อำเภอสังขละบุรี เป็นอำเภอที่อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 200 กว่ากิโลเมตร มีพื้นที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ถึงจะห่างไกลจากตัวเมือง แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวน่ารักของชาวสังขละบุรี มีอาหารหลากหลาย ผสมผสานวัฒนธรรม ประเพณีที่น่าจดจำ และสถานที่ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของวิถีชีวิต
แม้การระบาดของวิกฤตการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สังขละบุรีเงียบเหงาลงไปบ้าง แต่ดีแทคก็ได้พาเสน่ห์ที่น่าดึงดูดของชุมชนกลับมาอีกครั้ง ชวนนักท่องเที่ยวมาเห็นเสน่ห์ของสังขละบุรีในมุมใหม่ จับจ่ายสินค้าฝีมือชาวบ้านได้แม้ไม่ต้องมาด้วยตัวเอง กู้รอยยิ้มของชาวสังขละบุรีกลับมา ด้วยสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดีทั่วถึงเพื่อชีวิตเท่าเทียม
คอลัมน์ Take Me Out ครั้งนี้ชวนผู้อ่านไปสัมผัสและซึมซับวิถีชีวิตอันน่าค้นหาของชาวสังขละบุรีด้วยกัน
01
สะพานมอญ
สะพานมอญหรือสะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หากมาอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จะต้องมาเยือนให้ได้ บ้างยืนสูดอากาศ บ้างชื่นชมวิวธรรมชาติ บ้างก็มาเฝ้ามองและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวมอญ
สะพานแห่งนี้เป็นสะพานไม้ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2528 เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจของหลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งต้องการสร้างสะพานเชื่อมโยงวิถีชีวิตของคนมอญกับคนไทย ทำให้เดินทางข้ามไปมาได้สะดวก และเพื่อให้เด็ก ๆ มีทางเดินที่ดีไปโรงเรียน
ในอดีตสะพานมอญเป็นสะพานไม้ที่มีลักษณะโค้งไปโค้งมา มีความยาวกว่า 845 เมตร นับว่าเป็นสะพานสร้างจากไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับที่สองของโลก รองมาจากสะพานไม้อูเบ็งของเมียนมา ถูกสร้างและปรับปรุงมากว่า 5 ครั้ง จนมาเป็นสะพานไม้ที่ยาวตรงขนาด 445 เมตร พาดผ่านแม่น้ำซองกาเลียในปัจจุบัน
ชาวมอญเคร่งครัดเรื่องศาสนามาก และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาแสดงออกมาผ่านกระทำและวิถีชีวิตในแต่ละวัน ทุกเช้าชาวมอญจะตื่นเช้าขึ้นมาเตรียมข้าวสวยร้อน ๆ ที่นับเป็นข้าวสุกข้าวแรกของหม้อเพื่อนำไปถวายพระ เป็นภาพที่นักท่องเที่ยวเห็นกันจนชินตา
สะพานมอญไม่มีช่วงที่สวยเป็นพิเศษ เพราะที่สังขละบุรี แต่ละฤดูกาลมีเอกลักษณ์และเสน่ห์แตกต่างกัน หากมาฤดูร้อน แม้อากาศจะร้อนและไม่เห็นหมอกเหมือนในหน้าหนาว แต่จะได้ล่องเรือชมวัดจมน้ำ แบบที่เดินทอดน่องลงไปดูสถาปัตยกรรมจมน้ำได้ในระยะใกล้ หากมาในฤดูฝน ก็จะเห็นชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาจากหลายภูมิภาคมาตกปลาที่นี่ ส่วนฤดูหนาว ก็จะได้สูดอากาศเย็นสบาย และชมหมอกหนาที่สวยจับใจ
ที่ตั้ง : ซอยสะพานไม้ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน
02
พี่เย็น เทินหม้อ
การเทินคือการวางสิ่งของไว้บนศีรษะแทนการถือ เพื่อให้ถือของได้ในจำนวนที่เยอะขึ้น แถมยังไม่รู้สึกหนักเท่ากับการถือด้วยมือ นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมของชาวมอญที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นเอกลักษณ์หนึ่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และอดนึกถึงไม่ได้เมื่อคิดถึงชาวมอญ
ป้าเย็น นับได้ว่าเป็นเดอะมาสเตอร์ด้านการเทินหม้อ ไม่ว่าใครผ่านมาผ่านไปแถวสะพานมอญ เป็นต้องเห็นป้าเย็นเดินเทินหม้ออยู่แถวนี้เพื่อมารอตักบาตร พร้อมขายชุดตักบาตรให้กับนักท่องเที่ยวในยามเช้า
แม้บนศีรษะของป้าเย็นจะมีหม้อข้าวสูง 15 ใบ หนักเกือบ 5 กิโลกรัมตั้งอยู่ แต่เธอก็ยังคงเดินอย่างมั่นคง แวะถ่ายรูปสนุกสนาน พูดคุยอย่างเพลิดเพลิน และแจกรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ
ที่ตั้ง : สะพานมอญ ซอยสะพานไม้ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน
03
แม่น้ำซองกาเลีย
แม่น้ำซองกาเลียเป็นแม่น้ำที่ตัดผ่านเมืองสังขละบุรีออกเป็น 2 ฟาก ระหว่างฝั่งชุมชนมอญที่ตั้งรกรากมากว่าร้อยปี และฝั่งชุมชนไทยที่เป็นเหมือนตัวเมือง มีทั้งที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน โดยมีสะพานมอญคอยเชื่อมสายใยระหว่างสองฝั่ง ให้ผู้คนมอญ ไทย เมียนมา และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อาศัยในละแวกนี้ได้ไปมาหาสู่ และข้ามมาทำธุระในอีกฝั่งได้
แม่น้ำซองกาเลียเป็นแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านทั้งไทยและมอญ ชาวบ้านที่อาศัยและใช้ชีวิตบนแพ นำน้ำจากแม่น้ำไปกิน ไปใช้ และหล่อเลี้ยงเลี้ยงอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนฝั่ง จากการทำประมง การล่องเรือพานักท่องเที่ยวชมวัด และยังเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงความมีชีวิตชีวา เป็นสนามเด็กเล่นจากธรรมชาติให้กับเด็ก ๆ ในชุมชน ได้มาใช้เวลาเรียนรู้และเล่นสนุก
เดิมที่มาของแม่น้ำซองกาเลียเป็นปริศนา เพราะสายน้ำสายนี้ไหลออกมาจากชั้นของหินในหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยง ก่อนจะค้นพบว่า จริง ๆ แม่น้ำสายนี้เชื่อมมาจากเมียนมา ก่อนไหลมายังสังขละบุรีและไปบรรจบกับแม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตีในจุดที่เรียกว่าสามประสบ
สำหรับใครที่อยากลงเล่นน้ำหรือพักผ่อนใจ ก็ขับรถออกมาจากตัวเมืองอีกหน่อย ไปยังห้วยซองกาเลีย จุดลงเล่นน้ำที่ชวนให้ผู้อ่านมาสัมผัสความเย็นสบาย คลายร้อน ใช้เวลาไปอย่างช้า ๆ และนับว่าเป็นเสน่ห์ของแม่น้ำซองกาเลีย
ที่ตั้ง : ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน
04
ล่องเรือชมวัดจมน้ำ
วัดจมน้ำตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าสามประสบ ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นหมู่บ้านสังขละบุรีทั้งเมือง มีทั้งวัด สถานีตำรวจ โรงพยาบาล และสถานที่สำคัญในการดำรงชีวิตของชุมชนชาวไทย เมียนมา และกะเหรี่ยง ก่อนทั้งหมดจะถูกน้ำท่วม เพราะการสร้างเขื่อนและจมอยู่ใต้น้ำมานานหลายสิบปี ชาวบ้านจึงต้องอพยพและตั้งรกรากใหม่ในบริเวณเมืองสังขละบุรีปัจจุบัน
วัดวังก์วิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะเก่า มีโบราณสถานของหอระฆัง โบสถ์วัดวังวิก์เวการาม และกุฏีของหลวงพ่ออุตตมะ กุฏิของหลวงพ่อจะมีคานที่เป็นรางรถไฟจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ด้วย ส่วนภายในผนังโบสถ์จะมีร่องรอยของการประดิษฐานพระพุทธรูปกว่า 2,500 องค์ บ้างก็ถูกย้ายไปยังวัดใหม่ และบางส่วนก็จมลงไปยังแม่น้ำ หากได้มาในช่วงหน้าแล้งก็จะเดินลงไปชมใกล้ ๆ ได้ด้วยตัวเอง แต่หากมาในช่วงหน้าหนาว น้ำจะมีปริมาณสูงขึ้น ทำให้ล่องเรือชมได้เพียงหลังคาโบสถ์ที่ยังคงความสวยงามไปอีกแบบ
นอกจากนี้ ผู้อ่านยังเลือกเส้นทางล่องเรือได้ด้วยตัวเอง เพราะยังมีโบราณสถานอีกหลากหลายให้ได้ชม ทั้งวัดศรีสุวรรณ วัดมอญอีกหนึ่งแห่งที่จมอยู่ใต้น้ำ วัดสมเด็จ ซึ่งเป็นวัดเดียวที่ยังคงมีพระพุทธรูปให้เข้าไปสักการะได้ รวมถึงไปชมประตูเมืองระหว่างเมียนมาและไทยได้ด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (แผนที่)
ติดต่อบริการไกด์ท้องถิ่นสำหรับล่องเรือชมวัดจมน้ำได้ที่ Facebook : สะพานมอญ สังขละบุรี Powered by dtac 700MHz
โทรศัพท์ : 06 2982 3114 (คุณซานต้า)
05
เจดีย์พุทธคยา
เจดีย์พุทธคยา เป็นเจดีย์องค์ใหญ่สีทองสะดุดตา ทรงสี่เหลี่ยมสูง 59 เมตร บนยอดสูงสุดประดับด้วยฉัตรและทองคำหนัก 400 บาท สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521 จำลองลักษณะมาจากเจดีย์พุทธคยาองค์จริง ณ ประเทศอินเดีย จากความตั้งใจของหลวงพ่ออุตตมะ ที่อยากสร้างไว้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธที่อยู่ร่วมกันอย่างไม่แยกเชื้อชาติ
ด้านหน้าของเจดีย์มีต้นโพธิ์ต้นใหญ่ หลวงพ่ออุตตมะนำเมล็ดมาจากอินเดีย ซึ่งเป็นต้นโพธิ์ต้นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ บนยอดของเจดีย์ยังมีพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญจากประเทศศรีลังกามาประดิษฐานไว้ ส่วนภายนอกของเจดีย์มีสีทองอร่าม เพราะชาวบ้านร่วมมือร่วมใจกันบูรณะตลอดทุกปี
นอกจากเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้าน เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการรวมตัวเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในวันสำคัญ อาทิ เทศกาลสงกรานต์ และประเพณีบูชาเรือสะเดาะห์เคราะห์ ซึ่งจัดขึ้นช่วงก่อนออกพรรษา
ที่ตั้ง : ซอยเจดีย์พุทธคยา ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 16.30 น.
โทรศัพท์ : 09 4338 0790
06
ป้าหยิน อาหารพื้นบ้าน ขนมจีนมอญ
คนมอญนิยมกินขนมจีนเป็นมื้อเช้า เปรียบเหมือนโจ๊กและข้าวเหนียวหมูปิ้งของคนไทย
หนึ่งในอาหารพื้นบ้านจานเด็ด ที่หากมาสังขละบุรีแล้วพลาดไม่ได้ คือขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย ขนมจีนเส้นสดที่ใช้ระยะเวลาเตรียมแป้งหลายอาทิตย์ ต้องนำข้าวเหนียวและข้าวจ้าวแช่ไว้ 1 อาทิตย์ โม่อีก 1 – 2 อาทิตย์ ก่อนจะเอามาพัก เพื่อให้น้ำไหลออกมาอีก 1 คืน ค่อยนำมาตีให้เข้ากัน ผสมน้ำ และกดออกมาเป็นเส้น
น้ำยาหยวกกล้วยให้รสหวานธรรมชาติมาจากเนื้อปลา ส่วนหยวกกล้วยต้องผ่านกรรมวิธีการล้างและลวกอย่างดี เพราะหากลวกไม่ดีจะทำให้รู้สึกคันคอได้ ออกมาเป็นหยวกกล้วยเนื้อสัมผัสนิ่ม ๆ ส่วนเนื้อปลา คุณป้าใช้ปลานวลจันทร์หรือปลายี่สก คัดเลือกเฉพาะปลาตัวใหญ่ นำมาแกะเนื้อ เลาะก้าง แล้วตุ๋นทั้งคืนด้วยเตาถ่านจนมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
เคล็ดลับของจานนี้ ป้าหยินแนะนำว่าให้ใส่พริกป่น น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก เพื่อชูรสเพิ่มเติมสักหน่อย
ที่ตั้ง : ซอยสะพานไม้ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น.
Facebook : ร้านป้าหยิน อาหารพื้นบ้าน ขนมจีนมอญ
โทรศัพท์ : 08 9808 3002
07
ร้านอาหารมอญ
นอกจากคนมอญจะกินขนมจีนเป็นมื้อเช้า ยังมีมื้อเย็นเป็นข้าวสวยร้อน ๆ และแกงฮังเลมอญ ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูห้ามพลาด แม้ชื่ออาจคุ้นหู แต่แกงฮังเลที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน เพราะใช้พริกแกงพม่าสูตรต้นตำหรับ ให้กลิ่นและรสไม่เหมือนพริกแกงของไทย สืบทอดสูตรมาตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่า จนได้รับเลือกเป็นหนึ่งในอาหารจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ‘บ้านของดี วิถีมอญ’ และถูกบันทึกลงในแผนที่ท่องเที่ยวชุมชนมอญบ้านวังกะ ใครมาเยือนต้องมาลองลิ้ม
แม้จะเป็นเมนูทั่วไปที่คนมอญชอบทำและหากินได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่พริกแกงของร้านนี้กลับถูกปากถูกใจผู้คนที่ได้ลองชิมมากว่า 30 ปี เพราะรสชาติถึงเครื่องแถมยังมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
มีทั้งแกงฮังเลหมู แกงฮังเลเนื้อ แกงฮังเลไก่ ให้เลือกชิมตามความชอบ
ที่ตั้ง : อุตมานุสรณ์ ซอย 7 หมู่บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
Facebook : สะพานมอญ สังขละบุรี Powered by dtac 700MHz
08
โจ๊กนั่งยอง
โจ๊ก หรือ เปิ่นด้าดเกริด กินคู่กับปาท่องโก๋ หรือ อีจาเกว้ย ในตอนเช้า ๆ เหมาะเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีทีเดียว
ร้านโจ๊กนั่งยอง ร้านโจ๊กเจ้าเด็ดในดวงใจของคนมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวหรือคนพื้นที่ ด้วยบรรยากาศน่ารักที่มีเก้าอี้ตัวเล็กไว้ให้นั่งกินอาหารแบบยอง ๆ อันเป็นที่มาของชื่อร้าน
โจ๊กของที่นี่ทำจากข้าวหอมมะลิคัดพิเศษ เอามาโม่ใหม่เกือบทุกอาทิตย์ ก่อนเอาไปเคี่ยวกับซุปหมูจนเนื้อเนียนละเอียด แถมขึ้นชื่อเรื่องความหอม หมูรวนของร้านโจ๊กนั่งยองก็เป็นสูตรพิเศษฉบับคุณแม่พี่อรที่หมักข้ามคืนเพื่อให้รสชาติเข้มข้นถึงเครื่อง ใส่ขิง พริกไทย กระเทียมเจียว ต้นหอม และหมี่กรอบได้ตามใจ เพราะทอดหมี่กรอบใหม่ ๆ ทุกวันกว่า 3 หม้อ เพราะอยากให้ลูกค้าได้กินอย่างหนำใจและถูกปากมากที่สุด
ส่วนของฝากที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเส้นหมี่มอญ พริกไทย ชาพม่า ขมิ้น ปลาหัวยุ่ง หมูฝอย และพริกแกงฮังเลสูตรคุณตา ใครได้ลองชิมแกงฮังเลที่ร้านก็ติดใจมานักต่อนัก ทำสดใหม่ตามออเดอร์เท่านั้น สืบทอดมากว่า 40 ปี ใช้เครื่องแกงและพริกของพม่า ให้รสชาติเข้มข้น หอมกระเทียม รับรองว่าไม่เหมือนพริกแกงที่ไหน
หากสนใจของฝากก็จับจ่ายได้ทั้งออฟไลน์ที่หน้าร้าน และออนไลน์บนเพจโจ๊กนั่งยอง เพราะที่นี่ครอบคลุมสัญญาณคลื่น 700MHz แถมมีทีมเน็ตทำกินจากดีแทคมาปันความรู้และเพิ่มทักษะพี่ ๆ ให้ขายออนไลน์ได้ไม่มีสะดุด
ที่ตั้ง : หัวสะพานมอญ (ฝั่งมอญ) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 – 17.00 น.
โทรศัพท์ : 08 0111 0536
ดีแทคถ่ายทอดภาพยนตร์โฆษณาผ่าน ‘สะพานมอญ’ จุดท่องเที่ยวสำคัญของสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งชวนทีมดีแทค ‘เน็ตทำกิน’ ลงพื้นที่แบ่งปันความรู้ พัฒนาความสามารถของคนในชุมชนสู่ทักษะดิจิทัลด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพื่อประกอบอาชีพและสนับสนุนการท่องเที่ยว ตลอดจนการขายสินค้าท้องถิ่นต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย
ซึ่งดีแทคติดตั้งคลื่น 700 MHz มาแล้วมากกว่า 11,800 สถานีฐาน ขยายสัญญาณครบ 77 จังหวัด ครอบคลุม 923 อำเภอทั่วไทย พร้อมเปิดเส้นทางรับแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทยและยกระดับพัฒนาชีวิตชุมชน โดยจะขยายครอบคลุมประชากร (Population Coverage) ประมาณ 93 เปอร์เซ็นต์ ด้วยสัญญาณ 4G ภายในสิ้นปีนี้