22 กรกฎาคม 2023
1 K

ปลายฤดูร้อนต้นฤดูฝนในปี 2018 รองเท้าเบอร์ 38 เหยียบแผ่นดินจอร์เจีย ณ Tbilisi เมืองหลวงแห่งจอร์เจีย วันนี้มีเวลาอยู่ที่นี่ไม่มากนัก เผื่อไว้แค่สำหรับเดินทางไปยังจุดหมายที่แท้จริง

‘Batumi’ คือเมืองชายหาดทางตะวันตกของประเทศ เป็นหาดไร้ทรายที่มีเพียงหินกรวดสีดำก้อนใหญ่ไล่ไปตามทางให้คอยเจ็บเท้าเวลาย่ำเดิน

พูดถึงประเทศจอร์เจีย หลายคนอาจนึกถึงภูเขา และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประเทศนี้ติดทะเล ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกมาเมืองชายหาดหรือเลือกมาจอร์เจีย คำตอบง่ายมาก คือ ‘ไม่รู้’ เลือกมาแค่เพราะรู้ อยากเลือกประเทศที่ชีวิตนี้คงไม่ได้ไป เหมือนกับการตัดสินใจบ้า ๆ หลายครั้งในชีวิตที่ผ่านมา เช่น ตอนเลือกไปแลกเปลี่ยนที่สวีเดน ทั้งที่ไม่รู้ว่าสวีเดนอยู่ตรงไหนบนโลก

ในปี 2018 ถ้าถามคนรอบตัว ไม่มีใครรู้ว่าจอร์เจียอยู่ที่ไหนหรอก แต่ประเทศนี้กลับกลายเป็นที่เที่ยวยอดฮิตราคาถูกที่มีวีซ่า 365 วันเอาก็ตอนที่สาบานว่าชาตินี้จะไม่เหยียบจอร์เจียในอีก 5 สัปดาห์ให้หลัง

เกริ่นมาจนถึงตอนนี้ Batumi ดูอยู่ไม่ไกลแล้ว แต่ที่ไหนได้ ทุกอย่างกลับผิดแผนไปหมด รถไฟจาก Tbilisi ไป Batumi เต็มหมดแล้วทุกที่นั่ง เป็นความประมาทที่ไม่ยอมจองตั๋วล่วงหน้าเพราะดูถูกว่าที่นี่คงเป็นประเทศเล็ก ๆ คนจะนั่งรถไฟไปทำอะไรต่างเมืองในวันธรรมดาตอนกลางวันใช่ไหมล่ะ นอกจากจะคิดผิดแล้ว บทเรียนล้ำค่าครั้งนี้ยังนำไปสู่เหตุการณ์ตราตรึงใจแม้ผ่านไปหลายปี

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย

นั่งรถตู้ในจอร์เจีย ไม่เต็มไม่ออก!

สองเท้าคู่เดิมลงจากรถแท็กซี่ที่เรียกผ่านแอปฯ เพราะนิสัยแท็กซี่ที่นี่ปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวไม่ต่างอะไรจากแผ่นดินแม่ที่จากมา ตรงหน้าเป็นท่ารถตู้ขนาดใหญ่ มีรถตู้จอดเรียงซ้อนกันเต็มไปหมด ตอนนั้นแหละถึงเพิ่งรู้ว่าที่นี่มีภูเขาให้เที่ยวด้วย ป้ายจุดหมายปลายทางเรียงรายเต็มหน้ารถตู้ ใครมาเที่ยวภูเขาที่นี่แล้วนั่งรถไปจาก Tbilisi อาจมีโอกาสได้มาที่ท่ารถแห่งนี้ด้วยตัวเอง

หลังคุยกับคนขับรถตู้ ป้าย Batumi ผ่าน Google Translate อย่างกระท่อนกระแท่น ยัดกระเป๋าใบโตไว้หลังรถอย่างสงบเสงี่ยม แต่นั่งรอแล้วรอเล่ารถก็ยังไม่ออก ตอนนั้นถึงบางอ้อว่า ที่นี่รถไม่เต็มไม่ออก – รถตู้ที่ไหนก็คงเหมือนกันสินะ 

ตอนที่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ค่อย ๆ ทยอยมาถึง พระอาทิตย์ก็คล้อยต่ำลงทุกที

เมื่อรถออกเดินทาง มุมมองต่อประเทศนี้ก็เปลี่ยนเส้นทางไปเช่นกัน ตอนที่พ้นเขตเมือง ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ พระอาทิตย์ตกสนิท มีเพียงแสงไฟหน้าของรถที่นั่งอยู่และรถที่สวนเลนข้าง ๆ เรา ขอเรียกช่วงเวลาบนรถตู้ที่ยาวเกือบ 6 ชั่วโมงนี้ว่า ‘การระลึกถึงชีวิตอันมีคุณค่ายิ่ง’ เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกเหมือนจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ 

รถตู้ 10 ที่นั่งพุ่งตัวในความมืดด้วยความเร็วเท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่โคตรเร็ว! เหมือนชดเชยเวลาที่รอผู้โดยสารจนครบ และความเร็วไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เป็นช่วงเวลา Memento Mori (Remember You Must Die ภาษิตในภาษาละติน) (สาธุ) นรกที่แท้จริงคือการแซงรถแสนเปรี้ยวตีนของลุงคนขับ ไม่ว่าลุงจะใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินใจปาดออกเพื่อแซง แต่เป็นเกณฑ์ที่ระยำมาก เสียงบีบแตรดังสนั่นหวั่นไหวตอนที่รถ 3 คันเบียดกันจนแทบจะไม่พ้น แสงไฟของรถฝั่งตรงข้ามสว่างแทงลูกกะตาจนน้ำตาแทบไหลด้วยความหวาดเสียว เท้าจิกพื้นเหยียบเบรกแทนลุงไปไม่รู้กี่รอบ แล้วก็เป็นแบบนั้นตลอด 6 ชั่วโมง

สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ ไม่มีใครตกใจสักคน 

ไม่-มี-ใคร-ตก-ใจ-สัก-คน 

ไม่เปลี่ยนแม้แต่สีหน้า บนรถมีแต่เสียงเพลงภาษาจอร์เจียจังหวะสนุกสนานที่ดังออกมาจากวิทยุแข่งกับเสียงกรีดร้องในหัวของตัวเองที่ดังเป็นพัก ๆ เรื่องพวกนี้ปกติมากสินะ เฮ้อ

แค่เริ่มต้นมาไม่ถึงวันก็เปรxแล้ว นี่เป็นบทความท่องเที่ยวจริง ๆ ใช่ไหม

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
ในตัวเมือง Batumi มีจุดแลนด์มาร์กหลายที่ ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมเชิงศิลปะ
ถึงประเทศจะอยู่ฝั่งทวีปเอเชีย แต่ทั้งวัฒนธรรม สิ่งก่อสร้าง และวิถีชีวิตของคนที่นี่ดูเหมือนยุโรปมากกว่า

สิ่งที่ดูไม่คุ้นชินสำหรับตัวเองที่สุดในตอนนั้นคงจะเป็นสถาปัตยกรรมที่ดูแปลกตาและมีมากมายอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เช่น Alphabetic Tower ที่มีความสูง 130 เมตร ถูกทาบทับด้วยตัวอักษรจอร์เจียทั้ง 33 ตัว พันเกี่ยวกันเหมือนโครงสร้างเกลียวคู่ของ DNA แฝงไปด้วยสัญญะด้านประวัติศาสตร์ ภาษา และผู้คน ซึ่งภาษาจอร์เจียเป็นหนึ่งในภาษาเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังมีการใช้อยู่

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
 Alphabetic Tower

มีสถาปัตยกรรมชวนแปลกใจอีกหลายแห่ง ใครจะคิดว่า McDonald’s ที่หรูที่สุดในชีวิตจะอยู่ที่นี่ ไหนจะตึกสูงที่มีชิงช้าสวรรค์แปะไว้ 

ไม่รู้ว่าตึกเหล่านี้มีจุดร่วมกันยังไงนอกจากการสร้างขึ้นในช่วงปี 2010 และดูขัดกับความย้อนยุคของสิ่งต่าง ๆ ในเมือง สิ่งเดียวที่นึกออกซึ่งเป็นเพียงการตีความที่ขาดหลักฐาน แต่จอร์เจียอาจเหมือนไทยก็ได้ ตรงที่ทุ่มความเจริญไปกับส่วนบน แล้วทิ้งส่วนล่างไว้ข้างหลัง พัฒนาแต่หัว หางยังคงอยู่ที่เดิม พยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยด้วยการสร้างสิ่งก่อสร้างสุดล้ำ แต่ไม่ได้สนใจว่าผู้คนที่อยู่ห่างออกไป 30 นาทีจะมีชีวิตอยู่กันแบบไหน

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย

ภาพเหล่านี้ถ่ายจากบนชิงช้าสวรรค์ในช่วงที่แสงหมดอย่างไม่น่าให้อภัย น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายประติมากรรม Ali and Nino เอาไว้ คงต้องฝากให้ไปดูด้วยตาแล้ว (หรือกูเกิลอิมเมจ แต่มันไม่เร้าใจ) มันเป็นประติมากรรมขนาดใหญ่จากนิยายชื่อดังเกี่ยวกับความรักที่พลัดพรากระหว่างคนจาก 2 ศาสนา ความพิเศษคือเป็นประติมากรรมรูปคนสองคนที่เคลื่อนไหวได้ ตัว Ali และ Nino จะเคลื่อนมาจุมพิตกันและทะลุผ่านร่างที่สร้างขึ้นอย่างพอดีพอดิบของอีกฝ่าย ก่อนจะเคลื่อนห่างออกไปเรื่อย ๆ วนไปแบบนั้นไม่รู้จบ Ali และ Nino ใกล้กันเพียงปลายนิ้ว แต่กลับไม่เคยได้บรรจบกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
เหล่านักตกปลาบริเวณท่าเรือ

จอร์เจียเหมือนยุโรปที่กำลังเจริญ ภาพรวมอาจดูเจริญน้อยกว่าไทย แต่ถนนหนทางและทางเท้าดีกว่าไทยมาก ข้อเสียก็คือ พอออกนอกเขตเมืองไป ความเจริญลดลงเร็วมาก ถนนมืด ร้านค้าน้อย ทุกอย่างดูน่ากลัวสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว 

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
โรงหนังหน้าตาอลังการแบบย้อนยุค ที่ไทยดูจะมีที่แบบนี้น้อยลงเรื่อย ๆ ตอนนั้นสกาลายังคงตั้งอยู่อย่างมั่นคง จนนึกไม่ถึงว่าจะถูกรื้อถอนในอีกไม่กี่ปีถัดมา

ราวตากผ้าที่นี่เป็นเส้นยาว ๆ ยึดไว้ด้วยรอกที่พาดระหว่าง 2 ตึก เวลาจะตากผ้าก็สาวรอกมาหนีบผ้าเอาไว้แล้วสาวต่อให้ไปโลดแล่นอยู่เหนือหัวคนที่เดินผ่านไปมา ความน่าสนใจคือเราต้องรู้จักห้องที่ตึกตรงข้ามเพื่อจะยืดรอกแบบนี้ เดาว่ามันคงทำให้ผู้คนมีความเป็นชุมชนแบบเหนียวแน่นขึ้นล่ะมั้ง

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
ราวตากผ้าแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าแปลกหรือแค่เพราะยังเดินทางไม่มากพอกันแน่
เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย

จะว่าไปแล้ว คนที่นี่น่ารักมาก ๆ ตั้งแต่ลุงแท็กซี่ที่พยายามสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษแบบผิด ๆ ที่เชื่อไม่ได้สักคำ ยันเพื่อนร่วมงานในสวนพฤกษศาสตร์ที่ไปทำงานอาสาซึ่งคุยกันด้วย Google Translate ตลอดเวลา (หรือไม่ก็ให้เพื่อนรัสเซียช่วยแปลให้ เพราะหลายคนพูดภาษารัสเซียได้ เนื่องจากจอร์เจียเคยอยู่ในสหภาพโซเวียตและผู้ใหญ่หลายคนได้เรียนภาษารัสเซียในโรงเรียน) 

คิดดูว่าคุยกันไม่รู้เรื่องยังคุยกันขนาดนี้ ถ้าคุยรู้เรื่องน่าจะคุยกันไม่หยุด

ตอนไปทำงานอาสาที่นั่น มีครั้งหนึ่งได้ไปทำหน้าที่ดูแลสวนกุหลาบ ที่พักเล็ก ๆ ของเจ้าหน้าที่ตรงนั้นสวยจนตาวาว เป็นบรรยากาศที่น่ารักมาก ๆ หน้าต่างบานพับเก่า ๆ ที่เปิดไปเป็นสวนสีเขียวทางนู้น สวนกุหลาบทางนี้ พี่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลซึ่งน่ารักมาก ๆ และหน้าเด็กจนคิดว่าเขาเป็นเด็ก ม.ปลาย ความจริงคือเป็นคุณแม่ลูกสองแล้ว ออกปากชวนไปปาร์ตี้งานวันเกิดของเพื่อนเขา 

คำว่า ‘ปาร์ตี้วันเกิด’ ในภาษาอังกฤษที่เห็นผ่าน Google Translate ชวนให้นึกถึงงานใหญ่ ๆ ที่มีคนไปมากหน้าหลายตา ความคิดนั้นผิดถนัด ผิดแบบเน้น ๆ ผิดแบบเต็มหน้า เพราะเมื่อนั่งรถขึ้นภูเขาไปถึงบ้านของเพื่อนคนที่ว่า ตอนที่ถึงเวลาอาหาร โต๊ะอาหารกลางบ้านมีเพียงเก้าอี้จำนวนเท่าแขกที่ได้รับเชิญ ส่วน ‘แขกบังเอิญ’ ถึงกับทำให้เจ้าบ้านต้องไปหาเก้าอี้จากในครัวมานั่งเบียดด้วย

เราเพิ่งรู้จากเพื่อนรัสเซียด้วยกันว่าคนที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง Hospitality มาก ๆ หรือก็คือเขาปฏิบัติต่อแขกดีมาก ๆ แม้ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งรู้จักกัน เรียกได้ว่าใจดีจนทำให้นี่เป็นหนึ่งในเรื่องประทับใจที่สุดของการออกนอกประเทศครั้งนี้ แรก ๆ ก็ดูยังเกร็งกัน ๆ บ้าง แต่พอเริ่มกรึ่มได้ที่ รู้ตัวอีกทีก็ไปคล้องแขนดื่มไวน์กับเขาแล้ว

นอกจากนั้นแล้ว อาหารจอร์เจียอร่อยมาก อ้วนมาก แต่อร่อยมาก อ้วนขนาดที่หนึ่งในเมนูที่ประทับใจคือการเอาชีสมาผสมกับเนย (ไขมันทะลุโลก!) อาหารจอร์เจียถึงกับเปลี่ยนคนที่ไม่ชอบกินมะเขือให้มาคลั่งไคล้มะเขือม่วงได้ บนโต๊ะอาหารในงานวันเกิดวันนั้นมีทุกเมนูเด็ดที่มีในบทความแนะนำอาหารจอร์เจีย ไม่ว่าจะเป็นปลา หมู ไก่ ถ้าจะให้บรรยายถึงความสุขในการกินก็คงจะเสียหน้ากระดาษไม่น้อย

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
บ้านของเพื่อนคนนี้เป็นบ้านเดี่ยวบนภูเขา ตอนมีโอกาสได้ไปย่างหมูเสียบไม้ข้าง ๆ บ้านก็เลยได้เก็บภาพวิวเอาไว้ เวลานึกถึงเมนูหมูเสียบไม้ให้ลองจินตนาการถึงบาบีคิวยักษ์ดู

เราชอบเล่าให้คนอื่นฟังถึงที่มาของรูปนี้ จุดที่บังพระอาทิตย์อยู่ตรงกลางคือเรือ เรือที่อุตส่าห์รอจังหวะให้อยู่ตรงกลางพอดีก่อนจะกดชัตเตอร์ แต่พอได้ภาพมาดันมองอะไรไม่เห็น กลายเป็นแค่จุดหนึ่งจุดที่บังวิวซะอย่างนั้น กล้องฟิล์มก็สนุกแบบนี้แหละ

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย
ชายหาดที่นี่เดินแล้วเจ็บเท้ามาก แต่เวลาพระอาทิตย์ตกก็สวยมาก ๆ เหมือนกัน เป็นเวทมนตร์ของทะเลรึเปล่านะ

ตอนอยู่ที่นั่นมีโอกาสได้ไปทะเลบ่อยมาก บ่อยที่สุดในชีวิตแล้ว ไปทีไรก็จะเจอเด็กเล่นน้ำอยู่ตลอด เด็กที่นั่นคงได้เล่นทะเลบ่อยน่าดู

เที่ยว Batumi เมืองชายหาดไร้ทรายและประสบการณ์นั่งรถตู้สายซิ่งในจอร์เจีย

มีบางส่วนเหมือนกันที่ไม่ได้เป็นหาดหิน แต่จะอยู่ฝั่งที่ห่างออกไป ดูไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่ สงสัยว่าความเจ็บเท้าก็เป็นจุดขายได้เหมือนกัน และแน่นอนว่าพระอาทิตย์ตกสวยขนาดนี้ แสงที่สะท้อนบนพื้นทรายสวยขนาดนี้ กลัวว่ารูปจะเพอร์เฟกต์เกินไป ก็เลยเพิ่มนิ้วเข้าไปบังวิวเล็กน้อย

ขอปิดท้ายด้วยรูปน้ำตกจากการไปทัวร์รัสเซีย ทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่นี่ไม่มีตัวเลือกภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น น้ำตกดียังไง มีความเป็นมาแบบไหน ตอนไปรู้แค่ไหน ตอนกลับมาก็รู้แค่นั้น แต่สวยมากจริง ๆ นะ

บทสนทนาระหว่างนั่งรถกับเพื่อนรัสเซียกลับชวนให้เปิดหูเปิดตายิ่งกว่า หนึ่งในนั้นคือเรื่องราวการมีอยู่ของเมืองในรัสเซียตะวันออกที่เหมือนหยุดเวลาเอาไว้เพราะความเจริญเข้าไม่ถึง (เพื่อนน่าจะหมายถึงเมืองที่เคยเป็นเมืองปิด ซึ่งเป็นแค่อดีตและอาจเป็นความเข้าใจที่เหลืออยู่ของเพื่อนชาวรัสเซียในตอนนั้น ซึ่งตอนนี้พัฒนาขึ้นเยอะมาก)

อย่างไรก็ดี ทริปนี้สนุกน้อยลงมากในตอนที่อยู่ที่จอร์เจีย บ้านพักที่ต้องอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้นั้น ทั้งน้ำไม่ค่อยไหล ไฟดับเป็นช่วง ๆ การใช้เครื่องซักผ้าคือการแย่งชิง ทุกอย่างเก่า บนที่นอนมีมด บรรยากาศในหมู่ผู้คนที่ไปด้วยกันไม่ค่อยเป็นมิตร การไร้ซึ่งความช่วยเหลือและความสิ้นหวังต่อสถานการณ์ตอนนั้นทำให้อยากฝังกลบเรื่องไม่สวยงามเอาไว้ แล้วพูดกับตัวเองตอนนั่งรถไฟไปสนามบินว่า จบสักที ชาตินี้จะไม่มาเหยียบที่นี่อีกแล้ว

แต่ข่าวดีก็คือ คนเราเลือกจำได้

พอเห็นรีวิวภูเขาที่จอร์เจียเข้ามาก ๆ ผนวกกับการรำลึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นที่ไม่ได้แย่เท่าตอนเผชิญ เราก็อยากกลืนน้ำลายและกลับไปเข้าซะแล้ว

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

ศิริวรรณ ฝ้ายมงคล

ศิริวรรณ ฝ้ายมงคล

นักทดลองใช้ชีวิต เปิดรับทุกประสบการณ์ยกเว้นของไม่อร่อย ชอบถ่ายรูป จัดเพลย์ลิสต์ และเขียนเรื่องเพ้อฝันเป็นงานอดิเรก