วันแรก : Aloha Maui

กัปตันสายการบิน Hawaiian Airlines พานักเดินทางจากนครลอสแอนเจลิสเตรียมนำเครื่องลงจอดที่สนามบิน Kahului ปีกเครื่องบินปะทะกับแรงลมต้านทำเอาเครื่องสั่นกระพือเป็นระลอกจนรู้สึกได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันสัมผัสได้ถึงความแรงของลมบนเกาะ Maui …แรงตามคำร่ำลือจริง ๆ

หนนี้ฉันมาเยือนเกาะ Maui เป็นครั้งแรก แม้ก่อนหน้านี้จะเคยเดินทางมารัฐฮาวายแล้ว 3 ครั้ง ต่างกรรม ต่างวาระ แต่ทุกครั้งล้วนมีงานเป็นเหตุ และทุกครั้งก็จะจบแค่ที่โฮโนลูลู เมืองหลวงของรัฐ ยังไม่เคยมาเกาะนี้สักที

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย

กัปตันพาเครื่องลงจอดเป็นที่เรียบร้อย เครื่องสั่นพอควร แต่แรงกระเทือนตอนล้อแตะรันเวย์ก็สั่นสะเทือนในความรับรู้ของฉันไม่เท่ากับข่าวภัยพิบัติไฟป่าบนเกาะ Maui ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนเศษที่ผ่านมา

ไฟป่าปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 2023 เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน 3 จุดใหญ่ ๆ บนเกาะ Maui มีสาเหตุมาจากความร้อนและแห้งแล้งจัด บวกกับลมโหมกระหน่ำ ซึ่งเป็นหางลมจากเฮอริเคน Dora ที่เพิ่งพัดผ่านไป ลมโหมพัดเอาเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงล้มลงก่อให้เกิดประกายไฟลุกไหม้ และก็เป็นลมกับหญ้าแห้งอีกนั่นแหละที่เป็นปัจจัยเสริมกันให้เกิดเป็นไฟป่าลุกลามพื้นที่ในวงกว้าง

จุดที่เกิดผลร้ายแรงจนมีผู้ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คือไฟป่าบริเวณเขต Lahaina ซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเกาะ นับเป็นเหตุภัยพิบัติร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ของรัฐฮาวาย ภาพพระเพลิงผลาญชีวิต บ้านเรือน อาคารที่อยู่อาศัยและธุรกิจของชุมชนในเขตหลายร้อยหลังคาเรือน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน ทำให้ผู้คนไร้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยอีกนับไม่ถ้วน มันช่างสั่นสะเทือนความรู้สึกเหลือเกิน

และแรงสะเทือนนี้ก็เป็นเหตุนำพาฉัน บอส และทีมงานมาที่เกาะ Maui แห่งนี้

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
ความแรงของลมบนเกาะ Maui

ย้อนไปประมาณ 1 เดือน หลังไฟป่าปะทุได้ไม่เท่าไหร่ ทีมฝ่ายกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส หน่วยงานของฉัน ได้รับการติดต่อจากครอบครัวของน้อง ๆ โครงการ Work and Travel ที่มีลูกหลานกำลังทำงานระหว่างปิดภาคเรียนอยู่ในเขต Lahaina บางคนทำงานที่โรงแรม บางคนทำงานที่ร้านฟาสต์ฟู้ด ครอบครัวที่เมืองไทยสอบถามถึงสวัสดิภาพด้วยความห่วงใย เพราะติดต่อลูกหลานตนไม่ได้ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร ทุกคนหนีไฟออกมาได้ทัน แต่ก็สูญเสียพาสปอร์ต ทรัพย์สิน และสิ่งของส่วนตัวไป 

ทางทีมฝ่ายกงสุลรีบประสานออกหนังสือเดินทางฉุกเฉินให้สำหรับคนที่ต้องการเดินทางกลับไทยทันที และติดตามข่าวเรื่อยมา จนได้ข้อมูลต่อมาว่ามีคนไทยอีกกว่า 30 ครัวเรือนที่อาศัยอยู่บนเกาะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภัยพิบัติไฟป่าครั้งนี้ บ้างสูญเสียธุรกิจร้านอาหาร ร้านนวด ร้านสปา บ้านเช่า บ้างสูญเสียที่อยู่อาศัย บ้างก็สูญเสียทั้ง 2 อย่าง ชีวิตต้องล้มทั้งยืน

ในจำนวนนี้ก็มีคนเสียเอกสารไทยประจำตัวไปในกองเพลิงด้วย

บอสฉันรีบประสานกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ สอบถามความเป็นไปได้ในการจัดกงสุลสัญจรครั้งพิเศษที่เกาะ Maui เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและแบ่งเบาภาระให้พี่น้องคนไทยผู้ประสบภัย โดยการไปออกเอกสารไทยประจำตัวให้ถึงที่ รวมทั้งถือโอกาสนี้ไปเยี่ยมและให้กำลังใจคนไทยผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วย เพราะภัยพิบัติที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบถึงธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะ คนไทยหลายคนแม้ไม่สูญเสียธุรกิจหรือที่อยู่อาศัยในกองเพลิง แต่ก็ตกงานหรือเปิดร้านไม่ได้เพราะอยู่ในเขตอันตราย พอเราได้รับไฟเขียวจากกรมการกงสุล ทีมแอลเอของเราก็เดินเครื่องเต็มสูบเลยทันที

ระหว่างเตรียมจัดหาสถานที่ให้บริการกงสุลสัญจรแก่พี่น้องคนไทยบนเกาะ Maui ที่เหมาะสมทั้งในแง่ความสะดวกในการเดินทาง การติดตั้งอุปกรณ์ ที่จอดรถ ฯลฯ บอสของฉันก็ ‘บังเอิญ’ มีนัดทานข้าวกับเครือข่าย Friends of Thailand พอเล่าให้ฟังเรื่องคนไทยผู้ประสบภัยที่ Maui และการออกกงสุลสัญจรนัดพิเศษ เพื่อนชาวคริสต์ก็เสนอสถานที่โบสถ์ The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints ในเมือง Kahului ให้ใช้ทันที นับว่าเป็นเหตุการณ์ ‘ธรรมะจัดสรรข้ามพรมแดนศาสนา’ จริง ๆ

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
บอสของฉันกับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของโบสถ์

พวกเราเดินทางจากสนามบิน Kahului มาถึงโบสถ์ ได้พบกับเจ้าหน้าที่โบสถ์ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาและมิตรไมตรี พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ได้พบ คุณเจสัน ที่เคยไปเผยแผ่ศาสนาที่เมืองไทยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จนพูดภาษาไทยคล่องปร๋อ และหนนี้อุตส่าห์บินมาจากเกาะ Hawaii หรือ Big Island เพื่อมาช่วยประสานงานที่โบสถ์ให้กับพวกเรา คุณ Deryl ผู้ประสานงานอีกคนที่น่ารักมาก คอยช่วยเหลือทุกอย่าง และยังมีเจ้าหน้าที่ของโบสถ์อีกหลายคนที่ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งล้วนแล้วแต่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ นับว่าเป็นการทำงานข้ามเชื้อชาติและศาสนาที่ฉันรู้สึกประทับใจไม่มีวันลืม

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
ทีมสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส

เราจัดสถานที่และเตรียมอุปกรณ์พร้อมให้บริการในวันรุ่งขึ้นเรียบร้อย แล้วก็มีโอกาสได้นั่งรถไปดูบริเวณเกิดเหตุที่เมือง Lahaina ห่างจากเมือง Kahului ไปทางตะวันตก ใช้เวลาขับรถประมาณ 40 นาที ซึ่งตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ห้ามเข้า มีรถตำรวจและทหาร National Guard เฝ้าจุดเข้าออกอยู่เป็นระยะอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าพื้นที่ของผู้ไม่ประสงค์ดีที่อาจมาขโมยทรัพย์สินมีค่าจากสถานที่เพลิงไหม้ และเพื่อสวัสดิภาพของประชาชน เนื่องจากอาจได้รับอันตรายจากโครงสร้างปรักหักพังและจากสารเคมีเป็นพิษในบริเวณเพลิงไหม้ 

แม้กระนั้น มองจากระยะไกลเราก็ยังได้เห็นภาพอันน่าหดหู่ของเศษซากบ้านเรือนที่ถูกเพลิงผลาญ ภาพตึกคอนโดสูงที่ไหม้จนอาคารถล่มยุบตัวลงมา ภาพรถยนต์นับไม่ถ้วนเหลือเพียงซากโครงเหล็ก ช่างเป็นภาพที่น่าเศร้าใจเหลือเกิน

ตกเย็นเราได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับกลุ่มชุมชนไทยส่วนหนึ่งที่โดนผลกระทบทางตรงและทางอ้อม พี่ ๆ คนไทยที่เปิดบ้านตนเองเป็นโรงทานและโรงแรมชั่วคราว โอบรับช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ซึ่งกันและกันในยามยาก คืนนั้นฉันกลับถึงโรงแรมแล้วอาบน้ำ ทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่ดูเหมือนกลิ่นไหม้และเขม่าเพลิงจะยังคงตลบอบอวลอยู่ในความรู้สึก ไม่จางหายไปไหน

วันที่ 2 : กอดหน่อย

วันนี้ทีมแอลเอเปิดให้บริการกงสุลสัญจรวันแรกที่โบสถ์ เราเปิดหน่วยต้อนรับพี่น้องคนไทยผู้ประสบภัยที่เดินเข้ามาหาเรารายแล้วรายเล่า

บางรายสูญเสียทั้งธุรกิจ ทั้งบ้าน ชีวิตล้มเหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดหัวโดยไม่รู้ตัว

บางรายเล่าว่าต้องหนีลงไปลอยคออยู่ในทะเล เพราะไฟกำลังจะมาถึงตัว ยังดีที่รอดมาได้

บางรายร้องไห้โฮตั้งแต่เดินเข้าหน่วย หมดแรงจะเดินต่อ ต้องช่วยกันปลอบ ช่วยกันประคอง ช่วยกันให้กำลังใจ

บางรายเล่าว่าชีวิตเพิ่งจะฟื้นจากโควิด หาช่องทางทำมาหากินใหม่ได้เพียงไม่นานก็เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ช่องทางถูกกลบด้วยควันไฟและเขม่าเพลิงเสียแล้ว

บางรายสูญเสียร้านอาหารที่เพิ่งซื้อกิจการมาด้วยเงินเก็บที่มีไปในกองเพลิง แต่ก็บอกว่าอย่างน้อยยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องหาทางดิ้นรนต่อไป

บางรายเดินเข้ามาหาฉันแล้วบอกดื้อ ๆ ขอกอดหน่อยได้มั้ยคะ ฉันไม่รีรอ รีบอ้าแขนรับทันที พอกอดแล้วก็ร้องไห้โฮ บอกขอบคุณที่มาเยี่ยมกัน

เรามอบ ‘กล่องปันสุข’ ที่เราเตรียมจัดหามา บรรจุข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องแกง เครื่องปรุงแบบไทย ๆ เป็นสัญลักษณ์แห่งความตั้งใจ ‘อยากจะแบ่งปันความสุข’ ด้วยหวังว่าพี่น้องผู้ประสบภัยจะได้นำไปประกอบอาหารรสชาติคุ้นลิ้น ช่วยปลอบประโลมจิตใจในสถานการณ์แบบนี้ได้บ้าง

ฉันคิดในใจว่าอย่างน้อยก็ยังดีที่พี่น้องคนไทยยังรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดของตนไว้ได้ นั่นคือ ‘ชีวิต’ ในภาวะแบบนี้ ฉันเองก็ทำได้เพียงนั่งอยู่ข้าง ๆ ช่วยรับฟังปัญหา แบ่งปันเรื่องราวและความรู้สึก แสดงความเห็นอกเห็นใจ และให้กำลังใจซึ่งกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ ซึ่งฉันเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาความทุกข์ที่มีในหัวใจพี่ ๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อย

วันที่ 3 : ตราบแผ่นดินกลบหน้า

เช้าวันนี้เรายังคงเปิดหน่วยให้บริการกงสุลสัญจรต่อเนื่อง ซึ่งผู้มารับบริการส่วนใหญ่เป็นพี่น้องคนไทยอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่บนเกาะ Maui

ในขณะเดียวกัน ฉันกับบอสก็มีนัดหมายแยกทีมไปเยี่ยม ป้าหนุ่ย หญิงแกร่งจากเชียงใหม่อายุ 70 ปี 8 เดือน เจ้าของฟาร์มเกษตรกรรม Maui Nui Farm ขนาด 40 เอเคอร์ (ประมาณ 100 ไร่) ในเขตเมือง Kula ซึ่งเป็นพื้นที่บนเขาและเป็น 1 ใน 3 เขตที่เกิดภัยพิบัติไฟป่าครั้งนี้

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
ป้าหนุ่ยกับซากรถแทร็กเตอร์คันโปรดที่ป้าชอบเพราะ ‘มันแรงดี’ 

ป้าหนุ่ยเจอกับพวกเราที่จุดนัดหมายในเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงสีแดง แว่นตากันแดดคิตตี้สีชมพู นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ ATV พร้อมขับลุยทุกสภาพพื้นผิว (เหมือนจิตวิญญาณของคนขับ)

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
ป้าหนุ่ยขับรถ ATV พานำทัวร์สำรวจฟาร์ม 

ท่ามกลางแสงอาทิตย์อันร้อนระอุและกลิ่นเขม่าไฟ ป้าหนุ่ยเล่าว่าสิ่งที่ป้าลงแรงทำมา 40 ปีหายวับไปกับกองเพลิง เราเดินตามป้าออกสำรวจพื้นที่ที่ป้าประเมินมูลค่าความเสียหายไว้ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พบโกดังทรงครึ่งวงกลมที่เป็นทั้งออฟฟิศ ห้องนอนป้า ห้องนอนคนงาน ที่เก็บผลผลิตทางการเกษตร ไหม้ยุบลงมาเหลือแต่โครง รถแทร็กเตอร์และรถยนต์หลายคันไหม้เหลือแต่ซาก โรงเก็บอุปกรณ์การเกษตรทั้งเครื่องพ่นยาและอื่น ๆ เสียหายหมด เหลือรอดแต่ฝูงเป็ด ห่าน และไก่ที่ป้าเลี้ยงไว้ในพื้นที่ชุ่มน้ำตรงข้ามโรงเก็บอุปกรณ์ และฝูงแพะที่ป้าต้อนพวกมันขึ้นรถพาหนีไฟได้ทัน

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
ซากรถบรรทุก

ในสภาพซากความเสียหายกินพื้นที่วงกว้าง ป้าพาพวกเราย้อนอดีตไปยามที่ป้ายังสาวและแข็งแรงกว่านี้ ป้าปลูกผักสารพัด มีสวนดอกไม้ บ่อบัว และเปิดเพิงหน้าฟาร์มเป็น Farmer’s Market ให้คนมาท่องเที่ยวและแวะซื้อผลผลิตทางการเกษตรสด ๆ ด้วย ป้าเล่าต่อว่าช่วงก่อนโควิด ป้ารับแรงงานคนไทยกว่า 10 คนมาทำงานในฟาร์มด้วยวีซ่า Training แต่พอช่วงโควิดก็งดไป จากนั้นมาพอโควิดซาลงวีซ่าก็ขอยากขึ้น เลยไม่มีแรงงานไทยมาอีก ปัจจุบันมีคนในพื้นที่ช่วยงานป้าอยู่แค่ 2 คน บางช่วงป้าเล่าเรื่องแล้วก็น้ำตาคลอ บ่นว่าป้าไม่ทำแล้ว ป้าเหนื่อย ป้าอายุเท่านี้แล้วป้าจะทำไปทำไม แต่พอผ่านไปสักพัก ความแข็งแกร่งของป้าก็ฉายแวว ป้าบอกป้าอยากสอนคนให้ทำการเกษตร 

สมกับที่ป้าเรียนวิธีทำเกษตรมาจาก หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ฉันมองหน้าป้าแล้วลองคิดเล่น ๆ กับตัวเองว่า ถ้าฉันอายุเท่าป้า ฉันคงพอแล้ว แต่สายตาป้าไม่ยอมแพ้ ด้วยดีเอ็นเอนักสู้ในตัวป้า ป้าคงจะทนอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรไม่ได้ คงต้องทำเกษตรไปตราบจนแผ่นดินกลบหน้านั่นแหละ ฉันเชื่อแบบนั้น

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
ฝูงแพะที่ป้ารักเหมือนลูก

บทส่งท้าย : Mahalo ขอขอบคุณ

กัปตันสายการบิน Hawaiian Airlines พาเครื่องบินลงจอดที่สนามบินนครลอสแอนเจลิสโดยสวัสดิภาพ จบไปอีกงานแล้วสินะ ฉันบอกตัวเองเบา ๆ พลางคิดทบทวนว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากภารกิจครั้งนี้ ฉันรู้สึกขอบคุณที่ธรรมะจัดสรรให้ฉันได้มาร่วมทีมและได้พบกับพี่ ๆ น้อง ๆ คนไทยทั้งผู้ประสบภัยโดยตรงและผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อม

ยินดีที่ได้รับฟังเรื่องราว ได้แบ่งปันความรู้สึก ได้ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ในใจ ได้ปลอบโยนและกอดให้กำลังใจกันและกัน ฉันเชื่อว่าตราบใดที่ยังไม่หมดกรรม วงล้อชีวิตของเราก็ยังต้องหมุนต่อไปเรื่อย ๆ และตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ชีวิตก็ยังคงมีความหวังอยู่เสมอ เหมือนกับท้องฟ้าฮาวายที่บางครั้งดูครึ้มฟ้าครึ้มฝนมืดมน แต่พอเมฆเลื่อนตัวไป แสงอาทิตย์เปลี่ยนองศาส่องกระทบหยดน้ำ ก็เกิดเป็นรุ้งงามทาบทอบนท้องฟ้า สมกับชื่อ Rainbow State

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
สายรุ้งบนท้องฟ้า Maui

ฉันเชื่อว่าความหวังในชีวิตก็คงจะหน้าตาคล้าย ๆ กับสายรุ้งนี่แหละ 

ฉันเองก็มีความหวังเหมือนกัน

หวังว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาเยือนเกาะ Maui อีกในเร็ววัน เพราะธรรมชาติส่วนอื่น ๆ บนเกาะยังคงสวยงามมาก น้ำใสจนเห็นเต่าทะเล สัญลักษณ์ของเกาะ Maui เส้นทางสู่ Hana อันคดเคี้ยวที่พานักท่องเที่ยวเดินทางไปดื่มด่ำกับธรรมชาติฝั่งตะวันออกของเกาะก็ยังคงมนต์เสน่ห์อยู่เช่นเดิม เมื่อนักท่องเที่ยวกลับมา เศรษฐกิจบนเกาะจะได้กลับมาคึกคัก กลายเป็นวัฏจักรสร้างงานและเงินให้แก่ชุมชนต่อไป

ฉันระลึกถึงบทสนทนากับคุณ Deryl เจ้าหน้าที่โบสถ์ตอนหนึ่งว่า เขารู้สึกขอบคุณแทนคนไทยที่เรามาจัดกงสุลสัญจรที่ Maui ในครั้งนี้ มันมีความหมายกับชุมชนไทยมากจริง ๆ เขาเห็นสายตาของพี่น้องคนไทยผู้ประสบภัยเปล่งประกาย มีความหวังและมีความสุขขึ้นภายหลังการพูดคุยและการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน บางทีภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราได้สัมผัสถึงความดีงามในจิตใจของเพื่อนมนุษย์เช่นกัน 

ในขณะเดียวกัน ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก็ยังเป็นสิ่งเตือนให้เราดำรงชีวิตในความไม่ประมาท ยิ่งในภาวะโลกเดือด ภัยธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดก็เกิด ภัยธรรมชาติที่เคยเกิดอยู่แล้ว ก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น สิ่งใดที่เราเตรียมพร้อมไว้ได้ย่อมเป็นประโยชน์ 

นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
น้ำทะเลใสจนเห็นเต่าว่ายไปมา
นักการทูตหญิงไทยเล่าภารกิจซับน้ำตา-เติมความหวังให้คนไทยที่ประสบไฟป่าบนเกาะ Maui ฮาวาย
ทะเลและท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ใกล้ตก

ภารกิจครั้งนี้คงจะเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากชุมชนไทยบนเกาะ Maui และพี่น้องอาสาสมัครทุกท่าน

โบสถ์ Jesus Christ of Latter-day Saints

บริษัท Sun Lee, Inc. America

กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

บอสและพี่ ๆ น้อง ๆ ทีมสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส

ทุกท่านทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังทำให้ฉันรู้ซึ้งว่า การทูตเพื่อประชาชน ทุกแห่งหนเราดูแล ไม่ได้เป็นแค่สโลแกนเท่ ๆ แต่เราทำให้มันเกิดขึ้นได้จากความตั้งใจจริง ๆ

Writer & Photographer

อารียา ประจันพาณิชย์ ฟอราสติเอรี

อารียา ประจันพาณิชย์ ฟอราสติเอรี

นักการทูตและนักวิ่ง ผู้ชอบพาลูกสาวธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร