ธุรกิจครอบครัวหลายแห่งให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก บางธุรกิจถึงขนาดไม่ยอมขยายกิจการเพราะไม่ต้องการกู้เงินจากภายนอกหรือระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ

แต่ในโลกปัจจุบัน ความเป็นส่วนตัวก็อาจไม่ใช่สิ่งดีที่สุดสำหรับธุรกิจครอบครัวอีกต่อไป

หลายธุรกิจครอบครัวที่เคยขึ้นชื่อมากในเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวกลับเปลี่ยนใจ ยอมทำตัวให้โปร่งใสกับภายนอกมากขึ้น

ตัวอย่างหนึ่งคือธุรกิจของครอบครัว ‘Mars’ ผู้ผลิตช็อกโกแลตหลากหลายยี่ห้อ เช่น M&M’S, The SNICKERS Bar, 3 Musketeers, Milky Way หรือ Twix รวมถึงหมากฝรั่ง Wrigley’s และอาหารสัตว์เลี้ยง Pedigree, Whiskas, Nutro และ Royal Canin

ด้วยอาณาจักรธุรกิจอันใหญ่โตนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Mars จะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ในบรรดาบริษัทเอกชนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา และตระกูล Mars ก็เป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของประเทศอีกด้วย

Mars ธุรกิจผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำ กับการเปิดเผยเรื่องในบ้านเพื่อปรับตัวกับปัจจุบัน

ลูกคิด พ่อทำ

‘Mars, Incorporated’ ธุรกิจช็อกโกแลตของตระกูล Mars ก่อตั้งขึ้นในปี 1911 โดย Frank Mars ซึ่งเรียนรู้การทำช็อกโกแลตแคนดี้จากแม่ของเขา

Frank แต่งงาน 2 ครั้ง ภรรยาทั้ง 2 คนต่างชื่อ Ethel ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่ง Frank และภรรยาคนที่ 2 เริ่มก่อตั้งกิจการช็อกโกแลตในปี 1911 ที่เมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน ซึ่งต่อมาย้ายสำนักงานใหญ่ไปหลายเมือง ก่อนที่จะลงหลักปักฐานที่เมืองแมคลีน รัฐเวอร์จิเนีย

ในปี 1923 Frank คิดค้นช็อกโกแลตแท่งชื่อ ‘Milky Way’ ซึ่งว่ากันว่าได้ไอเดียมาจาก Forrest Mars ลูกชายจากภรรยาคนแรกที่อยากได้ขนมผสมระหว่างมิลก์เชกกับแคนดี้ เขาโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ว่าเป็น ‘นมช็อกโกแลตที่เป็นแท่ง’

กิจการช็อกโกแลตของ Frank เติบโตต่อมา โดยมี Forrest เป็นผู้ดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น SNICKERS ที่เริ่มผลิตในปี 1930 และ 3 Musketeers ที่ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในอีก 2 ปีต่อมา

Mars ธุรกิจผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำ กับการเปิดเผยเรื่องในบ้านเพื่อปรับตัวกับปัจจุบัน

พ่อลูกแยกทาง

ในขณะที่ธุรกิจดำเนินไปด้วยดีก็มีเหตุที่ทำให้ Frank กับ Forrest ขัดใจกัน เพราะ Forrest ต้องการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ แต่ Frank ไม่ยอม 

Forrest จึงลาออกจากบริษัทไปตั้งธุรกิจช็อกโกแลตของตัวเองในปี 1933 ซึ่ง Frank ให้เงินลูกชายไป 5 หมื่นเหรียญฯ และให้สิทธิ์ในการผลิตช็อกโกแลต Milky Way นอกประเทศสหรัฐอเมริกาแก่ Forrest อีกด้วย

Forrest ไปเริ่มต้นธุรกิจใหม่ของเขาที่ประเทศอังกฤษ คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น The Mars Bar และ MALTESERS

ที่สำคัญคือ Forrest คิดค้นและผลิตช็อกโกแลตแคนดี้ที่ ‘ละลายในปาก แต่ไม่ละลายในมือ’ ออกขายในปี 1941 ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ก็คือช็อกโกแลต M&M’S ที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน

Mars ธุรกิจผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำ กับการเปิดเผยเรื่องในบ้านเพื่อปรับตัวกับปัจจุบัน

สำหรับชื่อ M&M’S นั้นมาจากตัวย่อของนามสกุลของ Forrest Mars และ Bruce Murrie ลูกชายของ William Murrie ประธานบริษัทช็อกโกแลต HERSHEY’S ที่เป็นหุ้นส่วนอยู่ 20%

นอกจากผลิตช็อกโกแลตแล้ว Forrest ยังขยายกิจการไปขายอาหารสัตว์เลี้ยงกระป๋อง จนกลายเป็นแบรนด์ Whiskas Cat Food ในเวลาต่อมาอีกด้วย

Mars ธุรกิจผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำ กับการเปิดเผยเรื่องในบ้านเพื่อปรับตัวกับปัจจุบัน

ทายาทช็อกโกแลต

เมื่อ Frank Mars เสียชีวิตในปี 1934 ด้วยวัยเพียง 50 ปี ธุรกิจได้สืบทอดต่อไปยังภรรยาคนที่ 2 ของเขา จนกระทั่งเมื่อภรรยาของ Frank เสียชีวิตลงในปี 1945 Forrest จึงกลับมารับช่วงธุรกิจของครอบครัว Mars ต่อ

ในด้านครอบครัวของเขาเองนั้น Forrest แต่งงานกับ Audrey Meyer และมีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชายคนโตชื่อ Forrest เหมือนกับพ่อ ลูกชายคนรองชื่อ John ส่วนลูกสาวคนเล็กชื่อ Jacqueline

เนื่องจากพ่อลูกชื่อเหมือนกัน Forrest คนพ่อจึงกลายเป็น Forrest Sr. ส่วน Forrest คนลูกก็เป็น Forrest Jr. ไป

Forrest Sr. ไม่ยอมเลิกทำงานถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว จนกระทั่ง John ลูกชายที่อายุ 60 ปีหมดความอดทน ถาม Forrest Sr. ว่าเขาจะต้องทำงานให้พ่อไปอีกนานแค่ไหน Forrest Sr. จึงยอมเกษียณตัวเองจากธุรกิจครอบครัว

Mars ธุรกิจผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำ กับการเปิดเผยเรื่องในบ้านเพื่อปรับตัวกับปัจจุบัน

แต่หลังจากที่ Forrest Sr. วางมือจากบริษัท Mars ได้ไม่นานก็เริ่มเบื่อ เขาจึงไปเริ่มกิจการใหม่ชื่อ ‘Ethel M Chocolates’ ที่ตั้งชื่อตามแม่ของเขา ผลิตช็อกโกแลตระดับพรีเมียมออกมาขาย

ซึ่งต่อมาในปี 1988 บริษัท Mars ก็ได้เข้าซื้อกิจการ Ethel M Chocolates ส่วน Forrest Mars Sr. เจ้าพ่ออาณาจักรช็อกโกแลตเสียชีวิตในปี 1999 เมื่ออายุได้ 95 ปี

สำหรับธุรกิจครอบครัวของตระกูล Mars ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่นสามและรุ่นสี่ยังคงขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง เช่น การซื้อกิจการ Royal Canin บริษัทอาหารสัตว์ของฝรั่งเศสในปี 2002 และการซื้อบริษัท William Wrigley, Jr. ผู้ผลิตหมากฝรั่งที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2008 เป็นต้น

ปัจจุบันหุ้นของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน โดย John กับ Jacqueline ทายาทรุ่นสาม ถือกันคนละส่วน ในขณะที่ส่วนสุดท้ายแบ่งออกเป็น 4 ส่วนย่อยเท่า ๆ กันระหว่าง Victoria, Valerie, Pamela และ Marijke ลูกสาว 4 คนของ Forrest Jr. หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปเมื่อปี 2016

Mars ธุรกิจผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำ กับการเปิดเผยเรื่องในบ้านเพื่อปรับตัวกับปัจจุบัน

จากการก่อตั้งสู่การกำกับดูแล

Victoria Mars ทายาทรุ่นสี่ให้สัมภาษณ์ว่า การทำงานในธุรกิจครอบครัวของสมาชิกตระกูลนั้น แต่ละคนต้องเริ่มงานที่ตำแหน่งเริ่มต้น และควรมีประสบการณ์จากธุรกิจอื่นนอกครอบครัวก่อน

เพราะความท้าทายอย่างหนึ่งของการทำงานในธุรกิจของครอบครัวก็คือ การที่เราไม่ทราบว่าเราทำดีพอและได้รับการประเมินตามความสามารถจริง ๆ หรือไม่ ดังนั้นความสำเร็จจากการทำงานในธุรกิจนอกครอบครัวมาก่อนจึงช่วยสร้างความมั่นใจได้

ส่วนความท้าทายที่ทายาทรุ่นปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่ก็คือ จะทำอย่างไรให้สมาชิกครอบครัวรุ่นที่ 5 อยากเข้ามาร่วมงานในธุรกิจครอบครัว

เพราะในปัจจุบันตระกูล Mars สนับสนุนให้ทายาทรุ่นหลังทำงานที่ตนเองชอบ โดยยึดหลักว่า สมาชิกแต่ละคนไม่จำเป็นต้องทำงานกับธุรกิจครอบครัวก็ได้ แต่ขอให้มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวก็พอ

ดังนั้น ในช่วงกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจครอบครัวของ Mars เปลี่ยนผ่านจากช่วงการก่อตั้ง (Founding) ไปสู่ช่วงการดำเนินกิจการ (Operating) และช่วงการกำกับดูแล (Governing) ในที่สุด

Mars ธุรกิจผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำ กับการเปิดเผยเรื่องในบ้านเพื่อปรับตัวกับปัจจุบัน

‘The Kremlin’

การให้สัมภาษณ์ของ Victoria อาจจะเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่สำหรับบริษัทและครอบครัว Mars แล้วนั้น การเปิดเผยเรื่องราวภายในออกสู่สาธารณะถือเป็นสิ่งแปลกใหม่เลยทีเดียว

เพราะตระกูล Mars ขึ้นชื่อมากในเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัว คนภายนอกไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวและธุรกิจของพวกเขามากนัก แม้แต่เมื่อ Forrest Sr. เสียชีวิตในปี 1999 ครอบครัวและบริษัท Mars ก็ไม่ได้ออกข่าว

สำนักงานใหญ่ของ Mars ในรัฐเวอร์จิเนียก็เป็นสถานที่ลึกลับ ถึงขนาดได้ฉายาว่า ‘The Kremlin’ ตามชื่อของพระราชวังเครมลินซึ่งเป็นที่ทำการรัฐบาลของอดีตสหภาพโซเวียตเลยทีเดียว นอกจากนี้ ตระกูล Mars ยังตั้งใจรักษาธุรกิจให้เป็นบริษัทครอบครัวต่อไป โดยไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ก่อหนี้ ทำให้บริษัทไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบ

ว่ากันว่าต้นเหตุของความลึกลับของครอบครัวนี้เกิดขึ้นเมื่อ Forrest Sr. จดสิทธิบัตรวิธีผลิตข้าวของแบรนด์ Uncle Ben’s ที่ช่วยยืดอายุสินค้าให้เก็บได้นานขึ้น แต่ผู้นำกองทัพพยายามจะยกเลิกสิทธิบัตรนี้เพื่อนำวิธีการผลิตไปใช้กับเสบียงของทหาร

Mars บริษัทช็อกโกแลตที่ปรับตัวเมื่อรู้ว่าความเป็นส่วนตัวไม่ใช่จุดแข็งของธุรกิจครอบครัวอีกต่อไป

หลังจากนั้นเป็นต้นมา Forrest Sr. ก็ระวังตัวมาก ให้ความสำคัญกับความลับและความเป็นส่วนตัว หลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์หรือแม้แต่ถ่ายรูป ซึ่งนโยบายรักษาความลับไม่ให้คนนอกรู้เรื่องภายในนี้ช่วยบ่มเพาะความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสมาชิกครอบครัว Mars เพราะสมาชิกที่เปิดเผยเรื่องราวต่อบุคคลภายนอกจะถูกมองว่าทรยศ

ต้นทุนของความเป็นส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันครอบครัวและบริษัท Mars ได้เริ่มเปิดเผยข้อมูลและทำตัวโปร่งใสกับภายนอกมากขึ้น 

Steven Badger ลูกชายของ Jacqueline ทายาทรุ่นสี่ อดีต Chairman ของบริษัทให้สัมภาษณ์ว่า “99% ของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของบริษัท เราเลือกหลีกเลี่ยงความสนใจของสาธารณชนในขณะที่ต้องการให้แบรนด์ของเราเข้าถึงผู้บริโภค แต่ตอนนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว”

ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่เพียงสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ดังเช่นในสมัย Forrest Sr. เท่านั้น แต่ยังใส่ใจในเรื่องราวของธุรกิจและครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ด้วย เช่น การที่ Mars โดนโจมตีเรื่องการใช้แรงงานเด็ก แรงงานทาส และการทำลายป่าไม้ในอุตสาหกรรมโกโก้ที่ขายวัตถุดิบให้บริษัทนั้น ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Victoria ให้ข้อคิดว่า ถ้าหากเราไม่เล่าเรื่องของเราเอง คนอื่นก็จะเป็นคนเล่า ดังนั้น เราเล่าเองก่อนดีกว่า

ตัวอย่างของการสื่อสารกับสาธารณชนของ Mars เช่น ในด้านธุรกิจ Mars มุ่งประชาสัมพันธ์ว่า บริษัทเริ่มโครงการ ‘Sustainable in a Generation’ ในปี 2017 ที่เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย และคุณภาพชีวิตของทั้งคนและสัตว์ หรือในด้านครอบครัว เมื่อ Jacqueline หลับในขณะขับรถทำให้เกิดอุบัติเหตุจนมีคนเสียชีวิตในปี 2013 ก็มีการออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Mars บริษัทช็อกโกแลตที่ปรับตัวเมื่อรู้ว่าความเป็นส่วนตัวไม่ใช่จุดแข็งของธุรกิจครอบครัวอีกต่อไป

ประโยชน์ของความโปร่งใส

ธุรกิจครอบครัวหลายธุรกิจให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก จนบางแห่งถึงกับยอมไม่ระดมทุนจากภายนอกเลยทีเดียว

แต่ในปัจจุบันแม้แต่บริษัทครอบครัวที่ไม่ได้เป็นบริษัทมหาชนก็อาจเลือกรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ไม่ได้เหมือนในอดีต เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านรสนิยมของผู้บริโภคและเทคโนโลยีในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร

ขนาดธุรกิจครอบครัวที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวอย่าง Mars ก็ยังต้องทำตัวให้โปร่งใสกับสังคมภายนอกมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว การเปิดเผยข้อมูลนั้นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการให้คนอื่นคิดคาดเดากันไปเอง

Mars บริษัทช็อกโกแลตที่ปรับตัวเมื่อรู้ว่าความเป็นส่วนตัวไม่ใช่จุดแข็งของธุรกิจครอบครัวอีกต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง
  • www.njherald.com/story/business/2017/12/06
  • www.snackhistory.com/frank-mars
  • www.nytimes.com/2016/07/28/business
  • www.successstory.com/people/forrest-mars-jr
  • www.thetimes.co.uk/article
  • www.salzburgglobal.org/news/latest-news/article/victoria-mars
  • www.houstonchronicle.com/life/article
  • www.mars.com/news-and-stories/articles
  • www.facebook.com/chocoalcoholics/photos
  • www.newswirengr.com/2023/02/13

Writer

Avatar

ดร.กฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์

ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ University of California, San Diego นักวิชาการผู้หลงใหลเรื่องราวจากโลกอดีต รักการเดินทางสำรวจโลกปัจจุบัน และสนใจวิถีชีวิตของผู้คนในโลกอนาคต