‘ลองStay’ เป็นคอลัมน์ใหม่บนเว็บก้อนเมฆ ที่พวกเราไป ลอง-Stay ระยะสั้นในเมืองที่อยากอยู่ระยะยาว

เมืองแรกเราเลือก ‘เชียงใหม่’ หมุดหมายของคนไทยและนักเดินทางทั่วโลก รวมถึงกลุ่ม Digital Nomad ที่โหวตให้ดินแดนล้านนาแห่งนี้เป็นแลนด์ในใจมาเกือบ 20 ปี และเชียงใหม่ก็ติดอันดับ 6 สถานที่ที่ดีที่สุด (จากทั่วโลก) ในการใช้ชีวิตสำหรับชาวโนแมด จัดอันดับโดยเว็บไซต์ Nomad List อภิมหาคลังข้อมูลของโนแมด

เรารวมอยู่ในกลุ่มแรกที่ว่า ไม่ได้เกิดที่นั่น แต่เรียนมหาวิทยาลัยที่นั่น แวะเวียนไปมากรุงเทพฯ – เชียงใหม่ อยู่เสมอ และเชียงใหม่ก็มีส่วนทำให้เราเติบโตในหลายมิติของชีวิต (ขอบคุณหน้าที่การงานด้วยรัว ๆ) หลายครั้งเราไป ลองStay แบบ Long-Stay จนอยากแนะนำให้คุณไป ‘ลอง’ ในสิ่งที่เรา ‘ลอง’ สำรวจและทำความรู้จักจังหวัดนี้ฉบับไม่มีคาเฟ่ เน้นกิน-อยู่ในเมือง ย่านท่าแพ ย่านช้างม่อย ย่านพระสิงห์ ลามไปย่านเจริญเมือง นิดหน่อย

นี่คือ ลองStay 12 สิ่งที่อยากให้คุณ ‘ลอง’ แนะนำโดยคนเชียงใหม่ at Heart (อย่างเรา)

#01
ลองกินลาบหมูคั่ว ณ วิถีลาบ เจริญเมือง

ลาบหมูคั่วเป็นเมนูที่เรามักตี้สุดในบรรดาอาหารเมือง ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองกินลาบที่โฮงลาบแห่งนี้ นอกจากรสชาติดีและกลิ่นพริกลาบคั่วหอม ๆ แล้ว (ร้านทำเอง) ลาบที่นี่การันตีโดยสล่าลาบมือรางวัล จากการแข่งขันการทำลาบพื้นเมืองจากงานมหกรรมลาบเมือง (เชียงใหม่) และงานมหกรรมลาบชาวเขียงเมืองป่าซาง (ลำพูน) ระหว่างปั้นข้าวนึ่งจิ้มลาบแนมผักแพว ที่นี่มีดนตรีสดเพราะ ๆ คลอบรรยากาศ ระวังติดลมหากซดเครื่องดื่มสีอำพัน ถ้าลองกินลาบควายดิบของที่นี่ เลเวลลาบจะอัปรัว ๆ

เราขอแบ่งปันพิกัดร้านลาบที่ชอบให้คุณเป็นตัวเลือกในการลิ้มลอง หนึ่ง ร้านลาบศรจันทร์ (ใกล้แมคโดนัลด์ท่าแพ) เปิดมานานกว่า 70 ปี ลำขนาดจนน้ำหูน้ำตาไหล สอง ฮ้านถึงเจียงใหม่ ลาบรสชาติคนเมียงถูกปากคนเมือง สาม ร้านลาบขมลมโชย และ สี่ ร้านลาบต้นข่อย สำหรับคนใจถึง ต้องลองลาบควายดิบหวาน ๆ เนื้อเนียนละเอียดเด้งดึ๋ง (แนะนำให้ตื่นเช้าไปรับคิวหน้าร้าน เพราะคนเยอะมาก ร้านเปิดถึงบ่ายเท่านั้น)

ป.ล. ในภาพคือลาบร้านลาบศรจันทร์นะ ลาบร้านวิถีลาบฯ ถ่ายไม่ทันจริง ๆ ลงโต๊ะปุ๊ป กระพริบตาสองสามที เกลี้ยงเลย สุมาเต๊อะเจ้า

#02
ลองกินไอศกรีมวานิลลากล้วยทอดที่ Sandwich Bar

เรายกให้เป็นเมนูไอศกรีมโปะกล้วยทอดที่รสเลิศติดอันดับ เหนือไอศกรีมมีครีมสีขาวโปะมาอีกที คล้ายวิปครีม เดาว่าทางร้านทำเอง กิน 3 อย่างพร้อมกันอร่อยตาพริ้มเลย ที่เราแนะนำร้านนี้เพราะไม่ได้มีดีแค่อาหารรสดั้งเดิม แต่อยากให้สัมผัสบรรยากาศร้านเก่าแก่อายุมากกว่า 50 ปีของเชียงใหม่ ร้านนี้เคยปรุงอาหารเสิร์ฟให้ทหารจีไอ ตอนนี้เจ้าของร้านอายุเข้าเลข 7 ยังเดินเข้าครัวสลับกับรับลูกค้าคล่องปร๋อ ลองนั่งโต๊ะด้านในห้องที่เบาะนั่งตัวยาวบุผ้านะ คลาสสิกมาก

ที่นี่ขายอาหารไทยและตะวันตก เปิดตั้งแต่เช้าตรู่ยัน 3 ทุ่ม พิกัดคูเมืองด้านใน ร้านอยู่ติดริมถนนเลย

#03
ลองเดินเล่นย่านช้างม่อย-ท่าแพ

นี่คือวิธีเดินทางที่ประหยัดที่สุด ไม่เสียสตางค์ ได้สุขภาพและเหงื่อเป็นกระบุง ที่เราอยากให้คุณลองเดินก็เพราะว่าการเดินทำให้สังเกตสิ่งรอบตัวมากขึ้น เข้าใจบริบท-วิถีของผู้คนย่านนั้น ยิ่งมีซอกซอยยิ่งเดินสนุกนะ เราเจอร้านใหม่มากมายก็จากการเดินนี่แหละ เราเริ่มเดินจากย่านที่ชอบก่อน แล้วค่อย ๆ ขยับไปสำรวจย่านใหม่ ระวังหลงด้วย กูเกิลแมปต้องพร้อม ข้อดีของย่านช้างม่อย-ท่าแพ คือเดินง่าย ซอยทะลุถึงกันได้ มีอาคารเก่าและชื่อร้านเก๋ ๆ ให้หยุดดูระหว่างเดิน แนะนำให้เดินจากฝั่งช้างม่อยก่อน เดินตรงขึ้นไปเรื่อย ๆ ทางกาดหลวง (ตลาดวโรรส) แวะเดินกาดพอหอมปากหอมคอ แล้วเดินทะลุมาทางถนนท่าแพ เดินตรงมุ่งหน้าไปทางประตูท่าแพ

ความสนุกอีกอย่าง ระหว่างเดินจะเห็นเสน่ห์ชุมชน ผู้คนและร้านน่ารัก ๆ ขอมอบภารกิจตามหาร้านไอศกรีมโฮมเมด Lyke&Lia ไปเดินหาเองนะ รับรองคุ้มเหนื่อย ส่วนย่านอื่นที่น่าเดิน คือย่านนิมมาน (แนะนำมือใหม่) ย่านสามกษัตริย์ ย่านพระสิงห์ ย่านล่ามช้าง, ส่วนอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ คือ ขา! (ฮา) จริง ๆ คือ หมวกและน้ำดื่ม

#04
ลองนั่งสามล้อถีบ

ไม่ต้องนั่งไปไหนไกล วนรอบท่าแพ หรือลัดเลาะกาดหลวงสักรอบ สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่ความสบายบนเบาะนุ่ม ๆ แต่เป็นสารพัดเรื่องราวที่คุณจะคาดไม่ถึงจากนักถีบสามล้อรุ่นเดอะ และเขาผู้นี้แหละคือไกด์นำเที่ยวชั้นดี, คุณลุงในภาพ คือ ลุงดำ หนุ่มสุโขทัยที่โยกย้ายถิ่นฐานมาทำงานในเชียงใหม่ตั้งแต่อายุ 17 เลือกอาชีพสามล้อถีบ เพราะอิสระ แถมได้ออกกำลังกาย ลุงดำบอกว่ารถของลุงต้องสีแดงแจ่ม ๆ เท่านั้น นักท่องเที่ยวถึงอยากนั่ง

#05
ลองพายซัพบอร์ดล่องแม่น้ำปิง

สำรวจเมืองเชียงใหม่ผ่านสายน้ำ แค่กึ๊ดก็ม่วน! เดินชมเมืองก็แล้ว ขับรถชมเมืองก็แล้ว พายซัพบอร์ดเป็นอีกทางเลือกให้ลองมองเมืองอีกมุม เราจะเห็นวิถีชีวิตผู้คนริมน้ำปิง และสถานที่สำคัญ ๆ ของเชียงใหม่ ตั้งแต่โบสถ์แห่งแรกยันสถานที่ถ่ายหนังฮอลลีวูด และเป็นกิจกรรมทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ถ้าอยากลองพายซัพบอร์ดล่องแม่ปิง ติดต่อเพจ Ban Narai River Guesthouse นะ ถึงไม่ได้เป็นแขกเข้าพักที่นี่ ก็จองบริการพายซัพบอร์ดได้เช่นกัน

#06
ลองวิ่งที่สนามกีฬากลาง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อีกหนึ่งสถานที่ออกกำลังกายกลางมหาลัย ที่นี่มีลู่วิ่ง 9 ลู่ ระยะทาง 400 เมตร เปิดทุกวันตั้งแต่ตี 5 ถึง 3 ทุ่ม คนทั่วไปมาใช้ได้ เป็นการวิ่งที่วิวดีมาก ฉากหลังเป็นภูเขาและพระธาตุดอยสุเทพ ช่วงเย็นคนวิ่งกันเยอะ ครึกครื้นหน่อย นอกจากสนามกีฬากลาง ในมหาลัยก็มีเส้นทางวิ่งหลายรูต รอบอ่างตาดชมพู รอบอ่างแก้ว รอบสนามรักบี้หน้ามหาลัย หรือจะวิ่งรอบมหาลัยก็ได้ จัดเต็มแข้งกับระยะทาง 7 กิโลนิด ๆ

#07
ลองตามหาหนังสือ ใน The Lost Book Shop

นี่เป็นร้านขายหนังสือภาษาอังกฤษมือสอง พิกัดย่านพระสิงห์ เปิดมาตั้งแต่ปี 1993 มีหนังสือหลายหมวด สิ่งที่เราชอบมากของที่นี่ คือค้นหนังสือแล้วไม่จามฝุ่น ปกติเวลาไปร้านหนังสือมือสองที่มีกองหนังสือภูเขา จะฮัดเช้ยทุกที แถมนิ้วดำในบางครั้ง แต่ที่นี่เป็นห้อง 2 คูหา อากาศถ่ายเทสะดวก จัดหมวดหมู่หนังสือดี หาง่าย หยิบจับรื้อมาพิจารณาก่อนซื้อก็ง่าย เราเป็นสาวกหนังสือเด็ก อินมาก รอบล่าสุดได้หนังสือของ Maira Kalman มา กลับมาบ้านเพื่อค้นพบว่าเราก็มีหนังสือของคุณนักเขียนคนนี้อยู่ 2 เล่ม เป็นความบังเอิญที่สนุกดี เพราะหนังสือจากหลายทิศโคจรมาเจอกัน

จริง ๆ เชียงใหม่มีร้านหนังสือมือสองหลายที่ ขอชี้พิกัดร้านที่เราชอบให้ลองไปค้นหนังสือที่ชอบกันดูนะ – Shaman Bookshop, GEKKO Books, On The Road Books, Time’s Books & Etc. และ Baka Nok (ขายเฉพาะหนังสือเด็ก) แต่ละที่คาแรกเตอร์ไม่เหมือนกันเลย นี่แหละเสน่ห์

#08
ลองทำงานในห้องสมุด Kalm Village

สาวกคนรักงานต้องชอบที่นี่ Kalm Village เป็นหมู่บ้านแห่งภูมิปัญญา อยู่สุดซอยพระปกเกล้า 4 ตำบลพระสิงห์ มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีบ้านหลังเล็ก ๆ กระจายกันอยู่ แต่ละหลังทำหน้าที่แตกต่างกัน บ้านหลังในสุดซ้ายมือเป็นคาเฟ่ ด้านบนเป็นห้องสมุด เหมาะแก่การนั่งทำงานเพราะสงบมาก คนน้อย โปร่งโล่ง แสงแดดส่องถึง มีชุดโต๊ะเก้าอี้และบีนแบ็กให้ทิ้งตัว สั่งเครื่องดื่มจากคาเฟ่มาซดให้ตาสว่างระหว่างวันได้ ส่วนคนรักงานคราฟต์แวบมาหาข้อมูล / อ่านหนังสือเกี่ยวกับงานออกแบบหรืองานหัตถกรรม ฟรีนะ

เมนูคาเฟ่ที่อยากให้ลอง คือชามะกล่ำเครือ หาทานยาก แม้จิบแรกจะหน้าเหยเก แต่รสหวานชุ่มคอ ทำให้อยากสั่งทุกครั้งที่มา กระซิบดัง ๆ

ว่าช่วงเย็นที่หน้าปากซอยพระปกเกล้า 4 มีร้านของย่างเสียบไม้ มีทั้งเมนูหมู-ไก่ ราคาไม้ละ 5 – 10 บาท อร่อยจนหยุดไม่อยู่

#09
ลองนวดแผนไทยที่ลีลานวดไท

อย่าเพิ่งโอย แม้เป็นกิจกรรมเบสิกที่ทำที่ไหนก็ได้ก็ตาม ฮ่า ๆ ร้านที่อยากให้ลองไปนวด คือ ลีลานวดไท ร้านนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนอาชีพของผู้หญิงอดีตผู้ต้องขังจากทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ที่นี่มีการแบ่งรายได้อย่างเป็นธรรม และลีลานวดไทมีหลายสาขากระจายทั่วเมือง เลือกสาขาที่สะดวกและบริการที่ชอบ มีให้เลือกเยอะมาก เท้าจรดหัว หัวจรดเท้า พี่ ๆ หมอนวดบริการดีเยี่ยม หนัก-เบา จัดให้หมด บรรยากาศผ่อนคลาย เราไม่รู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อยเมื่อมาใช้บริการที่นี่

ถ้ามีเวลาลองนวดสัก 2 ชั่วโมงนะ รับรองสบายตัว

#10
ลองนอนกับ Thapae Happy House

โรงแรมนี้ดูแลโดย ลุงไข่ วัยหลัก 6 คุยสนุก อดีตเคยทำงานจิตวิทยา (ตอนกลางวัน) บาร์เทนเดอร์ (ตอนกลางคืน) ปัจจุบันเสิร์ฟเครื่องดื่มและดูแลนักเดินทางจากทั่วโลก บรรยากาศเป็นกันเอง พื้นที่ส่วนกลางกว้างขวาง นอน-นั่งสบาย ลมโกรกเช้า-เย็น ทำเลของโรงแรมอยู่ใกล้ประตูท่าแพ ในซอยเต็มไปด้วยร้านอร่อยตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอย มีกวยจั๊บชามละ 30 บาท ยันบาร์ค็อกเทลสุดเก๋ ถ้าคุณพอนึกภาพร้านขายเครื่องหวายสุดฮิตออก ที่พักแห่งนี้อยู่ในซอยตรงกันข้าม เดินข้ามฝั่งเข้ามาในซอย เจอเลย!

ที่นี่มีห้องหลายรูปแบบ รองรับตั้งแต่ Solo Traveler ยันกลุ่มเพื่อนและครอบครัว มีบริการห้องพักแบบรายสัปดาห์และรายเดือน เหมาะกับคนอยากเปลี่ยนสถานที่ทำงานและหมู่เฮาชาวดิจิทัลโนแมด อ้อ ที่นี่ไม่มีลิฟต์ เดินขึ้นบันไดเท่านั้น ความสูงระยะ 5 ชั้น บริหารขาดีมาก

โรงแรมไม่มีอาหารเช้าบริการ แต่ไม่ต้องห่วง ตื่นเช้า ๆ มากินกวยจั๊บชามร้อนที่ น.ก๋วยจั๊บ เดินไปจิบกาแฟต่อที่ Brewginning มื้อสายจัดอาหารวีแกนที่ May Kaidee x Morning Glory ตกเย็นกินอาหารฝรั่งที่ Pulcinella da Stefano และปิดจบค่ำดื่นด้วยบาร์วัยกลางคนที่ Midlife Crisis หรือจะใช้บริการบาร์เทนเดอร์ลุงไข่ก็ได้ แนะนำให้สั่งม็อกเทล ตอนแดดจ้า ชื่นใจตี้สุด

#11
ลองซื้อของฝากคัดสรรอย่างดีจาก Enough for Life

ร้านนี้เรารู้จักตั้งแต่สมัยเรียน เจ้าของเป็นคู่รักชาวไทยและเกาหลี (คุณภรรยาเป็นดีไซเนอร์แดนกิมจิ) เดิมทีนู้นเสิร์ฟอาหารสโลว์ฟู้ด พ่วงขายของกระจุกกระจิกน่ารัก แนะนำให้ไปที่สาขาบ้านข้างวัด เป็นป๊อปอัปขนาดกะทัดรัด ขายสินค้าทำมือ ผลิตจากชุมชนที่เขาและเธอคัดสรรอย่างดีจากการเดินทางทั่วท้องถิ่นไทย เช่น ช้อนส้อมหอยมุกแกะสลัก ผ้าทอมือผืนน้อย ผลิตภัณฑ์ไม้สัก ฯลฯ ขอบอกว่าเป็นหัตถกรรมที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน มีกลิ่นอายเกาหลีซารางเฮสุด ๆ เหมือนที่เคยเห็นในอินสตาแกรมของคนเกาหลีที่ชอบแต่งบ้าน-แต่งห้อง โคซี่เหลือเกิน ที่สำคัญราคาเป็นมิตร

#12
ลองแวะร้านแสตมป์ลุงหน่อย

นั่นไม่ใช่ประโยคคำสั่งหรือขอร้อง แต่เจ้าของร้านชื่อ ลุงหน่อย ร้านนี้ลุงหน่อยเปิดมาสนองนี้ดตัวเองล้วน ๆ แกชอบซื้อ-ขาย-สะสมแสตมป์ ชื่นชอบ สตาร์วอส์ มาก ๆ มีตั้งแต่ฟิกเกอร์ โปสเตอร์หนัง และสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับ สตาร์วอส์ ที่ฉีกมาจากนิตยสารอีกที ความพิเศษของร้านนี้ยกให้แสตมป์จากไทยและเทศ มีให้เลือกตั้งแต่ยุคเก่ามากจนถึงยุคปัจจุบัน ความน่าฮักขนาดเลย คือทุกซองบรรจุแสตมป์ที่ลุงหน่อยขาย จะมีแผ่นกระดาษพร้อมข้อมูลของสแตมป์คร่าว ๆ ที่ลุงหน่อยเขียนเอง เห็นแล้วใจฟูมาก

อยากดูแสตมป์แบบไหน บอกลุงหน่อยได้เลย เรานั่งเลือกเป็นชั่วโมง แต่รู้จักลุงหน่อยมากขึ้นจากการคุยกัน กันเองมาก แถมพาแนะนำมุมเล็ก ๆ ในร้านที่เป็นกึ่งมิวเซียม มีโปสเตอร์-สูจิบัตรนิทรรศการศิลปะ (แกเรียนจบด้านศิลปะ) และแสตมป์ชุด หลายครั้งเราแวะมาเลือกแสตมป์-โปสต์การ์ดเป็นของฝากให้ตัวเองและคนที่นึกถึง เรารู้สึกว่าการมีของติดไม้ติดมือกลับบ้าน (บ้าง) ช่างเป็นบันทึกการเดินทางระยะสั้นของเราที่มีความหมายและคุณค่ามาก ๆ ในระยะยาว

ร้านอยู่ข้างวิมลท่าแพ สังเกตบ้านที่มีต้นไม้-ดอกไม้เยอะ ๆ และมีบอร์ดเล่าประวัติศาสตร์เชียงใหม่ติดอยู่ ภาพคุ้นตาคือช่วงเย็นแกจะยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าร้าน

แอ่วหื้อม่วน ๆ เน้อเจ้า

Writer & Photographer

สุทธิดา อุ่นจิต

สุทธิดา อุ่นจิต

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ สู่ ลาดพร้าว - สุขุมวิท , พูดภาษาพม่าได้นิดหน่อย เป็นนักสะสมกระเป๋าผ้า ชอบหวานน้อยแต่มักได้หวานมาก