ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดนครนายก บ้านเกิดที่เรารัก ขอออกตัวก่อนว่าเราถือพาสปอร์ตกรุงเทพฯ 1 เล่ม และนครนายก 1 เล่ม เพราะใช้ครึ่งชีวิตอยู่แต่ละที่เท่า ๆ กัน แต่ยังไงก็รักนครนายกที่สุด เป็นเมืองที่อยู่แล้วมีความสุข แถมไม่เบื่อ เราว่าที่นี่เหมือนเมืองเหนือที่ไม่หนาว เพราะมีทั้งภูเขา น้ำตก และธรรมชาติ บ้านเมืองน่ารัก ผู้คนใจดี ทีแรกก็เลยว่าจะพรีเซนต์ ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพิษ ตามคำขวัญจังหวัด แต่เนื่องด้วยช่วงนี้คนต่างถิ่นพูดกันหนาหูขึ้นว่า ‘ที่นี่แม่ค้าอินดี้’
กาดอกจันความอินดี้ให้บางสถานที่ของเมืองในฝันใกล้กรุงแห่งนี้ไว้ เพราะถ้ามาแล้วทุกสิ่งเป็นใจ ทุกร้านที่ปักหมุดไว้เปิดทำการ ก็เตรียมซื้อลอตเตอรี่ได้เลย
#01
ลองตื่นเช้าไปเดินเลือกซื้อของเก่า ที่ตลาดนัดวันอาทิตย์วัดพิกุล
ตลาดนัดวัยเด็กที่รบเร้าให้แม่พาไปทุกสุดสัปดาห์ แล้วแม่ก็ต้องคอยย้ำในคืนวันเสาร์ว่าต้องตื่นให้เช้า กินข้าวให้ไว เพราะ 11 โมงตลาดก็วายแล้ว ที่นี่มีทั้งอาหาร เสื้อผ้า ถ้วยชาม ปลาสวยงาม อุปกรณ์ช่าง จนถึงสากกระเบือยันเรือรบ (ของเล่น) โซนที่เรามักตรงดิ่งไปดูก่อนเสมอ คือสะพานข้ามคลองบ้านนา ที่ตั้งของร้านมือสอง พ่อค้าแม่ค้าปูเสื่อขายบนพื้น มีสารพัดของกุ๊กกิ๊ก แว่นกันแดด ถ้วยชาม โคมไฟ ฯลฯ
ร้านอีกประเภทที่เรารัก คือบรรดาร้านของเล่นที่กระจายอยู่ทั่วตลาด เพราะทำให้ได้เจอเพื่อนเก่าอย่างโมเดลโปเกม่อนที่สะสมตอนเด็ก ตุ๊กตาไขลาน และลูกปัดสวย ๆ เพราะมีทุกสิ่งอย่างนี่แหละ วัดพิกุลในวันอาทิตย์จึงคลาคล่ำด้วยผู้คนอยู่เสมอ ทำให้ที่จอดรถหาค่อนข้างยาก ถ้าอยากมา เราแนะนำให้ใช้จักรยานยนต์หรือจักรยาน เพราะรถยนต์เคลื่อนผ่านฝูงชนได้ยากและต้องอ้อมไปจอดไกล
#02
ลองไปหวดลูกขนไก่ ที่สนามแบดมินตันบ้านนา
อดีตหอประชุมอำเภอเก่าและห้องสมุด กลายมาเป็นสนามแบดมินตันใน พ.ศ. 2532
นี่คือสนามแบดร่วมใจที่สมาชิกชมรมแบดมินตันบ้านนาช่วยกันออกเงินปรับปรุงมาเรื่อย ๆ จากอาคารไม้หลังเก่า กลายเป็นอาคารแบดมินตันมาตรฐานที่คับคั่งด้วยมิตรภาพ แม้ที่นี่มีขนาดกะทัดรัดแค่ 2 คอร์ต แต่ลุง ๆ ป้า ๆ สมาชิกบอกว่า “ยินดีต้อนรับนักแบดฯ ขาจรทุกคน” ใครมาใหม่ เสียค่าเหยียบสนามเพียง 30 บาท เข้ามาแนะนำตัว บอกระดับฝีมือ แล้วเล่นได้เลย คนละ 2 เกม แล้วสลับกันให้คนอื่นเล่นบ้าง เพราะคอร์ตมีน้อย เราขอรับรองว่าสนุกมาก เพราะฝีมือลุงป้าสมาชิกชมรมไม่ใช่เล่น ๆ เลยทีเดียว
สนามแบดมินตันบ้านนาเปิดวันจันทร์-เสาร์ หยุดวันอาทิตย์
*ดอกจันความอินดี้* ประตูสนามเปิด-ปิดตามเวลาของผู้ถือกุญแจ ถ้าใครมาก่อนก็เปิดก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเวลา 5 – 6 โมงเย็น เล่นจนกว่าร่างกายจะยอมแพ้ ใครออกคนสุดท้ายก็เป็นคนล็อก
#03
ลองชิมไอติมโบราณ ขวัญใจเด็กนครนายก ที่ร้านไอติมแป๊ะตึ๊ง
ดับร้อนให้ชื่นใจในตึกไม้สีฟ้า ที่นี่คือร้านขายหวานเย็นเจ้าแรกในบ้านนา
ชาวนครนายกรู้จักร้านนี้ในนาม ‘ไอติมแป๊ะตึ๊ง’ หรือไอติมเจ๊กตึ๊ง แต่อันที่จริงร้านนี้มีมาตั้งแต่รุ่นเตี่ย (พ่อ) ของ แป๊ะตึ๊ง แล้ว เป็นตำนานความอร่อยที่เปิดมานานกว่า 100 ปี และเป็นรสชาติที่คุ้นเคยของชาวนครนายกแทบทุกเจเนอเรชัน เพราะคนชอบซื้อไปแจกตามโรงเรียน ใครเรียนที่นี่น่าจะได้กินกันเกือบทุกคน
มองผ่านกระจกตู้แช่มีไอติมแท่งหลากหลายรส รวมถึงไอติมกะทิปั่นหวานหอม ใครอยากซื้อกลับบ้าน ที่ร้านก็จะใช้นวัตกรรมเก็บความเย็นแบบดั้งเดิม คือห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ให้นั่นเอง
#04
ลองพักผ่อนหย่อนใจและนอนกางเต็นท์ ที่สวนคัยวะ
ลานกางเต็นท์ที่จงมาในหน้าน้ำ ย้ำ จงมาในหน้าน้ำ!
หากมาหน้าแล้ง ที่นี่จะเป็นเพียงลานกางเต็นท์ แต่ถ้ามาหน้าน้ำ ที่นี่คือพูลวิลล่าธรรมชาติ เดินออกจากเต็นท์ปุ๊บ เจอน้ำตกกะอางปั๊บ เล่นเช้า เล่นเย็น ใครเป็นสายเดินป่าก็เดินจากที่นี่ไปยังน้ำตกลับ ๆ ที่ชื่อว่า น้ำตกสลัดได ได้ด้วย เหมาะกับการผจญภัยที่ไม่ทรหดมาก ระยะทางไปกลับ 4 กิโลเมตร
ที่นี่เหมาะกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว แถมเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงด้วย ส่วนผู้ใหญ่ไม่ว่าจะสายสังสรรค์ สายทำอาหาร หรือสายไหนก็ใช้พื้นที่นี้รังสรรค์กิจกรรมได้ทั้งสิ้น ถ้าบ้านไหนอยากสนุกคึกครื้น แต่กลัวรบกวนแขกท่านอื่น เราแนะนำให้มาวันธรรมดา เพราะคนน้อยกว่าวันเสาร์-อาทิตย์
ย้ำ! อีกครั้งว่าต้องมาหน้าน้ำ มิฉะนั้นน้ำตกทั้งสองจะกลายร่างเป็นเพียงก้อนหิน
#05
ลองสูดบะหมี่เส้นเล็กหนุบหนับและถั่วงอกกรอบ ๆ ที่บะหมี่เหลียนหัว
อยากจะขอเส้นบะหมี่ร้านนี้ไปให้บะหมี่ทุกร้านบนโลกลวกให้กิน เพราะแค่เส้นบะหมี่ก็อร่อยแล้ว ‘บะหมี่เหลียนหัว’ อยู่ในย่านตลาดเก่านครนายก ตรงข้ามกับโรงเรียนเหลียนหัว บะหมี่เส้นเล็ก ลวกมาพอดี เครื่องก็ให้เยอะ ชนิดว่าที่ต้องกินเส้นน้อย ๆ กินเครื่องเยอะ ๆ จึงจะพอดีกัน อีกอย่างที่เราชอบคือที่นี่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ถั่วงอกอร่อยมาก ต้นยาวและกรอบ เราเองก็เปิดใจให้ถั่วงอกครั้งแรกเพราะที่นี่
#06
ลองชิมขนมครกร้อน ๆ กรอบนอกนุ่มใน ที่ตลาดเก่า
เดินเลยมาจากร้านบะหมี่เหลียนหัวบนถนนเส้นเดียวกัน จะเห็นเต็นท์พับสีเขียว เป็นที่ตั้งของร้านขนมครก คนชอบกินขนมครกอย่างเราขอยกให้เป็นร้านโปรดอันดับ 1 ในดวงใจ เพราะทำสดใหม่ กรอบนอกนุ่มใน รสหวานกำลังดี หอมนัวกะทิ ร้านเปิดตั้งแต่ตี 5 และขายจนกว่าของจะหมด (ประมาณ 10 โมง) เจ้าของร้านขายขนมครกมา 10 ปี เชี่ยวชาญขนมครกหน้าต้นหอม ที่ร้านจึงขายเพียงหน้าเดียว แต่คนกินก็ไม่เคยเบื่อเลย กินบะหมี่เสร็จทีไร ต้องเดินมากินขนมครกต่อทุกที เป็นพิธีกรรมเริ่มต้นเช้าวันดี ๆ
#07
ลองเยี่ยมเสือ นาก หมี และอีเห็น ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 นครนายก
ที่นี่คือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมื่อขับรถเข้ามาด้านในอ่างเก็บน้ำห้วยปรือ นี่คือที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่ากว่า 1,000 ชีวิต เกือบทุกตัวมาอยู่ที่นี่เพราะเป็นสัตว์ที่มีผู้ครอบครองอย่างผิดกฎหมาย บางตัวยังติดคดีอยู่ บางตัวยังปล่อยเข้าป่าไม่ได้เพราะเป็นสัตว์ต่างถิ่น เช่น เจ้าเสือเบงกอล หรือบางตัวก็คุ้นชินกับการมีมนุษย์เลี้ยงดูจนเข้าไปอยู่ในธรรมชาติเองไม่ได้
หลายคนมาที่นี่เพราะอยากดูสัตว์ใหญ่อย่างเสือและหมี แต่สัตว์อื่น ๆ อย่างนาก นก สุนัขจิ้งจอก อีเห็น ก็มีนะ พอสัตว์เยอะก็ต้องกินอาหารเยอะ ทางศูนย์จึงยินดีรับข้าวสาร อาหารสุนัข สารพัดเนื้อ และผักสด ทุกวันเลย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สายบุญควรมาเยือน สายเที่ยวทั้งครอบครัวก็น่ามาเยี่ยมชม
#08
ลองเดินข้ามคันนาไปชมโบสถ์เก่า ที่วัดป่ากระทุ่ม อายุกว่า 200 ปี
ใครขับรถมาเย็น ๆ ผ่านถนนเส้นรังสิต-นครนายก ให้สังเกตสะพานสีม่วง พ่อเรามักเรียกว่า สะพานม่วงพอดี (เพราะมีขนาดแค่พอดีรถผ่านทีละคันเท่านั้น) เมื่อเลี้ยวเข้ามา กะพริบตา 3 ทีก็จะพบสระบัวในทุ่งนา มีสะพานไม้ไผ่ทอดไปยังโบสถ์เก่าที่มีต้นไม้สีเขียวขึ้นปกคลุม เดิมทีที่นี่คือโบสถ์ของวัดธรรมปัญญา แต่ในอดีตน้ำท่วมบ่อย ทางวัดจึงย้ายไปปักหลักอยู่บริเวณข้าง ๆ แทน มีเพียงโบสถ์หลังนี้ที่ยังคงอยู่ที่เดิม ปัจจุบันยังมีพระพุทธรูปให้สักการะ ใครผ่านมาเย็น ๆ แวะดูพระอาทิตย์ตกได้ด้วยนะ
#09
ลองข้ามสะพานแม่น้ำนครนายกไปซื้อของฝาก ที่อั๊งกิมเส็ง
อีกหนึ่งร้านในตำนาน นอกจากไอติมและโบสถ์ ก็มีสูตรกุนเชียงหมูหย็องร้าน ‘อั๊งกิมเส็ง’ ที่อายุเหยียบร้อยปี มีอาม่าวัย 88 คอยต้อนรับ เตี่ยของอาม่าเป็นคนคิดสูตร มีหลานม่าเป็นผู้ช่วย ควรค่าแก่การซื้อฝากยิ่งนัก และไม่ว่าจะกลับเช้าหรือเย็นก็ซื้อได้ เพราะที่นี่เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า ปิด 6 โมงเย็น
*ดอกจันความอินดี้* เวลาทำการ เปิด 6 โมงเช้า ปิด 6 โมงเย็น เป็นเพียงเวลาทำการแบบอุดมคติ นอกจากต้องลุ้นว่าจะเจออาม่าไหม ยังต้องลุ้นด้วยว่าจะเจอกุนเชียงหมูหย็องไหม ฮ่า ๆ เพราะบางวันตอนเย็นก็มีคนมาเหมาของไปหมด และเช้าวันต่อมาก็จะยังทำของขึ้นตู้ไม่ทัน แต่แวะมากันเถอะ
#10
ลองเดินเล่นชิลล์ ๆ ให้เลือดสูบฉีด ที่ริมแม่น้ำนครนายก
แดดร่มลมตกแล้วออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำนครนายกกัน จะเริ่มเดินจากทางสะพานนครนายกหรือเริ่มเดินจากท้ายซอยธนาคารกรุงไทย สาขานครนายก ก็ได้ ทางเดินทอดตามแม่น้ำสายเก่าที่คดเคี้ยว ติดกับประตูหลากสีของบ้านริมน้ำ เดินเพลิน ๆ ได้ระยะทางประมาณ 400 เมตร ใกล้ ๆ กันมีถนนคนเดินสวนหลวง ร.9 หรือที่คนนครนายกเรียกว่าตลาดโต้รุ่งด้วย พอเดินเสร็จก็ไปซื้ออาหารเย็นทานต่อได้ ขอป้ายยาถนนสายนี้เล็กน้อยว่าคะแนนเฉลี่ยของรสชาติอาหารสูงมาก เข้าร้านไหนก็อร่อย รสชาติมาตรฐาน
