หลายครั้งที่เลือกเมนูอาหารไม่ถูก ไส้กรอกก็มักปรากฏตัวเป็นช้อยส์ใกล้ตัวอยู่บ่อย ๆ ของใครหลายคน อาหารทานง่ายแค่เข้าไมโครเวฟ จวบจนครีเอตได้หลากหลายเมนู น่าจะเป็นของติดครัวหลายบ้าน เราหาซื้อไส้กรอกได้ง่าย ๆ แค่เดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เลือกหยิบใส่ตะกร้าได้เลย ไม่ว่าจะไส้กรอกเวียนนา ไส้กรอกเยอรมัน แฟรงก์เฟิร์ต ไส้กรอกหมู และอีกสารพัดไส้ แต่คงมีไม่กี่เอะใจที่คิดว่า มื้อนี้ล่ะ ฉันจะทำไส้กรอกกินเอง!
‘เพราะทำไส้กรอกเองไม่ใช่เรื่องง่าย งั้นซื้อกินดีกว่า’
หากใครกำลังคิดแบบนี้ ลองสไลด์ปลายนิ้วเลื่อนอ่าน Staycation ด้านล่างนี้ก่อน แล้วความคิดคุณอาจจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อก้าวเข้าบ้านปูนสีขาวนวล รายล้อมด้วยต้นไม้ใบเขียว เจ้าบ้านเดินมาต้อนรับเราด้วยรอยยิ้ม เชื้อเชิญให้พบกับความสนุกที่รออยู่กับการทำไส้กรอกโฮมเมด ผักสดที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของวันนี้เป็นผักสวนครัวจากสวนหน้าบ้านของ เพลง-ร่มฉัตร ขำศิริ อดีตเชฟผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมานับ 10 ปี จบสายตรงจาก Institute of Culinary Education NYC ปัจจุบันเป็นเจ้าของ Sundayisgood สถานที่ที่เธอเชื่อว่าการได้ทำอาหาร อบขนมปัง อยู่กับต้นไม้ในวันอาทิตย์ เป็นสิ่งที่ฟีลกู๊ดสำหรับวันพักผ่อนสบาย ๆ จึงเปิดให้คนที่สนใจสิ่งเดียวกัน มาสนุกและผ่อนคลายไปด้วยกันกับคลาสเรียนไส้กรอก 4,200 บาท/1 วัน ใครที่สนใจ เชิญกดติดตามเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม Sundayisgood ไว้เตรียมลงคอร์สได้ตลอดทุกเดือน
คลาสเรียนไส้กรอกนี้เริ่มมาจากคลาสสอนทำ Sourdough ทุก ๆ ครั้งเมื่อจบขั้นตอนอบขนมปัง เชฟเพลงจะทำอาหารให้นักเรียนด้วยความตั้งใจ อยากให้นักเรียนมาแล้วได้กินของอร่อยจริง ๆ ได้กินของดีจริง ๆ ซึ่งไส้กรอกเป็นหนึ่งองค์ประกอบของจานเหล่านั้น หลายคนชอบและเรียกร้องให้เปิดสอน คลาสทำไส้กรอกโฮมเมดจึงเกิดขึ้น
สะอาด ถูกปาก ปลอดภัยจากวัตถุกันเสีย คือข้อดีที่หาได้ยากจากไส้กรอกตามท้องตลาด ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยจากสารไนเตรต (โซเดียมไนไตรท์ – NaNO2 คือเจ้าสารยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นเหตุให้อาหารเสีย) เมื่อบริโภคเข้าไปมาก ๆ จะสะสมจนส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ฉะนั้นถ้าเราทำเอง ก็เลือกวัตถุดิบได้เอง รู้ที่มาที่ไป คัดเลือกส่วนผสมที่ดีที่สุดมาปรุง อร่อยได้ไปพร้อมกับความสบายใจ
สารพัดเมนูไส้กรอก ปรุงแต่งขึ้นตามความต้องการของคนกิน บ้างนิยมทานคู่กับไข่ดาวแบบฉบับบอเมริกันเบรกฟาสต์ บ้างนำไปทำพาสต้าจานโปรด หรือบางคนกินกับข้าวสวยร้อน ๆ แต่ละสูตรจึงแตกต่าง ไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีผิดไม่มีถูก ขอแค่ใจกล้าและรักความสนุก ไม่ยึดติดกับรูปโฉมเดิม ๆ ของไส้กรอก ก็ผูกผ้ากันเปื้อน หยิบเขียง เตรียมหั่นหมู และลงมือปรุงตามจริตของแต่ละคนได้เลย
วัตุดิบ
- ผักและสมุนไพร
- เครื่องปรุงรส
- เนื้อหมูบดหรือเนื้อหมูชิ้นนำมาหั่นเอง 1 กิโลกรัม (ขั้นตอนการทำเนื้อทั้งสองชนิดเหมือนกัน สิ่งที่ต่างคือรสสัมผัส)
- มันหมูแช่แข็ง
- ไส้หมู (แนะนำไส้หมูสำเร็จรูปแช่แข็ง ง่ายต่อการทำความสะอาด แค่ฉีกซอง ล้างน้ำ และแช่น้ำพักไว้)
วิธีทำไส้กรอก
1. หั่นมันหมูแช่แข็งและเนื้อหมูส่วนหัวไหล่หรือสะโพก ในอัตราส่วน 1 : 4 (ควรใช้เนื้อหมูส่วนหัวไหล่หรือสะโพก เพราะมีมันแทรกอยู่ เพิ่มความนุ่ม-ความนัวให้ไส้กรอก)
2. หั่นสมุนไพรสำหรับหมักหมู เช่น กระเทียม หัวหอม ผักชี พาร์สลีย์ โรสแมรี่ และเตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุงรส เช่น พริกไทย ผงปาปริก้า เกลือ โดยใส่เกลือ 10 กรัม ต่อหมู 1 กิโลกรัม จะได้ความเค็มระดับพอดี ส่วนวัตถุดิบอื่นปรับส่วนได้ตามความต้องการ
3. ทั้งหมดนี้สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ไม่มีผิด ไม่มีถูก เชฟเพลงกระซิบว่าขั้นตอนที่สนุกที่สุดอยู่ตรงนี้ เหมือนเรากำลังริเริ่มสูตรอะไรสักอย่างในแบบฉบับของตัวเอง
นักเรียนบางคนใส่ซอสโคชูจัง บางคนใส่เครื่องแกง บางคนใส่เครื่องลาบ ไส้กรอกชิ้นนี้จึงเป็นมากกว่าอาหาร เพราะเป็นสิ่งที่โชว์ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนได้
แต่หากใครยังไม่มั่นใจว่าจะปรุงอะไรดี เรามีสูตรเบสิกมาฝาก ก็คือใส่ผักชี กระเทียม เกลือ พริกไทย ตามตำรับตำราเครื่องปรุงฉบับไทย หรือเพิ่มรสชาติขึ้นมาอีกนิดด้วยพาร์สลีย์ โรสแมรี่ ผงปาปริก้า และไวน์แดง (สูตรนี้เป็นสูตรที่เราได้ชิม บอกเลยว่าอร่อยจนติดใจ พร้อมตั้งเตาทำพาสต้าเพิ่มเลย)
4. หนึ่งมือจับกะละมัง อีกข้างสวมถุงมือ ขยำคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน
5. เมื่อทุกอย่างเข้าเนื้อ ลองปั้นก้อนเล็ก ๆ สำหรับหนึ่งคำ นำไปปรุงสุก จะทอด ย่าง อบ ก็ตามสะดวก เพื่อชิมว่าได้รสตามที่ต้องการหรือไม่ ถ้าน้อยไปก็ปรุงเพิ่มได้เลย
6. มาถึงขั้นตอนที่โหดและอาศัยความประณีตขั้นสุด นั่นคือการยัดไส้ หาปลายไส้หมูที่แช่น้ำเตรียมไว้ให้เจอ แล้วแหวกปลายออกเพื่อใส่น้ำลงไปในไส้ จะช่วยให้ง่ายขึ้นตอนนำไส้ไปใส่หลอดยัด
7. เมื่อใส่ไส้ไปในหลอดยัดเสร็จแล้วให้มัดปมตรงปลาย แล้วจิ้มด้วยไม่จิ้มฟันให้ทะลุก่อนเริ่มดันเนื้อหมูที่อยู่ในเครื่องออกมา
8. มือข้างซ้ายประคองไส้กรอกไว้ มือข้างขวากำหนดขนาดของไส้กรอก โดยการบีบคลาย จัดทรงให้ความแน่นของไส้อยู่ในระดับพอดี ๆ ไม่แน่นไปเพราะจะทำให้ปริ และไม่หลวมไปเพราะจะเหี่ยว ใส่ให้แน่นพอดีจนถึงปลายไส้ เว้นไว้สำหรับผูกปลายประมาณ 2 นิ้ว
ถ้าบ้านไหนไม่มีเครื่องทำไส้กรอกแบบนี้ ก็หาซื้อเครื่องเล็กในแอปฯ ช้อปปิ้งได้เลย รูปร่างคล้ายกระบอกสูบลมจักรยาน นำมายัดไส้ให้อร่อยได้ไม่ต่างกัน
9. หลังจากได้ไส้กรอกเส้นยาวมาแล้ว ให้เตรียมไม้จิ้มฟันจิ๋ว จิ้มลงไปตรงจุดขาว ๆ ที่เป็นฟองอากาศ เชฟเพลงย้ำว่าถ้าเราไม่เอาอากาศออก จะทำให้ไส้กรอกปริตอนบิดหรือทอดได้
10. เมื่อเอาอากาศออกเรียบร้อย ก็เข้าสู่อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ นั่นคือ การบิด ขนาดขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน อยากได้เส้นยาวแบบไส้อั่ว ไซส์กลางแบบไส้กรอกเยอรมัน ไปจนถึงลูกจิ๋วแบบไส้กรอกอีสาน ก็เลือกและกะความยาวได้เลย สิ่งเดียวที่ต้องทำเหมือนกันไม่ว่าจะเลือกไซส์ไหน คือต้องบิดเข้า-บิดออก สลับกันไปเรื่อย ๆ จนหมด
11. นำไส้กรอกที่บิดแล้วเรียงใส่ถาดแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาทิ้งไว้ 1 คืน ค่อยนำมาตัดฉับเป็นชิ้น ๆ
12. เพียงเท่านี้ ก็ได้ไส้กรอกโฮมเมดพร้อมรับประทานแล้ว สามารถแช่ช่องฟรีซเพื่อยืดอายุไส้กรอก เก็บไว้ทานได้ 1 เดือนเต็ม
ไส้กรอกเปล่า ๆ ว่าอร่อยแล้ว แต่เชฟเพลงมีแถมอีกหนึ่งสิ่งที่กินคู่กับไส้กรอกอย่างลงตัวมาฝาก นั่นก็คือ ผักดอง ทำง่ายแต่อร่อยไม่เบา แค่นำผักอะไรก็ได้ที่ชอบมาดองหวาน กินเป็นเครื่องเคียง ตัดเลี่ยน เสริมรสได้ดี
วัตถุดิบ
- ผักที่จะดอง เช่น หัวไช้เท้า แตงกวา เห็ด แครอท พริกหวาน มะเขือเทศ
- น้ำเปล่า 400 กรัม
- น้ำส้มสายชู 250 กรัม
- น้ำตาล 150 กรัม
- เกลือ 5 กรัม
- ขวดโหลสำหรับใส่ผักดอง
วิธีทำผักดอง
1. หั่นผักที่เราต้องการใส่ขวดโหล
2. ต้มน้ำ พร้อมเคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ รอจนเดือด แล้วเทราดผักที่หั่นเตรียมไว้
3. ปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้ 1 คืน เพียงเท่านี้ก็มีผักดองหวานกรอบพร้อมทานในวัดถัดไป และเก็บใส่ขวดโหลไว้กินได้อีกเป็นเดือน
ถ้าอยากค้นหาไส้กรอกตามสูตรของตัวเองแล้ว ก็เตรียมวัตถุดิบทุกอย่างให้พร้อม ลงมือทำวันนี้ ได้กินพรุ่งนี้เลย แล้วจะรู้ว่า ‘ทำไส้กรอกกินเอง ง่ายกว่าที่คิด’