The Cloud x TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง
ใคร ๆ ก็บอกว่าจังหวัดลำปางเป็นเมืองทางผ่าน
ที่จริงเมืองรองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ในอดีตเป็นหัวเมืองทางการค้าที่สำคัญของอาณาจักรล้านนา มีชื่อเรียกอย่างหลากหลาย ตั้งแต่กุกกุฏนคร เขลางค์นคร อาลัมพางนคร เวียงลคอร (คนพื้นถิ่นออกเสียง เวียงละกอน) นครลำปาง จนปัจจุบันถ้าเอ่ยว่า ‘เมืองรถม้า’ เป็นร้องอ๋อทุกคน เรียงนามเหล่านี้ล้วนสัมพันธ์กับของขึ้นชื่อและเอกลักษณ์ของที่นี่
จึงอยากจวนหมู่เปื้อน ปี้ น้อง เก็บกระเป๋า หมุนย้อนเวลาแอ่วนครลำปางกับ 10 สถานที่ใหม่นอกลิสต์นักท่องเที่ยว ซึ่งเก็บประวัติศาสตร์เก่าและเล่าเรื่องเมืองลำปางในอดีตจากวิถีชีวิตคนท้องถิ่นแต๊ ๆ ทั้งที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อย่างอดีตบ้านเก่าที่แปลงโฉมเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม สะท้อนความหลังนับร้อยปีผ่านสถาปัตยกรรมและอารยธรรมล้านนาอย่างลึกซึ้ง ก่อนสวมบทบาทช่างฝีมือจาวเหนือ ลงมือวาดชามตราไก่ ไปเรียนวิชาตีเกือกม้า ชิมนมแพะสด ๆ จากแหล่งเลี้ยง จนถึงขึ้นดอยพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติท่ามกลางไร่กาแฟออร์แกนิกที่ตั้งใจรักษาป่าไม้ไปพร้อมกัน
01
ธนบดีเซรามิค
พิพิธภัณฑ์ต้นกำเนิดโรงงานชามตราไก่แห่งแรกในลำปาง
ของขึ้นชื่อในกุกกุฏนคร หรือเมืองไก่ขัน คือถ้วยตราไก่และเครื่องเซรามิกทั้งหลาย ด้วยภูมิประเทศที่มากด้วยแร่ดินขาว วัตถุดิบชั้นยอดสำหรับขึ้นรูปเครื่องปั้น แต่ขอบอกก่อนเลยว่า ไก่ขาวในตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดกับไก่แจ้ตัวอวบบนถ้วยไม่ใช่ตัวเดียวกันนะ
ชามตราไก่เกิดขึ้นในเมืองจีน เดินทางเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อนค่อย ๆ หายสาบสูญไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นเมื่อ พ.ศ. 2540 ทายาทรุ่นสองของธนบดีเซรามิค ตั้งโรงงานทำชามตราไก่แห่งแรกในลำปางขึ้น ต่อยอดจากโรงงานธนบดีสกุลที่ก่อตั้งโดยบรรพบุรุษใน พ.ศ. 2508 ผลิตถ้วยขนมหรือถ้วยตะไลแห่งแรกในประเทศไทย
ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 55 ปีและยังคืนชีวิตให้เมืองไก่ขาวกลายเป็นเมืองเซรามิกขึ้นชื่อ ธนบดีเซรามิคจึงแบ่งพื้นที่บ้านเก่าของครอบครัว ทำพิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องราวความเป็นมาของชามตราไก่และโรงงานธนบดีสกุล มีให้ชมทั้งชามตราไก่รุ่นแรก ชามตราไก่เล็กจิ๋วขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร เตาเผาเก่าแก่ที่สุดในเมืองลำปาง และถ้าใครพอมีเวลา รอดูพี่ ๆ ช่างปั้นและช่างวาดสาธิตวิธีทำชามตราไก่ให้ชม แถมยังเพนต์เซรามิกลวดลายของตัวเองได้ด้วยนะ
ส่วนข้างกันมี Dhanabadee Outlet เซรามิกดีไซน์เก๋ร่วมสมัยที่ต่อยอดจากชามตราไก่ให้เลือกช้อป ตั้งแต่แจกัน จาน ถ้วย ที่รองแก้ว ของแต่งบ้านสวย ๆ เพียบ ที่พลาดไม่ได้คือชามไก่ เพราะที่นี่เขาคงลักษณะพิเศษชามไก่แบบต้นตำรับโบราณ ที่ลวดลายมีคอและลำตัวสีส้ม หางและขาสีดำ เดินบนหญ้าสีเขียว รอบ ๆ แซมด้วยดอกเบญจมาศสีชมพูอมม่วง ส่วนก้นชามด้านในมีดอกไม้และใบไม้เล็ก ๆ แต้ม และแน่นอนว่าวาดมือทุกใบ
ที่ตั้ง : 32 ถนนวัดจองคำ พระบาท ซอย 1 ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
วัน-เวลา : ทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.
โทรศัพท์ : 06 1273 3344
Facebook : มิวเซียมธนบดี
02
บ้านม้าท่าน้ำ
เกือกม้าทำมือโดยช่างคนสุดท้ายในลำปาง
ม้าเคยเป็นพาหนะยอดนิยมของชาวลำปางมากว่าร้อยปี เมื่อความเจริญและถนนคอนกรีตเข้ามา ทำให้เท้าของม้าที่ชินกับทางดินได้รับบาดเจ็บ การสวมเกือกให้ม้าจึงเกิดขึ้น
แรก ๆ มีการนำเข้าเกือกม้าจากอังกฤษ ก่อนช่างฝีมือชาวบ้านจะคิดค้นและตกตะกอนผ่านภูมิปัญญาการทำค้อน ที่กว่าจะได้เกือกม้าแต่ละชิ้น ต้องลงแรงเผา ทุบ เคาะ เจาะ กันถึง 10 ขั้นตอนเลยทีเดียว เพราะต้องทำให้หนา แข็งแรง ทนทาน โค้งรับพอเหมาะกับรูปทรงเท้า สวมกระชับและดีต่อสุขภาพม้าเป็นสำคัญ
ปัจจุบันมีเพียง บั้ม-ว่าที่ร้อยเอกสุพจน์ ใจรวมกูล ที่ยังเป็นช่างตีเกือกม้าลากรถคนสุดท้ายของจังหวัดลำปาง เขาเปิด ‘บ้านม้าท่าน้ำ’ เป็นแหล่งเรียนเรียนรู้ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับวิถีชีวิตคนเลี้ยงม้า สารถี ศิลปะการฟ้อนดาบ ฟ้อนเชิง ให้เยี่ยมชมพร้อมเวิร์กช็อปวิชาการตีเกือกม้า และยังทำส่งขาย สำหรับผู้ที่ตั้งใจอยากมาเรียนจริงจังไปประกอบอาชีพ เขาก็ยินดีเผยแพร่องค์ความรู้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งหมดไม่ใช่แค่เพื่อรักษามรดกทางภูมิปัญญา แต่ตั้งใจจุดประกายการอนุรักษ์วิถีชีวิตท้องถิ่นต่อไปยังคนรุ่นใหม่
หากนั่งรถม้าแล้วชอบใจ อยากทดลองเป็นสารถีเอง หรือพูดคุยเรื่องการดูโฉลกม้าตามความเชื่อของคนเลี้ยงม้าสมัยโบราณก็แวะไปที่บ้านม้าท่าน้ำ
ที่ตั้ง : 210/1 ถนนป่าไม้ ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
วัน-เวลา : ทุกวัน เวลา 09.00 – 20.00 น.
โทรศัพท์ : 08 6658 6198
Facebook : เที่ยวลำปาง นั่งรถม้า กับ บ้านม้าท่าน้ำ Lampang Travel By Barn Ma Tha Nam
03
บ้านพระยาสุเรนทร์ บาย มาดามมูเซอร์
ร้านอาหารในอดีตจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางคนแรก
ความเฟื่องฟูในยุคสัมปทานป่าไม้ ทำให้นครลำปางรุ่มรวยด้วยเฮือนโบราณ และการค้าขายกับหลากประเทศนำพาสถาปัตยกรรมตะวันตกให้เกิดขึ้นอย่างเสรี หนึ่งในนั้นคือ บ้านพระยาสุเรนทร์
ขอพาไปลิ้มรสสารพัดเมนูอาหารไทยชาววังและอาหารไทยต้นตำรับรสเลิศเคล้าประวัติศาสตร์และบรรยากาศ บ้านสไตล์โคโลเนียลที่มีหลังคาทรงปั้นหยา พร้อมมีมุขยื่นหกเหลี่ยมและระเบียงกว้างตามขนบนิยมสมัยสมัยนั้น
อดีตจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางคนแรก มหาอำมาตย์ตรี พระยาสุเรนทรราชเสนา (เจิม จารุจินดา) แห่งนี้ ได้รับการชุบชีวิตราวกลับได้ย้อนไปเห็นบรรยากาศชีวิตแบบฝาหรั่งยุคสัมปทานป่าไม้ โดยชั้นล่างมีห้องรับรองแสนโก้หรูสไตล์วิกตอเรียน พร้อมค็อกเทลบาร์บรรยากาศแบบทรอปิคัล ชั้นสองเป็นห้องรับรองหกเหลี่ยมกึ่งห้องสมุดและแกลเลอรี่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ
ส่วนด้านนอกมีห้องอาหารกลาสเฮาส์ไว้ให้จิบชายามบ่าย ท่ามกลางสวนกุหลาบสไตล์อังกฤษ และอีกจุดไฮไลต์ โคมไฟสนามสมัย ค.ศ. 1903 จากเมืองผู้ดี
ไม่ว่าจะสั่งหมี่กะทิโบราณ ข้าวผัดน้ำพริกมะขามกุ้งย่าง แกงจืดลูกเงาะ แกงเผ็ดเป็ดย่างสูตรพิเศษ ก็อย่าลืมสั่ง ‘หลงเปิ้น หลงตั๋ว’ ชามอนซูนลิ้นจี่อู่หลงเติมความซาบซ่านจากรสมะนาวกับสะระแหน่มาดับกระหาย
ที่ตั้ง : 20 ถนนสุเรนทร์ ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
วัน-เวลา : วันพุธ-วันจันทร์ เวลา 10.00 – 21.00 น.
โทรศัพท์ : 08 9111 4305
Facebook : Baan Phraya Suren by Madame Musur
04
หม่องโง่ยซิ่น
คาเฟ่เรือนขนมปังขิงอายุ 113 ปี
อีกหนึ่งอาคารสง่างามในยุครุ่งเรืองจากการค้าไม้ ตั้งโดดเด่นใน ‘กาดกองต้า’ ถนนคนเดินริมแม่น้ำวัง อดีตเคยเป็นทำเลทองและได้ชื่อว่าเป็น ‘ตลาดจีน’
หม่องโง่ยซิ่น เป็นคาเฟ่เรือนแถว 5 คูหา อาคารขนมปังขิงหลังคาทรงมะนิลาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2451 เดิมทีเป็นบ้านและสำนักงานบริษัทของหม่องส่วยอัตถ์ เฮดแมนคนแรกในไทยของบอมเบย์เบอร์มาร์ บริษัทสัมปทานป่าไม้รายใหญ่ของอังกฤษ
อาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ สะท้อนทักษะฝีมือเชิงช่างและความคิดสร้างสรรค์ของสถาปนิกยุครัชกาลที่ 5 ผ่านลวดลายฉลุไม้พลิ้วไหว อาทิ ลายพันธุ์พฤกษา ลายก้านขด ลายประดิษฐ์ ลายสัตว์ และยังใช้ฝ้าดีบุกอัดลายแห่งเดียวในไทย ออกแบบและควบคุมการสร้างโดยช่างหลวงจากเมืองมัณฑะเลย์
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจตกต่ำ อาคารหลังงามกลายเป็นเพียงโกดังเก็บวัสดุก่อสร้าง ก่อนได้รับการปัดฝุ่นอย่างดี เก็บกลิ่นอายอดีตและซ่อมแซมให้สมบูณ์ที่สุด เพื่อเปิดต้อนรับผู้คนอีกครั้งในฐานะคาเฟ่ บริการอาหาร เครื่องดื่ม พร้อมแบ่งปันมุมเล็ก ๆ ให้แวะชมนิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของตัวอาคาร เรื่องราวเกี่ยวกับบ้านโบราณและประวัติศาสตร์เมืองลำปางในที่แห่งนี้
ที่ตั้ง : ถนนตลาดเก่า ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
วัน-เวลา : วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 21.00 น.
โทรศัพท์ : 08 6728 6362
Facebook : Moungngwezin
05
Papacraft
แบรนด์เครื่องหนังสุดคราฟต์ในแกลเลอรี่กึ่งคาเฟ่
ลำปางเป็นเมืองสารพัดช่าง
ถัดไปไม่ไกลจากหม่องโง่ยซิ่น มีแกลเลอรี่กึ่งคาเฟ่และร้านเครื่องประดับหนังแสนคราฟต์ ในบ้านไม้สองชั้นร่วมสมัย ที่เสิร์ฟสารพัดเมนูเครื่องดื่มร้อนเย็นเป็นอาหารปาก และเสิร์ฟความงามของมวล ‘บุปผากำลัย’ เป็นอาหารใจให้อุดหนุน
บุปผากำลัย เป็นชื่อที่ช่างหนังของแบรนด์ Papacraft ตั้งไว้เรียกเครื่องประดับของตัวเอง เขาหยิบยืมรูปทรงธรรมชาติจากพันธุ์พฤกษาและเทคนิคบาติก มาต่อยอดสร้างสรรค์กลายเป็นเทคนิคพิเศษ Papacrafture มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยลวดลายพลิ้วไหว และสร้างสารพัดเฉดให้กับวัสดุหนังฟอกฟาดจากโรงงาน ซึ่งฟอกด้วยวิธีธรรมชาติอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หากชอบลวดลายไม้ใบ ขอแนะนำ รุ่น Ginkgo ที่เกิดจากความหลงใหลในรูปทรงพัดของใบกิงโกะหรือแปะก๊วย ถ้าชอบแบบน่ารัก ให้หยิบ Beya ที่แปลงไอเดียจากดอกกระจิริดของพันธุ์ไม้ประเภทบีโกเนีย ถ้าชอบแบบร่วมสมัย Hearty จากใบโพธิ์ก็เข้าที หรือถ้าชอบสีสัน Bromy ที่นำต้นสับปะรดสีของแม่มาแปลงโฉม และ Woven Brass ผสานวัสดุทองเหลืองเป็นลวดลายคล้ายงานจักสานก็เข้าท่า และไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ไม่พอดี เพราะทุกชิ้นมีลวดอะลูมิเนียมซ่อนไว้ด้านในให้สวมง่าย ปรับตามขนาดข้อมือได้
เครื่องประดับหนังของ Papacraft นอกจากพิถีพิถันทำมือทุกขึ้นตอนจนได้ดีไซน์ไม่ธรรมดา และไปอวดโฉมไกลถึงจีน ญี่ปุ่น เกาหลี แล้ว พวกเขายังตั้งใจพัฒนาให้บ้านขนาดอบอุ่นหลังนี้ เป็นพื้นที่สำหรับสนับสนุนผลงานของศิลปินและช่างฝีมือท้องถิ่น โดยในอนาคตวางแผนเปิดโรงเรียนการช่างเพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงงานฝีมือด้วย
ที่ตั้ง : เลขที่ 268 ถนนตลาดเก่า ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง 52100 (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 9.00 – 17.00 น. (หยุดเฉพาะวันพุธ)
โทรศัพท์ : 06 5507 3699 และ 08 4049 3246
Facebook : Papacraft
Instagram : papacraftfamily
06
Little lovely bookshop
ร้านหนังสืออิสระแห่งเดียวของลำปางในคลินิกรักษาสัตว์
ไม่ต้องนึกแปลกใจ แม้คุณเป็นคนลำปางโดยกำเนิด ก็อาจไม่รู้ว่าบนชั้นสอง ‘คลินิกบ้านรักษาสัตว์’ ของ หมอมิ้น-นายสัตวแพทย์พงษ์ประสิทธิ์ พงษ์พิจิตร มีร้านหนังสืออิสระแห่งเดียวในจังหวัดแอบซ่อนตัวอยู่มานานกว่า 7 ปี
หนังสือภายในร้านเน้นหมวดวรรณกรรมแปล วรรณกรรมไทย ปรัชญา ศาสนา ที่มีมากสุดเห็นจะเป็นนิทานภาพสำหรับเด็ก วรรณกรรมเยาวชน และผลงานของนักเขียนหน้าใหม่จากบรรดาสำนักพิมพ์น้อยใหญ่ คุณหมอมีเกณฑ์คัดเลือกหนังสืออยู่ 2 ข้อ แนวที่ตนเองชื่นชอบ กับต้องสร้างสรรค์และให้พลังบวกต่อสังคม
แม้ขนาดจะกะทัดรัด แต่ก็ยังแบ่งพื้นที่เป็นมุมโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านเพลิน ๆ หรือใช้เวลาเลือกหนังสือที่ใช่โดยไม่หวง วันดีคืนดี คุณหมอปิ๊งไอเดียสร้างความคึกคักให้กับร้าน เปลี่ยนเป็นพื้นที่กิจกรรมฉายหนังสารคดี เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาเมืองก็มีมาแล้ว
ใครอยากไปอุดหนุน ‘ร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่รัก’ ของนักอ่าน ต้องจดวันดี ๆ เพราะให้บริการเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ เท่านั้น
ที่ตั้ง : 43/20 ถนนท่าคราวน้อย ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : วันพฤหัสบดี-เสาร์ เวลา 9.00 – 18.30 น.
โทรศัพท์ : 0 5431 1110
Facebook : Little lovely bookshop #ร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่รัก
07
สถานีรถไฟนครลำปาง
อาคารสองชั้นสมัย ร.6 กลิ่นอายล้านนาผสมยุโรป
เป็นความคิดที่เยี่ยมยอด หากคุณจะเยือนลำปางสักครั้งด้วยรถไฟ พร้อมกระเป๋าสัมภาระทรงเหลี่ยมย้อนยุค
ชวนเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองรถม้าผ่านรถไฟในสถานีนครลำปาง ชมอาคารสองชั้นที่มีกลิ่นอายของล้านนาและยุโรปแบบบาวาเรียนคอตเทจ (Bavarian Cottage) ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6
การมาของรถไฟครั้งนั้นมีผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการคมนาคมอย่างมาก บ้านเมืองเจริญขึ้นผิดหูผิดตา เห็นได้จากการออกแบบสถานีแห่งนี้โดย เอิรสท์ อัลท์มันน์ (Mr. Ernst Altmann) วิศวกรชาวเยอรมนี
อาคารครึ่งปูนครึ่งไม้หลังคาทรงปั้นหยาผสมจั่วซ้อนชั้นคล้ายหลังคาตามสถาปัตยกรรมล้านนา ที่ชั้นล่างมีช่องประตูระบบคานโค้ง (Arch) 4 ช่วง ขนาบด้วยหน้าต่างโค้งสองฝั่ง รูปแบบนีโอคลาสสิก (Neo-classic) ชั้นบนมีโครงสร้างไม้ทรงสี่เหลี่ยมเสริมไม้แนวทแยงเป็นระยะตามเทคนิคการก่อสร้างแบบเยอรมนี โดยราวระเบียงและช่องแสงเหนือประตูหน้าต่าง ประดับด้วยไม้แกะสลักลวดลายลายแจกันหรือหม้อปูรณฆฏะผสมลายเครือเถา ประดับช่อดอกไม้ม้วน เป็นศิลปะที่ละเอียด ประณีตแบบเดียวกับที่พบในวัดล้านนา ส่วนชานชาลามีโครงหลังคาเหล็กถักแบบ Truss แข็งแรง มั่นคงตรงข้ามกับสถาปัตยกรรมอาคารที่ดูอ่อนช้อย
บริเวณหน้าสถานี ต้อนรับด้วยรถจักรไอน้ำ C-56 หมายเลข 728 ซึ่งเป็นรุ่นที่นำมาใช้งานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยญี่ปุ่นเลยนะ
อ้อ! ก่อนออกไปจากสถานี อย่าลืมรอทักทาย ‘ป้าดา’ รถจักรดีเซลไฟฟ้าดาเวนพอร์ท (Davenport) ขนาด 500 แรงม้า ที่เหลือใช้งานอยู่ไม่กี่คันในประเทศ ซึ่งอายุอานามก็ปาไป 69 ปีเข้าไปแล้ว ป้าดาจะมาทำหน้าที่สับเปลี่ยนขบวนรถไฟโดยสารทุกเช้าเย็น
ที่ตั้ง : ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดตลอดเวลา
08
บ้านหลุยส์ ที. เลียวโนเวนส์
พื้นที่สาธารณะในคฤหาสน์หลุยส์อายุ 115 ปี
ปิดท้ายหลักฐานทางสถาปัตยกรรมที่เป็นผลพวงจากยุคสัมปทานไม้แสนรุ่งเรือง ด้วย ‘บ้านหลุยส์’ เรือนปั้นหยาสไตล์โคโลเนียลที่มีโถงมุขเจ็ดเหลี่ยมยื่นออกไปเป็นเอกลักษณ์
คฤหาสน์อายุกว่า 115 ปีที่ถูกทิ้งรกร้าง เคยเป็นบ้านของ หลุยส์ ที. เลียวโนเวนส์ นายห้างค้าไม้คนสำคัญชาวอังกฤษ ลูกชาย แอนนา เลียวโนเวนส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในราชสำนักสมัยรัชกาลที่ 5 ก่อนการคืนชีวิตให้บ้านหลุยส์ โดยเครือข่ายลำปางรักษ์เมืองและองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เมื่อราว 4 ปีก่อน
การบูรณะเป็นไปอย่างระมัดระวัง ถูกวิธี ดูแลโดยกรมศิลป์ฯ และพยายามให้กลับไปเป็นแบบเดิมมากที่สุด เพื่อสะท้อนความละเอียดของช่างยุคเก่า โดยเฉพาะงานไม้โบราณที่เกี่ยวกันเป็นเส้นทแยงมุมแทนการชนทาบ รวมถึงการตีเกร็ดไม้และการเข้าไม้ที่ช่างน้อยคนจะทำได้ในปัจจุบัน ไปจนถึงการใช้สี ด้วยความโชคดีที่ตัวโครงสร้างบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ยังแข็งแรงจึงไม่น่ากังวล
‘บ้านหลุยส์’ กลายเป็นพื้นที่สาธารณะแห่งใหม่ในลำปาง หมุนเวียนจัดนิทรรศการ ตลาดนัด สถานที่จัดกิจกรรมเชื่อมโยงวิถีชีวิตของคนในชุมชนท่ามะโอ ซึ่งขณะนี้ซ่อมแซมแล้วเกือบ 100 ร้อยเปอร์เซ็นต์ และรอจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ของชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของนครลำปางต่อไป
ที่ตั้ง : ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือบน
โทรศัพท์ : 0 5422 7544
09
บุญบูรณ์ฟาร์ม
ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่สร้างผลิตภัณฑ์จากนมแพะชั้นดี
บ้านแพะหนองแดง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ แหล่งเลี้ยงแพะขึ้นชื่อของเมืองรถม้า
ห่างจากตัวเมืองราว 10 กิโลเมตร มีหนึ่งฟาร์มแพะชื่อน่ารัก ‘บุญบูรณ์ฟาร์ม’ ให้แวะไปอุดหนุนผลิตภัณฑ์สารพัดคุณประโยชน์จากนมแพะพาสเจอไรซ์พร้อมดื่ม โยเกิร์ตนมแพะไม่ผสมน้ำตาล พุดดิ้งนมแพะมะพร้าวอ่อน เกษตรกรหนุ่มเจ้าของ วัต-ชญาน์วัต สว่างแจ้ง บอกว่าการทำฟาร์มของเขาสนุกตรงการแก้โจทย์ ว่าทำอย่างไรให้คนรักนมแพะ และลบภาพจำกลิ่นรสที่คนส่วนใหญ่มีต่อนมแพะเสียที ที่บุญบูรณ์ฟาร์มยังผลิตเครื่องสำอางประทินโฉม อย่างสบู่ สบู่เหลว ลิปบาล์ม และโลชั่น จากนมแพะให้เลือกสรรด้วยนะ
นอกจากนัดรับหรือไปที่ฟาร์มโดยตรง ยังมีบริการจัดส่งถึงบ้าน และเขายังออกบูทขายสินค้าตามตลาดอินทรีย์ทั่วลำปาง คนรักของคุณภาพดี เจอนมแพะแช่เย็นเจี๊ยบที่ไหน ต้องไม่พลาดลองชิม
และที่บุญบูรณ์ฟาร์ม ยังเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้การทำฟาร์มนมแพะขนาดเล็กครบวงจร ตั้งแต่การผลิตจนถึงแปรรูป มีคอร์สเรียนและกิจกรรมให้เวิร์กช็อปเป็นกลุ่มเล็กโดยมีค่าใช้จ่าย และต้องนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น
ที่ตั้ง : 120/5 ม.3 หมู่บ้านแพะหนองแดง ตำบลทุ่งฝาย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (แผนที่)
โทรศัพท์ : 08 9815 1804
Facebook : Boonboon farm – บุญบูรณ์ฟาร์ม
10
บ้านแม่แจ๋ม ตำบลแจ้ซ้อน
ไร่กาแฟออร์แกนิกบนดอยสูง 1,200 กิโลเมตร
แม้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเขลางค์เป็นที่ราบ แต่ก็อยู่ระหว่างทิวเขาผีปันน้ำ ลำปางไม่โดดเด่นเรื่องดอยสูง แต่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็มีมากพอให้ไปเยือน
มาขึ้นกระบะไต่ดอย เยือนไร่กาแฟอาราบิก้าที่หมู่บ้านป่าคาหรือบ้านแม่แจ๋ม ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน ศึกษาการปลูกกาแฟแบบออร์แกนิกและแมคคาเดเมีย ที่ชักชวนคนทั้งหมู่บ้านมาปลูกพืชเศรษฐกิจสองชนิดนี้โดยดูแลธรรมชาติไปพร้อมกัน
เดินทางมาถึงไร่ของ พี่ปาว เลาสาร กับ พี่ดาว-วิภารัตน์ แซ่จ๋าว แล้ว ขณะเดินตามพี่ ๆ ทั้งสองขึ้นไปยังแหล่งปลูกกว่า 20 ปีของพวกเขา กลิ่นดินและน้ำค้างปลายยอดหญ้าที่ลอยมาตามลมช่างพิเศษ ไม่นานจะพบกับต้นกาแฟที่อยู่ใต้ต้นแมคคาเดเมีย ทั้งคู่กระซิบเคล็ดลับว่าจะช่วยให้รสกาแฟมีความหอมมันเหมือนกับลูกแมคคาเดเมีย ก่อนเก็บกาแฟเชอร์รี่สีแดงสวยลงไปเต็มตะกร้า
จากนั้นขอตามพี่เปาและพี่ดาวไปดูกระบวนการผลิตกาแฟออร์แกนิก ตั้งแต่ล้างกะเทาะเปลือกไปทำปุ๋ย ตาก จนคั่ว จากที่มีแค่สองสามีภรรยา ตอนนี้พื้นหมู่บ้านกว่า 70 เปอร์เซ็นกลายเป็นไร่กาแฟออร์แกนิกจากเกือบทุกครัวเรือน ที่สำคัญ ธรรมชาติโดยรอบอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างน่าชื่นใจ
ถ้าไม่รีบไปไหน จะแวะนอนโฮมสเตย์สัมผัสวิถีชีวิตกลางขุนเขาสักคืนก็ดีนะ
ที่ตั้ง : หมู่บ้านป่าคาหรือบ้านแม่แจ๋ม ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง (แผนที่)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านแม่แจ๋ม
โทรศัพท์ : 08 0128 2528 (ผู้ช่วยแคท) และ 09 8802 2339 (พ่อหลวงสมบัติ)
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณากร, วันวิสข์ เนียมปาน, นภษร ศรีวิลาศ, นิภัทรา นาคสิงห์ และ สุทธิดา อุ่นจิต