คอกาแฟทุกท่าน เรามีนัดกันกลางปีกับงาน Thailand Coffee Fest 2023 เทศกาลที่จะทำให้คุณหลงรักกาแฟยิ่งกว่าเก่า แต่นอกจากกิจกรรมชิม ช้อป ชม ภายใต้คอนเซปต์ ‘Good Coffee for Everyone’ ครั้งนี้เรายังมาพร้อมการประกวดบรรจุภัณฑ์กาแฟครั้งแรก กับโครงการ Thailand Coffee Packaging Awards 2023 ภายใต้โจทย์ ‘Good Packaging for Everyone’
เราค้นพบว่าไม่ใช่แค่เมล็ดกาแฟหรือตัวผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นกันมาเป็นอย่างดี แต่บรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มคุณค่าเหล่านั้นเอาไว้ก็เกิดจากความใส่ใจ ตั้งใจ และทุ่มเทเช่นกัน ในเมื่อร้านค้าผู้ร่วมงานมีของดีอยู่ในมือเช่นนี้ เราจึงตั้งใจมอบพื้นที่ให้พวกเขาได้เผยแพร่แนวคิด โชว์การออกแบบ แสดงประสิทธิภาพในการรักษารสชาติกาแฟ รวมถึงส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม
ตอนนี้เราได้ 10 บรรจุภัณฑ์ยอดเยี่ยมประจำปีมาเป็นที่เรียบร้อยพร้อมให้ช้อปกันภายในงานแล้วตั้งแต่วันที่ 13 – 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ณ IMPACT Exhibition Hall 5 – 8 เมืองทองธานี ทั้ง 10 ชิ้นจะน่าสนใจและมีแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบอย่างไร เลื่อนลงไปเลือกชิ้นที่ใช่แล้วตามไปช้อปพร้อมกัน
Mood Drip Bag
“Mood อยากพาคนรักกาแฟมาคั่วกาแฟกันอย่างมีคุณภาพ เพื่อยกระดับชีวิต พร้อมกับการออกแบบที่ทำให้เรารู้สึกว่าใคร ๆ ก็ดริปได้ชิลล์ แม่นยำ แต่ทำได้ง่าย”
นั่นคือแนวคิดของ Mood Drip Bag กาแฟรูปแบบถุงที่อยากให้คนรักกาแฟพกกาแฟที่รักไปด้วยได้ทุกที่ เหมือนเพื่อนสนิทที่เดาอารมณ์คนดื่มกาแฟได้ทุกวัน
ในส่วนบรรจุภัณฑ์ที่มีความเรียบง่ายแต่ Mood ใส่รายละเอียดที่คำนึงถึงความยั่งยืนไปถึงขั้นตอนการผลิต หากต้องใช้กระดาษย่อยสลายง่าย แต่ผลิตออกมาจำนวนมากก็ใช้เวลาในการกำจัดนานเหมือนเดิม กล่องของ Mood จึงอยู่ในรูปแบบเดิมทุกการผลิต ต่างเพียง Tag ชิ้นเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนไปตามความต่างของกาแฟภายใน
Tag มี 2 ประเภท คือประเภทที่เป็น Single Origin รสชาติเดียว เป็นไปตามหน้าซองของสี ส่วนอีกอันเป็น Mood Collection รวมหลากหลายรสชาติไว้ในกล่องเดียว ซึ่งลูกค้าเลือกเองได้ทั้งหมด
ภายนอกคือกล่องสีขาวสะอาดตา ภายในคือซองกาแฟดริปสีสันสดใส 6 ซอง แต่ละสีของซองบอกถึง Taste Note หรือรสชาติอันหลากหลายจากแหล่งเพาะปลูกที่หลากหลายเช่นกัน ซึ่งสังเกตได้จากดีไซน์ของซอง แถบสีดำเป็นกลุ่มโทน Nutty Chocolate แถบสีขาวเป็น Fruity Floral
วิธีชงความอร่อยได้ง่าย ๆ เพียงหยิบ Drip Bag ออกมา 1 ซอง ฉีกแล้วนำไปเกี่ยวกับขอบแก้ว จากนั้นเทน้ำร้อนถึงขีดจากผงกาแฟข้างซอง ก็จะได้ปริมาณเท่ากับกาแฟที่ดริปแบบใช้ตาชั่งนั่นเอง
Mood Drip Bag
บูท B1
Nippy Coffee Roaster
สีสันสะดุดตาบนกล่องใบใหญ่ของ Nippy Coffee Roaster ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้ของขวัญจากคนสำคัญ ยิ่งเปิดมาเจอของภายใน รับรองว่าคอกาแฟจะยิ่งถูกใจเป็นอย่างมาก
Boxset นี้ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเทศกาลคริสต์มาสและยาวไปถึงปีใหม่ของทุกปี Nippy Coffee Roaster เล่าให้เราฟังว่า อยากให้กล่องกาแฟอันนี้เป็นของขวัญที่คนซื้อฝากกันและกัน คล้ายช่วงเทศกาลที่โรงแรมต่าง ๆ ขายขนมไหว้พระจันทร์
กาแฟภายในจะเปลี่ยนไปเหมือนได้ของขวัญชิ้นใหม่ทุกปี อย่างปีนี้เป็น Drip Bag เพราะผู้รับจะได้ชงจริง ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์การชงมากมาย กาแฟ 2 ตัวที่เลือกมาเป็น Brazil Fazenda โทน Nutty อีกตัวเป็น Ethiopia Queen Berry โทน Fruity อีกทั้งในเซตยังมี Resip Cup ให้ด้วย
ส่วนของงานศิลปะบนบรรจุภัณฑ์ คือภาพพนักงานในร้านใส่ชุดคริสต์มาสกำลังทำงานอย่างแข็งขัน เห็นแล้วนึกถึงคำว่า ‘All I Want for Christmas is Coffee’ ขึ้นมาทันที
หลังจบเทศกาลแห่งความสุขแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งกล่องสวย ๆ ของ Nippy Coffee Roaster ไป เพราะภาพด้านบนกล่องออกแบบมาให้ตัดไปใส่กรอบได้ ด้านข้างออกแบบเป็นการ์ด เกม และปฏิทินให้ตัด พับ ไปตั้งโต๊ะใช้ต่อได้ตลอดปี
Nippy Coffee Roaster
บูท R09
khna coffee
เป็นเรื่องที่ทำให้เราตาลุกวาวเมื่อทราบว่า khna coffee นำเข้าถุงกาแฟย่อยสลายแบบ Home Compostable 100% จากประเทศนิวซีแลนด์ด้วยตัวเอง ถึงแม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่นี่คือจุดยืนอันมั่นคงของแบรนด์
พวกเขาเล่าว่า ผู้ผลิตถุงกาแฟดังกล่าวมีการวิจัยค้นคว้าผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้โดยเฉพาะ และมีการทดสอบประสิทธิภาพว่าเทียบเท่าถุงกาแฟปกติ เหมาะสำหรับกาแฟ Specialty ที่ทางแบรนด์ตั้งใจทำในทุกขั้นตอน
จุดเริ่มต้นสำคัญก่อนหน้านั้น คือความสนใจเรื่องความยั่งยืน พวกเขาหาข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุสำหรับทำถุงกาแฟอย่างละเอียด ก่อนค้นพบว่าไม่มี Supplier ในไทยที่ผลิตแบบที่ต้องการได้เลย เพราะสิ่งที่พวกเขามองเห็นคือการกลบฝัง ซึ่งเป็นระบบการจัดการขยะหลักของไทย ดังนั้น บรรจุภัณฑ์ที่พวกเขามองหาจึงต้องย่อยสลายได้ เพื่อเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยให้คนและโลก
ในส่วนกล่อง พวกเขาเลือกโรงพิมพ์รักษ์โลก ใช้กระดาษ Eco โดยผ่าน Sustainable Forest Management และพิมพ์ด้วยหมึกถั่วเหลือง มีการส่งต่อเรื่องราวจากแหล่งผลิต ความเป็นอยู่ของหมู่บ้านที่ปลูกกาแฟ รายละเอียดสายพันธุ์ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ผ่านการ์ดที่เสียบอยู่ในรูตรงกลางของกล่อง ซึ่ง khna coffee เล็งเห็นว่า Transparency จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวงการกาแฟไทยได้อีกมาก รวมถึงผลักดันสถานะจาก Commodity เป็น Specialty ในวงกว้างมากขึ้นด้วย
khna coffee
บูท H10
The Summer Coffee Company
ครั้งนี้ The Summer Coffee Company ยกทัพมาพร้อมกับคาแรกเตอร์สีสันสดใสที่ปรากฏอยู่บนหน้าซองกาแฟ บุคลิกไม่ซ้ำ รสชาติไม่จำเจ
โดยในเทศกาลกาแฟประจำปี 2023 นี้ ทางแบรนด์ต้องการดีไซน์บรรจุภัณฑ์ Signature Blend ในรูปแบบใหม่ โดยพยายามเลือกใช้วัสดุที่รักษาคุณภาพของกาแฟให้ได้มากที่สุด
เขาเลือกใช้ถุงซิปล็อกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่กักเก็บเมล็ดกาแฟ และใช้วัสดุเป็นถุงพิมพ์ลายที่ผลิตจากกระดาษคราฟต์ ด้านในของถุงเป็นอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ช่วยป้องกันความร้อนและแสง ซึ่งเป็นตัวแปรทำให้กาแฟเสื่อมคุณภาพ
คอนเซปต์หลักของการดีไซน์ คือทำให้บรรจุภัณฑ์ดูเป็นมิตร เข้าใจง่าย ซึ่งนำมาสู่การสร้างคาแรกเตอร์ของรสชาติกาแฟ โดยมีทั้งหมด 6 คาแรกเตอร์ ได้แก่ Milkman, Sleepyhead, Morning Person, African Beauty, Mr.Rum Raisin และ Tutti Fruiti ทุกตัวเป็นกาแฟอาราบิก้าทั้งหมด ทว่ามีรสชาติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังพยายามทลายความคิดที่ว่า ‘กาแฟเข้าใจยาก’ ออกไป โดยลดทอนความเป็นทางการด้วยการใช้เส้นตัดขอบ และใส่ชื่อผลิตภัณฑ์ด้วยฟอนต์ลายมือ
The Summer Coffee Company
บูท F15 / G3 / H3 / I4
Any Owl Any Minute
เคยไหม กินหมดแล้วแต่ยังอยากเก็บซองไว้ เราขอรับรองว่าบรรจุภัณฑ์ของ Any Owl Any Minute จะทำให้รู้สึกเช่นนั้นมากกว่าครั้งไหน ๆ เพราะภาพงานศิลปะจากเหล่าศิลปินมากมายที่จัดแสดงอยู่บนหน้าถุงกาแฟของ Any Owl Any Minute เป็นดั่งผลงานล้ำค่า ดื่มได้ แต่ทิ้งไม่ลง
Any Owl Any Minute เล่าให้ทางเราฟังว่า แบรนด์ของพวกเขาเป็นทั้งคนรักกาแฟและคนสร้างสรรค์งานศิลปะ ด้วยความหลงใหลที่มีต่อทั้งเส้นสีและกลิ่นรส จึงอยากให้ถุงกระดาษย่อยสลายง่ายของเขาห่อหุ้มกาแฟชั้นดีไว้ภายใน และเพิ่มพื้นที่ให้ศิลปินจากภายนอกได้ด้วย ด้านหน้าของซองจึงเป็นภาพศิลปะทั้งหมด ส่วนข้อมูลของกาแฟอยู่ด้านหลัง เราจึงเก็บซองไว้ใส่อย่างอื่นต่อได้ หรือจะตัด วางไว้เป็นผลงานศิลปะในทุกมุมบ้านก็ได้เช่นกันภาพศิลปะบนถุงกาแฟเหล่านี้เป็นศิลปะแบบ Tailor-made คือการวาดภาพขึ้นใหม่ทุกครั้งให้กับกาแฟตัวใหม่ นี่จึงเป็นเหมือนแกลเลอรีแสดงงานศิลปะให้คนจดจำกาแฟแต่ละตัวจากภาพวาดที่แตกต่างกัน แถมบนหน้าถุงยังมีชื่อหรือลิงก์ของศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานไว้ให้ผู้ชิมและผู้ชมทำความรู้จักพวกเขาด้วย
นอกจากนี้กาแฟของ Any Owl Any Minute ยังคั่วแบบพิเศษด้วยวิธี Batch by Batch เฉพาะบุคคล เป็นการเปิดโอกาสให้คนดื่มได้พูดคุยถึงความชอบในรสชาติ รวมถึงแนวการชงและดื่มกาแฟของแต่ละคนแบบไม่ซ้ำใคร
สุดท้ายนี้ ทางแบรนด์ค้นพบความพิเศษที่แตกต่างกันไปในกาแฟแต่ละตัว จึงอยากแบ่งปันกาแฟที่ไม่เหมือนใครให้กับเราแต่ละคนที่ไม่มีใครเหมือน
Any Owl Any Minute
บูท L20
Santipanich Roaster Company
มาย้อนวัยเด็กไปกับ The Memory Box กล่องความทรงจำที่เก็บเมล็ดกาแฟไว้ภายใต้สีสันละลานตา
หลายคนคงตื่นตาตื่นใจไปกับดีไซน์ที่แปลกใหม่ของบรรจุภัณฑ์ชิ้นนี้ โดยเบื้องหลังของคอนเซปต์ดังกล่าวมาจากความต้องการของเจ้าของแบรนด์ที่อยากให้ทุกคนกลับไปจิบแก้วใบโปรดด้วยความรู้สึกอิ่มเอม ราวกับได้ย้อนไปในช่วงเวลาที่คุณตกหลุมรักกาแฟเป็นครั้งแรก
บรรจุภัณฑ์ที่หน้าตาคล้ายของเล่นช่วยฟื้นความทรงจำวัยเด็กที่ใครหลายคนอาจเผลอทำหล่นหาย เมื่อเปิดประตูกล่องออกมาจะพบกับตุ๊กตากระดาษหลากหลายเรื่องราว โดยเราเลือกเล่นกับตัวละครเหล่านั้นได้ตามใจชอบ เพราะทาง Santipanich Roaster Company อยากมอบทั้งความสุขและความสนุกให้กับคนรักกาแฟ
นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างกระดาษ อีกทั้งยังใช้หมึก Soy Ink ซึ่งไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับบรรจุภัณฑ์กล่องแดงที่ทำมาจากพลาสติกย่อยสลายได้และเป็น Food Grade โดยมีคุณสมบัติในการกักเก็บอาหารได้ดี
Santipanich Roaster Company
บูท D3
Calico Koff
นี่ไม่ใช่ตลับเทปแคสเซตต์ แต่คือบรรจุภัณฑ์เมล็ดกาแฟที่สร้างสรรค์จากความชอบศิลปะของเจ้าของแบรนด์ Calico Koff ทั้งยังมีฟังก์ชันให้ใช้ใส่ของอื่น ๆ ต่อได้
แต่ก่อนจะมาเป็นเทปกาแฟดังภาพ เขาพบเจอปัญหาในการกินกาแฟอยู่ 2 อย่าง หนึ่ง คือกาแฟ 1 ถุงมีปริมาณเมล็ดค่อนข้างเยอะ ทำให้กินไม่ทัน สอง คือเขาขี้เกียจรอวันที่เมล็ดกาแฟสุกงอมพอดีสำหรับการนำไปบด
ความพยายามในการแก้ปัญหาเหล่านี้นำไปสู่ผลลัพธ์ของบรรจุภัณฑ์ เริ่มแรกที่ตัวกล่องซึ่งมีส่วนช่วยในการยืดอายุกาแฟให้อยู่นานขึ้น โดยเราไม่ต้องรอระยะเวลากว่าที่เมล็ดกาแฟจะไปถึงจุดสุกงอม
ในกล่องประกอบไปด้วย Taste Note Card และเมล็ดกาแฟ 20 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการดื่ม 1 แก้ว โดยชาวกาแฟนำมาชงทานเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่ฉีกซองสุญญากาศ และนำเมล็ดกาแฟออกมาบด เพียงเท่านี้ก็จะได้ลิ้มลองกาแฟรสดีในปริมาณที่เราถูกใจ
หากไปเยือนถึงหน้าร้าน Calico Koff เรายังเดินไปเลือกกาแฟในตู้เย็นให้ทางร้านชงตามเมนูที่ชอบได้ และถ้าหากบาริสต้าใช้เมล็ดกาแฟไม่หมดกล่อง ทางร้านจะเก็บเมล็ดที่เหลือลงบรรจุภัณฑ์ให้เรานำกลับไปเลือกชิมเลือกใช้ได้เองตามความต้องการ
Calico Koff
บูท P12
i.din
เพราะอยากแนะนำเมล็ดกาแฟไทยดีกรีรางวัลให้คอกาแฟรู้จัก เลยเกิดเป็น Thai Specialty Coffee Awards 2022 Box Set ที่รวมเอาสุดยอดกาแฟไทยปี 2022 ซึ่ง i.din ร่วมประมูลมาไว้ใน Box Set เดียวถึง 3 ตัว
โดยทั้งสามล้วนมาจากฟาร์มกาแฟระดับคุณภาพ เพื่อเชื่อมโยง 3 เส้นทางของกาแฟเข้าด้วยกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ
ต้นน้ำ พาไปรู้จักเกษตรกรและฟาร์มผ่านภาพวาดของพวกเขาบนหน้ากล่อง
กลางน้ำ ฉีกซองให้ได้เข้าใจผลงานของกาแฟไทยว่ามีคุณภาพแค่ไหน จนทำให้อุตสาหกรรมกาแฟไทยเติบโตขึ้นมาก
ปลายน้ำ เมื่อยกดื่มจะได้รับกาแฟที่ดี สัมผัสเรื่องราวและรายละเอียดไปจนถึงขั้นตอนการสกัด
ภายใน Box Set มีกาแฟคุณภาพจากฟาร์มกาแฟฝีมือคนไทย ประกอบไปด้วย Washed Process Rank 3 จากฟาร์ม Soyi Pangkhon coffee house, Honey Process Rank 10 จากฟาร์ม Phupha Coffee Estate และ Honey Process Rank 17 จากฟาร์ม Ma Family Coffee Farm
นอกจากคุณภาพกาแฟที่ดีแล้ว วัสดุที่พวกเขาเลือกใช้ยังเป็นมิตรไม่แพ้กัน โดยซองกระดาษใน Box Set ย่อยสลายได้ใน 2 – 5 เดือน กล่องกระดาษเคลือบย่อยสลายใน 5 ปีหรือเร็วกว่า ส่วนถุงซิปทึบแสงกันอากาศทำจาก Environmentally Degradable Plastic ใช้เวลาย่อยสลาย 1 ปีหรือเร็วกว่านั้น
i.din
บูท P10
MITTY ROASTERS
ฟังก์ชันหลังใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญ นั่นถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของบรรจุภัณฑ์จาก MITTY ROASTERS ซึ่งคำนึงถึงความสวยงาม เรียบง่าย และการนำไปใช้ประโยชน์ต่อหลังลิ้มลองคุณภาพเรียบร้อยแล้ว
ภายในกล่องกระดาษบรรจุกาแฟคั่วขนาด 100 กรัม พร้อมการ์ดบอกรายละเอียดของเมล็ด ตั้งแต่ แหล่งที่มา สายพันธุ์ กระบวนการผลิต จนถึง Taste Note และไฮไลต์ที่เราชื่นชอบก็ปรากฏตัวขึ้นเมื่อพลิกด้านหลังการ์ดขึ้นมาดู นั่นคือปฏิทินประจำเดือนที่จำหน่ายกาแฟนั้น และ Coffee Flavor Wheel รวมถึง Note ซึ่งใช้อธิบายรสชาติที่ได้รับจากการดื่มกาแฟดังกล่าว
ยังไม่พอ เมื่อใช้กาแฟในถุงหมดแล้ว ยังนำกล่องกาแฟไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นต่อได้ โดยนำไปวางบนโต๊ะทำงานหรือหาที่แขวนเพื่อใส่สิ่งของ แล้วอย่าลืมพลิกด้านหลังการ์ดมาใช้เป็นปฏิทินตั้งโต๊ะคู่กันด้วย
MITTY ROASTERS
บูท J16
CAN CAFE
‘Everyone CAN Save the World’
แบรนด์ CAN CAFE ว่าไว้เช่นนั้น และแบรนด์ก็ได้ทำตามคำที่บอกโดยการสร้างบรรจุภัณฑ์ด้วยกระป๋องอะลูมิเนียม รวมถึงเลือกใช้ฝาปิดที่ทำมาจากซิลิโคน แค่เพียงโยนกระป๋องที่ใช้แล้วลงไปในถังขยะรีไซเคิล วัสดุที่นำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้ทั้งหมดก็จะถูกนำเข้ากระบวนการ และกลายเป็นกระป๋องใบใหม่อีกครั้ง
อีกหนึ่งความน่ารักเล็ก ๆ ที่ปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์ คือแผนที่ประเทศไทยหน้ากระป๋อง โดยมีกิมมิกคือหากสแกน QR Code ด้านหลังจะพบกับอินโฟกราฟิกที่แสดงภาพจังหวัดในประเทศไทยซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์กาแฟต่าง ๆ
ฉะนั้น เมื่อไหร่ที่ดวงตาเริ่มล้า คล้ายจะสัปหงก เพียงแค่เปิดฝา Full Open ก็เลือกลิ้มรสกาแฟได้ตามใจชอบ และหากใช้ไม่หมด ก็นำฝาซิลิโคนปิดเข้าที่เดิมเพื่อรักษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟต่อได้