เวลาเพียง 3 ชั่วโมงในฮ่องกงอาจไม่พอสำหรับการเดินทางไปไหว้พระและผูกด้ายแดงขอคู่ที่วัดหวังต้าเซียน ไม่เป็นไร เรามีแผนสำรอง
โบราณท่านว่า อยากเจอคนแบบไหน ให้พาตัวเองไปในที่แบบนั้น
ชื่อของ ‘ต่ายกู๋น’ (大館 Tai Kwun) สถานีตำรวจและเรือนจำเก่าที่กลายมาเป็นสถานที่รวมงานศิลปะเจ๋งของฮ่องกงก็วิ่งเข้ามาในหัวทันที
ไม่ใช่เพราะอยากเจอเนื้อคู่ที่เป็นโจร เพียงแค่คิดว่าถ้าบังเอิญเดินสวนใครระหว่างเดินดูงานนิทรรศการเท่ๆ คงจะเข้ากันดีและทันใจกว่ารอเทพท่านประทานมา
คุณตำรวจคะ ช่วยด้วย มีโจรแถวนี้ขโมยใจดิฉันไป
ต่ายกู๋นเป็นโครงการแปลงโฉมสถานีตำรวจและเรือนจำอายุกว่า 170 ปี ให้กลายเป็นศูนย์กลางมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัยแห่งฮ่องกง ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลของเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง กับ The Hong Kong Jockey Club องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ทำงานฟื้นฟูอาคารและย่านเก่าแก่ของฮ่องกง
‘ต่ายกู๋น’ ในภาษาจีนกวางตุ้งแปลว่า สถานีใหญ่ เป็นชื่อเล่นที่ชาวเมืองใช้เรียกสถานที่แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะไม่เพียงเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอย่างสถานีตำรวจแห่งย่านเซ็นทรัล สำนักงานคณะผู้พิพากษา และเรือนจำวิกตอเรีย ที่นี่ยังประกอบด้วยอาคาร 16 หลังกินพื้นที่ 13,600 ตารางเมตร
ย้อนกลับไปช่วงปี 1841 หลังจากอังกฤษเข้ายึดครองฮ่องกง
เดิมเป็นที่ตั้งของบ้านผู้พิพากษา ซึ่งเป็นเจ้าชายมาจากอังกฤษ ผู้ริเริ่มใช้ระบบตุลาการแบบอังกฤษในฮ่องกง หลังจากที่ชุมชนชาวจีนพึ่งพาวัดในการระงับของพิพาทมายาวนาน
ต่อมาไม่นานคนจากจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มอพยพลี้ภัยสงครามเข้ามาตั้งรกรากที่ฮ่องกงจำนวนมาก จนประชากรเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยปัญหาสังคมโจรชุม จนต้องจัดระเบียบและตั้งกฎเกณฑ์ข้อบังคับครั้งใหญ่ นำมาซึ่งการก่อตั้งสถานีตำรวจ สำนักงานคณะผู้พิพากษากลาง และเรือนจำวิกตอเรียแห่งนี้
อาคารเก่าแก่ที่สุด ได้แก่ หอพักตำรวจซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี 1862 – 1864 ซึ่งภายหลังต่อเติมเป็นอาคาร 4 ชั้น รองรับการขยายตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเพิ่มตามจำนวนนักโทษที่มากขึ้น
มีเรื่องตำนานที่เล่าขานมานานถึงต้นมะม่วงหลังสถานีตำรวจ
“ปีไหนมะม่วงออกลูกเยอะเต็มต้น ให้เตรียมไว้เลยว่าปีนี้เหนื่อยจับโจรแน่ๆ” ผู้นำทางเล่าให้เราและชาวคณะฟัง ก่อนชี้ให้ดูต้นมะม่วงสูงใหญ่ผิดไปจากที่คุ้นเคย ซึ่งหากมองผ่านเราคงเดาอายุที่แท้จริงของต้นมะม่วงต้นนี้ไม่ออก
จากพื้นที่กักขังอิสรภาพในอดีต สู่การเป็นพื้นที่เปิดที่ให้ชาวฮ่องกงเข้ามาใช้ดื่มด่ำกับศิลปะทุกรูปแบบอย่างไม่จำกัด
ต่ายกู๋นเป็นโครงการที่ใช้เวลาถึง 11 ปีในการวางแผนอนุรักษ์และบูรณะพื้นที่ รวมถึงใช้งบ 3.8 พันล้านเหรียญดอลลาร์ฮ่องกงในการฟื้นฟูสภาพเดิมของสถานที่ประวัติศาสตร์นี้ ตั้งแต่การตามหาอิฐสีคล้ายเดิมมากที่สุด ไปจนถึงการซ่อมแซมบันไดและโครงสร้างต่างๆ ให้แข็งแรงและปลอดภัย เพื่อคงบรรยากาศฮ่องกงในอดีต จากอาคารผนังสูงทึบ แม้จะอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจที่เต็มไปด้วยองค์กรสำคัญๆ ของโลก
ภายในประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรและหมุนเวียนที่น่าสนใจมากมาย
เราเริ่มจากอาคารหอพักตำรวจ เดินชมนิทรรศการความเป็นมาของการสร้างต่ายกู๋นที่ชั้น 1 เมื่อเห็นวิวัฒนาการของคุณตำรวจฮ่องกงแล้วก็รู้สึกแอบหวั่นไหวให้คนในเครื่องแบบไม่น้อย ก่อนจะขึ้นบันไดผ่านทางเชื่อมอาคารเรือนจำ ดูการจำลองชีวิตในห้องขัง ก่อนเดินผ่านพื้นที่ทางเดินซึ่งในอดีตเป็นพื้นที่ให้นักโทษออกมาสูดอากาศหายใจนอกห้องขังวันละ 15 นาที ไม่ไกลกันมีนิทรรศการโภชนาการนักโทษว่าเขากินอะไรกันบ้าง
เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่เดินอยู่ในพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยลิดรอนอิสรภาพเพื่อรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง เราไม่กล้าจินตนาการถึงความรู้สึกของพวกเขายามบอกลาครอบครัวก่อนมาสู่ดินแดนแห่งนี้ได้เลย กำแพงสูงและอาคารอิฐสีสวยโดยรอบอาจจะเรียกร้องให้เราสนใจความงามและยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม แต่เรากลับคิดถึงอากาศไม่บริสุทธิ์ข้างนอกนั่น
ตริตรองพอเป็นพิธี เพื่อนร่วมทางก็ช่วยเก็บภาพตอนเผลอเข้ากับบรรยากาศให้
ไม่ไกลจากตรงนั้นจะเจอกับ JC Contemporary และ JC Cube พื้นที่แสดงงานศิลปะและการแสดงขนาดใหญ่ ผลงานการออกแบบของ Herzog and de Meuron ภายนอกสวยสะดุดตาด้วยฟาซาดจากอะลูมิเนียม เชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่
อย่ามัวแต่ตื่นเต้นกับบันไดวนใน JC Contemporary และวิวสวยรอบทิศจนลืมชมนิทรรศการล้ำๆ ที่เวียนมาแสดงตลอดทั้งปี น่าอิจฉาคนฮ่องกงสุดๆ ไม่เพียงมีสถานที่สวยสมการเป็นพื้นที่เปิดกว้างทางศิลปะ งานที่แวะเวียนมาให้ชมก็น่าสนใจมากๆ
เสียดายที่พื้นที่ในส่วนของศาลปกครองยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง แต่ถ้าครั้งหน้ามีโอกาสมาฮ่องกงอีกครั้งต้องไม่พลาดแน่นอน
นอกจากพื้นที่สวยดึงดูดตาและนิทรรศการศิลปะดึงดูดใจแล้ว ภายในต่ายกู๋นยังมีร้านรวงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านหนังสือ เสื้อผ้า ร้านกาแฟ เรียกว่ามาครบจบในที่เดียว
ขอขอบคุณ สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ และการท่องเที่ยวฮ่องกง