดอุ่นๆ ยามเช้าและยิ้มให้กับสายลมตรงหน้า ชอบถ่ายรูป เดินทักทายธรรมชาติ กอดต้นไม้ใหญ่ และอารมณ์ดีเมื่อได้กินไอติม

Photographer

Avatar

ผลาณุสนธิ์ ผดุงทศ

ช่างภาพที่โตมาจากเมืองทอง รักแมว ชอบฤดูฝน และฝันอยากไปดูบอลที่แมนเชสเตอร์