The Cloud x GC Sustainable Living Symposium

“อาหารทะเลกระป๋องผ่านหลายกระบวนการมา คุณค่าทางอาหารคงไม่เหลือละมั้ง” – ยังมีประโยชน์ได้ค่ะ!

“อาหารทะเลกระป๋องมันจะเอาไปทำอะไรแล้วอร่อยได้” อร่อยได้ค่ะ!

และอีกหลากหลายสิ่งที่ ‘พัทยาฟู้ด’ (PFG-Pataya Food Group) ‘ทำได้’ มาโดยตลอดท่ามกลางภาพจำบางอย่างต่ออาหารกระป๋องที่คนมองเข้ามา

กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด เป็นผู้นำการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารกระป๋องที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง ‘นอติลุส’ ทูน่ากระป๋องในตำนานที่คนจำได้กับคำว่า ทานปลาแล้วฉลาด และตลอด 44 ปีที่พัทยาฟู้ดเคี่ยวเข็ญทำงานมาจนทำให้ นอติลุส ติดอันดับต้น ๆ ในดวงใจคนคลั่งรักทูน่า คงตอบได้ว่าแบรนด์นี้เขาเอาจริง เอาจัง จริงจัง จริงใจ ต่อการผลิตอาหารที่ตอบโจทย์สโลแกนของ PFG เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งบอกไว้ก่อนเลยว่าผู้บริโภคในที่นี้ไม่ใช่แค่คน แต่รวมถึงน้องแมว น้องหมาด้วย ล่าสุด PFG ได้พัฒนาแบรนด์น้องใหม่ ‘REMY – เรมี่’ ร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เพื่อส่งมอบ ‘สุขภาพดีที่ให้ด้วยรัก’

ตลอดระยะเวลา 44 ปี ที่ผ่านมา พัทยาฟู้ดได้เน้นย้ำอย่างจริงจังเรื่องสิ่งแวดล้อม ภายใต้นโยบายปกป้องคุ้มครองสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เพื่อไม่ให้เกิดการประมงเกินขนาด (Overfishing) การใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต เพื่อสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เรามีโอกาสมางาน GC Sustainable Living Symposium 2023 : We are GEN S จัดโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งขับเคลื่อนแนวคิดเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม และพัทยาฟู้ดเป็นหนึ่งในพันธมิตรของงาน จึงขอเวลา คุณวิชิต อะนะเทพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัทยาฟู้ดอินดัสทรี จำกัด มาล้วงแนวคิดที่ทำให้ธุรกิจนี้สร้างภาพจำของคนไทยให้เปิดใจกับอาหารกระป๋องที่ช่วยดูแลสุขภาพ สังคม และโลกใบนี้ 

ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกหิว อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าลอง จะโกทูซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วซื้อมาชิมสักกระป๋องตอนอ่านหรือกินหลังอ่านจบก็ไม่ว่ากัน (เพราะเราก็จะหยิบมาทานด้วย)

เริ่มจากบุกตลาดต่างชาติ สู่การทำให้คนไทยรัก และหมา แมว ก็รักด้วย!

ไม่บอกก็คงไม่รู้ว่ากว่าพัทยาฟู้ดจะทำให้อาหารกระป๋องเป็นที่รู้จักและนิยมได้นั้นเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2522 ที่บริษัทก่อตั้ง คุณวิชิตบอกว่าคนไทยหลายคนคิดไม่ออกว่าจะกินทูน่ากระป๋องได้อย่างไร ขณะที่ต่างชาติเขากินกันเป็นประจำ

“พัทยาฟู้ดเริ่มจากการทำ OEM ผลิตสินค้าให้แบรนด์คนอื่นก่อน ซึ่งแรกเริ่มเราทำตลาดเมืองนอก โดยมีทูน่าเป็นหลัก เพราะทูน่าตอนนั้นเป็นที่นิยมในต่างประเทศมาก และถ้าย้อนไปในอดีต ตอนนั้นประเทศเราเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางด้านแรงงาน ซึ่งในกระบวนการทำทูน่าต้องใช้กำลังคนมากพอสมควร และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของโรงทูน่าหลาย ๆ โรงในมหาชัย รวมถึงเราด้วย”

พัทยาฟู้ดพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเอง พื่อเน้นตีตลาดเมืองนอกกว่า 20 ปี จน 20 ปีหลัง ทางผู้บริหารก็เล็งเห็นการสร้างแบรนด์ของตัวเองเพื่อต่อยอดธุรกิจ และเป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์มาสู่มือผู้บริโภคคนไทย การทำแบรนด์ไทยของตัวเองขึ้นมาจึงเป็นโจทย์ท้าทายใหม่ โดยมีจุดหมายว่าคนไทยต้องรู้ว่า ‘ทูน่า’ มีประโยชน์มาก และทำได้หลากหลายเมนู ที่สำคัญ ทูน่ากระป๋องตอบโจทย์การดูแล ‘สุขภาพ’ ของพวกเขาได้

“นอติลุส คือแบรนด์แรกของเรา พอมาขายคนไทย ปัญหาที่พบคือหลายคนไม่รู้จักทูน่า ไม่รู้ว่าจะต้องทำเป็นเมนูอะไรได้บ้าง นี่คือสิ่งที่ทุกโรงงานผลิตทูน่าเผชิญมาเหมือนกัน เราจึงต้องค่อย ๆ ให้ความรู้กับคนไทย ทำให้คุ้นเคยกับทูน่า ด้วยการให้คำแนะนำเรื่องเมนูอาหาร เช่น ทำสลัดหรือไข่เจียว พร้อมทั้งให้ความรู้ว่าทูน่ามีประโยชน์อย่างไร มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย ที่สำคัญ เราใช้ทูน่าสายพันธุ์ Yellowfin ที่เนื้อขาว นุ่ม แน่น จากแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเราอยากให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าปลาทูน่าของเรามีคุณภาพจริง ๆ”

พัทยาฟู้ดทำให้นอติลุสกลายเป็นแบรนด์ทูน่ากระป๋องที่คนไทยยอมรับเรื่องคุณภาพสินค้าที่ดีที่ผู้บริโภคเลือกใช้ และด้วยความที่ทำตลาดต่างประเทศมาก่อน ส่งต่อให้นอติลุสกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

“สิ่งที่เราได้จากการขายหลายประเทศ คือข้อมูลอินไซต์ของตลาดหรือพฤติกรรมผู้บริโภคในแถบนั้น ๆ บางอย่างเรากินอร่อย เขากลับไม่อร่อย ลิ้นคนเราไม่เหมือนกัน บางประเทศไม่ชอบเผ็ด สินค้าที่ขายในประเทศนั้นก็ต้องลดความเผ็ดลง บางประเทศชิมแล้วความมันน้อยไปก็ต้องเพิ่ม บางประเทศความมันเยอะไปก็ต้องลด แต่พื้นฐานสูตรยังเหมือนเดิม

“ตลาดคนไทยชอบเอาไปยำ เอาทูน่าในน้ำมันไปปรุงให้อร่อย หรือถ้าเป็นยุโรป บางซอสที่เราทำ คนไทยกินอาจมองว่าเลี่ยน จืด ๆ หรือเราเคยลองทำซอสเกาหลีในทูน่า ฝรั่งชิมแล้วเขาบอกไม่อร่อย เราพยายามใกล้ชิดกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เพราะจริตการทานอาหารสำคัญสำหรับลูกค้า” 

อาหารกระป๋อง เป็นอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

พัทยาฟู้ดมีแบรนด์ในเครือถึง 9 แบรนด์ ได้แก่ ‘นอติลุส’ ทูน่ากระป๋อง, ‘นอติลุส ไลท์’ หรือทูน่าโซเดียมต่ำ, ‘นอติลุส เอ็กซ์เท็น’ มัลติเกรน โอ๊ตมีล จากซูเปอร์ฟู้ด, ‘มงกุฎทะเล’ ปลากระป๋อง อร่อยคุ้มค่า, ‘ม่อนชะเมา’ คัดสรรอาหารอร่อย เพื่อความรื่นรมย์, ‘ไททัน’ หนังปลาแซลมอนทอดกรอบ, ‘รีกาลอส’ ของขวัญจากใจให้น้องแมว น้องหมาตัวโปรด และแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงน้องใหม่ล่าสุดในกลุ่ม พัทยาฟู้ด คือ ‘เรมี่’ ที่พร้อมส่งมอบสุขภาพดีที่ให้ด้วยรัก สำหรับน้องหมาและน้องแมว แต่สิ่งสำคัญคือไม่ว่าแต่ละแบรนด์จะมีคาแรกเตอร์ต่างกันตามกลุ่มลูกค้า แต่ที่ทุกแบรนด์เหมือนกันคือความตั้งใจที่จะส่งมอบคุณภาพของสินค้าที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์จากผู้บริโภค ทั้งยังมีคุณภาพที่ดี มีคุณค่าทางอาหาร และปราศจากวัตถุกันเสีย

ในบางประเทศ เช่น ประเทศเกาหลี มีความเข้าใจที่ดีว่าอาหารกระป๋องคือของดี สะอาด ปลอดภัย ไม่ใส่วัตถุกันเสีย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ดังนั้นคนเกาหลีจะใช้ทูน่ากระป๋องในการปรุงอาหารสำหรับลูก ๆ เพราะทูน่ากระป๋องไม่มีก้างปลาให้ต้องกังวล ในขณะที่บ้านเรายังต้องสร้างความเข้าใจในจุดนี้อีกพอสมควร

“เราเตรียมสิ่งที่ดี มีคุณค่า และมอบความสะดวกให้กับผู้บริโภคไว้ เพราะว่าในยุคนี้ ไม่ใช่ทุกคนจะไปซื้ออาหารสดได้ในทุกช่วงเวลา การมีอาหารสำเร็จรูปไว้ติดบ้าน ตอนเข้าป่า ไปแคมป์ หรือไปไหนก็หยิบขึ้นมากินได้ ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรื่องคุณภาพชีวิตของผู้คนได้”

“จุดแข็งของพัทยาฟู้ดคือความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและคุณภาพ ถ้าเป็นแฟนประจำของเรา เทออกมา ไม่ว่าจะของกลุ่มคนหรือสัตว์เลี้ยง เขาจะรู้เลยว่านี่ของแบรนด์เรา ด้วยลักษณะเนื้อปลา ชิ้นปลา เนื้อสัมผัส สีของปลา”

รักสุขภาพและรักษ์สิ่งแวดล้อม แนวคิดที่เดินคู่กันมาตลอดของ ‘พัทยาฟู้ด’

นอกจากแนวคิดรักสุขภาพที่พัทยาฟู้ดเชื่อมั่น และเราก็ได้เห็นสิ่งนั้นผ่านการออกโปรดักต์ต่าง ๆ ที่คุณวิชิตแชร์ว่าปัจจุบันเรากำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย และพบว่าโรคที่คนเป็นกันเยอะ เช่น โรคที่เกี่ยวกับไขมัน หัวใจ ความดัน ต้องยอมรับว่ามาจากพฤติกรรมการกินที่ส่งผลสำคัญกับสุขภาพ ในฐานะผู้ผลิต เขาจึงอยากมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ด้วยการมีสินค้าที่สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกค้ากังวล จนถึงสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเจ้าของน้องหมา น้องแมว ยุคนี้ก็เลี้ยงเหมือนเป็นลูกแท้ ๆ อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงจึงต้องคำนึงถึงคุณประโยชน์ด้วย เช่น ขนมแมวเลียที่ไว้กินสนุก ๆ ก็แฝงฟังก์ชัน แคลอรีต่ำ เพื่อให้ลูก ๆ ทานได้ทุกวัน หรือมีการช่วยดูแลเกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อ โดยใส่แคลเซียมและกลูโคซามีน เพื่อช่วยให้น้ำในไขข้อดีขึ้น

แค่นั้นยังไม่พอ พัทยาฟู้ดยังมีแนวคิดเรื่องการตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เด่นชัดหลายข้อ

“บริษัทเรากำลังขับเคลื่อนและให้ความสำคัญคือเรื่องความยั่งยืน เราพยายามใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ในกระบวนการผลิต เราเริ่มใช้พลาสติกรีไซเคิล ขวดน้ำที่ใช้ภายในก็เปลี่ยนเป็นรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ หรือการศึกษาเรื่องของ Mono Material เน้นการใช้วัสดุอย่างเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการรีไซเคิล

“ยังมีการปรับใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งโซลาร์เซลล์ทั้งที่ไทยและโรงงานผลิตที่เวียดนาม และสำคัญที่สุดคือเรื่องจิตสำนึก เราคิดว่าต้องเริ่มจากการสร้างจิตสำนึกก่อน เราจึงมีโครงการ Waste for Life ชวนพนักงานในโรงงานเก็บพลาสติกที่จะทิ้ง โดยเราร่วมกับ GC ในการผลิตเสื้อยูนิฟอร์มพนักงาน Up Cycling จากพลาสติกใช้แล้ว และขยายไปในชุมชนที่เราเข้าไปในโรงเรียนวัดคลองครุ ชวนเด็ก ๆ เก็บขวดมาผลิตเป็นเสื้อกีฬา ปีนี้เรารวบรวมขวดได้ 130,000 ขวดแล้วครับ”

จึงไม่ต้องแปลกใจที่พัทยาฟู้ดได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ GC และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ออกบูทสินค้าที่งาน GC Sustainable Living Symposium 2023 หลังจากนี้พัทยาฟู้ดมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 50% ภายในปี 2032 

คุณวิชิตเน้นย้ำกับเราว่า ไม่ว่าจะแบรนด์ไหน ๆ ในเครือ ที่ผ่านมาตั้งใจผลิตสินค้าออกมาเพื่อให้ยืนหนึ่งในใจลูกค้าอย่างไรก็จะขอทำแบบนั้นต่อไป เพราะถ้าไม่มีลูกค้าที่เชื่อมั่นว่า ‘อาหารกระป๋อง’ มีดีได้ พัทยาฟู้ดก็คงอยู่กับคนไทยไม่ได้นานขนาดนี้ และสำหรับคนที่ยังไม่เปิดใจกับผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องเพราะมีความกังวลมากมาย หวังว่าอ่านบทความนี้จบจะค่อย ๆ เปิดใจ เพราะนี่ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณได้เหมือนกัน

ว่าแล้วเราก็ขอตัวไปทำยำนอติลุสกินแซ่บ ๆ ดีกว่า