เขาใหญ่ นครราชสีมา สำหรับ ‘คนเขาใหญ่’ ไม่ใช่แค่เมืองตากอากาศที่เพียงแค่ขับรถชมวิวบนอุทยานเท่านั้น แต่ที่นี่เป็นจุดกำเนิด เป็นอากาศ เป็นแหล่งอาหาร และเป็นความอุดมสมบูรณ์ ไม่ใช่เพียงเพื่อเลี้ยงชีพผู้คน ทว่ายังมีต้นน้ำ สายธาร อาหารป่าสำหรับ ‘สัตว์เขาใหญ่’ อย่างผลไทรสุกด้วย

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่
ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

ในเขาใหญ่ ทุกครั้งที่ผลไทรกำลังสุก เราจะได้เห็นสัตว์ป่ามากที่สุด แน่นอนว่าเป็นที่มาของชื่อร้าน ‘ไทรสุก’ ที่ประกอบสร้างด้วยความตั้งอกตั้งใจของ เต้ย-ปฤษฎิ์ เก่งสูงเนิน และ แนน-วราภรณ์ มงคลแพทย์ ซึ่งตั้งใจทำร้านนี้ขึ้นมาเพื่อแบ่งปันความฝันของทั้งคู่ ฝ่ายชายสืบทอดการทำทัวร์สัตว์ป่ามาร่วม 20 ปี ส่วนฝ่ายหญิงสืบทอดสวนมะม่วงอายุ 35 ปี และทำบ้านหมากม่วงมาเป็นเวลา 10 ปี

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

ณ เวลานี้ ช่างประจวบเหมาะ ด้วยความฝันของเขาและเธอ (รู้จักกันตั้งแต่อนุบาล 3) ด้วยความผูกพันกับป่า จึงทำให้เกิดไทรสุก พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความหลงใหลบ้านเกิดของเต้ยและแนน

Wildlife Meeting Point

จุดนัดพบสัตว์ป่า

“สำหรับผม เขาใหญ่คือสวนหลังบ้าน” เต้ยพูดแกมหัวเราะ

ไม่เกินจริงเลย เมื่อเราขับรถเข้ามาใกล้เขาใหญ่เรื่อย ๆ อยู่ ๆ ก็มีพลังวิเศษของธรรมชาติดึงดูดสายตาเราให้ตราตรึงกับต้นไม้หลากหลายชนิด แต่ต้นไม้ที่สำคัญกับสัตว์ป่ามาก คือ ‘ไทร’ 

“ต้นไทรมีความหมายต่อสัตว์ทุกชนิด เพราะไทรไม่มีฤดูกาล ออกผลตามแต่ความสมบูรณ์ของต้น มีสัตว์มากมายที่ใช้ผลไทรประทังชีวิต เมื่อสัตว์มากินก็ถ่ายออกมา กลายเป็นการกระจายเมล็ดพันธุ์ นั่นคือการสร้างป่า ป่าก็สร้างชีวิตมนุษย์ มันข้องเกี่ยวอย่างแยกขาดกันไม่ได้ อาจมองไม่เห็นเป็นรูปธรรม แต่ถ้านึกดี ๆ หากขาดนกเพียงแค่หนึ่งตัวก็ส่งผลต่อเราแล้ว” แนนเล่าด้วยแววตาเป็นประกาย

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่
ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

เธอเล่าต่อว่าจะทำร้านไทรสุกเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าบนเขาใหญ่ให้ได้ เธออยากให้ร้านนี้เป็นประตูบานแรกให้คนรู้จักสัตว์ป่า เพราะที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติและมรดกโลก สำหรับแนนและเต้ยซึ่งเกิดและโตที่นี่ มองว่าความสมบูรณ์ของป่า-สัตว์ป่า คือคุณค่าที่แท้จริงของเขาใหญ่

“ผมโตมากับการใช้ชีวิตกับสัตว์ป่า และสัตว์ป่าทำให้ผมมีอาชีพ ผมอยากให้เขาใหญ่เป็นเมืองแห่งการดูสัตว์ป่า เพราะดูสัตว์สะดวก ง่าย กิจกรรมดูสัตว์ป่าก็สร้างความสุขได้โดยไม่ต้องล่า” นอกจากทำทัวร์ เขายังเป็นช่างภาพสัตว์ป่ามือดี ทั้งยังเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าอย่างเต็มตัวด้วย

“ลูกค้าเราเป็นคนต่างชาติที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาดูสิ่งนี้ แต่คนไทยไม่ค่อยมี ไม่ใช่เพราะไม่สนใจ แต่เพราะเขาไม่รู้ เราถึงเห็นคุณค่าของการทำให้คนรู้จักสัตว์ป่ามาก ๆ” เต้ยอธิบาย

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

แนนบอกกับเราว่าทุกวันนี้บางหน่วยงานยังใช้รูปทูแคนแทนนกเงือก เพราะเขาไม่รู้จักสัตว์ป่าแต่ละชนิดว่าแตกต่างกันอย่างไร มีจุดเด่นตรงไหน เธอจึงคิดว่าจุดเริ่มต้นของการตระหนักและอยากอนุรักษ์ ต้องทำให้ผู้คนรู้จักสัตว์ป่าก่อนว่าใครเป็นใครในป่า และสัตว์ป่าสำคัญต่อป่าอย่างไร

“การตระหนักและการอนุรักษ์ ถ่ายทอดไปถึงทุกคนได้ ไม่ใช่เพียงแค่เด็ก มาไทรสุกแล้วรู้จักนกหลายชนิด เมื่อขึ้นไปบนอุทยานก็ยิ่งสนุกกับการดูนก เพราะเมื่อเรารู้จักเขาแล้ว นกเหล่านั้นจะไม่ใช่เพียงแค่นกที่บินผ่านเราไป แต่เราจะตระหนักรู้ถึงการมีอยู่ของเขาด้วย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

Local Treats

ทานเขาใหญ่ในคำเดียว

ถ้าลองจินตนาการว่าเรากินภูเขาทั้งลูกเข้าไป นั่นคงไม่ใช่รสชาติของเขาใหญ่แน่ ๆ

ร้านไทรสุกแห่งนี้ ย่อวัตถุดิบแสนอร่อยที่เกษตรกรชาวเขาใหญ่เพาะปลูกเอง ออกมาเป็นเมนู ‘Khao Yai Bite’ เมนูที่มัดรวมวัตุดิบท้องถิ่นไว้ในคำเดียว แนนจัดให้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของไทรสุก วัตถุดิบที่ประกอบรวมกันมาเป็นเมนูนี้แต่ละคำล้วนมาจากฟาร์มในเขาใหญ่ แม้กระทั่งดอกไม้ก็ด้วย

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

“เราใช้มันหวานที่ปลูกในเขาใหญ่ เป็นมันหวานสีส้ม ให้สัมผัสดีกว่าที่อื่น ๆ ในประเทศ ด้วยดินและอากาศที่ปลูกบริเวณเขาใหญ่ ข้าวโพดกรอบ ฟักทอง ลูกเกด และเฟตาชีสจากฟาร์มท้องถิ่น หมูสวรรค์จากเจ๊เค็ง แล้วราดด้วยซอสบัลซามิก ดอกไม้เป็นดอกไม้ทานได้จากฟาร์มวังน้ำเขียว ลองทานดูค่ะ” 

แนนพูดจบ เราไม่รอช้าที่จะชิม ไม่น่าเชื่อว่าเข้ากันมาก มีข้าวโพดกรอบปะทุในปาก เพิ่มเนื้อสัมผัสด้วยมันหวานนุ่ม ๆ ลูกเกด ชีส หมูฝอย รวมกันคล้ายกำลังกินชีสบอร์ด ทุกอย่างผสมลงตัวด้วยซอสบัลซามิก นี่คือผลผลิตจากความตั้งใจของคนเขาใหญ่แท้ ๆ อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติเดียวกับเรา

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

‘Popsicle’ ไอศกรีมแท่งโฮมเมด รวมสีสันสัตว์ป่า

“อย่างน้อยไอติม 1 แท่งต้องมีผลผลิตจากท้องถิ่นอย่างน้อย 1 อย่าง” เธอพาเดินชมตู้ไอศกรีม แค่มองก็อดใจไม่ไหว ด้วยความที่แต่ละรสจะแทนสี สัมผัส ซึ่งถอดมาจากสัตว์ป่าสำคัญของเขาใหญ่ 

นั่นทำให้ประสบการณ์การกินไอศกรีมที่นี่น่าจดจำ และเป็นรายละเอียดที่เธออยากฝากในอ้อมใจของนักชิมทุกคน อย่างเมื่อทานรสดาร์กช็อกโกแลตกับสตรอว์เบอร์รี ทำให้นึกถึงนกที่มีสีดำแดงอย่าง ‘นกขุนแผนหัวแดง’ หรือรสที่ไม่คาดคิดคือ ‘รสหมาใน’ ส่วนผสมมีชาไทย คิทแคท บราวนี่ ทองม้วน 

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่
ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

ยังมีรส ‘แมวลายหินอ่อน’ สอดไส้น้ำผึ้งแสนอร่อย และมีส่วนผสมของครีมบิสคอฟ คาราเมล ช็อกโกเเลต ต่อด้วยไอศกรีมเครมบูเลในรส ‘ชะนีมือขาว’ ซึ่งไทรสุกมีไอศกรีมที่ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์ป่าให้ชิมอีกหลายรสเลยนะ ทั้งนกกก นกกระเต็นลายเพศผู้ นกเงือกสีน้ำตาลคอขาว ฯลฯ 

‘สเลอปี้น้ำมะพร้าวน้ำตาลตาลโตนด’ คือเมนูที่มาถึงร้านแล้วไม่ควรพลาด เพราะกลิ่นน้ำตาลมะพร้าวหอมชื่นใจ ไม่เคยลิ้มรสจากที่ไหน แถมยังเป็นน้ำตาลโตนดของชาวโคราชแท้ ๆ ด้วย

ทั้งหมด 3 เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูแนะนำ นอกจากจะเตรียมท้องมาทานขนมของหวานแล้ว อย่าลืมเตรียมพลังกายมาเล่นฐานกิจกรรมที่จะทำให้คุณรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่มากขึ้น!

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

Wildlife Learning Ground

สถานที่เรียนรู้สัตว์ป่าจากประสาทสัมผัสทั้ง 5

“เราพัฒนาความรู้ ถ่ายทอดเป็นฐานการเรียนรู้ที่ให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่ ชุดความรู้ที่นำมาใช้นี้เราได้รับความช่วยเหลือจากนักวิจัยที่วิจัยข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์นั้น ๆ อย่างถูกต้อง เพราะเราจริงจังเรื่องการสื่อสารความหมายจากธรรมชาติ ทั้งทิศทางขน สีตา สีปาก ที่เป็นเอกลักษณ์ของสัตว์นั้น ๆ ทุกสายพันธุ์ย่อมมีลวดลาย สีสันแตกต่างกัน ภาพถ่ายก็เป็นภาพถ่ายของเต้ยที่ถ่ายมาทั้งชีวิต” แนนเล่า

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่
ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

ตา – เรามองต้นไทรสุกที่ปลูกในร้าน และเมื่อสักครู่ก็มีนกเงือกแวะมากินผลไทรจริง ๆ พร้อมทั้งยังมีรูปปั้นขนาดเท่าตัวจริง และรูปวาดใต้ท้องของนกเงือกทั้ง 4 สายพันธุ์ เวลาบินผ่านเราจะสังเกตได้ มีนกกก นกแก๊ก นกเงือกกรามช้าง และนกเงือกสีน้ำตาลคอขาว ทั้ง 4 ชนิดก็มีลักษณะแตกต่างกันไป 

หู – เสียงลม ใบไม้ นก เป็นเหมือนเสียงเพลงจากป่า และสิ่งที่ทุกคนต้องเงียบฟังคือเสียงร้องของชะนี ชะนีมือขาวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผสมข้ามพันธุ์กับชะนีมงกุฎ เกิดเป็นชะนีลูกผสมซึ่งมีลักษณะรูปร่างแตกต่างออกไป รวมถึงเสียงร้องด้วย เนื่องจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่มีชะนีทั้ง 2 ชนิดนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

Fun Facts

จมูก-ปาก – เรียนรู้โดยการจดจำสีสันสัตว์ผ่านรสชาติไอศกรีม อย่างน้อยไอติม 1 แท่ง ก็ทำให้คนจำสัตว์ได้แล้ว 1 ชนิด แบบติดลิ้น ติดตา ติดใจ ไม่มีลืมง่าย ๆ เพราะเป็นประสบการณ์ที่สนุกและอร่อย

สัมผัส – เราได้ห้อยโหนแบบชะนี ได้จับดินโป่งหนองผักชีจำลอง โป่งดินเป็นแหล่งดินที่มีรสเค็มและละเอียดซึ่งเกิดจากแร่ธาตุบางชนิด เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แร่ธาตุในโป่งประกอบไปด้วยโซเดียม แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส และสังกะสี ซึ่งเป็นที่ต้องการของกระดูกและกล้ามเนื้อ 

แร่ธาตุเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งสัตว์สัตว์ป่าหาทดแทนไม่ได้จากพืช ดังนั้นโป่งจึงเป็นแหล่งแร่ธาตุสำหรับสัตว์ป่าซึ่งกินพืชเป็นอาหาร ส่วนใหญ่พบโป่งได้มากในป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดงดิบ 

นอกจากนั้นก็มีรอยเท้าสัตว์จำลองที่ให้เราได้ลองทายว่ามีสัตว์ชนิดใดบ้างที่มากินโป่ง ซึ่งหากเดินป่าอยู่แล้วพบรอยเท้าของสัตว์อันตราย เราจะได้หาทางหลบเลี่ยงได้ทัน

ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่
ไทรสุก พื้นที่เรียนรู้-ร้านไอติมรสนกเงือกยันรสหมาในที่ตั้งใจให้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่

“ไทรสุก 1 ลูกที่เรากิน มันคือรสชาติของเขาใหญ่” เต้ยเปรย

“ไทรเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า สัตว์ป่าปลูกป่าด้วยการช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ พอป่าเยอะขึ้น อุณหภูมิก็เย็นลง เขาใหญ่จึงเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณภาพอากาศที่ดีให้ผู้คน” เต้ยปิดบทสนทนา

คุณค่าที่แท้จริงของเขาใหญ่ คือการที่คน สัตว์ และธรรมชาติ อาศัยอย่างพึ่งพากัน

นอกจากอยู่ร่วมกันให้ได้แล้ว ต้องให้คุณค่าของทุกสรรพสิ่งเท่าเทียมกันทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดความยั่งยืนขึ้นได้ เหมือนที่เต้ยบอกว่า “แค่ได้มองสัตว์ป่าก็มีความสุขแล้ว”

ไทรสุก