ที่ผ่านมา บรรดาคนรักแมวจะรู้ว่า อิสตันบูล คือเมืองหลวงของแมว จากการที่แมวอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย และชาวเมืองช่วยกันดูแล ฉีดวัคซีน ให้ที่อาศัย และแมวเดินไปไหนได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกลัวจะถูกทำร้าย

แต่มีอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า ‘เมืองหลวงแมว’ เช่นกัน

ไม่นานมานี้มีโอกาสเดินทางไป Kotor เมืองโบราณติดทะเลเอเดรียติกในประเทศมอนเตเนโกร

Kotor เป็นเมืองโบราณและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศนี้ บริเวณท่าเรือ ผู้เขียนเห็นเรือสำราญขนาดใหญ่บรรทุกผู้โดยสารนับพันคนมาจอดเทียบท่าเรือหลายลำ

คนไทยจำนวนมากรู้จักมอนเตเนโกร (Montenegro) ประเทศเล็ก ๆ ในคาบสมุทรบอลข่านเป็นครั้งแรก เมื่อครั้ง คุณทักษิณ ชินวัตร ลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ จนถือสัญชาติมอนเตเนโกรเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา

แม้จะเป็นประเทศเพิ่งเกิดใหม่ มีอายุเพียง 18 ปี แต่มอนเตเนโกรมีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 10 เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ มีกษัตริย์ปกครอง ก่อนจะถูกจักรวรรดิออตโตมันบุกเข้ายึดครองเป็นเวลาหลายร้อยปี ต่อมาได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูโกสลาเวีย อันประกอบด้วยรัฐสโลวีเนีย โครเอเชีย เซอร์เบีย บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร และมาซิโดเนีย จนกระทั่งเกิดการเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของรัฐต่าง ๆ ที่รวมตัวกันอยู่ในยูโกสลาเวีย แต่เซอร์เบียและมอนเตเนโกรกลับรวมตัวกันอยู่ดังเดิม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2006 ได้มีการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชจากเซอร์เบีย 

Kotor เมืองสำคัญในอดีต ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับการค้าในย่านคาบสมุทรบอลข่านมาช้านานจนถึงปัจจุบัน มีป้อมปราการ โบสถ์ บ้านเรือนเก่าแก่อายุหลายร้อยปีที่ยังใช้งานได้ดี เป็นโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ จนเป็นเมืองโบราณที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ย่านเมืองเก่าของ Kotor ยังมีสถานะเป็นมรดกโลกของยูเนสโกทั้ง 2 สถานะ คือด้านธรรมชาติและด้านวัฒนธรรม-ประวัติศาสตร์ และเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุด แม้ว่าจะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวในปี 1979

ผู้เขียนเดินเที่ยวเมืองเก่าแห่งนี้ทุกซอกทุกมุมของตึกรามบ้านช่อง ตามถนนที่ปูด้วยหินและสวนสาธารณะ จะเห็นแมวเดินเพ่นพ่านอย่างเสรี ทำให้เมืองแห่งนี้มีประชากรแมวมากกว่าพลเมืองเสียอีก

มีเรื่องเล่าว่าแมวปรากฏตัวครั้งแรกใน Kotor เมื่อเรือใบบรรทุกสินค้าเข้าเทียบท่า หลังจากเดินทางไปค้าขายทั่วโลก ลูกเรือแต่ละลำจะเลี้ยง ‘กะลาสีแมว’ ไว้จับหนูในเรือที่คอยกัดกินเสบียงอาหารและสินค้าในเรือ เมื่อเรือเทียบท่า Kotor กะลาสีแมวเหล่านี้จะเล็ดลอดขึ้นฝั่ง และอ่าวแห่งนี้มีหนูชุกชุม ผู้คนในเมืองจึงยินดีที่มีแมวคอยกำจัดหนู แมวจึงอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย ไม่นานนักเมืองท่าแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยแมวจำนวนมาก จนพูดกันเล่น ๆ ว่า บรรดาสัตว์ฟันแทะในเมือง ถ้ายังรอดชีวิตจากการไล่ล่าของกองทัพแมวได้ต้องให้เหรียญกล้าหาญทีเดียว

Lonely Planet หนังสือท่องเที่ยวระดับโลกเคยแนะนำ Kotor เป็นเมือง 10 อันดับแรกที่คนรักแมวควรไปเยี่ยมชม ในหนังสือคู่มือระบุว่าเมืองเหล่านี้มีองค์ประกอบดีเยี่ยมสำหรับเพื่อนสี่ขาของเราจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และผู้คนในเมืองเหล่านี้ก็ล้วนเป็นคนรักแมวตัวจริง 

แต่ก็ใช่ว่าแมวเหล่านี้จะอยู่ได้อย่างปลอดภัยเสมอ ชาวเมืองคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า

“แม้พวกเราจะรักแมวมาก แต่เกิดเรื่องเศร้าเมื่อปี 2010 มีชายไม่ทราบชื่อคนหนึ่งเกลียดแมวมาก จึงแอบวางอาหารผสมยาพิษไว้ตามท้องถนน คืนนั้นมีแมวตาย 30 ตัว ชาวบ้านไม่พอใจมาก จึงออกโรงปกป้องแมวอย่างแข็งขัน มีการรณรงค์อย่างจริงจัง ทำให้ปัจจุบันบริเวณจัตุรัสใกล้กับโบสถ์เซนต์แมรี ถือเป็นสถานที่อย่างเป็นทางการที่แมวจะอยู่ได้อย่างปลอดภัย”

ระหว่างเดินไปเยี่ยมชมโบราณสถาน จะพบเห็นแมวนอนอาบแดดบนถนนคนเดิน ตามขั้นบันได บนชิงช้าอย่างสบายใจ และมีบรรดานักท่องเที่ยวทาสแมวทั้งหลายพากันรุมถ่ายรูป โดยหากเป็นแมวตัวดาราที่น่ารัก น่ากอดน่าฟัด นักท่องเที่ยวต้องเข้าคิวถ่ายรูปทีเดียว

แต่หลายครั้งนักท่องเที่ยวเหล่านี้ที่นำเอาอาหารมาทานด้วย ก็อาจจะถูกแมวผู้หิวโหยแย่งกินหากไม่ระวัง พวกมันกินได้แม้จะเป็นขนมปังแบบไม่เกรงกลัวผู้คน 

ผู้เขียนแวะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แมวที่ตั้งอยู่ในอารามคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ บนจัตุรัส Kino Square เจ้าของพิพิธภัณฑ์เป็นชาวอิตาลีชื่อ Piero Paci ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและนักสะสมตัวยงที่คิดจะเปิดพิพิธภัณฑ์ หลังจากเขาได้รับเอกสารชุดหนึ่ง ประกอบด้วยการ์ดอวยพร ของที่ระลึก ภาพถ่าย แสตมป์ หนังสือเก่า ฯลฯ นับพันรายการ ซึ่งมีภาพแมวเป็นองค์ประกอบแทบทั้งสิ้น

เมื่อเดินเข้าชมภายในอาคารหลังเล็ก ๆ คอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จึงประกอบด้วยภาพถ่าย จดหมาย และรูปภาพ นอกจากนี้ยังมีเหรียญตรารูปแมว รูปแกะสลักเก่า จานประดับรูปแมว จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

ขณะที่ในร้านค้าท้องถิ่นขายของที่ระลึกส่วนใหญ่จะมีตุ๊กตาแมว นาฬิการูปแมว โปสต์การ์ดแมวชนิดต่าง ๆ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ เสื้อยืดรูปแมว ฯลฯ ให้บรรดานักท่องเที่ยวทาสแมวได้เลือกซื้ออย่างจุใจ

ผู้คนในเมืองเป็นทาสแมวตัวจริง ไม่มีใครทำร้ายแมว แม้เป็นย่านเมืองเก่า จำนวนแมวจึงมักจะควบคุมได้ยาก เนื่องจากเจ้าของแมวจำนวนมากมองว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทิ้งแมวและลูกแมวที่ไม่ต้องการ ที่นี่ไม่มีรถยนต์ มีสุนัขปล่อยน้อยมาก คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวก็ให้อาหารแมวเป็นประจำ

เจ้าของร้านขายของที่ระลึกคนหนึ่งกล่าวว่า แมวเลี้ยงพวกเขา พวกเขาก็เลี้ยงแมวด้วย

“เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว บรรดาร้านค้าเหล่านี้จะนำรายได้ส่วนหนึ่งมาซื้ออาหารเลี้ยงแมวทุกวัน และในหน้าหนาว อากาศหนาวจัด แมวเร่ร่อนตามท้องถนนเหล่านี้ก็จะถูกนำมาเลี้ยงในบ้านอันแสนอบอุ่นด้วย”

“แมวเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี” เธอกล่าวเสริม “คนแก่หลายคนจะบอกคุณว่าพวกเขารักแมวมากเพียงใด และประตูบ้านของพวกเขาจะปักธงแมวเป็นสัญลักษณ์ว่า บ้านที่มีธงแมวอนุญาตให้นำพวกมันเข้ามาบ้านได้ตลอดเวลา”

ทางการคาดว่าในเมือง Kotor มีแมวจรจัดอยู่หลายพันตัว แต่จำนวนแมวก็คงที่ได้ด้วยความช่วยเหลือจาก Charity Kotor Kitties องค์กรการกุศลที่ให้บริการทำหมันและดูแลรักษาแมวฟรีทั่วมอนเตเนโกร

องค์กรการกุศลนี้เริ่มต้นโดยนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันในปี 2018 เพื่อพยายามลดจำนวนแมวข้างถนนที่มากเกินไปในพื้นที่ นับตั้งแต่ก่อตั้งได้ทำหมันแมวจรจัดไปแล้วเกือบหมื่นตัว และยังมีกิจกรรมช่วยให้อาหาร หาแหล่งน้ำจืด รักษาแมวและลูกแมวจรจัดที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีหมัดด้วย

“สิ่งสำคัญคือต้องรักษาจำนวนแมวข้างถนนให้อยู่ในระดับที่พวกเขามีสุขภาพที่ดีด้วยอาหารและทรัพยากรทางการแพทย์ที่เพียงพอเพื่อความอยู่รอด” โฆษกของ Kotor Kitties เล่าให้ฟังว่า

“ประชากรแมวที่ไม่ได้รับการตรวจสอบจะเสี่ยงต่อโรคมากกว่า และแหล่งอาหารก็อาจขาดแคลนได้”

ไม่แปลกใจที่ตลอดเวลาในเมืองนี้ เราจะพบแมวส่วนใหญ่ที่ดู So Cute ขนปุกปุยน่ารัก ดูมีความสุขและสุขภาพดี จากความรักและความเอาใจใส่ของผู้คนเมืองนี้จริง ๆ จนได้รับฉายาว่าเป็น ‘เมืองหลวงแมว’ แห่งล่าสุด

Writer & Photographer

Avatar

วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์

นามปากกา วันชัย ตัน นักเขียนสารคดี นักวิจารณ์สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี อดีตรองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งประเทศไทย (THAIPBS) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ PPTVHD36 มีผลงานเขียนตีพิมพ์เป็นหนังสือ 28 เล่ม เป็นนักเดินทางตัวยง จากความเชื่อที่ว่า การใช้ชีวิตให้มีความสุขควรประกอบด้วยสามสิ่ง คือ ทำงานที่ใจรัก ช่วยเหลือคนรอบข้าง และเดินทางท่องเที่ยว