01

พอร์ตโฟลิโอที่ผมจะถือไปหาพระเจ้า

“เดินดิน คือหนึ่งในผลงานที่ผมหวังความโปรดปรานจากพระเจ้า ผมเป็นมุสลิม ผมเชื่อว่าเป้าหมายสุดท้ายในชีวิตคือการกลับบ้านที่เป็นสวรรค์ของมนุษย์ทุกคน เมื่อผมตายไปแล้ววิญญาณได้กลับไปเฝ้าพระเจ้า ผมจะนำผลงาน ‘เดินดิน’ ให้พระองค์ตัดสินว่าผมได้สร้างความรู้ที่เป็นประโยชน์ เป็นทานบริจาคต่อเนื่อง หรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับชุมชนแล้วหรือยัง นี่คือพอร์ตโฟลิโอที่ผมตั้งใจจะทำทิ้งไว้ก่อนกลับสู่ดิน” เอ็ม-เอ็มโซเฟียน เบญจเมธา ตอบคำถามสุดท้ายของการสัมภาษณ์ไว้แบบนั้น

เขาเดินเข้าครัวไปแล้ว ทิ้งผมไว้กับคำพูดที่ยังคงค้างอยู่ในหัว 

ผมคุยกับคนทำงานคราฟต์มาก็มาก ฟังคนทำงานชุมชนมาก็เยอะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินการพูดถึงงานตัวเองแบบนี้

เอ็มเป็นชาวปัตตานี เรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่กรุงเทพฯ แล้วไปเรียนศิลปะกับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ฝรั่งเศส กลับมาทำงานออกแบบที่กรุงเทพฯ ช่วงสั้น ๆ แล้วตัดสินใจกลับบ้านมาเริ่มงานเซรามิกสไตล์มลายูเป็นครั้งแรกในเมืองไทยจนโด่งดัง

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน
เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

เขาทุ่มเทกับการพัฒนาสายพันธุ์แพะพื้นเมือง ตั้งใจเลี้ยงไก่ไข่ เต็มที่กับการเลี้ยงชันโรง จริงจังกับการยิงธนูพื้นเมือง และในรอบปีที่ผ่านมา เขามุ่งมั่นกับการทำ ‘ครามปัตตานี’ ฟื้นประวัติศาสตร์เมื่อ 300 ปีก่อนให้คืนมาอีกครั้ง

เขาเรียกงานทั้งหมดนี้ว่า ‘เดินดิน’ (Derndin)

มันคืองานที่จะพาชายผู้นี้ ‘กลับบ้าน’

02

กลับบ้าน

เรากลับบ้านมาเกือบทันดูพระอาทิตย์ตก ระยะทางจากตัวเมืองปัตตานีถึง เบญจเมธา เซรามิก บ้านและสตูดิโอของเอ็มที่อำเภอปะนาเระใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง ผมได้รับเกียรติให้นั่งหน้า เบาะหลังเป็นภรรยาของเขา ลูกสาว 1 คน และลูกชายอีก 3 คนที่เพิ่งเสร็จจากการเรียนพิเศษในเมือง

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

เอ็มขอเลี้ยงอาหารเย็นผมด้วยการตั้งเตาเนื้อกระทะที่บ้าน เขาสั่งเนื้อสไลซ์หลายแบบจากร้านเนื้อแท้ของบังโต สหายรุ่นพี่อันเป็นที่รัก มาเป็นประจำเดือนละครั้ง ผมโชคดีที่มาตรงวันพิเศษพอดี

“กินแบบนี้คุ้มกว่าไปกินตามร้านครับ” เอ็มคีบเนื้อคลี่ลงบนเตาโดยมีลูก ๆ ช่วยอย่างคล่องแคล่ว ส่วนผมก็รินน้ำอัดลมใส่ถ้วยเซรามิกสุดสวยของเบญจเมธาครบคน

เมื่อช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไป เสียงฉี่ฉ่าจากเนื้อที่กระทบกระทะเงียบลง เสียงเปิดน้ำจากอ่างล้างจานก็ดังแทนที่ เอ็มส่งเสียงบอกภรรยาของเขาว่าปล่อยเตาไว้อย่างนั้น เดี๋ยวเขาจะล้างให้เอง

“ตอนเด็ก ๆ ที่ผมไปเรียนในเมืองปัตตานี ผมไม่ได้ตื่นเต้นกับอะไรเลย รอว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน จะกลับมาเล่นกองทราย เล่นในป่าหลังบ้าน” เอ็มคุยกับผม

พอโตขึ้นต้องไปเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคยะลา ไปเรียนปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ และไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาก็คิดถึงแต่ช่วงเวลาที่จะได้กลับบ้าน พอทำงานในเมืองหลวงได้ไม่นาน เขาก็มั่นใจว่าเขาอยากกลับบ้านจริง ๆ ในความหมายของการกลับมาใช้ชีวิต สร้างครอบครัว มีภรรยา มีลูก และตายที่นั่น

“ถ้าเราอยากได้ลูกดี ๆ ต้องออกแบบ เราต้องมีภรรยาที่ดีก่อน ต้องเริ่มจากหากลุ่มเพื่อนที่ดี ผมไม่คิดว่าจะไปเดินชนผู้หญิงแล้วเจอคนที่ใช่ เราอยากเจอภรรยาแบบไหน ก็ต้องเข้าไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนแบบนั้น” เอ็มเล่าว่าเพื่อน ๆ ของเขาแนะนำให้เจอสาวปัตตานีผู้เรียบร้อย นิสัยดี และอยากสร้างครอบครัวดี ๆ เหมือนเขา ทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกัน จึงใช้เวลาคบกันผ่านผู้ใหญ่แค่ 1 เดือนก็ตัดสินใจแต่งงาน ให้เกียรติสตรีตามหลักการศาสนา แล้วกลับบ้านมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปัตตานี

พ่อกับแม่ของเอ็มเป็นหมอสาธารณสุขและทำธุรกิจขายอิฐมอญ ส่วนตัวเขาคุ้นเคยกับ ติ้ว-วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินเซรามิกชื่อดังแห่งราชบุรีที่จับงานเซรามิกมาตั้งแต่รุ่นก๋ง ในเมื่อ 3 จังหวัดภาคใต้ไม่มีงานเซรามิกมาก่อน เอ็มก็ขอเป็นผู้บุกเบิกเช่นเดียวกับก๋งของติ้ว

“คุณไม่มีทางทำงานเซรามิกให้ต่างจากคนอื่นได้หรอก มันมีมาเป็นพันปี ทุกอย่างมีคนทำหมดแล้ว ถ้าจะทำให้คนสนใจงานผม ผมจะไม่พูดเรื่องความสวย แต่จะเล่าว่ามันมาจากดินปัตตานี ซึ่งต่างจากที่อื่น งานผมจะเคลือบและทิ้งพื้นที่ให้เห็นเนื้อแท้ของดิน เพื่อเล่าว่านี่คือดินปัตตานีที่เราภูมิใจ”

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

เขาเริ่ม ‘ติดดิน’ นับแต่นั้น

“ศาสนาอิสลามปลูกฝังให้เราอ่อนน้อมถ่อมตนบนหน้าแผ่นดินแล้วจะประสบความสำเร็จ ผมเลยได้คำว่า ‘เดินดิน’ คือเดินติดดินนี่แหละ เป็นวิถีของเรา และพระเจ้าทรงรักคนถ่อมตน”

03

เกิดจากดิน อยู่กับดิน กลับสู่ดิน

เกิดจากดิน อยู่กับดิน กลับสู่ดิน คือข้อความในป้ายหน้าบ้านและบนเสื้อยืดที่เอ็มทำขาย
“มันคือวิถีของมุสลิม เราไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตแล้วจากไปด้วยความว่างเปล่า หลังตายเรายังต้องเดินทางต่อไป ถ้าเราเชื่อเรื่องโลกหลังความตาย เราจะไม่กล้าทำชั่ว และจะพิถีพิถันในการทำความดี ท่านนบีมุฮัมมัดสอนว่า เมื่อมนุษย์คนหนึ่งตายไป ทุกผลกรรมของเขาจะถูกตัดขาด เขาจะทำความดีไม่ได้อีกแล้ว เว้น 3 ประการด้วยกันที่ทำทิ้งไว้และยังคงดำรงความดีต่อไป คือ

“หนึ่ง การบริจาคทานที่ดีต่อเนื่อง เช่น สร้างถนน สะพาน โรงพยาบาล ฯลฯ ที่ยังให้บริการผู้คนต่อไป สอง องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ถูกส่งต่อถ่ายทอดไปเรื่อย ๆ และสาม การมีลูกที่ดี ทำประโยชน์ และพวกเขาภาวนาให้พ่อแม่ที่จากไปแล้ว เวลาทำงานผมคิดตลอดว่างานของเราเป็นองค์ความรู้ใหม่ไหม จะเป็นทานบริจาคต่อเนื่องไหม สร้างรายได้ให้ชุมชนไหม แล้วลูกหลานเราจะต่อยอดทำประโยชน์ต่อได้ไหม ฉะนั้น เซรามิกก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง”

เบญจเมธา คือธุรกิจหลักที่ดูแลครอบครัวใหญ่ของเขา

ส่วน เดินดิน คืองานที่เป็นความสนใจส่วนตัว ซึ่งเขารัก ถนัด และทำเพื่อสร้างประโยชน์ให้ชุมชน

04

นะคราฟต์

ศิลปินเซรามิกมลายูเล่าว่าเขากำลังคิดทำตลาดนัดงานคราฟต์ของศิลปิน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่สนามบ้านเขา ตั้งชื่องานว่า ‘นะคราฟต์’ คำว่า ‘นะ’ ในภาษาท้องถิ่นมีความหมายว่า ‘ตลาดนัด’
เขามีแบรนด์เดินดินคราฟต์ ซึ่งไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากสินค้า แต่อยากชวนชาวบ้านทำงานฝีมือในอีกรูปแบบ ขายในอีกช่องทาง งานแรกที่ทดลองทำ คืออุปกรณ์แกะสลักไม้

“บางทีนักออกแบบยิ่งเรียนเยอะ ก็ยิ่งชอบใช้ของที่ออกแบบโดยนักออกแบบดัง ๆ ทำไมคุณถึงไม่เอาทักษะที่มีมาออกแบบเครื่องมือของคุณเองล่ะ ผมจึงทำเครื่องมือใช้สอยของตัวเอง เช่น ขวานเดินดินในวิถีตัวเอง และสอดแทรกปรัชญาคำสอนให้ลูก ๆ ปลายด้ามขวานขดวนเป็นก้นหอย แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ถ้าใจเราไม่อ่อนน้อม เราไม่ควรจับของมีคม”

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน
เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

เอ็มบอกว่าเขาจ้างช่างตีเหล็กและช่างแกะไม้ในพื้นที่ทำมา 3 ชุด ไม่ได้คิดเรื่องการขาย แค่อยากเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองใช้ และหางานให้ช่างพื้นที่ วันดีคืนดีก็อยากหางานให้ช่างกลึงไม้ที่ทำยอดกรงนก เลยออกแบบงานเซรามิกที่มีที่จับเป็นไม้เหมือนยอดกรงนกมาเป็นองค์ประกอบ นอกจากสร้างรายได้ให้ช่างแล้ว ยังสร้างสไตล์เซรามิกผสมไม้ที่แตกต่างและไม่มีใครเลียนแบบได้

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

วิถีที่ชัดเจนของเขาเชื่อมโยงทุกงานไว้ด้วยกัน เมื่อเขาสนใจการยิงธนูพื้นเมือง ก็ชวนช่างหนังมาทำซองใส่ลูกธนู ชวนชาวบ้านที่ทำนาเก็บฟางมาทำเป้าธนูฟาง แล้วลงมือทำงานผ้าเพื่อเป็นชุดในการแข่งธนู และการยิงธนูก็ทำให้เกิดการทำผ้าครามปัตตานี

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

05

เข้าเป้า

หากใครติดตามอินสตาแกรม @emsophian และ TikTok @emsophianbenjamet คงได้เห็นความสามารถในการยิงธนูของเขาผ่านคลิปสารพัด ทั้งยิงฝาขวดน้ำ ยิงเป้าเคลื่อนที่ แม้กระทั่งยิงดับเทียน เขาตั้งใจกับการยิงธนูมาก ทั้งการซ้อม การเดินทางไปแข่งขันและร่ำเรียนธนูถึงเมืองจีน รวมถึงการถ่ายทอดให้เยาวชน พรุ่งนี้ก็จะมีนักศึกษาชมรมยิงธนูจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.) เดินทางมาเรียนกับเขา

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

เอ็มยิงธนูดอกแรกจากคันธนูแบบท้องถิ่นของ อาร์ม-ณัฐพงศ์ นิธิอุทัย ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘ทะเลจร’ รองเท้าแตะจากเศษขยะ สิ่งที่อยู่คู่การแข่งธนูประเภทนี้ คือการแต่งกายที่สะท้อนความเป็นพื้นถิ่นของตัวเอง ยิ่งเวลาไปแข่งต่างประเทศ นอกจากประชันฝีมือกันแล้ว ยังแข่งกันเรื่องชุดประจำถิ่นกันด้วย ตอนไปแข่งที่มาเลเซีย เขาดูไม่ต่างจากชาวมาเลเซียเพราะมีวัฒนธรรมการแต่งกายแบบมลายูร่วมกัน เมื่อไปแข่งที่ตุรกี เขาจึงแสดงความเป็นไทยด้วยการสวมเสื้อม่อฮ่อม จนโดนแซวว่าเป็นชาวนาไปแข่งธนู นั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการทำผ้าของตัวเอง

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

“เราเริ่มทำผ้าเลอปัส (Lepas) เป็นผ้าโพกหัวอเนกประสงค์ที่คนไทยมลายู 3 จังหวัดใช้ในอดีต ตอนแรกทำเป็นผ้าบาติกย้อมสีเคมี จนมารู้จักกับ อาจารย์เจี๊ยบ (นราวดี โลหะจินดา) ที่ ม.อ. เขาทำวิจัยเรื่องครามปัตตานี แล้วพบว่าปัตตานีมีชื่อเสียงเรื่องครามมา 300 ปีแล้ว ขึ้นใกล้ทะเลและนาเกลือ เมื่อก่อนครามปัตตานีดังมาก ฮอลันดาต้องมาเอาครามปัตตานีไปปลูกที่อินโดนีเซีย เพราะเชื่อว่าเป็นครามที่ดี มีบันทึกว่าสินค้าหลัก ๆ ที่ส่งออกจากปัตตานีผ่านเรือสำเภามีข้าวสาร เกลือหวาน และคราม หรือ ‘นีลอ’ ในภาษาพื้นเมือง แต่ไม่เจอหลักฐานที่เป็นงานผ้ามากนัก คงเน้นส่งเนื้อคราม คนทำครามคนสุดท้ายอายุ 100 กว่าปีก็เสียชีวิตไปแล้ว” เอ็มถ่ายทอดเรื่องราวต่อจากอาจารย์เจี๊ยบ

เอ็มสนใจเรื่องครามมา 1 ปีเต็ม เริ่มปลูกและลงมือย้อมอย่างจริงจังมาได้ครึ่งปี

เขาชวนลูกสาววัย 3 ขวบไปเก็บเมล็ดต้นครามมาปลูกที่บ้าน พบว่าขึ้นง่าย น้ำท่วมก็ไม่ตาย แสดงว่าเป็นพันธุ์พื้นเมืองจริง ๆ ที่ปรึกษาหลักของเอ็มคือ อาจารย์ตุ๊กตา (วาสนา แผลติตะ) แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลฯ และยังมีพี่ ๆ จากอีสานคอยให้ความรู้และกำลังใจอย่าง เจษ (เจษฎา กัลยาบาล) แบรนด์ Jetsada Studio แม่จิ๋ว (ประไพพันธ์ แดงใจ) แบรนด์แม่ฑีตา แมน (ปราชญ์ นิยมค้า) แบรนด์ Mann Craft มะเหมี่ยว (ปิลันธน์ ไทยสรวง) แบรนด์ภูคราม และ ยิปซี (ยิปซี จันทร์เพ็งเพ็ญ) กลุ่มสกลเฮ็ด

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน
เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

“ผมไม่รู้เลยว่าครามบ้านผมต่างจากครามสกลยังไง ตอนเอาไปแสดงในงานคราฟต์ก็มีคนชมว่าสีสวยดี ผมไม่เคยคิดจะเอาไปเทียบกับที่อื่น ก็คงเหมือนเซรามิก ดินที่ดีที่สุดคือดินที่อยู่ที่บ้านของเรา และเราเข้าใจมัน ครามก็แบบนั้น”

เอ็มบอกว่าคนมลายูท้องถิ่นผูกพันกับผ้ามาก ๆ ใช้ผ้าเลอปัสเป็นผ้าอเนกประสงค์ ไม่ต่างจากผ้าฟุโรชิกิของญี่ปุ่น เขาเลยเปิดตัวผ้าเลอปัสด้วยภาพการใช้งานแบบฟุโรชิกิสไตล์มลายู ซึ่งมีเสียงตอบรับดีมาก

06

ทำลาย


เอ็มคลี่ผ้าบาติกที่พันคอเขาออกมาให้ดู ผ้าบาติกคือผ้าที่พิมพ์ด้วยเทียน แล้วเอาไปย้อมสี ตรงไหนโดนเทียนสีก็ไม่ติด เกิดเป็นเส้นและลวดลายต่าง ๆ

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

“ปกติใช้บล็อกโลหะ แต่บ้านเราหาคนทำยาก มันเป็นชิ้นงานที่คงกระพันเกินไป ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องทำใหม่ ทำยาก คนทำจึงแทบไม่มีแล้ว คราฟต์คือชีวิต มันต้องง่ายในวิถี แต่ประณีตได้ ผมจึงออกแบบบล็อกใหม่ให้ง่าย มีการพัง ส่งมาซ่อม และทำใหม่ได้เป็นเรื่องสามัญ ผมคิดค้นแม่พิมพ์ไม้ไผ่เป็นครั้งแรก เปรียบเหมือนโลหะธรรมชาติ มีความยืดหยุ่น ทนความร้อน และให้ลายที่มีเสน่ห์กว่า บ้านเรามีช่างทำว่าวเบอร์อามัสจากโครงไม้ไผ่ เชี่ยวชาญเรื่องไม้ไผ่อยู่แล้ว ช่างก็ได้งานใหม่ ๆ ด้วย เชื่อมโยงกับวิถีและวิธีมาก” 

เดินดิน แบรนด์คราฟต์ครามปัตตานีที่สร้างจากวิถีของการกลับบ้านและอยู่กับดิน

ศิลปินคนนี้ยื่นจดสิทธิบัตรแม่พิมพ์ไม้ไผ่เรียบร้อยจากคำแนะนำ เขาว่าใครจะทำก็ทำไปเถิด ไม่หวงไม่ห้าม เขาจดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนมาชิงจดตัดหน้าแล้วมาห้ามพวกเราทำเท่านั้นเอง

เอ็มไม่ได้เริ่มออกแบบลายจากความสวย แต่เขาเลือกลายที่ผูกพันกับตัวเขาหรือชุมชน เช่น ลายฉลามวาฬ เพราะมีฉลามวาฬที่เกาะโลซินซึ่งอุดมสมบูรณ์มาก ลายปลากัดป่า ปลาตะพัดลุ่มแม่น้ำสายบุรีที่กำลังจะสูญหาย ลายนกชนหินที่ใกล้สูญพันธุ์ และลายกระซู่ในบ้านเกิดซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว เพื่อตอกย้ำเล่าบทเรียนให้ลูกหลาน แล้วก็ยังมีลายบ้านมลายูโบราณ ลายเรือสำเภามีความหมายกับวิถีมลายูในอดีต ทวดของเขาก็มีเรือสำเภาที่โล้ไปขายทองเหลืองถึงตรังกานู มันจึงเป็นลายเพื่อการสื่อสารถึงรากเหง้าของตัวเอง

เดินดิน (Derndin) แบรนด์คราฟต์และครามปัตตานีของ เอ็มโซเฟียน เบญจเมธา ที่เอาความชอบกับวิถีท้องถิ่นมาสร้างงานให้ชุมชน
เดินดิน (Derndin) แบรนด์คราฟต์และครามปัตตานีของ เอ็มโซเฟียน เบญจเมธา ที่เอาความชอบกับวิถีท้องถิ่นมาสร้างงานให้ชุมชน

งานผ้าบาติกย้อมครามพิมพ์ลายด้วยแม่พิมพ์ไม้ไผ่เพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Crafts Bangkok 2023 ที่ผ่านมา พร้อมกับสบู่ครามปัตตานีซึ่งมีคุณสมบัติแอนตี้แบคทีเรีย และสบู่เกลือหวานปัตตานี ปรากฏว่ามีเสียงตอบรับดีมาก เพราะไม่ค่อยมีใครทำผ้าบาติกย้อมครามพื้นเมืองจากปัตตานีแล้วพิมพ์ลายสไตล์กราฟิกแบบนี้มาก่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างงานสร้างรายได้ให้ชาวชุมชนในจังหวัดปัตตานี

เดินดิน (Derndin) แบรนด์คราฟต์และครามปัตตานีของ เอ็มโซเฟียน เบญจเมธา ที่เอาความชอบกับวิถีท้องถิ่นมาสร้างงานให้ชุมชน

07

ลายคราม

บทสนทนาของเรากำลังจะสิ้นสุด

อนาคตอันใกล้ เขาคงจะเดินไปล้างเตาเนื้อกระทะ

อนาคตอันใกล้ที่ไกลกว่านั้น เขาอยากเอาคันธนูมาย้อมคราม ต่อยอดเสื้อผ้าย้อมครามให้หลากหลายขึ้น

“ผมอยากเขียนลายครามบนเซรามิกด้วยคราม” เอ็มพูดถึงฝันที่อยากไปให้ถึง “จะด้วยวิธีลงรักหรือเคลือบก็อยากทดลอง เอ็มลูบมืออย่างคันไม้คันมือ มือของเขาเปื้อนสีจากครามแบบนี้มาตลอด 6 เดือน ติดแน่นจนเขาเลิกพยายามล้างแล้ว

ลูกชายของเอ็มเดินผ่านพวกเราไปหยิบน้ำในตู้เย็น

“ผมทำบ้านเดินดินให้ตอบโจทย์ก่อนตาย เหมือนที่ผมทำกุโบร์ (สุสาน) ไว้หน้าบ้าน ข้างแปลงปลูกคราม เราสอนลูก ๆ ตั้งแต่เด็กว่านี่คือความจริง เดี๋ยวอบี (พ่อ) จะอยู่ตรงนี้นะ พวกเราอยู่ตรงนี้กันนะ พอเราสอนกันตั้งแต่เด็ก เขาก็จะเข้าใจ บางคนไม่สอนเรื่องความตายให้ลูกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ถ้าคุณสอนคณิตศาสตร์หรือกีฬาตั้งแต่เด็ก ๆ ได้ ทำไมจะสอนเรื่องความตายไม่ได้ เดี๋ยวลูกคุณก็ต้องเจอ เราต้องสร้างความมั่นคงและทักษะทางจิตใจให้เขา พ่อแม่เดินทางแล้ว ลูกก็ต้องทำหน้าที่ต่อ ผมก็พยายามทำงานที่จะส่งต่อเป็นเครื่องมือให้ลูกใช้ต่อไป” เอ็มหันไปยิ้มกับลูกชายที่เดินกลับมา

เดินดิน (Derndin) แบรนด์คราฟต์และครามปัตตานีของ เอ็มโซเฟียน เบญจเมธา ที่เอาความชอบกับวิถีท้องถิ่นมาสร้างงานให้ชุมชน

“เดินดิน คืออีกหนึ่งพอร์ตโฟลิโอที่ผมจะถือไปยื่นหาพระเจ้าของผม” เขาเปล่งเสียงด้วยความมั่นใจทุกคำ

เอ็มโซเฟียนล้างกระทะเสร็จแล้ว ส่วนผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิม นึกทบทวนประมวลเรื่องที่เพิ่งได้ฟัง

มันติดแน่นเกินกว่าจะล้างออกจากหัวจริง ๆ

Writer & Photographer

ทรงกลด บางยี่ขัน

ทรงกลด บางยี่ขัน

ตำแหน่งบรรณาธิการโดยอาชีพ เป็นนักเดินทางมือสมัครเล่น แบ่งเวลาไปสอนหนังสือโดยสมัครใจ และชอบจัดทริปให้คนสมัครไป