จากนักศึกษาแฟชั่นที่สะสมประสบการณ์กว่า 15 ปีในวงการ กับตำแหน่งสไตลิสต์ที่ก้าวขึ้นสู่การเป็นแฮร์สไตลิสต์ชั้นนำของประเทศ คม-อัครชัย ดีดพิณ คือผู้อยู่เบื้องหลังการสรรสร้างทรงผมของผู้คนในแวดวงมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือนักแสดงและแฟชั่นไอคอนระดับโลกอย่าง ทิลด้า สวินตัน (Tilda Swinton) เมื่อครั้งเธอมาประเทศไทยเพื่อโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Memoria นอกจากนี้ยังมีนักแสดง นักร้อง และผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ มากมายที่อัครชัยได้ดีไซน์ทรงผมเพื่อส่งเสริมภาพรวมให้อยู่ในระดับ ‘เฉิดฉาย’ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังทรงผมในแฟชั่นเซตของ อิ้งค์-วรันธร เปานิล ทรงผมของ ซูจูปาร์ค (Soo Joo Park) นางแบบ นักแสดง และนักดนตรีชาวอเมริกัน-เกาหลี บนปกของ BAZAAR Thailand x CHANEL แอลลี่ อชิรญา บนหน้าปกของนิตรสาร Vogue Thailand x Tiffany & Co.
การเดินตามความฝันของเด็กจากต่างจังหวัดที่ครอบครัวอยากให้รับราชการตามค่านิยม สู่การตัดสินใจเข้าเรียนในสาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพื่อเดินหน้าเต็มกำลังเข้าสู่โลกของแฟชั่นอย่างที่ใจชอบ ความรู้รอบด้านตั้งแต่เรื่องพื้นฐานการออกแบบ การวิเคราะห์เทรนด์ การทำธุรกิจ ผสานกับประสบการณ์ที่สั่งสม ทำให้อัครชัยได้เป็นหนึ่งในคนที่ประกอบอาชีพแฟชั่นสไตลิสต์-แฮร์สไตลิสต์ และก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าในวงการ
การยืนระยะอยู่ในวงการโดยประคับประคองแพสชัน ความทุ่มเท ความคิดสร้างสรรค์ การไม่เคยหยุดตามหาแรงบันดาลใจ เป็นผลลัพธ์จากการปลูกฝังตั้งแต่ครอบครัวที่คอยสนับสนุนความฝัน จนถึงสถาบันการศึกษาที่เป็นแหล่งบ่มเพาะและส่งเสริมเส้นทางการทำงานมาจนถึงในปัจจุบัน
เพราะมีสักคนที่มองเห็นทักษะ
เรามีทักษะการทำผมมาตั้งแต่เด็กเลย รู้ตัวคือก็ชอบแล้ว ทำให้เพื่อน ให้น้อง ให้แม่ ทำผมงานกีฬาสี หรือเวลาเด็ก ๆ ไปประกวดร้องเพลง เราก็ไปช่วยเขา คนแถวบ้านรู้อยู่แล้วว่าเรามีทักษะนี้ เขาก็จะมาขอให้ไปช่วยแต่งหน้าทำผม พอเป็นงานที่ไม่กดดัน เราก็ทำไปตามทักษะและอินเนอร์ที่เรามี ตามวัยเด็กของเรา มันก็เลยไม่มีความกดดันที่ต้องทำตามโจทย์
ตอนนั้นแม่เคยจุดประกายว่า หรือว่าจะเอาดีทางนี้ไปเลย แม่มองเห็นว่าคนแถวบ้านที่เขาเป็นช่างทำผม แล้วเขาเข้ามาในวงการที่กรุงเทพฯ ก็ดีนะ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ชอบขนาดคิดว่าจะเป็นอาชีพ เราแค่ชอบทำ โดยตอนที่แม่พูดคือเราอยู่มัธยมต้นเท่านั้นเอง
รู้จักต่อยอดจากงานสไตลิสต์
เราเริ่มทำงานจากการเป็นแฟชั่นสไตลิสต์มาก่อน หน้าที่คือดูภาพรวม เสื้อผ้า หน้าผม จุดพลิกผันคือตอนที่เราเริ่มทำงานนิตยสาร เป็นช่วงรอยต่อที่แมกาซีนเป็นยุคเสื่อมถอย ยุคดิจิทัลเข้ามาแทนที่ พวกหนังสือแฟชั่นแมกาซีนเริ่มหายไป เราเองที่ทำงานมานานพอสมควรเริ่มอิ่มตัว ไม่มีแพสชันในงานที่ทำอยู่ ตอนแรกคิดว่าจะออกจากวงการไปอยู่บ้านต่างจังหวัดเลย แต่ก็ยังลังเล ในตอนนั้นเพื่อนบอกว่าเรามีทักษะเรื่องทำผมอยู่แล้ว ลองดูอีกทีไหม เลยเริ่มต้นการเป็นแฮร์สไตลิสต์อย่างจริงจัง
ทุกความทุ่มเทมักให้ผลตอบแทน
การทำผมก็เหมือนผลงานศิลปะ มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เราไม่รู้หรอกว่าใครชอบแบบไหน เราแค่เอาตัวตนใส่เข้าไปแล้วทำให้ดูเหมาะสมกับกาลเทศะของงานและบุคลิกของเขา ที่เหลือเป็นฟีดแบ็กกลับมาว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ แต่ถ้าเต็มที่และทำดีกับงานแล้ว ต่อให้มีคนหนึ่งที่ไม่ชอบ เราก็จะไม่เสียใจ มันจะไม่มีคำว่า ‘ทำไมวันนั้นเราไม่ทำให้เต็มที่กว่านี้’ หลุดออกมา
คมทุ่มเทกับทุกงานที่ทำ เพราะทุกผลงานเท่ากับลายเซ็นของเรา ไม่ว่าจะไปปรากฏที่ไหน คนก็จะพูดถึง ไม่ว่าจะในแง่ดีหรือลบ คมจึงตั้งใจทำให้ดีที่สุด
โอกาส คือของขวัญที่ถูกที่-ถูกเวลา
โอกาสในการได้เป็นแฮร์สไตลิสต์ให้กับ ทิลด้า สวินตัน ได้มาเพราะเราเคยทำงานร่วมกับทีมชาแนล ประเทศไทย อยู่แล้ว ในตอนแรกเราไม่รู้เลยนะครับ ทีมชาแนลบอกแค่ว่าอยากให้มาทำผมให้กับนักแสดงท่านหนึ่งที่บินมาที่ประเทศไทย จำได้เลยว่าเขามาบอกตอนที่จะต้องบินไปแล้ว ตอนนั้นตกใจมาก เพราะเราไม่คาดคิดและไม่เคยฝันว่าจะได้ร่วมงานกับนักแสดงระดับโลก
ชาแนลให้เราทำงานโดยการคุยกับทิลด้าโดยตรงว่าอยากได้ประมาณไหน อย่างแรกคือคมอยากรู้ว่าใครเป็นช่างแต่งหน้า ก็คุยกับช่างแต่งหน้าก่อนเพื่อให้องค์รวมออกมาเป็นเรื่องเดียวกัน พอถึงหน้างานเราก็ออกแบบร่วมกัน และทางทิลด้าก็บอกเลยว่าเขาอยากได้ความเป็นธรรมชาติ ทรงผมที่ทำแล้วเหมือนไม่ได้ทำ
คมยังจำคำพูดของทิลด้าได้ ตอนทำผมเสร็จแล้วเขาหันมาถามว่า “ฉันชอบแล้วนะ เธอชอบหรือยัง”
ลายเซ็นของช่างผมและตัวตนของคนเป็นแบบ
การออกแบบทรงผมระหว่างเรากับแบบต้องมีการพูดคุยและทำงานร่วมกัน มองเห็นภาพปลายทางด้วยกัน คนเป็นแบบต้องเจอใครในอีเวนต์นั้น ๆ ทำอะไร ใส่ชุดไหน มาคุยกันเพื่อหาวิธีตรงกลาง ทั้งช่างผม ช่างแต่งหน้า สไตลิสต์ ช่างผมเอาลายเซ็นตัวเองใส่ไปมาก ๆ ไม่ได้ เราต้องดูว่าแบบเอาทรงนั้นอยู่ด้วยไหม สิ่งสำคัญเลยคือต้องทำให้เขามั่นใจ เมื่อเขามั่นใจ ทุกอย่างจะส่งผ่านผลงานออกมาเอง บางคนไม่ได้ประโคมแบรนด์เนมหรือแต่งตัวยิ่งใหญ่ แต่การแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว ภาพรวมทุกอย่างออกมากลมกล่อมพอดีเพราะเขามั่นใจ ถ้าอินเนอร์ไม่ได้ ช่างเก่งแค่ไหนก็ลดทอนงานลง หน้าที่ของเราส่งเสริมและซัพพอร์ต
ทุกโจทย์คือความท้าทาย
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการทำลุคลุคหนึ่งนั้น ทุกคนต้องมองภาพความสวยงามไปในทิศทางเดียวกัน มองปลายทางเหมือนกัน เพราะนิยามของคำว่า สวย ของแต่ละคนแตกต่างกันมาก ถ้าเรามองสิ่งนี้ไปที่เดียวกัน เป็นทางเดียวกับที่เราคิด ความหวาน ความเท่ ความเปรี้ยว ที่เข้าใจตรงกันก็พูดคุยหรือต่อยอดร่วมกันได้
ซึ่งการทำให้งานในวันนี้ประสบความสำเร็จ เพราะความรู้ที่ได้ตอนเรียนแฟชั่นสมัยมหาวิทยาลัย ทำให้เรามั่นใจขึ้น หนึ่งเลยทำให้เราเข้าใจความเป็นแฟชั่น ระบบระเบียบ ตอนแรกเริ่มเราจินตนาการเองว่าจะเป็นแบบนี้ ๆ พอเรามาเรียนจริง เราได้รู้ว่าแฟชั่นมีขั้นตอนของมัน มีทฤษฎีสี มีแพตเทิร์น มีวิธีวาดรูป ออกแบบ ประวัติศาสตร์ศิลปะ เรียนตัดเย็บ เพื่อให้เราเข้าใจโครงสร้างของเสื้อผ้า เพื่อให้เราแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตอนที่เรียนจะมีวิชาเอกและวิชาเสริม คมเลือกวิชาเสริมเป็นการสไตลิ่ง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เข้าใจการเป็นสไตลิสต์ ถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง
เมื่อทางเดินในชีวิตคือสิ่งที่ออกแบบได้
จริง ๆ ความฝันของเราคืองานเบื้องหน้า อยากเรียนคณะนิเทศศาสตร์ แต่ที่บ้านเราไม่ชอบเลย คิดว่าไม่มั่นคง ตอนนั้นเขาอยากให้เรารับราชการมาก (หัวเราะ)
ตอนนั้นความชอบของเราคือศิลปะ เลยมาดูว่าจะพัฒนาต่อไปในทางไหนได้บ้าง บวกกับใฝ่ฝันอยากเรียนมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพราะเราจบสายอาชีพมา เลยเลือกคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น
ตอนแรกที่เข้าไปเรียนก็เก้ ๆ กัง ๆ มาก เพราะคิดว่าเป็นแค่การวาดรูป ในเอกแฟชั่นที่เราเรียน เขามีการเชิญบุคลากรพิเศษเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ชั้นนำของประเทศมาสอน เขาสอนทั้งหมดเลยว่าถ้าเราเป็นดีไซเนอร์สักคนหนึ่งที่ต้องการเปิดแบรนด์จะต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง ทำให้เราว่าการที่จะมีแบรนด์สักแบรนด์หนึ่งคือวาดลงกระดาษแล้วส่งให้ช่างเพื่อตัดออกมาเป็นชุด มีกระบวนการหลายอย่างมากกว่าจะเป็น 1 คอลเลกชันออกมาต้องเจออะไรหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องทางธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย ทำให้เราเติบโตและอยู่กับความเป็นจริงได้มากที่สุด เรียกว่าช่วงมหาวิทยาลัยมีส่วนสำคัญมากที่หล่อหลอมให้เรามาถึงจุดนี้
เพราะเชื่อว่าชีวิตขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจ
แรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรหรือไม่เป็นอาชีพก็ได้ คุณแค่ใช้ชีวิตมันก็ต้องมีแรงบันดาลใจในการใช้แล้ว ต่อให้ไม่เกี่ยวกับการทำงานก็ตาม เพราะถ้าเราไม่มีแรงบันดาลใจ เราไม่มีจุดที่เราต้องเดินไปหามัน เราก็ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ อยู่ไปเรื่อย ๆ ถ้าเรามีแพสชันหรือแรงบันดาลใจ เราจะพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เราหลงใหลมัน คือเราจะไม่เสียเวลา การตั้งเป้าหมายทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนไปหา
ในวันที่ผู้เล่นในสนามเดียวกันเพิ่มมากขึ้น
ช่างผมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นเราไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่ง แต่มันคือทางเลือกที่เยอะขึ้นสำหรับผู้บริโภค คนนอกอาจจะคิดว่างานช่างหน้าช่างผมทำรายได้สูง เป็นอาชีพสวยงาม ดูไม่เหนื่อย แต่เขาไม่รู้ถึงกระบวนการเบื้องหลัง พอผู้บริโภคมีตัวเลือกเยอะ เราก็แค่ทำอาชีพของเราให้ดีที่สุด สิ่งที่ต้องทำคือหาตัวตนของตัวเองให้เจอ คมเชื่อว่ามันมีลายเซ็นของแต่ละคน
ช่างหน้าช่างผมไม่ง่าย ไม่ใช่แค่ฝีมือ ประกอบกันหลายอย่างมาก จังหวะ โอกาส ฝีมือ ทุกอย่างต้องมาเจอกันในเวลาที่เหมาะสมและพอดี ถึงจะสร้างให้คนคนหนึ่งเป็นที่รู้จักของทุกคนได้
เริ่มจากลองในสิ่งที่ชอบ
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อาจจะยังหาตัวตนของตัวเองไม่เจอ อันดับแรกให้เริ่มต้นจากสิ่งที่ชอบ แล้วลองลงมือทำ เพราะคมว่าการลองไม่เสียหาย อายุเท่านี้เราเปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ ฉันชอบอันนี้จัง ให้ลองทำดูก่อน สิ่งที่จะไม่ทำให้เราเสียใจเลยคือเราต้องชอบในสิ่งที่เราลองก่อน อย่าสะเปะสะปะ อย่าไม่ชอบอะไรเลย ถ้าเกิดเราชอบสิ่งหนึ่งแล้ว ความชอบจะเป็นแรงผลักดันและพาเราไปจุดที่จะไปต่อได้ สุดท้ายปลายทาง ความชอบนั้น ๆ อาจพาไปหาจุดที่ใกล้เคียง สิ่งที่แวดล้อมอยู่ ความชอบถัดมาอาจเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกัน เอาความชอบมาเปลี่ยนเป็นการไปเรียน สิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ที่สั่งสม ปลายทางเราจะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
จงตัดสินใจเลือกสิ่งที่เป็นแรงผลักดัน
เด็ก ๆ ที่กำลังตัดสินใจในตอนนี้ ลองมาดูมหาวิทยาลัยที่พร้อมสนับสนุนในความชอบหรือความฝันของเรา อย่างคมเลือกเป็นมหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นอันดับ 1 เลย พอเราชอบที่เราเลือกเรียนแล้ว เราก็จะอยากออกจากบ้านทุกวันมาเรียนหนังสือ มาเจออาจารย์ เจอเพื่อน เจอในสิ่งที่เราชอบ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพมีทุกอย่างให้พร้อม ที่นี่ไม่ได้สอนแค่ทฤษฎี ที่นี่มีทุกอย่าง ถ้าเราจบออกมา เราพร้อมทำงานได้เลย เรารู้ว่าสิ่งไหนใช้ในการทำงานจริง มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เราลองใช้งานจริง กึ่ง ๆ ทำงานไปด้วย มันทำให้เวลาเรามาทำงานจริง เราจะไม่ประหม่าและมีความมั่นใจ
