เสียงนั้นแว่วมาอีกครั้ง ในขณะที่สายลมแห่งฤดูหนาวกำลังโหมกระหน่ำ ความหนาวเหน็บกลับค่อย ๆ ถูกผ่อนปรนจากความอบอุ่นของเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังใกล้เข้ามา

ณ ห้องนิรภัยแห่งหนึ่ง บล็อกน้ำแข็งขนาดใหญ่กำลังค่อย ๆ ละลายออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องบาดแก้วหูอันทรงพลังของ มารายห์ แครีย์ (Mariah Carey) เปล่งออกด้วยความปีติว่า It’s Timeee!! และนั่นก็คือการนับถอยหลังสู่งานฉลองเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งปล่อยออกมาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

หลังจากนั้น เสียงระฆังและกระดิ่งดังกริ๊ง ๆ ของเพลงในตำนานอย่าง All I Want for Christmas is You ก็ค่อย ๆ ดังกังวานไปตามสถานที่ต่าง ๆ นอกเหนือจากต้นคริสต์มาส ไฟประดับ และซานตาคลอส ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพลงของเธอกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำและเสียงแจ้งเตือนของเทศกาลนี้ไปเสียแล้ว

เหมือนกับเพลงคริสต์มาส ทุก ๆ ปีต้นสนจะถูกนำมาใช้ เครื่องประดับตกแต่ง ไฟประดับ ดาวติดยอด ระฆัง กระดิ่ง และลูกบอลแก้วหลากหลายสีสันจะนำออกมาปัดฝุ่นชุบชีวิตกลับขึ้นมาอีกครั้ง บ้างนำไปแขวนบนต้นคริสต์มาส บ้างอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในตัวบ้าน ทุกสิ่งต่างออกมาแข่งขันกันวาดลวดลายระยิบระยับ

นี่คือการตกแต่งที่ไร้กฎเกณฑ์ ซึ่งต่างคนต่างมีฉากทัศน์และความทรงจำของช่วงเทศกาลเป็นของตัวเอง

บางคนอาจจินตนาการถึงพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์โอ่โถงภายในโบสถ์ ส่วนเว้าส่วนโค้งของโครงสร้าง หน้าต่างกระจกหลากสีสันละลานตา แสงสีเหลืองทองของไฟเชิงเทียนขนาดใหญ่ แขวนย้อยเรียงยาวไปตามทางเดินกลางระหว่างม้านั่งไม้ 2 ฝั่ง รายล้อมไปด้วยผู้คนและเสียงก้องกังวานของคณะนักร้องประสานเสียง แต่บางคนอาจรำลึกถึงความทรงจำอันอบอุ่นในวัยเด็ก เมื่อพื้นที่ภายในบ้านเปลี่ยนแปลงไปชั่วคราวด้วยเครื่องประดับธีมสีแดง-เขียว เสื้อสเวตเตอร์มากลวดลายที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของฤดูกาล กวางเรนเดียร์ สโนว์เฟล็ก หรือต้นคริสต์มาส พวงมาลัยคริสต์มาสที่แขวนอยู่หน้าประตูบ้าน มีถุงเท้าแขวนอยู่หน้าเตาผิง ประสบการณ์ของการได้กลับมาพบปะกันของญาติ มิตรสหาย และครอบครัว การให้ของขวัญซึ่งกันและกัน

มนต์เสน่ห์ของความทรงจำที่ถูกเก็บเกี่ยวไว้เหล่านี้หรือเปล่านะที่ทำให้การตกแต่งบ้านให้ช่วงเทศกาลเป็นมากกว่าการประดับตกแต่ง

ไม่เพียงแค่ตามบ้านเรือนของผู้คนเท่านั้น พื้นสาธารณะ ทางเท้า หน้าต่างร้านค้า โดยเฉพาะเหล่าห้างสรรพสินค้า ต่างแข่งขันกันแปลงโฉมสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอก เสกบรรยากาศด้วยเสียงเพลง ไฟจัดแสดง การติดตั้งประติมากรรม ต้นคริสต์มาสยักษ์ เรียกลูกค้าให้จับจ่ายใช้สอย เตรียมหาซื้อของขวัญให้ผู้เป็นที่รักกันอย่างสนุกสนาน

สถาปัตยกรรมชั่วคราวแบบป๊อปอัปที่ทุกภาคส่วนต่างร่วมใจกันเนรมิตขึ้นมา ดินแดนเสมือนนวนิยาย ทำให้ผู้คนหลุดเข้าไปเพื่อวางความวุ่นวายในใจที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งปีไว้ชั่วขณะ แล้วดื่มด่ำไปความอบอุ่นของบรรยากาศรอบ ๆ ในช่วงก่อนวันหยุดสิ้นปี

แก่นของเทศกาลคริสต์มาสยึดโยงกับศาสนาคริสต์โดยตรง มันเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในวันจุติเป็นมนุษย์ของพระเยซู บุตรของพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดที่นำความหวังมาให้แก่มวลมนุษย์

วันที่ 25 ธันวาคมของทุกปีคือวันคริสต์มาส วันแห่งสัญลักษณ์ของความรักของพระเจ้าที่มีต่อโลกมนุษย์ การเข้าโบสถ์ร่วมพิธีมิสซา ร้องเพลงคริสต์มาส และสวดภาวนา เป็นรากฐานปฏิบัติของคริสตชน แต่แน่นอนว่าเทศกาลนี้พัฒนาไปสู่การเฉลิมฉลองที่ก้าวข้ามขอบเขตทางวัฒนธรรมและศาสนา โดยแต่ละประเทศได้นำไปประยุกต์ปรุงแต่งตามรสชาติที่ถูกใจ คงไว้อีกวัตถุดิบหลักคือการมอบความรักและความสุขให้คนรอบตัว

อย่างไรก็ตาม ของประดับจำนวนไม่น้อยในเทศกาลคริสต์มาสนั้นล้วนมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ทางศาสนา 

ต้นคริสต์มาส คือต้นไม้บนสวรรค์ที่อดัมกับอีฟไปเด็ดผลไม้มากินจนเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ 

ดาวบนยอดของต้นคริสต์มาส เปรียบถึงการเสด็จลงมาประสูติของพระเยซู

ระฆังและกระดิ่ง จะถูกตีก้องกังวานในวันคริสต์มาสอีฟเพื่อเฉลิมฉลอง 

พวงมาลัยคริสต์มาส นำมาซึ่งความโชคดีและเพื่อระลึกถึงมงกุฎหนามบนศีรษะของพระเยซู 

สีเขียว สื่อถึงความเขียวชอุ่มของพืชที่อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในการกลับมาของฤดูใบไม้ผลิ 

ส่วนสีแดง เชื่อมโยงกับพระโลหิตของพระเยซู ตัวแทนของการเสียสละ

แน่นอนว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป สีแดงของเทศกาลอาจถูกนำไปจับโยงกับชุดสูทสีแดงและสีขาวของ ซานตาคลอส อีกหนึ่งไอคอนของวันคริสต์มาส ซึ่งตามตำนานนั้นเป็นชื่อของ นักบุญนิโคลัส ที่เรียกชื่อกันเพี้ยนไป ส่วนภาพลักษณ์ของชายแก่ร่างอ้วนท้วน มีผมและหนวดเคราสีขาว ร่าเริงและใจดี ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 1931 ในภาพประกอบแคมเปญโฆษณาคริสต์มาสของ Coca-Cola ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นภาพจำและขาดไม่ได้ของงานเทศกาลนี้

All I Want for Christmas is….

เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่กล่าวมา มาจนถึงทุกวันนี้ เราอาจยกให้เพลง All I Want for Christmas is You ของ Mariah Carey ที่แต่งร่วมกับ Walter Afanasieff ในปี 1994 กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำของเทศกาล จากปรากฏการณ์การกลับมาขึ้นชาร์ตอันดับต้น ๆ บน Billboard Hot 100 ปีแล้วปีเล่าในทุกช่วงเดือนธันวาคมตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ซึ่งนั่นก็ได้สร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์เพลงให้กับ Mariah Carey ปีละประมาณ 17.5 ล้านบาท

อ้างอิงจากรายงานของ The Economist ในปี 2017 เธอรับค่าลิขสิทธิ์เพลงไปแล้วกว่า 2,100 ล้านบาท นับตั้งแต่ปล่อยเพลงนี้ออกมาในปี 1994

 จากอัลบัมคริสต์มาสในวันนั้น เพลง All I Want for Christmas is You ปล่อยมิวสิกวิดีโอออกมา 2 เวอร์ชัน ฉบับแรกในปี 1994 และต่อมาในปี 2019 ฉบับ Make My Wish Come True Edition และนั่นก็เป็นปีเดียวกันที่เพลงนี้ทะยานขึ้นอันดับ 1 บน Billboard Hot 100 ในเดือนธันวาคม หลังจากที่รอคอยมานานกว่า 25 ปี 

ฉากของมิวสิกวิดีโอทั้งสองถ่ายทอดบริบทของช่วงเทศกาลในมุมมองที่แตกต่างกัน

เวอร์ชันต้นฉบับ เป็นฉากแลนด์สเคปของบ้านพักตากอากาศนอกเมือง ซึ่งปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน โดย มารายห์ แครีย์ ปรากฏตัวในชุดกันหนาว สวมหมวกไหมพรมสีแดงคาดขาว เธอกำลังมีความสุขวิ่งเล่นไปทั่วทุ่งหิมะ ผ่านฝูงกวางเรนเดียร์ รถลากเลื่อน และซานตาคลอส

บ้านพักตกแต่งเตรียมพร้อมเฉลิมฉลอง ต้นคริสต์มาสประดับตกแต่งพร้อมด้วยกองของขวัญที่วางอยู่ข้างใต้ เหมือนกับว่าเธอกำลังรอใครสักคนที่จะมาหาในวันพิเศษนี้

ส่วนในเวอร์ชันของปี 2019 สภาพแวดล้อมของฉากในมิวสิกวิดีโอถ่ายทอดเรื่องราวเทศกาลบนถนนช้อปปิ้งในเมืองใหญ่ นำเสนอเรื่องราวในจินตนาการของเด็กหญิงที่กลายเป็นจริง ผ่านวินโดว์ดิสเพลย์จัดแสดงสินค้าของร้านค้าแห่งหนึ่ง โดยมี มารายห์ แครีย์ รับบทเป็นหุ่นซานตี้ในแคตสูทสีแดงประดับขนนกสีขาว 

เนื้อหาของมิวสิกวิดีโออ้างอิงบทบัลเลต์คลาสสิกของ Ernst Theodor Amadeus Hoffmann จากปี 1892 อย่าง The Nutcracker and the Mouse King เรื่องราวของเด็กสาวที่ได้รับตุ๊กตาทหารไม้แกะสลัก ‘นัตแคร็กเกอร์’ และในค่ำคืนของวันคริสต์มาสอีฟ มันมีชีวิตขึ้นมา จึงพาเธอออกเดินทางและต่อสู้กับราชาหนูผู้ชั่วร้าย 

เช่นเดียวกันกับในมิวสิกวิดีโอ หุ่นทหารไม้ไขลาน ตุ๊กตาหมี รวมถึงหุ่นซานตี้ก็ได้มีชีวิตขึ้นมา เมื่อเด็กหญิงเดินทะลุกระจกหน้าต่างร้าน เข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ในหมู่บ้านตุ๊กตากระดาษที่มีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ซึ่งดูเหมือน มารายห์ แครีย์ จะเป็นราชินีแห่งโลกนี้ เด็กหญิงกระโดดโลดเต้นไปกับหุ่นไขลาน ตุ๊กตาหมี และเหล่าของเล่น ก่อนที่เธอจะกลับออกมาสู่โลกความเป็นจริง

มารายห์ แครีย์ เขียนเนื้อเพลงนี้ขึ้นจากความทรงจำในวัยเด็ก ซึ่งครอบครัวของเธอนั้นไม่ได้มีวันคริสต์มาสที่สมบูรณ์แบบ ถ้าในวันหนึ่งคุณเนรมิตวันคริสต์มาสของตัวเองได้ว่าหน้าตาของมันควรจะเป็นยังไง เชื่อเถอะว่าคุณก็คงอยากออกแบบมันให้ดีที่สุด

ฉากทั้ง 2 เวอร์ชันของเพลง All I Want for Christmas is You ในด้านหนึ่งอาจสะท้อนถึงยุคสมัยของสังคมที่แตกต่างกัน การวิ่งเล่นบนเนินหิมะบนภูเขา หรือการออกไปชมแสงไฟบนท้องถนนในเมือง ล้วนเป็นความทรงจำที่ดีในวัยเด็ก และอาจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเติมเต็มความสุขในวัยเด็ก ช่วงเวลาแห่งความสุขที่เมื่อเด็กเหล่านั้นเติบโตขึ้นก็คงได้ระลึกถึงและส่งต่อให้แก่เด็กรุ่นต่อไป

คงไม่มีทฤษฎีทางสถาปัตยกรรมใดมากำหนดขอบเขตของการประดับตกแต่งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลงานคริสต์มาส การตกแต่งหน้าเค้กที่ทำลายกรอบมินิมอลลิสต์ของรูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่เน้นประโยชน์ใช้สอย มีความขึงขังและจริงจัง เหมือนตึกออฟฟิศสี่เหลี่ยมที่ถูกสวมชุดเข้าไปชั่วคราว

สถานที่ที่จัดงานคริสต์มาสเป็นประจำจะกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย เต็มไปด้วยความสุขสันต์ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะภายในบ้าน ลานกว้างของห้างสรรพสินค้า พื้นที่สาธารณะ หรือโบสถ์ ในบางครั้งสถานที่เหล่านั้นอาจไม่จำเป็นต้องประดับตกแต่งอะไรมากมาย เพราะ ‘พื้นที่ของความอบอุ่น’ นั้นไม่ได้ถูกกำหนดด้วยความหรูหราหรือความสวยงามเพียงอย่างเดียว

เพราะบางทีการได้ร่วมใช้เวลาเฉลิมฉลองไปกับใครสักคนหนึ่ง อาจเป็นของขวัญที่มากพอแล้ว

ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ
  • YouTube : All I Want For Christmas Is You (Official Video) Mariah Carey
  • YouTube : All I Want for Christmas Is You (Make My Wish Come True Edition) Mariah Carey
  • urbancreature.co/all-i-want-for-christmas-is-you
  • eu.the-review.com/story/lifestyle/2017/12/21

Writer

Avatar

วีรสุ แซ่แต้

เนิร์ดสถาปนิกสัญชาติไทยที่จบการศึกษาและทำงานอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลงใหลในสถาปัตยกรรมและแสวงหาความหมายของสถาปัตยกรรมที่มีจิตวิญญาณ