ปัจจุบัน คำว่า ‘รักษ์โลก’ มีบทบาทสำคัญทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่ทั่วโลกต้องตระหนักและให้ความสนใจ เพราะเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างผลกระทบกับมนุษย์โลกได้ หากเราไม่ดูแลรักษาก็จะส่งผลกระทบเชิงลบในอนาคตได้

‘เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ จึงเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Framework) ต้องมีการพัฒนาที่เชื่อมโยงและสัมพันธ์ โดยคำนึงถึงองค์ประกอบ 3 ด้าน คือเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นคำว่า ‘สิ่งแวดล้อม’ แต่จะหาวิธีดูแลโลกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และการทำธุรกิจอย่างไร นี่คือโจทย์ใหญ่ของประเด็นสิ่งแวดล้อมในบ้านเราวันนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อย ทั้งคนธรรมดาและเจ้าของกิจการที่ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและอยากร่วมด้วยช่วยกันรักษ์โลก แต่การรักษ์โลกยุคนี้มีราคาที่ต้องจ่าย แถมเป็นราคาที่สูง เราจึงต้องการตัวช่วยที่จะทำให้การใช้ชีวิตของเรากระทบโลกน้อยที่สุด ทำได้นานและยั่งยืนจริง ๆ

องค์กรที่เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้คือธนาคาร หลายแห่งออกสินเชื่อและปรับนโยบายเพื่อคนธรรมดาที่อยากดูแลสิ่งแวดล้อม เจ้าของธุรกิจรายเล็กและใหญ่ที่อยากทำธุรกิจด้านนี้ เพื่อให้พวกเขามีทุนไปต่อยอด ไม่ต้องพะวงค่าใช้จ่าย 

ธนาคารออมสิน วางตัวเป็น ‘ธนาคารเพื่อสังคม’ มาโดยตลอด ยุคนี้พวกเขานิยามคำว่าการทำเพื่อสังคมควรกว้างขึ้น สิ่งแวดล้อมควรนับรวมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของธนาคาร วิธีที่ธนาคารออมสินเลือกคือการออก ‘สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม’ ให้กับเหล่าคนไทยที่อยากดูแลสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ

เบื้องหลังแนวคิดและความตั้งใจดีนี้คืออะไร ออมสินเปิดบ้านเล่าให้เราฟัง

สินเชื่อรักษ์โลก และจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมที่มีมานาน

ออมสินกับคำว่า ‘งานเพื่อสังคม’ มีมายาวนานจากภารกิจเพื่อสังคมในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเริ่มเก็บข้อมูลกิจกรรมเพื่อสังคมหรือที่เรียกว่า CSR Report จากองค์กรทั่วประเทศ ออมสินทำโครงการปลูกปะการังเทียมอย่างต่อเนื่อง สร้างที่อยู่อาศัยให้สัตว์ทะเล และฟื้นฟูระบบนิเวศให้ดีขึ้นอีกแรง เข้าไปปรับปรุงโฮมสเตย์ให้กลายเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างงาน สร้างอาชีพแก่ชุมชน พัฒนาอาหารพื้นถิ่น และล่าสุดกับโครงการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม (Holistic Area Based Model) ใน 5 หมู่บ้านบนยอดดอยเปียงซ้อ จังหวัดน่าน ครอบคลุมด้านแหล่งทุนและปัญหาหนี้สิน ด้านการสร้างงาน สร้างอาชีพ ด้านการท่องเที่ยว ด้านศาสนาและการศึกษา ด้านการจัดการขยะ ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ด้านสุขภาพและการแพทย์ ด้านความรู้ทางการเงินและส่งเสริมการออม ทั้งหมดนี้คือจุดยืนที่ชัดเจนของคำว่า ‘ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อสังคม’

สำหรับด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมในภาคธุรกิจ ธนาคารออมสินมีสินเชื่อชื่อว่า ‘GSB For BCG Economy’ เป็นอาวุธสำคัญ หน้าที่คือรับบทเป็นทุนหมุนเวียน ลงทุนในทรัพย์สินถาวรกับกิจการที่มีโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy Model) สำหรับลูกค้าทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังแตกย่อยตัว ‘G’ ที่มาจากคำว่า Green Economy (เศรษฐกิจสีเขียว) เป็นสินเชื่อ GSB Green Biz ให้ทุนกับธุรกิจที่มองปัญหาสภาพแวดล้อมใกล้ชีวิตประจำวัน ทำงานที่เกี่ยวกับการลดโลกร้อน ลดก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรม และเป็นการแก้ไขปัญหามลพิษเพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน

สำหรับสินเชื่อในระดับบุคคล ออมสินมีสินเชื่อ ‘GSB Go Green’ ที่ให้คนที่อยากซื้อยานพาหนะ อุปกรณ์พลังงานทดแทน หรืออุปกรณ์ประหยัดไฟ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน และสินเชื่อ ‘GSB Green Home Loan’ สนับสนุนผู้ต้องการซื้อบ้านที่มีการออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน ดูแลสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ โดยการออกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามกรอบและแนวปฏิบัติการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของธนาคารออมสิน และช่วยให้เห็นถึงจุดยืนความกรีนของธนาคารเด่นชัดขึ้น อยากทำให้เรื่องรักษ์โลกใกล้ชิดผู้คนในยุคนี้มากขึ้น

กรอบการเดินทางเพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืนของธนาคารออมสินคือ ESG หรือ Environment, Social, และ Governance ที่เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน พยายามจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดขึ้น ลบผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ 

นอกจากจะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ภายในองค์กร คนภายนอกองค์​กร ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึง ‘ลูกค้า’ ทั้งที่เป็นบุคคลทั่วไปหรือผู้ประกอบการ ธนาคารออมสินก็อยากลงมือช่วยให้พวกเขาดูแลสิ่งแวดล้อมได้จริงเหมือนกัน

ลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการรักษ์โลก

ต้นทุนในการดูแลโลกสูงขึ้น การลดมลภาวะจากการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมล้วนมีค่าใช้จ่าย

ให้คิดวันนี้และเปลี่ยนพรุ่งนี้ คงทำไม่ได้เร็วทุกคน ประเด็นหลักคือเรื่องเงิน นั่นคือสิ่งที่ธนาคารออมสินอยากช่วยเติมช่องว่างนี้ให้เต็ม

ทุก ๆ สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมของธนาคารออมสินต่างมีสิทธิพิเศษที่ธนาคารจะลดต้นทุนให้กับคนที่มาขอสินเชื่อ ให้ดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ถ้าผู้ประกอบการบางรายยังมองไม่เห็นถึงความจำเป็นในการดูแลสิ่งแวดล้อม การมีสินเชื่อที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เจ้าของธุรกิจอยากทำตัวให้กรีน เพื่อรับสิทธิประโยชน์นี้ที่พิเศษกว่าสินเชื่อทั่วไป 

การคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรมยังเป็นกลยุทธ์ให้คนคิดว่า ถ้าเริ่มจากแค่ติดโซลาร์เซลล์ก็ประหยัดไฟไปได้กว่าครึ่ง ได้ดอกเบี้ยถูก กู้แบงก์ได้ ปลูกฝังให้เขาดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อม แม้ผู้ประกอบการรายนั้นไม่ได้สนใจในตอนต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารออมสินคิดมาแล้วอย่างดี

และไม่ว่าคุณจะเป็นชาวบ้าน แม่ค้า คนขับแท็กซี่ ขี่มอเตอร์ไซค์ เปิดธุรกิจเล็ก ๆ หรืออยู่ในระดับธุรกิจใหญ่ ๆ คุณก็ใช้สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ได้ 

GSB Go Green ไลฟ์สไตล์รักษ์โลกมีได้โดยไม่ต้องกังวลเงินในกระเป๋า

การดูแลสิ่งแวดล้อม ลดก๊าซเรือนกระจก หรือช่วยลดภาวะโลกร้อน อาจเริ่มได้ด้วยตัวเราผ่าน ‘ไลฟ์สไตล์’ การใช้ชีวิต และการมีสินเชื่อบุคคล GSB Go Green ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงโอกาสในการมีไลฟ์สไตล์ที่ว่า แถมยังแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเราได้อีกด้วย 

หลายคนรู้กันดีว่าการติดโซลาร์เซลล์ช่วยลดค่าไฟอย่างเห็นได้ชัด ทว่าราคา ณ ปัจจุบันกลับสูงลิ่ว จึงเป็นได้แค่ทางเลือกของคนที่มีกำลังทรัพย์ ซึ่งธนาคารออมสินไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น จึงได้ออกสินเชื่อบุคคล GSB Go Green สินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการติดโซลาร์เซลล์ โดยหากมีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี วงเงินกู้สูงสุดถึง 10 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือลูกค้าอีกทางหนึ่ง

รวมถึงลูกค้าที่อยากเปลี่ยนการใช้งานรถยนต์ส่วนตัวที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) รถยนต์ไฮบริด (Hybrid) หรือรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ถือเป็นทางออกหนึ่งในสถานการณ์ที่น้ำมันค่อนข้างแพง ก็ให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์ EV รถยนต์ไฮบริด รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยหากมีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 15 ปี จากที่ปกติไฟแนนซ์จะผ่อนอยู่ที่ประมาณ 7 ปีเท่านั้น

สำหรับลูกค้าที่ไม่มีหลักประกัน ระยะเวลาในการผ่อนก็ไม่ใช่การผ่อน 10 เดือนแบบที่เราคุ้นเคยกัน แต่ยืดเวลาออกไปให้สูงสุดถึง 7 ปี วงเงินกู้สูงสุดถึง 5 แสนบาท

จุดเด่นของสินเชื่อนี้จึงเป็นการที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเสมอไป ไม่ต้องเอาบ้าน คอนโด หรือทรัพย์สินมาค้ำประกัน ซึ่งบางธนาคารยังมีเงื่อนไขเหล่านี้อยู่ และสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าในแต่ละเดือนต้องจ่ายเท่าไหร่บ้าง ทางธนาคารจะคำนวณให้ทันทีว่า 3 เดือนแรกต้องผ่อนเท่าไหร่ เดือนถัดไปต้องจ่ายอีกเท่าไหร่ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น และเห็นว่าในแต่ละเดือน การมีไลฟ์สไตล์รักษ์โลกช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือค่าไฟได้เท่าไหร่ อย่างกรณีการติดโซลาร์เซลล์

ปัญหาของการติดโซลาร์เซลล์คือคนกังวลว่าติดแล้วจะดีจริงหรือเปล่า ช่วยได้จริงไหม กังวลถึงจุดคุ้มทุน ธนาคารออมสินพยายามหาพันธมิตรที่มีความรู้หลาย ๆ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีคอนเนกชันกับบริษัทติดโซลาร์เซลล์ เพื่อเรียนรู้และนำมาไขข้อสงสัยให้กับลูกค้า เหล่าพันธมิตรเองก็อธิบายให้กับลูกค้าที่สนใจได้โดยตรงก่อนส่งต่อให้ธนาคารดูแล

GSB Green Home Loan เพื่อบ้านประหยัดพลังงานในฝัน

ข้อนี้สำหรับคนอยากมีบ้านที่ออกแบบมาเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco House) ธนาคารออมสินจับมือกับเพื่อนบ้านพันธมิตรบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 7 – 8 แห่งที่มีการออกแบบบ้านในโครงการให้กรีนและประหยัดพลังงาน โดยการออกสินเชื่อ GSB Green Home Loan ให้ลูกค้าเข้าถึงบ้านลักษณะนั้นได้

บ้านที่เราว่า ส่วนหนึ่งหมายถึงโครงการบ้านที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้กับลูกบ้าน เช่น แสนสิริที่ธนาคารออมสินเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย แต่นอกจากนั้นแล้ว ธนาคารนี้มองว่าการสนับสนุนให้คนที่ต้องการบ้านประหยัดพลังงานคงไม่ได้มีทางให้เลือกแค่โซลาร์เซลล์อย่างเดียว แต่พวกเขายังคิดไกลไปถึงโครงการบ้านที่ ‘ออกแบบ’ โครงสร้างให้เอื้อต่อการประหยัดพลังงานและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมภายในบ้านได้พร้อมกัน แค่เราปรับองศา ปรับทิศทางการออกแบบบ้านหรืออาคาร ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายและประหยัดพลังงานได้

อีกหนึ่งโครงการที่ทำบ้านแบบนี้เช่นเดียวกันคือบ้านของศุภาลัย พาร์ตเนอร์ที่ออกแบบบ้านโดยคำนึงถึงทิศทางลม ช่วยให้เราเปิดแอร์เบา ๆ ก็เย็นขึ้นกว่าแต่ก่อน คำนวณไปถึงการออกแบบบ้านให้แสงแดดเข้ามาในตัวบ้านเท่าไหร่ที่จะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า ไปจนถึงการใช้วัสดุในการสร้างบ้านที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ 

GSB For BCG Economy เมื่อทุกธุรกิจต่างกระทบธรรมชาติ จึงควรตระหนักเรื่องนี้

ทีมบริหารด้านความยั่งยืนของธนาคารออมสินต่างมองว่าเหล่าผู้ประกอบการมีส่วนสำคัญมากในการขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อม 

จากการค้นข้อมูลร่วมกับกรมโรงงาน ออมสินพบว่าการใช้ไฟส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการใช้ไฟในครัวเรือน แต่เกิดจากการใช้ไฟในภาคการผลิตและภาคอุตสาหกรรม หากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมหลายร้อยโรงงานหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทดแทน จะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล

สินเชื่อ GSB For BCG Economy คือสินเชื่อสนับสนุนกิจการที่มีโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy Model) โดยเป็นลูกค้าทุกประเภทอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมอาหารและการแปรรูป อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ ฯลฯ ซึ่งธนาคารแห่งนี้ยึดหลัก BCG นี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2564 

สิ่งที่ช่วยได้คือการออกแบบสินเชื่อเพื่อลดต้นทุนในการต่อยอดธุรกิจให้กรีนของเจ้าของกิจการ โดยให้ดอกเบี้ยพิเศษไปจนถึง Supply Chain ของพวกเขาเลยทีเดียว 

ธนาคารทราบดีว่าบางครั้งเจ้าของธุรกิจหลายต่อหลายคนอยากลงมือทำ แต่ต้องเก็บหอมรอมริบ ซึ่งอาจใช้เวลานาน ยิ่งถ้าคิดดอกเบี้ยแพง ผู้ประกอบการก็คงไม่มีเงินลงทุน และล้มเลิกความตั้งใจที่จะช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมไปกลางคัน ธนาคารออมสินจึงตัดสินใจให้เงินลงทุนไปตั้งแต่วันนี้ โดยข้อเสนอพิเศษในการไม่จำกัดวงเงินกู้และให้ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้ลงมือทำตามความตั้งใจ

ซึ่งธุรกิจตามหลัก BCG ที่อยากผลักดันให้หลาย ๆ ธุรกิจหันมาทำธุรกิจลักษณะนี้ มีรายละเอียดคร่าว ๆ ได้แก่ 

ตัว ‘B’ มาจาก Bio Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เช่น ธุรกิจไบโอดีเซล พลังงานทดแทน และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

ตัว ‘C’ มาจาก Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน เน้นการลดปริมาณของเสียให้น้อยลงหรือเท่ากับศูนย์ ด้วยการปรับกระบวนการผลิต นำวัสดุกลับมาใช้ซ้ำ และรีไซเคิลให้กลับมาใช้ใหม่ได้

ตัว ‘G’ มาจาก Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียว เน้นการแก้ไขปัญหามลพิษเพื่อลดผลกระทบต่อโลกโดยตรง เช่น การติดตั้ง Solar Rooftop ออกแบบโรงไฟฟ้าให้ใช้พลังงานทดแทน เช่น ก๊าซชีวภาพ ชีวมวล หรือพลังงานหมุนเวียน ไปจนถึงลดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว

จะเห็นได้ว่าธนาคารเป็นตัวผลักดันสำคัญให้ภาคธุรกิจมีโอกาสเติบโตขึ้นแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตามหลัก BCG ได้ 

GSB Green Biz สินเชื่อที่ดึงความกรีนมาใกล้ธุรกิจให้มากขึ้น

จากความสำเร็จของสินเชื่อ GSB For BCG Economy ที่เปิดตัวมาแล้วได้รับผลตอบรับอย่างดี ธนาคารออมสินจึงดึงตัว ‘G’ หรือ Green ออกมา เพื่อเจาะจงไปเลยว่านี่คือสินเชื่อที่ทำเพื่อให้โลกของเราเป็นสีเขียว กลายเป็นสินเชื่อที่เรียกว่า GSB Green Biz

สินเชื่อตัวนี้เหมาะกับผู้ประกอบการที่กำลังพัฒนาให้ธุรกิจเข้าสู่กรอบของเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) และมีความตั้งใจดีในการแก้ไขปัญหามลพิษเพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน ซึ่งคำนึงถึงด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล

GSB Green Biz ดึงเรื่องความกรีนมาใกล้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น ทั้งทำให้ผู้ประกอบการเห็นว่าการลดมลพิษจากภาคธุรกิจเป็นเรื่องใกล้ตัวที่พวกเขาก็ทำได้ ไม่ว่าจะช่วยลดโลกร้อน ลดก๊าซเรือนกระจก หรือใช้รถไฟฟ้าประกอบธุรกิจ โดยจุดเด่นของสินเชื่อนี้ยังคงเป็นดอกเบี้ยที่จูงใจให้ผู้ประกอบการเข้ามาทำตัวให้กรีนกัน สิทธิพิเศษเหล่านั้น ได้แก่ ไม่จำกัดวงเงินกู้ การปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 2 ปี ผ่อนได้นานสูงสุด 10 ปี กู้ได้ทั้งบุคคลและนิติบุคคล

การปรับตัวให้เท่าทันโลกที่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกพูดถึงนับเป็นสิ่งจำเป็น เพราะถ้าบริษัทเป็นซัพพลายเออร์กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทต่างประเทศ หรือต้องส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ ท้ายที่สุดอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับข้อกำหนด ข้อบังคับ หรือกฎเกณฑ์ระดับสากล เช่น สหภาพยุโรปที่พวกเขาให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ ดังนั้น หากธุรกิจไม่ยอมปรับตัวอาจเกิดความเสียหายตามมาได้ ซึ่งหากตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไร สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมของธนาคารออมสินเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปูทางคุณสู่การสร้างธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งน่าไว้วางใจด้วยประสบการณ์และความน่าเชื่อถือที่มี

ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ เพื่อสิ่งแวดล้อมและลูกค้า 

อย่างที่เน้นย้ำไปตอนต้นว่าการทำเพื่อสังคมกลายเป็นสัญลักษณ์ของธนาคารออมสินไปแล้ว และการออกสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้ภาพของการทำเพื่อสังคมนั้นชัดขึ้น เพราะเรื่องสิ่งแวดล้อมกับสังคมนั้นยึดโยงและเป็นเรื่องเดียวกัน

อนาคตอันใกล้ สำหรับสินเชื่อที่ธนาคารออมสินจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ คือสินเชื่อ EV Supply Chain เพื่อผู้ประกอบการที่ทำเรื่องรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ และสินเชื่อนี้ไม่ได้ให้แค่เฉพาะผู้ประกอบการอย่างเดียว แต่ให้กับทุกคนที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจนี้ ทั้งคนผลิตรถไฟฟ้า ผลิตแบตเตอรี่ โรงงานเหล็ก โรงงานเบรก เครื่องเสียง ดีลเลอร์ คนขาย คนซ่อม ฯลฯ เรียกได้ว่าทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ซึ่งการมีส่วนร่วมตรงนี้คือสิ่งที่ธนาคารออมสินอยากเห็นมากที่สุด

จะเห็นได้ว่าจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้ารักและวางใจสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม คือดอกเบี้ยที่เป็นธรรม เพราะธนาคารออมสินมองว่านี่เป็นสิ่งที่ธนาคารช่วยได้ เพราะหากลูกค้าไม่มีต้นทุน พวกเขาจะดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนได้อย่างไร โอกาสในการเติบโตที่เดินไปพร้อมกับการรักษ์โลกไม่มีทางเกิดขึ้นจริงถ้าไม่มีใครยื่นมือช่วย

อีกปัจจัยที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยและเป็นอีกจุดเด่นที่ยึดถือมาตั้งแต่เปิดองค์กรจนถึงวันนี้ คือ ‘การเข้าถึงลูกค้าอย่างจริงใจ’ ธนาคารออมสินมองว่าลูกค้าหลายคนตัดสินใจไม่ไปธนาคารพาณิชย์บางแห่งเนื่องจากพวกเขาคิดว่าตัวเองยังเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ แต่ธนาคารออมสินชัดเจนเรื่องการเปิดรับทุกคนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กแค่ไหนหรือเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ ก็ปราศจากการเลือกปฏิบัติและดูแลอย่างทั่วถึง โดยมีการอบรมและให้ความรู้พนักงานในการบริการอยู่เสมอ

พอสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด เวลาออกสินค้าใหม่จึงง่ายต่อการประชาสัมพันธ์ ในแต่ละสาขาเองก็มีการลงพื้นที่ไปทำกิจกรรมรายสัปดาห์ อย่างเรื่องสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม เข้าไปพูดคุยกับชุมชนและยกตัวอย่างให้พวกเขาเห็นว่าธุรกิจที่ทำเพื่อส่วนรวมและสิ่งแวดล้อมหน้าตาเป็นอย่างไร แถมการใช้บริการสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมยังได้ดอกเบี้ยพิเศษที่สินเชื่ออื่นมอบให้ไม่ได้ ทำให้ลูกค้าเปิดใจและอยากลองดูสักตั้ง ซึ่งธนาคารออมสินก็จะทำวิจัยเก็บข้อมูลทั้งรายเดือนและรายปี เพื่อดูความต้องการของลูกค้า และเป็นประโยชน์ต่อการออกโปรดักส์ที่ลูกค้าจะถูกใจ 

ข้อแตกต่างที่ธนาคารออมสินมีคือการไม่ทำเรื่องของ CSR เป็นครั้ง ๆ ออกอีเวนต์แล้วจบไป แต่เรียกได้ว่าทำอยู่ทั้งปีและทำตลอดเวลา หากจะนึกถึงธนาคารเพื่อสังคม ชื่อนี้ก็จะเด้งขึ้นมาในหัวก่อนเป็นอันดับแรก ในอนาคตธนาคารออมสินจะมีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นเรื่องการไม่ให้สินเชื่อกับคนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก เพราะพวกเขาตั้งใจให้เกิด Ecosystem ที่ทำให้ธุรกิจทั้งหมดปรับตัวมาสู่ความยั่งยืน เนื่องจากหากบางธนาคารยังปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเยอะ ๆ ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็คงไม่มีทางหมดไปโดยง่าย ซึ่งหลักเกณฑ์ที่ธนาคารออมสินจะใช้ประเมินคือการเก็บตัวเลขเรื่องของ Net Zero หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

และไม่ใช่แค่ธุรกิจอื่น ๆ ที่ควรหันมาตระหนักกันเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธนาคารแห่งนี้ก็ตั้งเป้าหมายการมี Net Zero ในองค์กรตัวเองเช่นเดียวกัน

ดังนั้น สิ่งที่ธนาคารออมสินและพนักงานทุกคนทำ จึงเป็นการทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปเลยแม้แต่น้อย เพราะการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจหลักในการทำงานเสมอมา