ช่วงนี้หลายคนเริ่มหันมาปลูกต้นไม้มากขึ้น ส่วนใหญ่เริ่มจากการปลูกใบไม้ในห้อง พอติดใจก็ขยับขยายไปสู่การปลูกต้นไม้นอกห้อง บางคนก็ลองปลูกผัก บางคนก็ลองปลูกดอกไม้
ใครกำลังมองหาดอกไม้สำหรับปลูกลงดินแบบโดนแดดจัดๆ เรามีดอกไม้มาแนะนำ
ไม่ใช่ดอกไม้ยอดฮิตชื่อฝรั่งที่คนกำลังตามหา หรือว่าสั่งซื้อได้ง่ายๆ ทางออนไลน์
แต่เป็นดอกไม้ที่หลายคนหลงลืม หรือมองข้ามความงามของมัน
เป็นดอกไม้ที่ปลูกง่ายมาก ต้องการการดูแลน้อยมาก ออกดอกทั้งปี ดอกสวย ตัดดอกไปจัดแจกันได้ เอาไปใช้แต่งจานอาหารก็ได้
แล้วทุกต้นก็มีสรรพคุณทางยามากมาย ถ้าใครสนใจก็เอาชื่อไปหาข้อมูลต่อได้เลย
และเนื่องจากดอกไม้เหล่านี้ขึ้นในหลายท้องถิ่นทั่วประเทศ เลยมีชื่อเรียกมากมายที่แตกต่างกันไป เราเลยขอใช้ชื่อที่คนคุ้นกันมากที่สุด
ดอกไม้เหล่านี้อาจจะหาซื้อค่อนข้างยากตามร้านต้นไม้ แต่จะหาได้ง่ายตามข้างทาง และบ้านลุงป้าน้าอาทั้งหลาย วิธีจะได้มาง่ายๆ ก็คือขอปันมาปลูกด้วยการเก็บเมล็ดพันธุ์ ตัดกิ่งมาปักชำ หรือขุดต้นเล็กๆ มาเลย
เป็นความสนุกอีกแบบที่มีเรื่องราวมากกว่าไปซื้อหามาจากร้านต้นไม้

(ทั้งหมดนี้มาดูต้นจริงได้ที่ Whispering Cafe)
01
ฉัตรพระอินทร์
Leonotis nepetifolia


เป็นไม้พุ่มล้มลุกที่แพร่กระจายง่ายมาก ความน่าสนใจอยู่ที่ทรงดอกที่เรียงกันเป็นชั้น แตกต่างจากดอกไม้ชนิดอื่น ตอนที่ยังเป็นดอกสดก็สวยด้วยสีส้มสลับเขียว พอเป็นดอกแห้งก็ยังมีฟอร์มที่สวยอยู่ ใช้ดอกแห้งไปจัดแจกันก็ได้ และในดอกแห้งนั้นก็มีเมล็ดที่เอาไปขยายพันธุ์ต่อได้ง่ายมาก ในบางประเทศปลูกอย่างจริงจังเพื่อตัดขายเป็นไม้ดอก
02
ปืนนกไส้
Bidens pilosa


เราพบดอกไม้ชนิดนี้ได้มากมายตามข้างทางในภาคเหนือ และในหลายๆ ท้องถิ่น ปืนนกไส้เป็นไม้ล้มลุกที่ขึ้นง่ายมาก มีดอกคล้ายคาโมมายล์ บางคนก็เรียกว่า คาโมมายล์ป่า ตัดดอกมาใส่แจกันเล็กๆ และใช้จัดจานได้อย่างสวยงาม
03
คนทีเขมา
Vitex negundo L.

คนทีเขมาเป็นไม้ดอกโบราณที่ยุคนี้คนไม่ค่อยปลูกกันแล้ว เป็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มขนาดกลาง ดอกสีม่วง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เอาไปใช้ทำชาได้ มีสรรพคุณทางยาเยอะมาก เช่นเดียวกับ คนทีสอ จนหลายคนอาจจะรู้จักมันในฐานะของพืชสมุนไพรมากกว่า
04
หงอนนาค
Murdannia giganteum (Vahl.)


หงอนนาคเป็นพืชที่ขึ้นเป็นกอ มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ จุดเด่นคือดอกสีม่วงที่ออกตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูฝน หลายท้องที่ที่มีหงอนนาคขึ้นรวมกันเป็นทุ่งในธรรมชาติสวยจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียว ความพิเศษอย่างหนึ่งคือดอกจะค่อยๆ ออกไล่ไปเรื่อยๆ ตามช่อดอก แต่ละยอดก็เลยออกดอกอย่างยาวนาน และเป็นพืชที่ชอบขึ้นในที่แฉะๆ
05
พันงูเขียว
Stachytarpheta jamaicensis (L.) Vahl

พันงูเขียวเป็นไม้ล้มลุกพวกหญ้า ขึ้นเป็นพุ่มขนาดใหญ่ ช่อดอกมีลักษณะเป็นก้านเดียว แล้วบานทีละดอกไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จากโคนก้านไปหาปลายก้าน
06
สบู่แดง
Jatropha gossypifolia


บางพื้นที่เรียกว่าละหุ่งแดง เรียกแบบนี้อาจจะทำให้พอนึกออกว่ามันเหมือนต้นละหุ่ง เป็นไม้พุ่มที่มีดอกขนาดจิ๋วสีแดง แต่ความสวยของมันอยู่ที่ใบ ซึ่งมีทรงคล้ายเมเปิล และใบตรงยอดจะมีสีแดง จึงยิ่งเหมือนเมเปิลขึ้นไปอีก เอาใบมาใช้ย้อมผ้าได้ สีที่ได้จะออกเขียวมากกว่าแดง เวลาเด็ดใบต้องระวังยางด้วย เพราะโดนแล้วจะคัน
07
บานไม่รู้โรยป่า
Gomphrena celosioides Mart.


เป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นได้ดีในพื้นที่แล้งและมีแดดจัด เช่น ตามทางเดิน ใช้ปลูกคลุมดินได้ ดอกสีขาว ดอกเล็กกว่าบานไม่รู้โรยปกติเกือบเท่าตัว
08
อ่อมแซบ
Asystasia gangetica (L.) T. Anders

อ่อมแซบ เป็นต้นไม้อเนกประสงค์ที่ควรมีติดบ้านไว้ เป็นไม้ล้มลุกที่ขึ้นง่าย โตเร็ว ไม่ต้องการการดูแลมากนัก มีทั้งหมด 5 สี ในแง่ความสวยงาม ปลูกประดับได้ ตัดกิ่งที่มีดอกไปปักแจกันได้ แช่น้ำไปสักพักจะมีรากแตกออกมา เลี้ยงต่อให้เป็นไม้แช่น้ำก็ได้ หรือจะเด็ดแต่ดอกไปตกแต่งจานอาหารก็ได้ และที่พิเศษกว่านั้น คือทั้งดอกและใบกินได้ เอาไปใส่ในแกงอ่อม แกงเลียง หรือจะลวกกินกับน้ำพริกก็ได้ มีสรรพคุณทางยาเยอะมาก
09
กระดุมม่วง
Centratherum punctatum Cass.

เป็นไม้โบราณที่แทบไม่มีขายในท้องตลาดแล้ว ไม้ล้มลุกพันธุ์นี้มีจุดเด่นอยู่ที่ดอกสีม่วง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแมลง ขยายพันธุ์ง่ายด้วยการใช้เมล็ดจากดอกแก่ ใช้ปลูกคลุมดินได้
10
บานเช้า
Turnera subulata G.E.Sm.


ถือเป็นไม้ประดับที่คนลืมไปแล้ว ดอกบานเช้าจะบานตอนเช้าพอสายก็จะหุบ คล้ายป๊อปปี้ทั้งทรงดอกและเป็นไม้ล้มลุกที่ขึ้นตามทุ่งเหมือนกัน ในเมืองไทยมีสองสี คือสีเหลืองกับสีนวล (เหลืองอ่อน) ออกดอกดกตลอดปี
11
ชมพูนุช
Arachnothryx leucophylla (Kunth) Planch.

เป็นไม้พุ่มที่มีดอกออกเป็นกระจุกสีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตอนกลางคืน ถ้าอยากให้ออกดอกบ่อยๆ ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งที่ดอกโรยแล้วออก ต้นจะแตกยอดใหม่และมีดอกตลอด
12
ยี่สุ่น
Rosa chinensis jacq. var. minima Voss.


ยี่สุ่นเป็นกุหลาบโบราณที่แทบไม่มีขายแล้ว มีต้นดอกใบคล้ายกุหลาบแต่มีหนามน้อยมาก ดอกสีชมพู ดอกเล็กกว่ากุหลาบหนู ออกดอกตลอดปี เป็นดอกไม้ที่เข้ามาเมืองไทยสมัยรัชกาลที่ 2 พระองค์พระราชทานชื่อให้ดอกไม้ที่มาจากประเทศจีนด้วยการมีชื่อนำหน้าว่า ยี่ เช่น ยี่สุ่น ยี่โถ ยี่เข่ง ยุคนั้นใช้กลีบยี่สุ่นใช้โรยหน้าขนม เอาดอกไปชงเป็นชาได้