14 สิงหาคม 2023
2 K

จากการได้รับเกียรติเป็นศิลปินรับเชิญระดับนานาชาติ 1 ใน 19 ท่าน เข้าร่วมการเผยแพร่ผลงานศิลปกรรมเครื่องประดับร่วมสมัย L’AIR DES BIJOUX ในรูปแบบนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด ‘The XXL International Exhibition of Jewelry and Adornments’ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 27 สิงหาคม ปี 2023 ณ The Black Pearl Gallery & Molière Space เมือง Agde ประเทศฝรั่งเศส 

ก่อนการเดินทางจะเริ่มต้น ผมได้ศึกษาประวัติของเมือง Agde เพราะส่วนตัวอยากทราบข้อมูลถึงเหตุแห่งความเชื่อมโยงระหว่างผลงานศิลปกรรมเครื่องประดับกับความสำคัญของพื้นที่ ได้พบความหมายนับตั้งแต่ที่มาของชื่อเมืองนั้นมาจากเทพธิดากรีก Agathé ผู้เลอโฉม และทรงเป็นผู้ประทานนามของตนเอง อาจด้วยเหตุนี้ เราจึงค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีประเภทประติมากรรมสตรี รูปแบบศิลปะกรีกจำนวนมหาศาล โดยหนึ่งในประติมากรรมสำริดที่งดงามที่สุด คือ Lady of La Motte นับเป็นศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ชั้นเยี่ยม และยังพบการปรากฏของรัตนชาติสีดำ ณ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟ ทำให้ผู้คนในท้องถิ่นตั้งชื่อรัตนชาติดังกล่าวนี้ว่า ‘ไข่มุกดำ’ 

จากประวัติข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า เมือง Agde ผูกพันลึกซึ้งกับความเป็นผู้หญิงและรัตนชาติมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ดังประจักษ์ได้จากแบบแผนทางวัฒนธรรม เฉพาะอย่างยิ่ง เทศกาลประเพณีที่ผู้หญิงแทบทุกคนในเมืองนี้จะแต่งองค์ทรงเครื่องงดงาม พร้อมทั้งออกแบบและผลิตเครื่องประดับเพื่อตกแต่งร่างกายตนเอง ส่อแสดงถึงความหมายและบุคลิกลักษณะเฉพาะตนอย่างเอกลักษณ์ จนเรียกว่า ‘Arlésiennes’ ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจถึงความตั้งใจของผู้จัดงานองค์กรวัฒนธรรม (L’Agglo Hérault Méditerranée) ที่ให้เหตุผลของการจัดนิทรรศการ The XXL โดยกำหนดวัตถุประสงค์มุ่งเน้นการเผยแพร่ผลงานเครื่องประดับสร้างสรรค์ อันแสดงออกถึงวิถีการประดับประดาร่างกายในรูปแบบที่แตกต่างจากการแต่งกายโดยทั่วไป ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของนิทรรศการย่อมหมายถึงการอุทิศคุณงามความดีของผลงานสร้างสรรค์แด่สตรีทั้งหลายแห่งเมือง Agde ทุกท่านไปพร้อมกัน

ความพิเศษนอกเหนือจากการได้รับเกียรติเผยแพร่ผลงานตามที่กล่าวรายงานข้างต้นแล้ว กลุ่มศิลปินทั้ง 19 ท่านยังได้รับอภิสิทธิ์เข้าเยี่ยมชมปราสาท Château Laurens ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง Agde ก่อนที่ปราสาทจะได้รับการอนุญาตจากองค์กรวัฒนธรรมแห่งเมืองให้เปิดเป็นสาธารณะอย่างเป็นทางการ ผมมิรอช้าที่จะค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมถึงเรื่องราวอมตะของปราสาท Château Laurens ซึ่งรายละเอียดที่ได้ถึงกับสร้างความตะลึง 

เนื่องจากปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นจากความรัก โดยท่าน Emmanuel Laurens (ปี 1873 – 1959) มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส ซึ่งตกหลุมรักนักร้องหญิงแสนสวย นามว่า Louise Blot เธอเป็นนักร้องเสียงอัจฉริยะ ถึงขนาดได้รับรางวัลชนะเลิศ Air des Bijoux (ปี 1902) หลังจากที่ทั้งสองพบกันและได้ตกลงปลงใจร่วมชีวิต ก่อนตัดสินใจเดินทางมาอยู่อาศัย ณ เมือง Agde 

Louise Blot และ Emmanuel Laurens
ภาพ : www.herault-tribune.com

Emmanuel Laurens ริเริ่มก่อสร้างปราสาท Château Laurens เมื่อปี 1898 ถือเป็นเคหาสน์แห่งความคลั่งรักและจินตนาการอันแสนวิจิตร ความสง่างามทางด้านสถาปัตยกรรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1,400 ตร.ม. มีอาณาเขตคั่นกลางระหว่างแม่น้ำ Hérault และ Canal du Midi ด้วยทำเลที่ตั้งใจออกแบบมาอย่างเหมาะเจาะ เอื้ออำนวยให้เป็นเอกเทศต่อสภาพแวดล้อม ประโยชน์ใช้สอยหลักของอาคารคือห้องดนตรีขนาดมหึมาและโออ่า รองรับคลื่นเสียงขับร้องโอเปร่าของภรรยาหนึ่งเดียวอันเป็นที่รักได้อย่างอิสระ 

Château Laurens ณ เมือง Agde ฝรั่งเศส ปราสาทแห่งความคลั่งรักของสามีที่ตั้งใจออกแบบให้รองรับการร้องโอเปร่าของภรรยา

ด้วยความมีรสนิยมที่ทันต่อยุคสมัยของ Emmanuel Laurens เขาคัดเลือกรูปแบบหรือสไตล์ศิลปะที่เรียกว่า ‘อาร์ต นูโว’ (Art Nouveau) ศิลปะที่เกิดขึ้นยุคหลังปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อช่วงกลางศตวรรษที่ 19 จนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 (ปี 1890 – 1914) เนื้อหาของศิลปะอาร์ต นูโว ได้รับอิทธิพลจากพืชพรรณของต้นไม้ มีความอ่อนหวาน แสดงออกถึงความเป็นผู้หญิง ซึ่งแน่นอนว่าสาระสำคัญของศิลปะดังกล่าวตอบสนองและรับใช้นักดนตรีหนึ่งเดียวในชีวิตของเขาได้แช่มช้อยอย่างประมาณมิได้ 

ในที่สุด Emmanuel Laurens ก็ควานหาสถาปนิกผู้ที่มีความสามารถชั้นเลิศและมีจินตนาการมากเพียงพอที่จะนำพาอาคารดังกล่าว ก้าวผ่านการตกแต่งทางสถาปัตยกรรมไปสู่จุดสูงสุดแห่งสุนทรียศาสตร์ ผู้นั้นคือ Jacques Février สถาปนิกผู้มีความโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของเมือง Montpelier ทั้งนี้ ยังประกอบด้วย Paul Arnaveilhe นักออกแบบเครื่องเรือน ตลอดจนศิลปินชั้นครูอย่าง Léon Cauvy 

Château Laurens ณ เมือง Agde ฝรั่งเศส ปราสาทแห่งความคลั่งรักของสามีที่ตั้งใจออกแบบให้รองรับการร้องโอเปร่าของภรรยา
Château Laurens ณ เมือง Agde ฝรั่งเศส ปราสาทแห่งความคลั่งรักของสามีที่ตั้งใจออกแบบให้รองรับการร้องโอเปร่าของภรรยา

ภายนอกปราสาทยืนตระหง่านได้ด้วยเสาทรงกลมที่มีหัวเสาแบบกรีก รูปร่างโค้งมนของเสาโน้มเส้นนัยแก่สายตาไปสู่ลวดลายที่ขีดเขียนผนังด้วยสไตล์ของอาร์ต นูโว แบบเต็มกระเบียด สอดรับกับพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องเทคนิคโมเสก บริเวณชั้นล่างของเคหาสน์ประกอบด้วยห้องโถงใหญ่ มีห้องพิเศษจำนวน 2 ห้อง ได้แก่ ห้องดนตรีและห้องทำงาน 

Château Laurens ณ เมือง Agde ฝรั่งเศส ปราสาทแห่งความคลั่งรักของสามีที่ตั้งใจออกแบบให้รองรับการร้องโอเปร่าของภรรยา

ณ พื้นที่ดังกล่าว ในทางฝั่งซ้ายของตัวปราสาท เราสัมผัสได้ถึงอิทธิพลของศิลปะต่างแผ่นดินอย่าง ‘กาตาลุญญา’ (แคว้นหนึ่งทางด้านตะวันออกของสเปน มีชายแดนติดกับฝรั่งเศส) ที่เข้ามาผสมผสานกับอาร์ต นูโว ก่อให้เกิดรสชาติของการข้ามวัฒนธรรม นอกเหนือจากลวดลายวิจิตร บรรยากาศของตัวปราสาทชั้นล่าง โถงโอ่อ่าเพดานสูงนี้ ถูกกำหนดให้มีหน้าที่รับแสงธรรมชาติที่สะท้อนมาจากแม่น้ำ และส่องสว่างลอดมาตามช่องหน้าต่าง ซึ่งประดับตกแต่งด้วยกระจกหลากสี (Strain Glass) ออกแบบโดยมัณฑนากรชาวปารีส Eugène-Martial Simas ผลิตโดย Théophile Laumonnerie ผู้ผลิตแก้วระดับปรมาจารย์ 

รายละเอียดในส่วนอื่น ๆ ของการออกแบบตกแต่งภายในปราสาทนั้น Eugène Dufour เพื่อนสมัยยังเยาว์ของ Emmanuel Laurens ผู้เป็นทั้งมัณฑนากรและจิตรกรในร่างเดียว เขารังสรรค์ลวดลายฉลุที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพรรณไม้ประดับ ซึ่งเป็นคอลเลกชันของ Owen Jones 

จักรวาลดอกไม้แห่งปราสาท Château Laurens สื่อสารถึงฉากทัศน์ของศิลปะ Art Nouveau และ Orient โบราณที่แม้ดูเพ้อฝัน แต่หากมีชีวิต เคลื่อนที่ และเจริญเติบโต โดยเฉพาะในเวลากลางคืน จักรวาลดังกล่าวถูกเสริมสร้างกำลังด้วยแสงจากโคมไฟระย้ารูปทรงดอกไม้ขนาดเล็ก หัตถศิลป์โลหะทองแดงที่ออกแบบโดย William Arthur Benson ดลให้รู้สึกถึงความลี้ลับส่วนบุคคล 

อนึ่ง ความเป็น Orient มิได้หยุดอยู่เพียงแค่ลวดลายของพื้นผิวของสถาปัตยกรรมภายใน Emmanuel Laurens ยังคัดสรรข้าวของเครื่องใช้ที่เปิดเผยรูปลักษณ์ของโลกอีกฟากฝั่ง อันหมายถึงประเทศต่าง ๆ ในแถบทวีปเอเชียตะวันออก อาทิ ภาพทิวทัศน์และเครื่องลายครามญี่ปุ่น เตาน้ำหอมจีน โต๊ะอาหรับขนาดเล็ก เก้าอี้เท้าแขนอันดาลูเซียทรงโค้ง พรมเปอร์เซีย สิ่งทออุซเบก ผ้าม่านออตโตมัน รวมถึงเครื่องเคลือบแห่งอินโดจีน เป็นต้นสำหรับผม ความน่าอัศจรรย์ใจที่งดงามและนับเป็นจุดเด่นของปราสาทแห่งนี้ คือห้องน้ำ มีรูปแบบที่มิได้เป็นไปตามแบบแผนการใช้สอยของผู้คนในศตวรรษที่ 19 กล่าวคือ บริเวณส่วนที่ใช้อาบน้ำมีลักษณะคล้ายบ่อน้ำ ออกแบบให้เป็นหลุมลึกประมาณกึ่งกลางลำตัว และมีพื้นที่ว่างพอประมาณให้ร่างกายขยับตามอัธยาศัย อ่างลึกคล้ายบ่อน้ำดังกล่าวตกแต่งโดยศิลปิน Félix Aubert และ Giandomenico Facchina ชาวอิตาลี พวกเขาใช้เทคนิคโมเสกสีเบาบางนุ่มนวล สรรสร้างเป็นลวดลายพืชพรรณไม้ที่ลอยล่องอยู่ท่ามกลางสายน้ำ หากกระนั้น ทั้งหมดของการออกแบบ Emmanuel Laurens ก็เป็นผู้กำหนด วางแผน และควบคุมการสร้างสรรค์นับตั้งแต่แรก

Château Laurens ณ เมือง Agde ฝรั่งเศส ปราสาทแห่งความคลั่งรักของสามีที่ตั้งใจออกแบบให้รองรับการร้องโอเปร่าของภรรยา
ภาพ : www.francebleu.fr

นับตั้งแต่ปี 1902 ที่ปราสาทดำเนินการเสร็จสิ้น ยืนหยัดรับใช้ Emmanuel Laurens และภรรยา อยู่ได้ระยะ 20 ปี ปราสาทแห่งนี้ก็ถูกทิ้งรกร้าง ขาดการเอาใจใส่ จนกระทั่งเมื่อปี 1994 Château Laurens ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานประวัติศาสตร์ โดยอยู่ในความดูแลขององค์กรวัฒนธรรม L’Agglo Hérault Méditerranée และภายหลังจากงานบูรณะอันยาวนาน จนกระทั่งถึงปี 2023 ปราสาทอันหรูหราไม่ธรรมดาแห่งนี้ก็ได้กลับมางดงามอีกครั้ง 

Château Laurens นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เปิดเผยให้เห็นถึงคุณค่าของงานด้านมัณฑนศิลป์ ผสมผสานคุณลักษณะเด่นของศิลปะอาร์ต นูโว นีโอกรีก นีโออียิปต์ และศิลปะตะวันออกเข้าด้วยกัน สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางศิลปะที่มีความหลากหลายและเจริญเติบโตอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของศตวรรษที่ 19 และ 20

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

ขจรศักต์ นาคปาน

ขจรศักต์ นาคปาน

ศิลปินเครื่องประดับร่วมสมัยและนักนวัตกรรมการออกแบบแฟชั่น เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเครื่องแต่งกาย การวางกลยุทธ์ด้านออกแบบ การพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอ ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์สินค้า