หากลองจินตนาการถึงการเดินเข้าป่า คุณนึกถึงอะไรบ้าง
สำหรับผมคงเป็นภาพคนแบกกระเป๋าใบใหญ่ แต่งกายทะมัดทะแมง สวมหมวกปีกกว้าง รองเท้าหุ้มข้ออย่างดี มีบรรยากาศของป่าดงดิบ อุดมด้วยสัตว์น้อยใหญ่ที่มาพร้อมความสวยงามและพิษร้ายเป็นฉากหลัง ไหนจะแมลงตัวจ้อยที่ซ่อนตัวตามซอกหิน สายตาสอดส่องระวังภัย หูคอยระแวดระวังฟังเสียงแหล่งน้ำ ฟังดูตื่นเต้นและน่ากลัวในคราวเดียว

สำหรับ โจโฉ-ทรงธรรม สิปปวัฒน์ ยูทูเบอร์ชาติพันธุ์ม้งที่ตั้งใจทำแชนเนล Jocho Sippawat เพื่อลบภาพจำอันโหดร้ายที่คนมักมีต่อป่าและสัตว์ป่า ด้วยการนำเสนอวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ม้งในบ้านเกิด ผ่านการทำคลิปวิดีโอเดินป่า เยี่ยมชมบ้านของสัตว์ตัวน้อยที่เรามองว่าอันตรายและมีพิษสง เปิดโลกอาหารด้วยผลไม้ป่าและสารพัดเมนูสุดว้าว ตลอดจนการดำรงชีวิตและการเอาตัวรอดเมื่อต้องอาศัยอยู่ในป่า แถมมีคนคลิกชมวิดีโอของเขากว่า 93 ล้านครั้งภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีเศษ และใครจะเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดจาก ‘แมลง’ และ ‘ความกลัว’ ของเขาทั้งสิ้น
*บทความนี้มีภาพสัตว์และแมลงหลายชนิด*
หนุ่มผู้เติบโตท่ามกลางธรรมชาติ

หลายคนอาจคิดว่าโจโฉเรียนจบด้านระบบนิเวศหรือกีฏวิทยา ผมประหลาดใจเมื่อเขาตอบกลับว่า เรียนจบวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา จังหวัดตาก และเก็บเกี่ยววิชาชีวิตจากป่าและธรรมชาติในพื้นที่ที่เขาเติบโต
“ตอนเด็กผมยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ผมเรียนคณิตเก่งมาก มีคนบอกว่าถ้าเราเรียนคณิตดี เราควรเรียนวิศวะ เงินเดือนสูงนะ อนาคตเราจะดี ครอบครัวเลยส่งเสริมให้ผมเรียนด้านนี้ แต่ผมมารู้ทีหลังว่าผมไม่ชอบคณิตเลย
“ผมชอบเดินป่า สมัยมอต้นผมเข้าป่าตลอด เป็นคนชอบธรรมชาติ จนเรียนมหาลัยก็คลุกคลีกับสัตว์ ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์มากขึ้น ช่วงที่ผมเรียนวิศวะ ผมเป็นนักสำรวจแมลง สำรวจสัตว์สายพันธุ์ใหม่ และรับงานพานักท่องเที่ยวเดินป่า
“ตอนนั้นเป็นจุดเปลี่ยนเลย ผมมีความสุขกับการเข้าป่า ผมมีความตั้งใจว่าจะเรียนแค่ให้จบ แต่งานที่ผมจะทำต้องเกี่ยวกับธรรมชาติ เกี่ยวกับป่า เกี่ยวกับแมลง มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่คนทั่วไปไม่ได้สนใจเท่าไหร่” เขาเล่าเจือเสียงหัวเราะ
หนุ่มที่มาพร้อมผมฟูอันเป็นเอกลักษณ์เริ่มศึกษาเรื่องสัตว์ป่า แมลง และธรรมชาติอย่างจริงจัง ทั้งหาหนังสือมาอ่านกองเท่าภูเขา แถมโชคดีมากที่เขามีป่าให้เดินสำรวจถึงหน้าบ้าน โจโฉได้เห็น ได้สัมผัส จนสะสมวิชาติดตัวมากมาย

“ผมอยู่กับป่ามาทั้งชีวิต อยู่กับสัตว์และแมลงมาตลอด ตอนเด็กผมไม่มีความรู้เรื่องแมลงเลย จนเรียนในเมือง ได้อ่านหนังสือมากขึ้น ถึงได้รู้ว่าคำสอนของคนเฒ่าคนแก่บนดอยกับหนังสือวิชาการมันไม่ตรงกัน” เขาตั้งคำถาม
โจโฉเล่าเรื่องที่คนเฒ่าคนแก่ว่ากันว่าให้ผมฝัง ส่วนใหญ่มักไม่เป็นความจริง แต่กลับสะท้อนความเชื่อของชาติพันธุ์ม้งที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการอยู่ร่วมกันกับป่า อย่างงูแสงอาทิตย์ ว่ากันว่าถ้าโดนกัดจะเสียชีวิตทันทีเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะนักวิชาการทำวิจัยมาแล้วว่างูแสงอาทิตย์ไม่มีพิษ แต่สาเหตุการเสียชีวิตอาจเกิดจากบาดแผลติดเชื้อ
“ตุ๊กแกกัดไม่ปล่อยจริงหรือเปล่า” ผมถาม
“สัตว์ตระกูลตุ๊กแก กิ้งก่า เวลากัดแล้วเราบีบหรือจับตัวเขา เขาจะกัดไม่ปล่อย ยิ่งเราตกใจ เขายิ่งกัดแรง ถ้าเราปล่อยตัวเขา เขาจะปล่อยเราและวิ่งหนีไปเอง แต่เขาจะวิ่งก็ต่อเมื่อขามีสิ่งยึดเกาะ สมมติตุ๊กแกกัดนิ้วเรา แล้วเราปล่อยให้เขาห้อยโตงเตง เขาจะไม่ปล่อย เพราะเขารู้สึกว่าเรายังทำร้ายเขาอยู่ ส่วนตุ๊กแกกัดแล้วรอฟ้าร้องถึงจะปล่อย อันนี้ก็ไม่จริง

“เราต้องศึกษาก่อนว่าสัตว์ทำอะไรได้บ้าง พฤติกรรมเขาเป็นยังไง อย่างกิ้งกือกัดคน มันกัดผิวหนังของเราไม่เข้า แต่คนกลัวไปก่อนแล้วโดยที่เขาไม่ได้ศึกษาว่ามันกัดได้จริงหรือเปล่า” เขายิ้มก่อนจะเสริมว่า “ผมชอบอ่านหนังสือมากเลยนะ เวลาอ่านแล้วข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ผมจะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าคนไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เขามาอ่านผมว่าเขาต้องเชื่อแน่นอน ผมเลยรู้สึกว่าถ้าผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ได้สัมผัสพวกเขาโดยตรง มันจะทำให้ผมกลายเป็นคนรู้จริง” โจโฉอธิบาย
ความรู้จริงของเขาเริ่มกลายมาเป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดบน YouTube ราวปีก่อน เมื่อตอนที่เขาลองพกกล้องเข้าป่าและลองถ่ายทำอย่างง่ายด้วยตนเอง ด้วยความตั้งใจเล็กจิ๋วที่อยากให้คนรู้จักสัตว์มากขึ้น และเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงว่ายังมีชายหนุ่มที่อินเรื่องธรรมชาติอย่างเขาพร้อมที่จะพาคนอินเรื่องเดียวกันเดินเข้าป่าไปสำรวจโลกของสัตว์ แมลง และพันธุ์พืช
“ความตั้งใจแรกที่สร้างช่องขึ้นมาผมอยากพูดเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ และแมลงมีพิษ ให้คนเข้าใจเรื่องสัตว์มีพิษมากขึ้น เพราะบางทีสัตว์ที่คนเกลียดหรือกลัว มีทั้งเป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย ผมอยากสร้างการรับรู้เรื่องพวกนี้”

ป่าคือทั้งชีวิต
ก่อนจะสนทนากัน โจโฉบอกว่าเขาเพิ่งเดินกลับออกมาจากป่า ผมเลยถือโอกาสถามถึงวิธีการเก็บเกี่ยวเรื่องราวน่าตื่นเต้นที่เขาพบเจอระหว่างทาง และนำออกมาถ่ายทอดเป็นคอนเทนต์สุดเร้าใจที่ทำเอาหลายคนกดกระดิ่งรอติดตาม
“ปกติผมเดินดุ่มเข้าป่าไปเลย ดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างแล้วค่อยถ่ายกันหน้างาน ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าว่าจะถ่ายอะไร แบบนี้มันดูเป็นชีวิตจริงมากกว่า เพราะป่าไม่มีอะไรที่ผมคาดเดาได้ ผมเลยอยากถ่ายทอดชีวิตแบบนั้นออกไป”
โจโฉไม่เพียงรู้เกี่ยวกับป่าที่อยู่ละแวกบ้านตัวเองเท่านั้น แต่ยังรู้ถึงพื้นที่ป่าในภูมิภาคอื่นของประเทศไทยด้วย

“แถวบ้านผมเป็นป่าดิบเขา ป่าภาคใต้เป็นป่าร้อนชื้นและป่าดิบฝน ภาคเหนือเป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบเขา อย่างภาคอีสานจะเป็นป่าเต็งรัง เป็นป่าที่อากาศค่อนข้างร้อน เฉพาะในประเทศไทยก็มีหลายสภาพป่า ต้นไม้และสัตว์ที่เจอก็น่าสนใจแตกต่างกัน เพราะมันต้องใช้ชีวิตและมีวิวัฒนาการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นแตกต่างกันตามไปด้วย”
“ถ้าหลงป่าควรทำอะไรเป็นอันดับแรก” ผมโยนคำถามลงกลางป่า


“ต้องหาแหล่งน้ำ การหาแหล่งน้ำในป่าประเทศไทยไม่ใช่ปัญหาเลยครับ หาง่ายมาก มีเกือบทุกสภาพพื้นที่ป่า ส่วนอาหารไม่น่ากังวลสักเท่าไหร่ เพราะต้นพืชที่ขึ้นในไทยกินได้เยอะมาก แต่เรื่องควรระวังคือสัตว์และแมลง ยิ่งเจอสัตว์ใหญ่จะยิ่งเป็นอันตรายกับชีวิตเรามาก ผมมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการเข้าป่าคือไฟ ควันไฟจะไล่สัตว์ใหญ่ได้ ส่วนสัตว์ตัวเล็กเราแค่เคลียร์พื้นที่ให้โล่ง อย่างงูถ้าเจอที่โล่งเขาจะเลี้ยวกลับทันที อีกอย่างอย่าเดินมั่ว จะยิ่งหลง ควรปักหลักอยู่ที่เดิม
“คนเราอยู่ได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์โดยไม่กินอะไร ผมคิดว่าหนึ่งอาทิตย์ก็น่าจะมีคนตามหาเราแล้ว”
คำตอบสุดท้ายของโจโฉช่างจริงใจและเรียกเสียงหัวเราะให้ผมได้มากโข

ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เด็กหนุ่มชาวม้งที่อยู่กับป่ามาทั้งชีวิตเลือกเดินตามเส้นทางที่เขาเลือกเอง
วันที่ตัดสินใจเดินเข้าป่าเพื่อท่องโลกของสัตว์และแมลง เขาเผชิญกับ ‘ความกลัว’
“ผมกลัวงู กลัวตะขาบ กลัวมาก มีคนเคยบอกผมว่างูเป็นสัตว์น่ารัก ตอนนั้นผมฟังไม่ขึ้น”
“แล้วอะไรทำให้คุณเลิกกลัวสัตว์พวกนี้” ผมสงสัย
“เลี้ยงครับ” เขาตอบทันที


“ผมพูดความจริงนะ กลัวงูเราต้องเลี้ยงงู กลัวแมงมุมต้องเลี้ยงแมงมุม เมื่อไหร่ที่เลี้ยงอะไรสักอย่างเราจะเกิดความผูกพัน ความผูกพันจะทำให้เรารักสัตว์ตัวนั้น จากเลี้ยงหนึ่งตัวมันจะเพิ่มเป็นสิบ เป็นร้อย ผมเลี้ยงจะหลักพันแล้ว
“ผมเริ่มจากเลี้ยงงู เลี้ยงแมงมุม พอรู้สึกว่าไม่ค่อยตื่นเต้นก็เขยิบมาเลี้ยงงูพิษ พอเลี้ยงก็รู้สึกว่าพวกมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เป็นสัตว์ที่น่ารักมาก ไม่ได้อยากจะทำร้ายคน แต่สาเหตุที่มันกัดเป็นแค่การป้องกันตัว ไม่ใช่ว่าเห็นคนเดินมา ก็ลองกัดเล่นสักหน่อย งูไม่ได้จ้องจะกัดหรือวางแผนเลื้อยดักหน้าเพื่อจะฉกเรา พวกมันแค่ใช้ชีวิตตามสัญชาติญาณ” โจโฉอธิบาย
จุดมุ่งหมายของโจโฉไม่ใช่การทำช่องเพื่อแสวงรายได้หรือชื่อเสียง เขาไม่สนใจว่าคนจะดูมากหรือน้อย
หลังจากปล่อยคลิปวิดีโอแรก ‘กิ้งกือตะเข็บ’ แทบไม่มีคนกดดูเลยด้วยซ้ำ แต่ยูทูเบอร์คนนี้ยังทำคลิปออกมาอย่างไม่ขาดสาย โดยมีเพียงเป้าหมายเดียวคืออยากให้คนเข้าใจสัตว์มากขึ้น แม้หน้าตาจะดูไม่เป็นมิตรแต่ไม่ได้พ่วงพิษเสมอไป
ที่สำคัญ เขาไม่อยากให้คนทำร้ายสัตว์พวกนั้นเพียงเพราะความกลัวและคิดว่าเป็นสัตว์มีพิษ โจโฉเลยแถมวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกสัตว์น้อยใหญ่กัดหมับเข้าให้ เป็นคู่มือเอาตัวรอดฉบับพกพาที่เขาแจกจ่ายให้กับทุกคน
“ผมโดนสัตว์กัดเป็นว่าเล่น มากกว่าสามสิบ สี่สิบครั้ง อย่างตะขาบหรือแมงป่องในไทย ถ้าเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันดีอยู่แล้ว เวลาโดนกัดจะแค่ปวด แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ยกเว้นคนที่มีโรคประจำตัว ถ้าเจอสายพันธุ์ที่พิษค่อนข้างแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนผมเจอแต่งูที่มีพิษอ่อน ไม่ได้เจอพวกงูเห่าหรืองูจงอาง ผมก็ยังไม่เคยโดนมันกัดและหวังว่าจะไม่ถูกกัดด้วย

“ถ้ารู้จักพฤติกรรมของเขา รู้ว่ามีพิษหรือเปล่า ทำอันตรายเราได้มากน้อยแค่ไหน เราก็อยู่ร่วมกับเขาได้นะ”
ที่ผ่านมา โจโฉทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการเอาตัวรอดในป่า พืช-ผลไม้ป่า แถมด้วยเมนูอาหารสุดว้าวที่ไม่เคยธรรมดา อย่างต้มแซ่บหมูป่าหมักพิษงูเห่าบวกพิษงูเขียวหางไหม้ (มีคนกดชิมความอร่อยถึง 1.4 ล้านครั้ง) บางครั้งเขาก็ใช้พิษของตะขาบ แมงป่อง และแมงมุม จากนั้นก็เอาไปปรุงสุกผ่านการต้มและย่าง จะว่าไปก็ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากในการนำพิษของสัตว์มาประกอบอาหาร โจโฉทราบข้อกังวลนี้ดี เขาไม่รีรอ ปรึกษากับนักวิชาการ และได้รับคำตอบว่าไม่เป็นอันตราย
“ชาวบ้านส่วนมากเขาเลี้ยงวัว บางคนจนมากมีวัวตัวเดียว แล้ววัวดันโดนสัตว์มีพิษกัด เขาก็ไม่กล้ากินเนื้อวัวเพราะคิดว่ายังมีพิษอยู่ วัวก็ขายเนื้อไม่ได้ เขาก็ต้องทิ้ง
“ผมเลยทำคลิปขึ้นมาสร้างความเข้าใจว่าเนื้อส่วนนั้นยังทานได้ แต่ต้องทำให้มันถููกต้อง ต้องปรุงให้สุกก่อน เพราะพิษสัตว์มีโปรตีนเข้มข้นสูง พอสุกก็กลายเป็นโปรตีน เวลากินเข้าไปก็เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย ถ้าไม่ปรุงสุกคุณสมบัติของพิษยังมีอยู่ มันจะเข้ากระแสเลือดและเป็นอันตรายต่อร่างกาย”

สัตว์สายพันธุ์ใหม่
หลังจากก้าวข้ามความกลัวมาได้ โจโฉเลี้ยงสัตว์โลกผู้น่ารักทั้งหมดจำนวนหลักพัน จนพัฒนากลายเป็นความสนใจ สู่นักสำรวจสัตว์และแมลงสายพันธุ์ใหม่ ทำให้นักวิชาการหลายคนถึงกับขอตัวอย่างจากโจโฉเพื่อศึกษาพันธุ์ของแมลง
“ป่าแถวบ้านผมเจอสัตว์สายพันธุ์ใหม่หลายชนิด บางตัวค้นพบแล้วแต่ยังถือว่าเป็นสัตว์แปลกอยู่สำหรับคนที่ไม่เคยเห็น อย่างแมงมุมโบราณก้นตัด กิ้งก่าบินที่ร่อนตัวเองได้ ตุ๊กแกบินได้ ตุ๊กแกหางเฟิร์น มีตะขาบที่เขาว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อหกสิบปีก่อน แต่ผมกลับมาเจอมันอีกครั้ง มีจิ้งเหลนที่ไม่มีขา มีทารันทูร่าที่อยู่บนต้นไม้ ทั้งหมดถือเป็นสัตว์หายาก”

เมื่อใดก็ตามที่เดินเข้าป่าแล้วโจโฉบังเอิญเจอสัตว์หน้าตาแปลกประหลาดที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาจะเก็บกลับบ้านและสันนิษฐานว่าเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ พร้อมโพสต์ลงกลุ่มเฟซบุ๊กที่รวมผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการเพื่อตามหาคำตอบ จนทำให้เกิดการขอตัวอย่างสัตว์ตัวน้อย พันธุ์พืช และผลไม้ป่า เพื่อศึกษาต่อและเก็บสะสมเป็นคลังความรู้สำหรับคนที่สนใจ
โจโฉไม่ได้มองว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเมื่อเทียบกับนักวิชาการตัวจริง เขาเป็นเพียงแต่ผู้ที่สนใจและศึกษาเรื่องราวของสัตว์เหล่านั้นพอเป็นพื้นฐานและนำเสนอให้คนหันมาเพิ่มความสำคัญกับสัตว์มากขึ้น เอาตัวรอดได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากัน

อยากให้ธรรมชาติอยู่กับเราไปนานๆ

จากความกลัวกลายเป็นความหลงใหล แชนเนล Jocho Sippawat มีคนติดตามมากกว่า 1 ล้านคนและขยายขอบเขตเนื้อหามากกว่าการเดินเข้าป่า เป็นการเดินสำรวจถ้ำ ย่ำชายหาดและล่องเรือออกท้องทะเล สนุกมาก!
“ผมอยากทำเกี่ยวกับสภาพป่า บนเกาะ และระบบนิเวศ ให้มันครอบคลุมทั้งหมดเลยครับ เน้นประเทศไทยเป็นหลัก อนาคตผมฝันอยากมีบริษัทเล็กๆ ของตัวเอง เปิดอบรมให้เด็กเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติ ให้เขารู้จักรักษาธรรมชาติ
“ผมอยากให้ธรรมชาติอยู่กับเราไปนานๆ ถึงตอนนั้นบริษัทจะเจ๊งก็ไม่เป็นไรครับ” เขายังรักษาระดับอารมณ์ขัน
การลุกขึ้นมาทำแชนเนลของโจโฉได้เปลี่ยนความกลัวเป็นความเข้าใจ
“ผมบอกเลยนะครับ การทำ YouTube ไม่ได้สนุกเท่าไหร่ มันเหนื่อยครับ แต่ผมทำเพราะอยากให้ทุกคนเห็นและเข้าใจธรรมชาติและวิถีชีวิตของเรากับสัตว์มากขึ้น บางคนอาจบอกผมว่าบ้าไปแล้ว ที่เรียนจบแล้วแบกเป้มาใช้ชีวิตในป่า”
หลังจบประโยคลูกบ้าของเขา ผมและโจโฉก็หัวเราะครืน

ภาพ : Jocho Sippawat