นครราชสีมา หรือ ‘โคราช’ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เยอะเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ถ้าให้ลองนึกไว ๆ ทุกคนมักมาเที่ยวเขาใหญ่ ซึ่งห่างจากตัวเมืองราว ๆ 150 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวหรือคนในจังหวัดจึงไม่ค่อยรู้จักสถานที่ที่น่าสนใจในตัวเมืองสักเท่าไหร่ ถือโอกาสในยุคที่เราทำงาน Work from Home เป็นส่วนใหญ่ เลยอยากชวนผู้อ่านเปลี่ยนบรรยากาศมาอยู่เมืองเก่าโคราชกันยาว ๆ เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันยังได้สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คน อาหาร สถานที่ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมือง
นอกจาก 11 สิ่งที่เราแนะนำให้ ‘ลอง’ เราอยากให้คุณเดินในเมือง สำรวจความหลากหลาย เช่น ดูพระที่โรงแรมเมืองทอง นั่งสามล้อถีบ และอย่าลืมไหว้อนุสาวรีย์ย่าโมและลอดประตูชุมพลด้วยนะ
#01
ลองตื่นเช้า ๆ มากินกวยจั๊บญวน ร้านหมวยสร
‘หมวยสร’ คือร้านอาหารเช้าในเมืองโคราช ถ้าขับรถมาจอดรถได้บริเวณหน้าร้านหรือในอาบอบนวดตรงข้ามร้านก็ได้ ไม่เสียค่าจอดรถ เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงประมาณบ่ายโมงของทุกวัน พร้อมด้วยปริมาณลูกค้าที่อัดแน่นเต็มร้านตลอดเวลา หลังจากได้โต๊ะแล้ว เรารีบเดินไปตักน้ำชาฟรี เมนูที่เราชอบสั่งคือกวยจั๊บญวน ที่นี่ใช้เส้นใหญ่ ใส่หมูยอ โรยหอมเจียวกรอบ ๆ ราคาถ้วยละ 35 บาทเท่านั้น
ส่วนเมนูอื่น ๆ อร่อยและหมดเร็วมาก เช่น ปากหม้อญวน เปาะเปี๊ยะสด พันหอม
เมื่อทานกวยจั๊บญวนเสร็จ ยังไม่หนำใจ เราเลยสั่งขนมปังญวนมาอีก 1 คู่ ปิดท้ายด้วยกน้ำชาขึ้นซด นับเป็นการเริ่มมื้อเช้าสำหรับวันใหม่ที่ดีเลยทีเดียว เพราะสำหรับเรา กองทัพต้องเดินด้วยท้องน่ะ
#02
ลองเดินเล่นและชมร้านรวงคลาสสิกย่านเมืองเก่า
‘เมืองเก่าโคราช’ อยากเริ่มเดิน เดินยังไงดี
เราอาสาพาทุกคนเดิน เริ่มจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ไหว้ย่าโมเสร็จ หันหลังกลับลอดประตูชุมพล เลี้ยวขวาไปดูตลาดพระที่โรงแรมเมืองทอง จากนั้นเลี้ยวซ้าย จะพบร้านซ่อมรองเท้าประมาณ 4 ร้านติดกัน เห็นบรรยากาศของร้านค้ายุคเก่า จากนั้นแวะสั่งชาไทยร้านช้อนเงินข้าง ๆ วัดบึง เลี้ยวซ้ายอีกทีตรงไปเรื่อย ๆ จะพบกับตึกรามบ้านช่อง ร้านถ่ายภาพ-ล้างฟิล์ม คลังพลาซ่าเก่า ตรงนั้นแหละร้านป้าเอื้อย
ร้านรวงที่น่าสนใจคือร้านตัดแว่นที่อยู่รวมกันจนเป็นย่าน รวมถึงร้านขายอุปกรณ์งานฝีมืออย่างร้านทันสมัย มีไหมพรมให้เลือกทุกเฉด มีกระดุมหลายแบบ มีร้านข้าวมันไก่-ตือฮวน ร้านรักกาแฟ เมื่อเลี้ยวซ้ายอีกรอบก็วนกลับไปที่ประตูชุมพล ใช่แล้ว! ผังเมืองที่นี่เป็นแบบกริด ออกแบบในยุคสมเด็จพระนารายณ์ (พ.ศ. 2199 – 2231) โดย เมอซิเออร์ เดอ ลามาร์ (M. de la Mare) นายช่างชาวฝรั่งเศส
ป.ล. อย่าลืมสังเกตกราฟฟิตี้รอบ ๆ เมืองด้วยนะ
#03
ลองชิมผัดหมี่โคราชแท้ ๆ ร้านป้าอ้อม ขั่วหมี่โคราช
เราคือคอผัดหมี่โคราชตัวจริง (เพราะเราคือคนโคราช) ผัดหมี่เป็นเมนูโปรดของเราเลย และเรายังไล่ชิมร้านเด็ดมาหลายอำเภอ ที่ดังสุด ๆ คือผัดหมี่กระโทก เส้นหมี่มาจากอำเภอตะคุ แต่ที่ถูกใจเราที่สุดในตอนนี้คือ ‘ร้านป้าอ้อม’ ไม้ตายคือกลิ่นไหม้กระทะ แกทำอย่างใส่ใจ ผัดจานต่อจาน ซึ่งช่วงเที่ยงต้องรอนานสักนิด เราแนะนำให้ลองแวะกินตอนบ่าย ๆ ความดีงามคือเลือกระดับความเผ็ดได้ ตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม มัธยม ปริญญา และเผ็ดที่สุดคือระดับปริญญาใจ ซึ่งแน่นอนว่าเราเลือกระดับอนุบาล
เส้นหมี่โคราชเป็นเส้นแบนใส ทำจากข้าว สัมผัสเหนียวนุ่ม เส้นต่างจากผัดไทย และไม่ใส่กุ้งแห้ง ไชโป๊ เต้าหู้ เส้นไม่ติดกันและดูดชับรสชาติที่ปรุงมาได้แบบเข้าเส้น ซึ่งกระบวนการทำเส้นหมี่โคราชมีสูตรและเทคนิคที่ต่างกันในแต่ละอำเภอ ร้านป้าอ้อมใช้เส้นหมี่ตะคุจากอำเภอปักธงชัย ผัดกับหมูสามชั้น นี่แหละถูกต้องทุกประการ! หากร้านไหนใช้ไก่หรือหมูไม่ติดมัน จะไม่หอมมันหมูเท่าร้านป้าอ้อม
#04
ลองนั่งยอง ๆ กินขนมจีนประโดก ร้านป้าเอื้อย ข้างคลังเก่า
ในเมืองโคราชอันใหญ่โต ใครจะรู้ว่ามีร้านขนมจีนประโดกซ่อนตัวอยู่ริมทาง
อยู่ริมทางทำไมถึงใช้คำว่าซ่อนตัว เพราะขนมจีนร้านนี้เป็นร้านนั่งยองหลบระนาบสายตา นั่งยองทั้งแม่ค้า ทั้งลูกค้า คล้าย ๆ แผงขนมจีนหาบเร่ มีหม้อน้ำยาขนมจีนอยู่ 4 หม้อ มีผักสด ผักดอง ไว้แนมแกล้ม และที่ขาดไม่ได้คือลูกค้า ซึ่งคอยรุมล้อมร้านนี้อยู่เสมอ บ้างนั่งยองกินที่นี่ บ้างสั่งกลับบ้าน
เรานั่งลงบนเก้าอี้ข้างคนแปลกหน้า สั่งขนมจีนน้ำยาปลากะทิ รอคิวสักพัก เพราะมีคนสั่งกลับบ้าน 20 ชุด พอได้ถ้วยขนมจีน เราไม่รีรอที่จะชิม น้ำยาปลาของแกไม่เหมือนใคร เนื้อปลาแน่นมาก สนนราคาเริ่มต้นเพียง 25 บาท และแน่นอนว่าชามที่ 2 ต้องตามมาติด ๆ เพราะชามแรกหมดอย่างรวดเร็ว เราสั่งน้ำยาหวานมาแก้เผ็ด ทุกวันนี้หากินยาก มื้อนั้นพุงน้อย ๆ ของเราอิ่มท้องด้วยราคาเพียงหลักสิบ
ป.ล. ป้าเอื้อยไม่มีน้ำบริการ อย่าลืมซื้อน้ำติดมือไปด้วยนะ
#05
ลองฟังเพลงโคราชและชมเรือนไม้โบราณข้างลานย่าโม
วนกลับมาที่ลานย่าโม แวะฟังเพลงโคราชสักหน่อย เนื้อหาของเพลงยุคนี้เกี่ยวกับการแก้บน ซึ่งว่ากันว่าตอนที่ย่าโมมีชีวิตชอบฟังเพลงโคราช ผู้คนที่บนบานสำเร็จจะแก้บนด้วยเพลงโคราช แนะนำให้ลองขอดู โดยเฉพาะด้านการงาน ส่วนเพลงโคราชร้องเป็นจังหวะสั้น ๆ ติดต่อกัน ใช้การปรบมือประกอบคำร้อง ไม่มีเครื่องดนตรี ไปนั่งฟังได้เรื่อย ๆ เลย หมอเพลงไม่ว่า แถมชอบที่มีคนสนใจ
ลองหันหลังกลับไปอีกทีจะเจอ ‘เรือนโคราช เฉลิมวัฒนา’ อยากให้ลองไปชมบ้านไม้จากช่างโคราช เป็นเรือนตัวอย่างที่สร้างเลียนแบบเรือนจริงขนาด 1 : 1 พิเศษต่างจากเรือนอีสานตรงมีรางน้ำฝนอยู่กลางระหว่างหลังคาเพื่อทำให้บ้านกว้างขึ้น ผนังไม้ถอดออกได้ ชานบ้านกว้าง และมีการสร้างครัวแยกกับเรือนนอน ซึ่งเป็นความฉลาดของช่างไม้โคราชยุคก่อนที่ออกแบบบ้านให้มีฟังก์ชันไม่เหมือนใคร
#06
ลองจิบชายามบ่ายคู่ซอฟต์สโคนร้อน ๆ ร้าน Sticky willy house
‘Sticky willy house’ คือร้านที่ขายเฉพาะชาแห่งแรกและแห่งเดียวของเมืองเก่าโคราช บ้านน้ำชาหลังนี้ต้องจองล่วงหน้า เพราะเจ้าของร้านอยากมอบความเป็นส่วนตัวและใส่ใจให้แขกผู้มาเยือน
บรรยากาศเหมือนนั่งจิบชาบ้านเพื่อน ได้ทำความรู้จักและพูดคุยกับเจ้าบ้าน วัตถุดิบแต่ละอย่างก็มาจากสมุนไพรและดอกไม้ปลูกเอง บางทีก็มาจากเพื่อนบ้าน อย่างคาโมมายล์จากวังน้ำเขียว
ชาที่นี่มีให้เลือกกว่า 50 ชนิด ทั้งชาสมุนไพร ชาดอกไม้ และชาจากใบชา ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มเย็น ชาหมักหรือคอมบูฉะ (Kombucha) จากกุหลาบผสมบานไม่รู้โรย และกาแฟให้เลือกสั่งด้วย
ส่วนเมนูขนมจะหมุนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามใจคุณแม่นักอบขนม เช่น ซอฟต์สโคนพร้อมแยมสตรอว์เบอร์รีผสมน้ำผึ้ง เค้กแคร์รอต สตรอว์เบอร์รีชีสพาย รวมถึงโอ๊ตมีล กระซิบว่านอกจากชาและขนมอร่อย ๆ ยังมีเสื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติจากแบรนด์ EVERYTHING est OK ให้อุดหนุนติดไม้ติดมือกลับบ้าน
#07
ลองเดินและจับจ่ายสินค้ามือสองสภาพดีในงานคลังแสง
‘คลังแสง’ คืองานที่จัดโดยคนรุ่นใหม่ เป็นตลาดรวมคนในจังหวัดที่สนใจด้านดนตรี เสื้อผ้ามือสอง และสินค้าทำมือ มีกิจกรรมฟรีคอนเสิร์ต จัดที่ชั้นใต้ดินคลังใหม่ ห้างท้องถิ่นของคนโคราช (คลังพลาซ่า สาขาอัษฎางค์ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นห้างอาภาญา) ซึ่งจัดเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น อดีตคลังใหม่เคยเป็นสถานที่รวมตัววัยรุ่นยุค 2000 งานคลังแสงนี้เป็นเหมือนการชุบชีวิตห้างเก่าขึ้นมาให้ครึกครื้น
ที่สำคัญยังเป็นงานที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้งด้วย
ถ้าผู้อ่านหรือคนโคราชมีข้าวของสภาพดี ไม่ใช่แล้ว และอยากแบ่งปันให้เจ้าของใหม่ จองบูทขายของได้นะ ติดตามรายละเอียดได้ในเพจ KLANG SAENG Parking Sale
#08
ลองดูหนังใหม่ในโรงหนังสแตนด์อโลนที่ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ โคราช
โรงหนัง Stand Alone ที่ยังหลงเหลือในเมืองโคราช คือ ‘ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ โคราช’
ที่นี่ยังคงฉายหนังใหม่ชนโรงใหญ่อยู่เสมอ แม้ว่าในตอนนี้จะมีโรงหนังในห้างสรรพสินค้ามากมาย เราชอบมาดูหนังที่นี่ เพราะตั๋วหนังราคาถูกกว่าในห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะวันพุธ ถ้าสมัครสมาชิกแล้วจ่ายเพียง 60 บาทเท่านั้น ส่วนป๊อปคอร์นไม่บังคับว่าจะต้องซื้อหน้าโรงหนังเท่านั้นนะ โรงหนังแห่งนี้อนุญาตให้ซื้อขนมจากข้างนอกเข้าไปกินได้ และเครื่องดื่มที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นอันเพียงพอ
เราอยากชวนเพื่อน ๆ มาอุดหนุนโรงหนังท้องถิ่น เพราะกลัวว่าวันหนึ่งจะหายไปตามกาลเวลา เราเชื่อว่าถ้าลองมาต้องประทับใจ รับรองความคุ้มค่า ราคาบัตรแบ่งเป็นวัน อย่าลืมเช็กข้อมูลหน้าเพจนะ
#09
ลองนั่งทำงาน-อ่านหนังสือในป่าจำลองร้าน 382space
ต้องบอกเลยว่าจริง ๆ ที่นี่คือพื้นที่ปลอดภัยของเรา เพราะเงียบสงบ มีโซนสูบบุหรี่แยกชัดเจน ควันไม่มีทางเข้ามาถึงบริเวณร้าน และระหว่างที่จิบชา-กาแฟก็ไม่มีเสียงดังรบกวน มีเพียงแต่แมลงตัวจิ๋วมาเยี่ยมเยียนบ้างเท่านั้น มาที่นี่แล้วเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกมาอยู่ในป่าจำลอง ขอบอกว่าไม่ได้พูดเกิดจริง
เมนูที่เรามักสั่งคือชา-สโคน คู่กัน เมื่อทั้งสองมาอยู่คู่กับหนังสือสักเล่ม เหมือนเราได้หลุดเข้าไปอาศัยอยู่ในนิตยสารบ้าน อะไรทำนองนั้น เพราะที่นี่สวยจริง ๆ ทั้งตัวบ้านและสวน
เรามักเปรียบเทียบว่าต้นไม้ร้านนี้คือต้นไม้ยุคจูราสสิค เพราะใบไม้ใหญ่มาก ขอย้ำว่ามาก แค่มานั่งเฉย ๆ ความเครียดก็ละลายหายวับ มีแค่เครื่องดื่มกับธรรมชาติเท่านั้นที่อยู่กับเรา ถ้ากำลังมองหาที่นั่งทำงาน ที่นี่เหมาะ เงียบสงบเป็นที่สุด! เราแนะนำให้สมัครสมาชิกนะ เพราะใช้ Reading Room ได้
#10
ลองพายเรือและชมธรรมชาติในสวนสาธารณะบุ่งตาหลัว
มาอยู่โคราชยาว ๆ ก็ต้องออกกำลังกายกันสักหน่อย ว่าแต่ตกเย็นคนโคราชไปไหนกัน
คนรักสุขภาพต้องมาที่ ‘สวนสาธารณะบุ่งตาหลัว’ นอกจากสวยมากแล้ว ยังมีกิจกรรมเดิน วิ่ง เช่าจักรยาน และที่เราชอบมาก คือพายเรือคายัค รับลมและแสงแดดรำไร มีค่าบริการ 50 บาท / ชั่วโมง
หากอยากไปพักผ่อน มองวิวธรรมชาติก็แวะมานั่งเล่นตามจุดต่าง ๆ ของสวนได้ จะชวนเพื่อน ครอบครัว หรือคนพิเศษ นำอาหารมาปิกนิกดูพระอาทิตย์ตกดินในเมืองเก่าแห่งนี้ก็ควรค่ามาก ๆ
#11
ลองกินหมูกระทะอร่อยสุดในประเทศ ร้านสวนหม่อน 30 กันยา
ขอบอกเลยว่าหมูกระทะโคราชอร่อยที่สุดในประเทศ (ไม่ได้อวยแต่อย่างใด)
ทีเด็ดคือทุกร้านตำน้ำจิ้มเองและมีสูตรลับ แทบไม่มีร้านไหนที่ใช้น้ำจิ้มสำเร็จรูป ซึ่งร้านที่เราแนะนำ (มาก) คือ ร้าน ‘สวนหม่อน’ บรรยากาศในร้านไม่แออัด น้ำจิ้มอร่อยมาก รสชาติคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ด เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน ครบรส เครื่องพริก-กระเทียมแน่น มีเนื้อสัมผัสให้เคี้ยว
ใครที่เคร่งเครียดกับงานคงต้องให้หมูกระทะร้านนี้เยียวยาจิตใจ ร้านนี้อาจไม่ใช่ร้านดังในหมู่นักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ แต่เป็นร้านที่คนในพื้นที่ซอย 30 กันยา รู้กันว่าอร่อย บอกเลยว่าแตกต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน และที่นี่ใช้เตาถ่านนะ สั่งเป็นชุด ให้รีบไปก่อน 6 โมงเย็น ไม่งั้นอาจต้องรอคิวยาว ๆ
